Q

BYD Atto 3 หนักเท่าไหร่? คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

รถยนต์ BYD Atto 3 แต่ละรุ่นมีน้ำหนักต่างกัน โดยรุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 มีน้ำหนัก 1,680 กิโลกรัม ส่วนรุ่น Extended Range Premium 2024 และรุ่นปี 2022 มีน้ำหนักมากกว่า อยู่ที่ 1,750 กิโลกรัม น้ำหนักของรถมีผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การควบคุมรถ และการใช้พลังงาน โดยรถที่หนักกว่าจะให้ความเสถียรที่ดีกว่าเมื่อต้องขับที่ความเร็วสูง แต่ก็อาจทำให้การเร่ง ความคล่องตัว และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ BYD Atto 3มีข้อเสียอะไรบ้าง?
BYD Atto 3 อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยจากความคิดเห็นของตลาด พบว่าในช่วงหลังราคาของรุ่นนี้ลดลงมาก เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ราคาราว 1.19 ล้านบาท แต่ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2024 ราคาลดลงเหลือประมาณ 9 แสนบาท ทำให้เจ้าของรถที่ซื้อในช่วงแรกเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกเสียเปรียบ ในแง่ของการใช้งาน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีจุดชาร์จสาธารณะเพียงประมาณ 500 จุด และการชาร์จก็ค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 เพราะอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก และจำกัดระยะทางที่ใช้งานได้ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งบางรุ่น BYD Atto 3 อาจยังมีจุดที่พัฒนาได้ในเรื่องของพื้นที่เก็บของและการออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นก็มีทั้งจุดเด่นและข้อเสีย ผู้บริโภคควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของตัวเองเป็นหลัก
Q
BYD Atto 3 อยู่ในเซกเมนต์อะไร?
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มซีซีgment C ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,720 มม. ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในรถออกแบบมาอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี ส่วนน้ำหนักรถจะแตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานมีน้ำหนัก 1,680 กก. ส่วนรุ่นระยะไกลจะมีน้ำหนัก 1,750 กก. นอกจากนี้ยังมีปริมาณกระโปรงท้าย 440 ลิตร ที่เพียงพอต่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไปแล้วรถกลุ่มซีซีgment C จะมีขนาด พื้นที่ภายใน และอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างรถคอมแพคและรถขนาดกลาง ทำให้ Atto 3 ด้วยสเปคและคุณสมบัติเฉพาะตัว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย
Q
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อยู่ที่เท่าไร?
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ในปี 2024 BYD Atto 3 รุ่นมาตรฐาน Standard Range Active ราคาอยู่ที่ประมาณ 799,900 บาท รุ่น Standard Range Premium อยู่ที่ 859,900 บาท และรุ่น Extended Range Premium อยู่ที่ 899,900 บาท ก่อนหน้านี้ในปี 2022 รถรุ่นนี้เคยมีราคาสูงถึง 1,199,900 บาท แต่หลังจากการปรับราคาครั้งใหญ่ในประเทศไทย ราคาลดลงมาเหลือราว 900,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อราคาขายต่อของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระยะทางวิ่งน้อย และระบบต่าง ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ มูลค่าขายต่อก็อาจสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดก็มีผลต่อราคามือสองเช่นกัน BYD Atto 3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ATTO 3 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่ามือสองได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี เหมือนกับรถทุกคัน มูลค่าขายต่อจะลดลงตามกาลเวลาเนื่องจากการใช้งาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Atto 3 เป็นแบบไหน?
BYD Atto 3 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV (Electric Vehicle Transmission) โดยเป็นเกียร์ แบบ 1 สปีด (1 ระดับ) ซึ่งเป็นรูปแบบเกียร์ที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเกียร์แบบนี้มีโครงสร้างค่อนข้างเรียบง่าย ช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากมอเตอร์สู่ล้อ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีและตอบสนองทันใจ ด้วยการออกแบบให้มีแค่เกียร์เดียว จึงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ทำให้ผู้ขับรู้สึกนุ่มนวลและขับสนุกยิ่งขึ้น BYD Atto 3 ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ด้านหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (Nm) พละกำลังระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางระยะสั้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
Q
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3คือเท่าไร?
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3 คือ 5×114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาดรถเมืองไทย และใช้ร่วมกันได้กับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Toyota, Honda เป็นต้น ตัวเลข “5” หมายถึงล้อมี รูน็อต 5 รู ตัวเลข “114.3” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่รูน็อตทั้ง 5 รูเรียงอยู่ ซึ่งมีขนาด 114.3 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ยังใช้ ขนาดรูดุมกลาง (Center Bore) อยู่ที่ 67.1 มม. และมีค่าออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถเลือกเปลี่ยนหรือแต่งล้อได้หลากหลายรุ่นในตลาดไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน และควรเลือกล้อที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพถนนไทย ร้านแต่งรถที่ได้รับอนุญาตจาก BYD ในไทยมีล้อแม็กตรงรุ่นที่ตรงกับสเปก PCD ของ Atto 3 ซึ่งจะช่วยให้ล้อเข้ากับระบบช่วงล่างอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ ข้อควรระวัง: หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อขนาดใหญ่ขึ้น ควรรักษา “เส้นรอบวงล้อรวมยาง” ให้ใกล้เคียงของเดิม เพื่อไม่ให้มีผลต่ออัตราการใช้พลังงานของรถ และความแม่นยำของมาตรวัดความเร็ว
Q
BYD Atto 3 รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Atto 3 ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แม้ว่าจอแสดงผลจะมีความใหญ่พอสมควร แต่ระบบความบันเทิงภายในรถยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม BYD ระบุว่าจะพัฒนาประสิทธิภาพเหล่านี้ผ่านการอัปเดตระบบแบบไร้สายในอนาคต เนื่องจากความต้องการของซอฟต์แวร์ในแต่ละตลาดทั่วโลกมีความแตกต่างกัน BYD จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มี Apple CarPlay แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและการอัปเดตซอฟต์แวร์ ระบบความบันเทิงในรถรุ่นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ผ่านช่องทางทางการของ BYD เพื่อรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต
Q
ยางติดรถของ BYD Atto 3 ใช้ยี่ห้ออะไร?
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับ ยี่ห้อยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ BYD Atto 3 อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดยางของแต่ละรุ่น ได้ดังนี้:รุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 215/55 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่น Extended Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 235/50 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่นปี 2022 (Atto 3 รุ่นแรก) ใช้ยางขนาด215/55 R18 สำหรับล้อหน้าและหลังเช่นกัน พารามิเตอร์ของข้อมูลจำเพาะของยางเหล่านี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ความกว้างของยาง อัตราส่วนขนาด และเส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อ ยางที่มีข้อมูลจำเพาะต่างกันอาจมีสมรรถนะ การควบคุม ความสบาย และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบที่แท้จริงของตนเอง
Q
BYD Atto 3 เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
BYD Atto 3 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีข้อดีหลายประการ ในด้าน ดีไซน์ ภายนอก: หน้ารถออกแบบสไตล์ “เกล็ดมังกร” ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ส่วนไฟท้ายแบบ LED พาดยาวเต็มคัน ช่วยให้รถดูเด่น มีเอกลักษณ์ และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนน ในด้าน สมรรถนะการขับขี่: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็ว ขับทางไกลหรือแซงบนทางด่วนก็ทำได้สบาย แบตเตอรี่แบบใบมีด (Blade Battery) ของ BYD ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ ที่ทดสอบจริงแล้วพบว่า ระยะทางลดลงเพียงประมาณ 10% เท่านั้นจากที่เคลมไว้ ซึ่งถือว่าเสถียรมาก ในด้าน ค่าใช้จ่าย: BYD Atto 3 มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีน้ำมันเครื่องหรืออะไหล่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน และค่าไฟถูกกว่าเชื้อเพลิงมาก โดยมีผู้ใช้จริงในไทยระบุว่า ค่าการใช้งานรายเดือนถูกกว่ารถ Toyota รุ่นใกล้เคียงถึงประมาณ 40% นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล SUV พลังงานไฟฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามักมีปัญหาเรื่อง “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) ซึ่งหมายถึงการกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังมี จำนวนสถานีชาร์จไฟน้อย และบางแห่งชาร์จได้ช้า อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 ก็ยังถือว่าเป็นรถที่น่าพิจารณาและคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน
Q
ความกว้างของ BYD Atto 3 เท่าไหร่?
BYD Atto 3 มีความกว้างของตัวรถอยู่ที่ 1,875 มม. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ ขนาด C-Segment ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ภายในห้องโดยสารมี พื้นที่แนวกว้างที่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลัง นั่งได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะบริเวณช่วงไหล่และแขนที่สามารถขยับได้สะดวก นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถที่เหมาะสมยังช่วย เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง หรือขับเข้าโค้ง ซึ่งเมื่อนำมารวมกับระบบช่วงล่างของรถ จะช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีและขับได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น
Q
ภาษีถนนของ BYD Atto 3 เท่าไหร่? คิดยังไง?
รถยนต์ BYD Atto 3 ในประเทศไทยจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามนโยบายภาครัฐและลักษณะเฉพาะของรถแต่ละคัน โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งผู้ซื้อสามารถได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท และยังอาจได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตบางส่วนอีกด้วย ภาษีรถยนต์ประจำปี (ภาษีถนน) จะคำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์เป็นลิตร ซึ่งรถแต่ละระดับความจุจะมีอัตราภาษีที่ต่างกัน และอัตราภาษีนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของรัฐ โดยต้องชำระภาษีภายในวันครบรอบการจดทะเบียนรถของทุกปี ในการชำระภาษี จะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:สมุดเล่มทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย) หากรถมีอายุครบ 6 ปีขึ้นไป จะต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี โดยตรวจสอบระบบไฟต่าง ๆ, การปล่อยไอเสีย และระบบเบรกหากไม่ชำระภาษีภายในกำหนด อาจถูกปรับหรือต้องรับโทษตามกฎหมายได้

ข้อดี

เส้นทางการขับขี่ที่น่าประทับใจ
ภายในที่ทันสมัยและมีอุปกรณ์ครบครัน

ข้อเสีย

ความน่าเชื่อถือในระยะยาวยังไม่ได้รับการพิสูจน์
ราคาสูงเมื่อซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
ความกว้างของ Toyota Yaris เท่าไหร่?
Toyota Yaris รุ่นต่าง ๆ ส่วนใหญ่มีความกว้างตัวถังที่ 1730 มม. เช่น Toyota Yaris Sport 2023 และ Toyota Yaris Smart 2023 รวมถึงรุ่นปี 2023 อื่น ๆ อีกหลายรุ่น ส่วนรุ่นปี 2022 บางรุ่นก็มีขนาดกว้างเท่ากัน แต่ก็มีบางรุ่นที่มีความกว้างแตกต่างกัน เช่น Yaris L รุ่น致炫มีความกว้าง 1720 มม. และ GR Yaris มีขนาดยาว/กว้าง/สูงเป็น 3995/1805/1455 มม. ซึ่งกว้าง 1805 มม. ขนาดความกว้างของตัวรถมีผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายในและความเสถียรในการขับขี่ ความกว้างที่เหมาะสมช่วยให้ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวางและนั่งสบาย รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ทำให้การขับขี่มีความสมูทและปลอดภัยยิ่งขึ้น
Q
ราคาภาษีถนนของ Toyota Yaris คือเท่าไร? คำนวณอย่างไร?
การคำนวณภาษีรถยนต์ Toyota Yaris จะอ้างอิงจากขนาดความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่วัดเป็นหน่วยลิตร โดยแต่ละช่วงความจุจะถูกจัดเก็บในอัตราภาษีที่แตกต่างกัน และอัตรานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายหรือช่วงเวลา สำหรับ Toyota Yaris รุ่น 1.2L แม้จะไม่มีข้อมูลอัตราภาษีที่ชัดเจนให้คำนวณได้แบบเป๊ะๆ แต่โดยทั่วไปรถยนต์ขนาดเล็กแบบนี้มักถูกจัดเก็บภาษีในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ คุณต้องชำระภาษีรถยนต์ทุกปีภายในวันครบรอบการจดทะเบียนรถ โดยต้องเตรียมเอกสารสำคัญสองอย่างคือ เล่มสีน้ำเงิน (เอกสารทะเบียนรถที่ระบุรายละเอียดและชื่อเจ้าของ) และประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ. ที่กฎหมายไทยกำหนดให้รถทุกคันต้องมี) ส่วนรถอายุ 6 ปีขึ้นไป ต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนจ่ายภาษี โดยตรวจสอบระบบไฟ ท่อไอเสีย และเบรก ถ้าลืมชำระภาษีตรงเวลาอาจโดนปรับหรือมีปัญหากับกฎหมายได้ เพราะงั้นอย่าลืมจ่ายให้ทันนะ จะได้ไม่เสียเงินเพิ่มหรือยุ่งยากภายหลัง
Q
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Toyota Yaris คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris มีความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร รถรุ่นนี้ใช้ น้ำมันเบนซิน โดยความจุถังน้ำมันนี้ผสมผสานกับ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางได้ระยะทางที่ดีในแต่ละครั้ง ในการใช้งานจริง การวางแผนการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพและการตรวจสอบปริมาณน้ำมันที่เหลือ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ ปริมาณน้ำมันที่ระบุในคู่มือเป็นการวัดจากถังน้ำมันจนถึงจุดที่ปลอดภัย ซึ่งปริมาณจริงที่เติมอาจมากกว่าค่าที่ระบุเล็กน้อย เนื่องจากจะมีการ เผื่อพื้นที่สำหรับการขยายตัวของน้ำมันเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เพื่อป้องกันการรั่วไหล แม้ว่า รุ่นต่าง ๆ ของ Toyota Yaris จะมีความแตกต่างในบางอุปกรณ์เสริม แต่ ความจุถังน้ำมันยังคงที่ 42 ลิตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมืองและการเดินทางระยะสั้น
Q
Toyota Yaris มือสองราคาเท่าไหร่? ดูราคามือสองได้ที่นี่
ราคาของ Toyota Yaris มือสองไม่มีตัวเลขตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ สภาพรถ ระยะทางที่ใช้ไป และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ โดยทั่วไป รถที่มีอายุการใช้งานน้อย ระยะทางวิ่งน้อย สภาพดี และมีอุปกรณ์ครบ มักจะมีราคาสูงกว่ารุ่นที่อายุเยอะและมีระยะทางวิ่งมาก ตัวอย่างเช่น Toyota Yaris ที่ใช้งานเพียง 1-2 ปี มีระยะทางวิ่งไม่มาก ไม่มีอุบัติเหตุ และสภาพดี อาจขายได้ในราคาประมาณ 70% - 80% ของราคารถใหม่ แต่ถ้า รถอายุ 5-6 ปี มีระยะทางวิ่งเยอะ และมีการซ่อมแซมเล็กน้อยจากอุบัติเหตุ ราคาอาจลดลงเหลือเพียง 30% - 50% ของราคารถใหม่ หากต้องการทราบราคามือสองที่แน่ชัด สามารถคลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลจากแพลตฟอร์มการซื้อขายรถมือสองหรือเว็บไซต์ข้อมูลรถยนต์ที่เชี่ยวชาญ
Q
แรงดันลมยางของ Toyota Yaris คือเท่าไร?
สำหรับ Toyota Yaris ความดันลมยางที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 4 บาร์ในช่วงขับขี่ปกติ ซึ่งช่วยให้ได้ทั้งความสบายและความปลอดภัย แต่ถ้าต้องบรรทุกหนักโดยเฉพาะล้อหลัง อาจเพิ่มความดันลมยางได้สูงสุดถึง 6 บาร์ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังไม่บรรทุกเกินกำหนดเพื่อป้องกันปัญหาจากการเติมลมยางมากเกินไป ค่าความดันลมยางที่ระบุไว้เป็นค่าที่วัดเมื่อยางอยู่ในสภาวะเย็น ดังนั้นควรวัดหลังจากจอดรถไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือขับเคลื่อนไม่เกิน 2 กิโลเมตร แต่ถ้าวัดตอนยางร้อน ต้องลบค่าที่วัดได้ออก 0.3 บาร์ (ประมาณ 4 psi) เพื่อให้ได้ค่าความดันลมยางที่ถูกต้องในสภาวะเย็น นอกจากนี้ การปรับความดันลมยางตามฤดูกาลก็สำคัญ ในหน้าหนาวแนะนำให้เพิ่มขึ้น 0.2 บาร์ ส่วนหน้าร้อนควรลดลง 0.1 บาร์ เพื่อป้องกันยางระเบิดจากความร้อน การควบคุมความดันลมยางให้เหมาะสมส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของยาง อย่าลืมปรับตามสภาพการใช้งานจริงด้วยนะ
ดูเพิ่มเติม