Q

BYD Atto 3 มีที่นั่งกี่ที่

BYD Atto 3 มีห้าที่นั่ง การออกแบบของห้าที่นั่งคำนึงถึงความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่ที่นั่งกว้างขวาง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ BYD Atto 3มีข้อเสียอะไรบ้าง?
BYD Atto 3 อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยจากความคิดเห็นของตลาด พบว่าในช่วงหลังราคาของรุ่นนี้ลดลงมาก เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ราคาราว 1.19 ล้านบาท แต่ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2024 ราคาลดลงเหลือประมาณ 9 แสนบาท ทำให้เจ้าของรถที่ซื้อในช่วงแรกเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกเสียเปรียบ ในแง่ของการใช้งาน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีจุดชาร์จสาธารณะเพียงประมาณ 500 จุด และการชาร์จก็ค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 เพราะอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก และจำกัดระยะทางที่ใช้งานได้ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งบางรุ่น BYD Atto 3 อาจยังมีจุดที่พัฒนาได้ในเรื่องของพื้นที่เก็บของและการออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นก็มีทั้งจุดเด่นและข้อเสีย ผู้บริโภคควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของตัวเองเป็นหลัก
Q
BYD Atto 3 อยู่ในเซกเมนต์อะไร?
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มซีซีgment C ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,720 มม. ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในรถออกแบบมาอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี ส่วนน้ำหนักรถจะแตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานมีน้ำหนัก 1,680 กก. ส่วนรุ่นระยะไกลจะมีน้ำหนัก 1,750 กก. นอกจากนี้ยังมีปริมาณกระโปรงท้าย 440 ลิตร ที่เพียงพอต่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไปแล้วรถกลุ่มซีซีgment C จะมีขนาด พื้นที่ภายใน และอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างรถคอมแพคและรถขนาดกลาง ทำให้ Atto 3 ด้วยสเปคและคุณสมบัติเฉพาะตัว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย
Q
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อยู่ที่เท่าไร?
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ในปี 2024 BYD Atto 3 รุ่นมาตรฐาน Standard Range Active ราคาอยู่ที่ประมาณ 799,900 บาท รุ่น Standard Range Premium อยู่ที่ 859,900 บาท และรุ่น Extended Range Premium อยู่ที่ 899,900 บาท ก่อนหน้านี้ในปี 2022 รถรุ่นนี้เคยมีราคาสูงถึง 1,199,900 บาท แต่หลังจากการปรับราคาครั้งใหญ่ในประเทศไทย ราคาลดลงมาเหลือราว 900,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อราคาขายต่อของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระยะทางวิ่งน้อย และระบบต่าง ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ มูลค่าขายต่อก็อาจสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดก็มีผลต่อราคามือสองเช่นกัน BYD Atto 3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ATTO 3 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่ามือสองได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี เหมือนกับรถทุกคัน มูลค่าขายต่อจะลดลงตามกาลเวลาเนื่องจากการใช้งาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Atto 3 เป็นแบบไหน?
BYD Atto 3 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV (Electric Vehicle Transmission) โดยเป็นเกียร์ แบบ 1 สปีด (1 ระดับ) ซึ่งเป็นรูปแบบเกียร์ที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเกียร์แบบนี้มีโครงสร้างค่อนข้างเรียบง่าย ช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากมอเตอร์สู่ล้อ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีและตอบสนองทันใจ ด้วยการออกแบบให้มีแค่เกียร์เดียว จึงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ทำให้ผู้ขับรู้สึกนุ่มนวลและขับสนุกยิ่งขึ้น BYD Atto 3 ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ด้านหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (Nm) พละกำลังระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางระยะสั้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
Q
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3คือเท่าไร?
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3 คือ 5×114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาดรถเมืองไทย และใช้ร่วมกันได้กับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Toyota, Honda เป็นต้น ตัวเลข “5” หมายถึงล้อมี รูน็อต 5 รู ตัวเลข “114.3” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่รูน็อตทั้ง 5 รูเรียงอยู่ ซึ่งมีขนาด 114.3 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ยังใช้ ขนาดรูดุมกลาง (Center Bore) อยู่ที่ 67.1 มม. และมีค่าออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถเลือกเปลี่ยนหรือแต่งล้อได้หลากหลายรุ่นในตลาดไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน และควรเลือกล้อที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพถนนไทย ร้านแต่งรถที่ได้รับอนุญาตจาก BYD ในไทยมีล้อแม็กตรงรุ่นที่ตรงกับสเปก PCD ของ Atto 3 ซึ่งจะช่วยให้ล้อเข้ากับระบบช่วงล่างอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ ข้อควรระวัง: หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อขนาดใหญ่ขึ้น ควรรักษา “เส้นรอบวงล้อรวมยาง” ให้ใกล้เคียงของเดิม เพื่อไม่ให้มีผลต่ออัตราการใช้พลังงานของรถ และความแม่นยำของมาตรวัดความเร็ว
Q
BYD Atto 3 รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Atto 3 ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แม้ว่าจอแสดงผลจะมีความใหญ่พอสมควร แต่ระบบความบันเทิงภายในรถยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม BYD ระบุว่าจะพัฒนาประสิทธิภาพเหล่านี้ผ่านการอัปเดตระบบแบบไร้สายในอนาคต เนื่องจากความต้องการของซอฟต์แวร์ในแต่ละตลาดทั่วโลกมีความแตกต่างกัน BYD จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มี Apple CarPlay แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและการอัปเดตซอฟต์แวร์ ระบบความบันเทิงในรถรุ่นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ผ่านช่องทางทางการของ BYD เพื่อรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต
Q
ยางติดรถของ BYD Atto 3 ใช้ยี่ห้ออะไร?
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับ ยี่ห้อยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ BYD Atto 3 อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดยางของแต่ละรุ่น ได้ดังนี้:รุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 215/55 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่น Extended Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 235/50 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่นปี 2022 (Atto 3 รุ่นแรก) ใช้ยางขนาด215/55 R18 สำหรับล้อหน้าและหลังเช่นกัน พารามิเตอร์ของข้อมูลจำเพาะของยางเหล่านี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ความกว้างของยาง อัตราส่วนขนาด และเส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อ ยางที่มีข้อมูลจำเพาะต่างกันอาจมีสมรรถนะ การควบคุม ความสบาย และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบที่แท้จริงของตนเอง
Q
BYD Atto 3 เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
BYD Atto 3 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีข้อดีหลายประการ ในด้าน ดีไซน์ ภายนอก: หน้ารถออกแบบสไตล์ “เกล็ดมังกร” ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ส่วนไฟท้ายแบบ LED พาดยาวเต็มคัน ช่วยให้รถดูเด่น มีเอกลักษณ์ และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนน ในด้าน สมรรถนะการขับขี่: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็ว ขับทางไกลหรือแซงบนทางด่วนก็ทำได้สบาย แบตเตอรี่แบบใบมีด (Blade Battery) ของ BYD ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ ที่ทดสอบจริงแล้วพบว่า ระยะทางลดลงเพียงประมาณ 10% เท่านั้นจากที่เคลมไว้ ซึ่งถือว่าเสถียรมาก ในด้าน ค่าใช้จ่าย: BYD Atto 3 มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีน้ำมันเครื่องหรืออะไหล่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน และค่าไฟถูกกว่าเชื้อเพลิงมาก โดยมีผู้ใช้จริงในไทยระบุว่า ค่าการใช้งานรายเดือนถูกกว่ารถ Toyota รุ่นใกล้เคียงถึงประมาณ 40% นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล SUV พลังงานไฟฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามักมีปัญหาเรื่อง “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) ซึ่งหมายถึงการกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังมี จำนวนสถานีชาร์จไฟน้อย และบางแห่งชาร์จได้ช้า อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 ก็ยังถือว่าเป็นรถที่น่าพิจารณาและคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน
Q
ความกว้างของ BYD Atto 3 เท่าไหร่?
BYD Atto 3 มีความกว้างของตัวรถอยู่ที่ 1,875 มม. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ ขนาด C-Segment ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ภายในห้องโดยสารมี พื้นที่แนวกว้างที่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลัง นั่งได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะบริเวณช่วงไหล่และแขนที่สามารถขยับได้สะดวก นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถที่เหมาะสมยังช่วย เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง หรือขับเข้าโค้ง ซึ่งเมื่อนำมารวมกับระบบช่วงล่างของรถ จะช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีและขับได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น
Q
ภาษีถนนของ BYD Atto 3 เท่าไหร่? คิดยังไง?
รถยนต์ BYD Atto 3 ในประเทศไทยจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามนโยบายภาครัฐและลักษณะเฉพาะของรถแต่ละคัน โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งผู้ซื้อสามารถได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท และยังอาจได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตบางส่วนอีกด้วย ภาษีรถยนต์ประจำปี (ภาษีถนน) จะคำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์เป็นลิตร ซึ่งรถแต่ละระดับความจุจะมีอัตราภาษีที่ต่างกัน และอัตราภาษีนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของรัฐ โดยต้องชำระภาษีภายในวันครบรอบการจดทะเบียนรถของทุกปี ในการชำระภาษี จะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:สมุดเล่มทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย) หากรถมีอายุครบ 6 ปีขึ้นไป จะต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี โดยตรวจสอบระบบไฟต่าง ๆ, การปล่อยไอเสีย และระบบเบรกหากไม่ชำระภาษีภายในกำหนด อาจถูกปรับหรือต้องรับโทษตามกฎหมายได้

ข้อดี

เส้นทางการขับขี่ที่น่าประทับใจ
ภายในที่ทันสมัยและมีอุปกรณ์ครบครัน

ข้อเสีย

ความน่าเชื่อถือในระยะยาวยังไม่ได้รับการพิสูจน์
ราคาสูงเมื่อซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
การใช้เชื้อเพลิงของ Neta V คืออะไร
Neta V ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าล้วน มีการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยใช้ค่าการใช้ไฟฟ้า (kWh ต่อ 100 กิโลเมตร) แทนการวัดอัตราการใช้น้ำมันแบบรถยนต์ทั่วไป โดยจากข้อมูลทางการและการทดสอบในสภาพถนนจริงของประเทศไทย Neta V มีอัตราการใช้ไฟฟ้ารวมประมาณ 12-14 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร คำนวณตามราคาค่าไฟฟ้าปัจจุบันในไทย จะมีต้นทุนต่อการขับขี่ 1 กิโลเมตร ประมาณ 0.5-0.7 บาท ต่ำกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งรถไฟฟ้าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นเพราะไม่ใช้พลังงานในขณะจอดนิ่ง ส่วนการชาร์จไฟ Neta V รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที พร้อมทั้งระบบสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมและลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ซื้อ Neta V ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม แนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณารุ่นที่เหมาะสมตามระยะทางใช้งานและความพร้อมของสถานีชาร์จไฟ รวมทั้งดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
Neta V คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่ ตรวจสอบคุณสมบัติของมันที่นี่
Neta V เป็น SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น มีความสามารถแข่งขันในตลาดไทย ด้วยระยะทางวิ่งประมาณ 380 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ สำหรับการเดินทางประจำวัน รองรับการชาร์จเร็วที่ชาร์จไฟได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ช่วยรักษาความเสถียรท่ามกลางสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในติดตั้งหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รุ่นใหม่ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาด 335 ลิตร เหมาะสำหรับซื้อของที่ตลาดหรืองานท่องเที่ยวระยะสั้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Neta V มีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ต้นทุนการซื้อรถถูกลง ควรตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จไฟผ่านแอปพลิเคชัน เช่น EV Station Planner เพื่อให้มั่นใจว่ามีจุดชาร์จเพียงพอในพื้นที่ที่ใช้บ่อย ระยะยาวรถไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันอย่างมาก แต่ต้องระวังการเสื่อมของแบตเตอรี่ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
วันที่เปิดตัว Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2023 ผ่านพันธมิตรท้องถิ่นที่รับผิดชอบด้านการจำหน่ายและบริการหลังการขาย ตัวรถเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและเน้นความคุ้มค่า รองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็วโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการชาร์จจาก 30% ถึง 80% พร้อมระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ตอบโจทย์การใช้งาน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้วและฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภควัยรุ่น รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีมูลค่าสูงสุดประมาณ 150,000 บาท อีกทั้งสถานีชาร์จไฟในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Neta V เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้ และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นตามการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทย
Q
วันที่วางจำหน่ายของ Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2023 ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในไทย รถรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าราคาประหยัด มุ่งเป้ากลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นในเมือง มีให้เลือกสองรุ่นตามระยะทางวิ่งคือประมาณ 384 กิโลเมตร และ 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ได้ภายในประมาณ 30 นาที พร้อมระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ช่วยให้รถรุ่นนี้มีราคาที่แข่งขันได้ ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นในระดับราคาใกล้เคียงก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ความยาวของ Neta V คือเท่าไร
Neta V มีความยาวตัวถัง 4070 มิลลิเมตร เป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ขนาดตัวรถทำให้เหมาะกับถนนแคบและที่จอดรถแออัดในประเทศไทย ทั้งยังขับขี่คล่องตัวและมีพื้นที่ภายในเพียงพอ ในฐานะที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Neta V ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยมีนโยบายลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้รถรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากขึ้น Neta V มีระยะทางวิ่งประมาณ 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริประยะสั้น นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าในประเทศไทยก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยศูนย์การค้าและพื้นที่สาธารณะจำนวนมากเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาประหยัด ขนาดเหมาะสม และเหมาะกับสภาพแวดล้อมในเมืองของไทย Neta V เป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ลดการปล่อยคาร์บอน และตอบโจทย์แนวโน้มการเดินทางแบบรักษ์โลกในประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม