Q

BYD SEALION 7 มีที่นั่งกี่ที่

BYD SEALION 7 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมา 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวไทยหรือการออกทริปกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ยังมีพื้นที่ด้านหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องขนสัมภาระจำนวนมาก รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid แบบ Plug-in (DM-i Super Hybrid) ของ BYD ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย โหมด EV ก็เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง ส่วนเรื่องที่สำคัญคือ ตลาดไทยกำลังเติบโตในเรื่องรถพลังงานสะอาด ซึ่ง Sealion 7 เป็น Plug-in Hybrid ที่ได้สิทธิประโยชน์เหมือนรถ EV แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศแรงๆ สำหรับเมืองร้อน และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ ที่สำคัญแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ทนสภาพฝนตกชุกของไทยได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 ที่ก็เป็น 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ Sealion 7 โดดเด่นกว่าในเรื่องเทคโนโลยีเชื่อมต่อและนวัตกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนนโยบาย EV 3.5 ทำให้ SUV ประหยัดพลังงานแบบนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยมของครอบครัวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
BYD Sealion 2025 ราคาเท่าไหร่ในฟิลิปปินส์?
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับราคาของ BYD Seal รุ่นปี 2025 ในฟิลิปปินส์ แต่เราสามารถอ้างอิงจากกลยุทธ์การตั้งราคาของ BYD ในตลาดอาเซียนได้ คาดว่าราคาของรุ่นนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 2 ล้านเปโซ (ประมาณ 800,000 ถึง 1.1 ล้านบาท) โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสเปกและภาษีท้องถิ่น ส่วนในตลาดไทย BYD เองก็มีการขยายตัวอย่างแข็งขันในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดย Seal เป็น SUV ไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นในเรื่องของระยะขับขี่และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจทำให้ราคาของ Seal ในไทยมีความแข่งขันมากขึ้น BYD เองก็กำลังพัฒนาระบบจำหน่ายและบริการหลังการขายในไทยอย่างต่อเนื่อง และอาจจะมีการนำเข้ารุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต สำหรับผู้บริโภคไทยที่สนใจ Seal สามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ BYD ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ และอาจจะพิจารณารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เช่น Tesla Model Y หรือ Great Wall Ora Good Cat ซึ่งก็มีส่วนแบ่งการตลาดในไทยเช่นกัน
Q
แบตเตอรี่ประเภทใดที่อยู่ใน BYD Seal 2025
รถยนต์ BYD Seal รุ่นปี 2025 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย มาพร้อมกับแบตเตอรี่ใบมีด LiFePO4 (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ที่ BYD พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความปลอดภัยสูงและอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะมีความเสถียรทางความร้อนที่ดีกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบทั่วไป ช่วยลดความเสี่ยงการลุกไหม้จากความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้ในไทยยังได้ประโยชน์จากความหนาแน่นพลังงานที่สูงกว่าของแบตเตอรี่ใบมีด ซึ่งหมายถึงระยะทางที่ยาวขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เช่น สามารถขับขี่ไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ-พัทยาได้อย่างสบายๆ (ประมาณ 300 กิโลเมตร) แบตเตอรี่นี้รองรับการชาร์จเร็ว โดยเมื่อใช้กับสถานีชาร์จเร็ว 150kW ที่พบได้ทั่วไปในไทย สามารถชาร์จจาก 30% เป็น 80% ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเหมาะกับเครือข่ายสถานีชาร์จที่กำลังขยายตัวในไทย อีกทั้งรัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต) ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Seal ที่ติดตั้งแบตเตอรี่เทคโนโลยีสูงอย่างนี้มีราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ส่วนคุณสมบัติการเสื่อมสภาพที่ต่ำของแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (ยังคงความจุ 80% หลังการชาร์จประมาณ 3,000 ครั้ง) ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บริโภคไทย
Q
ข้อมูลสเปกของ BYD Seal ปี 2025
BYD Seal 2025 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจจากแบรนด์ BYD คาดว่าจะยังคงความสามารถด้านสมรรถนะสูงและระยะทางไกลเหมือนเดิม สำหรับผู้บริโภคไทย รุ่นนี้น่าจะมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ทันสมัย ให้ระยะทางประมาณ 500-700 กิโลเมตร (ข้อมูลจริงขึ้นอยู่กับการประกาศของทางบริษัทในประเทศไทย) และรองรับการชาร์จเร็ว เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย นอกจากนี้ยังอาจติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 3.8 วินาที พร้อมระบบช่วยขับอัจฉริยะ DiPilot ที่ตอบโจทย์สภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนในไทย ส่วนภายในคาดว่าจะใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อมและจอหมุนขนาดใหญ่ รวมถึงออกแบบให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ตลาดไทยน่าจะได้เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา และมีการปรับปรุงระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับสภาพอากาศของไทย สำหรับคนไทยที่สนใจรถไฟฟ้า ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จด้วย ซึ่ง BYD กำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในไทยและทำงานร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น เมื่อรวมกับนโยบายส่งเสริมรถไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ทำให้ BYD Seal 2025 มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับกลางถึงสูงของประเทศไทย
Q
ขนาดของ BYD Sealion 7 ปี 2025 คือเท่าไหร่?
รุ่นปี 2025 ของ BYD Sealion 7 จัดอยู่ในรถระดับ D มีความยาวตัวรถ 4830 มม ความกว้าง 1925 มม ความสูง 1620 มม และระยะฐานล้อ 2930 มม ขนาดตัวรถเหล่านี้ช่วยสร้างพื้นที่ภายในที่กว้างขวางทั้งผู้ขับขี่ด้านหน้าและผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่ศีรษะและขาที่เพียงพอ ขนาดใหญ่ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ระยะฐานล้อที่ออกแบบอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ปรับปรุงการจัดวางภายในรถแต่ยังส่งผลดีต่อการควบคุมรถทำให้รถมีความมั่นคงมากขึ้นขณะเข้าโค้งหรือทำการขับเคลื่อนต่างๆ
Q
ราคาของ BYD Seal 2025 คือเท่าไหร่?
ณ สิ้นปี 2023 บริษัท BYD ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการสำหรับรุ่น 2025 BYD Seal (ซีล) ในตลาดประเทศไทย แต่จากราคาของรุ่น 2023 ที่วางขายอยู่ที่ประมาณ 1.2 ถึง 1.5 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับแบบและอุปกรณ์) คาดว่ารุ่น 2025 อาจจะมีราคาอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงหรือปรับขึ้นลงเล็กน้อย ซึ่งต้องรอการยืนยันจากบริษัทอีกครั้ง ในช่วงนี้ BYD ค่อนข้างตื่นตัวในตลาดไทย โดยรถไฟฟ้าของแบรนด์ได้รับความสนใจจากสมรรถนะการขับขี่ระยะไกล (เช่น ระยะทางสูงสุด 700 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC) และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery นอกจากนี้ ผู้บริโภคในไทยยังได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมรถ EV ของรัฐบาล เช่น การลดภาษีหรือมาตรการสนับสนุนค่าติดตั้งสถานีอัดประจุในบางจังหวัด เมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียงอย่าง Tesla Model 3 รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่ราคาประมาณ 1.75 ล้านบาท แล้ว BYD Seal อาจจะดึงดูดลูกค้าด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่า แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ BYD ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่าย ส่วนแผนงานของรัฐบาลไทยที่ตั้งเป้าให้รถ EV มีสัดส่วน 30% ภายในปี 2030 อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานและสิทธิประโยชน์สำหรับเจ้าของรถไฟฟ้าดีขึ้นในอนาคต
Q
ราคาของ BYD Sealion 7 ปี 2025 คือเท่าไหร่
ตามข้อมูลปัจจุบัน BYD Sealion 7 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ คาดว่ารุ่นปี 2025 ในตลาดไทยจะมีราคาประมาณ 15 ถึง 20 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างไปตามรุ่นย่อย ความจุแบตเตอรี่ และนโยบายภาษีในประเทศ รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใบมีดที่ทันสมัยของ BYD ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับการชาร์จแบบรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในไทย รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ผู้ซื้อสามารถรับสิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีและมาตรการส่งเสริมอื่นๆ ส่งผลให้ Sealion 7 มีความสามารถในการแข่งขันในตลาด นอกจากนี้ BYD ยังมีฐานการผลิตในไทยซึ่งช่วยลดต้นทุนและราคาขาย พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกด้านบริการหลังการขาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกรถยนต์ไฟฟ้านอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงแล้วยังมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม Sealion 7 จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยจุดเด่นด้านระยะทางวิ่งและระบบอัจฉริยะ
Q
ข้อเสียของ BYD Sealion 7 มีอะไรบ้าง?
BYD Sealion 7 อาจมีข้อเสียอยู่บ้างตามความคิดเห็นของผู้ใช้งานบางส่วน เช่น เวลาที่เปิดแอร์อาจมีเสียงแปลกๆ ดังออกมา ทำให้รู้สึกรบกวนขณะขับขี่ ในเรื่องของเบาะนั่ง มีคนพบว่าเบาะนิ่มจนยุบง่าย พอนั่งนานๆ อาจรู้สึกปวดหลัง และถ้าใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เบาะยังอาจเกิดสนิมได้ด้วย ระบบหน้าจอและซอฟต์แวร์ในรถก็มีปัญหาจุกจิก เช่น มีบั๊กเยอะ บางครั้งอัปเดตระบบแล้วฟังก์ชันชาร์จไร้สายหายไป และสัญญาณอินเทอร์เน็ตในรถก็ไม่ค่อยเสถียร ในส่วนของระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้ใช้บางคนที่ต้องเดินทางไกล ทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการเดินทางไกล อีกจุดหนึ่งคือความสูงของใต้ท้องรถค่อนข้างต่ำ พอขับผ่านถนนขรุขระหรือเนินต่างๆ อาจโดนขูดได้ง่าย ซึ่งมีผลต่อความสะดวกในการใช้งานในสภาพถนนที่หลากหลายค่ะ
Q
BYD Sealion 7 จัดอยู่ในกลุ่มรถประเภทไหน?
BYD Sealion 7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV ที่จัดอยู่ในกลุ่ม D-Segment โดยเฉพาะรุ่นนี้ถือเป็นรถ SUV ไฟฟ้าล้วน (EV) ที่มีการออกแบบและวางตำแหน่งให้เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว รุ่นนี้เปิดตัวพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ BYD e-Platform 3.0 EVO ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการชาร์จ ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 200KW ทำให้สามารถชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% ได้ภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานจริง ในด้านสมรรถนะ มอเตอร์ถูกวางไว้ด้านหลัง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้การเร่งแซงทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 225 กม./ชม. ดีไซน์ตัวรถแบบ SUV ที่ยกสูงช่วยให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัว และยังมาพร้อมเทคโนโลยีโครงสร้างแบตเตอรี่แบบรวมกับตัวถัง (CTB – Cell to Body) ช่วยให้โครงสร้างรถแข็งแรงมากขึ้น โดยมีค่าความแข็งแรงการบิดตัวรถสูงถึง 40,000 นิวตันเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกระดับค่ะ
Q
ราคาขายต่อของ BYD Sealion 7 คือเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของ BYD Sealion 7 จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ระยะทางที่ขับไปแล้ว สภาพรถ ความนิยมในตลาด รวมถึงมีออปชันหรืออัปเกรดเพิ่มเติมหรือไม่ ตอนนี้ BYD Sealion 7 เพิ่งเปิดตัวในช่วงปี 2024–2025 ยังถือว่าใหม่อยู่ในตลาด รถมือสองเลยยังมีไม่เยอะ และข้อมูลราคาขายต่อก็ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ตัวรถมีหลายรุ่น เช่น รุ่นขับหลังแบบพรีเมียม และรุ่นขับสี่แบบสมรรถนะสูง ถ้ารถอยู่ในสภาพดีมาก ใช้งานน้อย ก็มีโอกาสขายได้ราคาดี อาจจะใกล้เคียงกับราคาลดจากป้ายแดง แต่ถ้าขับมาเยอะ มีรอย มีปัญหา หรือหมดประกันแล้ว ราคาก็จะตกลงไปอีก อีกปัจจัยที่สำคัญคือ “ความต้องการในตลาด” ถ้าคนกำลังมองหารถ EV มือสองเยอะ แต่รถในตลาดมีน้อย ราคาก็จะดีขึ้น แต่ถ้ามีเยอะจนเกินไป หรือรุ่นใหม่เข้ามาแทน ราคาก็อาจตกได้เหมือนกัน ราคาป้ายแดงของ BYD Sealion 7 ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1,149,900 – 1,399,900 บาท ส่วนราคามือสองจะลดลงเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพและปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ถ้าอยากรู้ราคาที่แม่นยำ แนะนำให้ลองเช็กกับเต็นท์รถมือสอง หรือแพลตฟอร์มขายรถออนไลน์ต่างๆ เพื่อดูราคาเฉลี่ยในตลาดจริงค่ะ
Q
BYD Sealion 7 มีกี่ CC?
BYD Sealion 7 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (EV) จึงไม่ได้วัดสมรรถนะด้วยหน่วยซีซี (CC) แบบรถยนต์เครื่องยนต์น้ำมัน แต่จะดูที่กำลังมอเตอร์ แรงม้า แรงบิด และความจุของแบตเตอรี่เป็นหลัก รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะใช้มอเตอร์แม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 313 แรงม้า ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงถึง 390 กิโลวัตต์ หรือราว 530 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมากสำหรับรถ SUV ไฟฟ้า ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมเฟอร์โรฟอสเฟต (LFP) ความจุ 82.5 kWh รองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% แค่ประมาณ 0.53 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้คล่องตัว ไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ BYD Sealion 7 ยังมาพร้อมระบบช่วงล่างและระบบเบรกที่ออกแบบมาอย่างมั่นคง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสบายตลอดทางค่ะ

ข้อดี

กำลังชาร์จสูง สามารถเติมเต็มแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ
พื้นที่ขาเบื้องหลังกว้างขวาง ทำให้การขับขี่สบาย
ออกแบบสไตล์กับการออกแบบที่มีความแข็งแรงเหมือนกังเขน
มีการติดตั้งระบบอัจฉริยะหลากหลาย เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดี
การเพิ่มความเร็วราบรื่น เหมาะสำหรับการขับในเมือง

ข้อเสีย

ระบบช่วยเหลือการเลี่ยงเลนไม่คล่องแคล่ว
พื้นที่เก็บของในประตูจำกัด สำหรับของเล็กๆ
คุณภาพที่นั่งธรรมดา อาจไม่ทำให้ทุกคนพึงพอใจ
ความรู้สึกตอบโต้ของพวงมาลัยมีไม่เพียงพอเล็กน้อย
พื้นที่ตัวรถหลังเล็กกว่าคู่แข่งบางยี่ห้อ

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Ford Ranger XLT รุ่นปี 2021 สามารถลากจูงได้เท่าไร?
ความสามารถในการลากจูงของ Ford Ranger XLT รุ่นปี 2021 นั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดรูปแบบของรถ โดยรุ่นที่ใช้ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ขนาด 2.0 ลิตร สามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม ส่วนรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร ก็ลากจูงได้ในระดับเดียวกันคือ 3,500 กิโลกรัมเช่นกัน ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแล้วจะทำให้การลากจูงมีความมั่นคงมากขึ้น รถปิคอัพประเภทนี้ในไทยนิยมใช้ลากเรือ ลากอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือรถบ้านแบบพ่วงท้าย แนะนำว่าเวลาลากจูงควรกระจายน้ำหนักให้สมดุลและใช้อุปกรณ์เกี่ยวพ่วงที่ผู้ผลิตแนะนำ พร้อมทั้งตรวจสอบระบบเบรกระบายความร้อนและสภาพยางรถเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย ถ้าต้องการลากของหนักบ่อยๆ อาจพิจารณาติดตั้งระบบควบคุมเบรกพ่วงและชุดช่วงล่างหลังแบบเสริม ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการลากจูงระยะไกล ข้อควรระวังคือความสามารถในการลากจูงจริงจะได้รับผลกระทบจากความชันของถนน สภาพเส้นทาง และสภาพอากาศ ดังนั้นควรศึกษาจากแผนภาพกระจายน้ำหนักในคู่มือรถเพื่อจัดวางน้ำหนักให้เหมาะสม
Q
2021 Ford Ranger มีความสูงเท่าไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีความสูงของตัวรถที่แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยรุ่นขับเคลื่อนสองล้อแบบมาตรฐานจะสูงประมาณ 1,787 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีช่วงล่างสูงกว่าจะมีความสูงประมาณ 1,817 มิลลิเมตร การออกแบบแบบนี้ช่วยให้รถสามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองและเส้นทางลุยๆ เบาๆ ได้ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มักเจอน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน,ช่วงล่างที่สูงจะช่วยลดความเสี่ยงน้ำเข้าใต้ท้องรถ นอกจากนี้มุมเข้า (29 องศา) และมุมออก (26 องศา) ของรถยังเหมาะกับการขับบนถนนลูกรังในชนบทอีกด้วย แต่อย่าลืมว่าถ้าอยากปรับแต่งรถเช่นเปลี่ยนยางหรือระบบช่วงล่าง อาจทำให้ความสูงตัวรถเปลี่ยนไป แนะนำให้ปรับและปรับเทียบมาตรวัดความเร็วให้อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วงของรถหลังจากแชสซีถูกยกขึ้นอาจส่งผลต่อความมั่นคงในโค้ง ส่วนรถกระบะขนาดกลางในระดับเดียวกันทั่วไปจะมีความสูงอยู่ที่ 1,750-1,850 มิลลิเมตร เวลาเลือกซื้อควรเช็คป้ายจำกัดความสูงในที่จอดรถใต้ดินด้วย เพราะบางศูนย์การค้าเก่าในกรุงเทพฯ อาจมีป้ายจำกัดความสูงแค่ 2 เมตรเท่านั้น
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 มีกล้องมองหลังไหม?
รถปิคอัพ Ford Ranger รุ่นปี 2021 นั้นมาพร้อมกับกล้องถอยหลังซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐานในทุกรุ่น ช่วยให้ผู้ขับขี่ที่มักต้องใช้รถในซอยแคบๆหรือลานจอดรถที่คับขันสามารถถอยรถได้สะดวกขึ้น เพราะลดจุดบอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล้องถอยหลังจะทำงานคู่กับหน้าจอแสดงผลกลางรถ และในรุ่นท็อปบางรุ่นอาจมีเส้นแนะนำทิศทางแบบไดนามิกช่วยเพิ่มความสะดวก นอกจากกล้องถอยหลังแล้ว รถปิคอัพรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยีช่วยขับขี่อีกหลายอย่าง เช่น เซนเซอร์จอดรถ ระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากโดยเฉพาะเวลาขับรถตอนกลางคืนหรือในช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถปิคอัพอย่าง Ranger มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แนะนำให้เจ้าของรถมีนิสัยชอบสังเกตกระจกหลังแม้มีภาพถ่ายย้อนศร พร้อมกับทำความสะอาดเลนส์กล้องอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ฝนตกหรือดินโคลนกระทบต่อความคมชัดของภาพ หากพิจารณารถยนต์มือสองก็สามารถตรวจสอบได้ว่ากล้องทำงานได้ดีเพราะการใช้งานกลางแจ้งในระยะยาวอาจทำให้เลนส์เสื่อมสภาพได้
Q
Ford Ranger ปี 2021 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
Ford Ranger รุ่นปี 2021 ได้รับการอัปเกรดทั้งในด้านสมรรถนะและอุปกรณ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยมากขึ้น ภายใต้กระโปรงหน้ามีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 213 แรงม้าและแรงบิดสุดฉุด 500 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการเดินทางไกลและการขนส่ง ส่วนด้านหน้าออกแบบให้ดูดุดันยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้า LED และกริลล์แบบใหม่ พร้อมสีตัวถังให้เลือกเพิ่ม ส่วนภายในติดตั้งหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ระบบ SYNC 4 ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ใช้งานง่ายขึ้น ในด้านความปลอดภัยก็เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ สำหรับคนที่ต้องเจอกับเส้นทางหลากหลายแบบ Ranger ยังอัปเกรดสมรรถนะออฟโรดด้วยระบบ Terrain Management System ที่มีโหมดขับขี่สำหรับทุกสภาพพื้นผิว ทั้งโคลน ทราย หรือทางลุย เรนเจอร์ยังคงเป็นหนึ่งในรถกระบะที่ความสามารถครบเครื่อง ทั้งงานหนักและใช้งานทั่วไป ความทนทานและความประหยัดทำให้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมาอย่างยาวนาน
Q
เครื่องยนต์ของ Ford Ranger ปี 2021 คืออะไร?
รถปิคอัพ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยรายละเอียดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด ส่วนใหญ่แล้วจะพบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.2 ลิตร 5 สูบ สำหรับรุ่น 2.0 ลิตรจะมีทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุดที่ 180 แรงม้าและ 213 แรงม้าตามลำดับ ส่วนรุ่น 3.2 ลิตรให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แถมยังแรงบิดสูง เหมาะมากสำหรับการบรรทุกหนักหรือการขับออฟโรด นอกจากนี้บางตลาดยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร 4 สูบอีกด้วย ทุกเครื่องยนต์มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา ที่ออกแบบมาให้สมดุลระหว่างพลังสมรรถนะและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะรุ่นดีเซลที่แสดงความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนและใช้งานหนักแบบบ้านเรา เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Ranger เน้นแรงบิดสูงที่รอบต่ำ เหมาะสมมากสำหรับการขับทั้งในเมืองและทางไกล เรื่องการดูแลรักษา แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน Ford WSS-M2C913-D เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และควรทำความสะอาดระบบเทอร์โบจากคราบเขม่าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ได้อีกเยอะ
ดูเพิ่มเติม