Q

เท่าไหร่ที่จะชาร์จ byd atto 3

BYD Atto 3 มีแบตเตอรี่สองขนาด 49.92 kWh และ 60.48 kWh หากคิดตามค่าไฟในไทยที่ 4293 บาทต่อหน่วย การชาร์จ 49.92 kWh ใช้ประมาณ 2143 บาท และการชาร์จ 60.48 kWh ใช้ประมาณ 2596 บาท
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ BYD Atto 3มีข้อเสียอะไรบ้าง?
BYD Atto 3 อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยจากความคิดเห็นของตลาด พบว่าในช่วงหลังราคาของรุ่นนี้ลดลงมาก เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ราคาราว 1.19 ล้านบาท แต่ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2024 ราคาลดลงเหลือประมาณ 9 แสนบาท ทำให้เจ้าของรถที่ซื้อในช่วงแรกเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกเสียเปรียบ ในแง่ของการใช้งาน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีจุดชาร์จสาธารณะเพียงประมาณ 500 จุด และการชาร์จก็ค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 เพราะอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก และจำกัดระยะทางที่ใช้งานได้ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งบางรุ่น BYD Atto 3 อาจยังมีจุดที่พัฒนาได้ในเรื่องของพื้นที่เก็บของและการออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นก็มีทั้งจุดเด่นและข้อเสีย ผู้บริโภคควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของตัวเองเป็นหลัก
Q
BYD Atto 3 อยู่ในเซกเมนต์อะไร?
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มซีซีgment C ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,720 มม. ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในรถออกแบบมาอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี ส่วนน้ำหนักรถจะแตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานมีน้ำหนัก 1,680 กก. ส่วนรุ่นระยะไกลจะมีน้ำหนัก 1,750 กก. นอกจากนี้ยังมีปริมาณกระโปรงท้าย 440 ลิตร ที่เพียงพอต่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไปแล้วรถกลุ่มซีซีgment C จะมีขนาด พื้นที่ภายใน และอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างรถคอมแพคและรถขนาดกลาง ทำให้ Atto 3 ด้วยสเปคและคุณสมบัติเฉพาะตัว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย
Q
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อยู่ที่เท่าไร?
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ในปี 2024 BYD Atto 3 รุ่นมาตรฐาน Standard Range Active ราคาอยู่ที่ประมาณ 799,900 บาท รุ่น Standard Range Premium อยู่ที่ 859,900 บาท และรุ่น Extended Range Premium อยู่ที่ 899,900 บาท ก่อนหน้านี้ในปี 2022 รถรุ่นนี้เคยมีราคาสูงถึง 1,199,900 บาท แต่หลังจากการปรับราคาครั้งใหญ่ในประเทศไทย ราคาลดลงมาเหลือราว 900,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อราคาขายต่อของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระยะทางวิ่งน้อย และระบบต่าง ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ มูลค่าขายต่อก็อาจสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดก็มีผลต่อราคามือสองเช่นกัน BYD Atto 3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ATTO 3 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่ามือสองได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี เหมือนกับรถทุกคัน มูลค่าขายต่อจะลดลงตามกาลเวลาเนื่องจากการใช้งาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Atto 3 เป็นแบบไหน?
BYD Atto 3 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV (Electric Vehicle Transmission) โดยเป็นเกียร์ แบบ 1 สปีด (1 ระดับ) ซึ่งเป็นรูปแบบเกียร์ที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเกียร์แบบนี้มีโครงสร้างค่อนข้างเรียบง่าย ช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากมอเตอร์สู่ล้อ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีและตอบสนองทันใจ ด้วยการออกแบบให้มีแค่เกียร์เดียว จึงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ทำให้ผู้ขับรู้สึกนุ่มนวลและขับสนุกยิ่งขึ้น BYD Atto 3 ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ด้านหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (Nm) พละกำลังระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางระยะสั้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
Q
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3คือเท่าไร?
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3 คือ 5×114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาดรถเมืองไทย และใช้ร่วมกันได้กับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Toyota, Honda เป็นต้น ตัวเลข “5” หมายถึงล้อมี รูน็อต 5 รู ตัวเลข “114.3” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่รูน็อตทั้ง 5 รูเรียงอยู่ ซึ่งมีขนาด 114.3 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ยังใช้ ขนาดรูดุมกลาง (Center Bore) อยู่ที่ 67.1 มม. และมีค่าออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถเลือกเปลี่ยนหรือแต่งล้อได้หลากหลายรุ่นในตลาดไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน และควรเลือกล้อที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพถนนไทย ร้านแต่งรถที่ได้รับอนุญาตจาก BYD ในไทยมีล้อแม็กตรงรุ่นที่ตรงกับสเปก PCD ของ Atto 3 ซึ่งจะช่วยให้ล้อเข้ากับระบบช่วงล่างอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ ข้อควรระวัง: หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อขนาดใหญ่ขึ้น ควรรักษา “เส้นรอบวงล้อรวมยาง” ให้ใกล้เคียงของเดิม เพื่อไม่ให้มีผลต่ออัตราการใช้พลังงานของรถ และความแม่นยำของมาตรวัดความเร็ว
Q
BYD Atto 3 รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Atto 3 ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แม้ว่าจอแสดงผลจะมีความใหญ่พอสมควร แต่ระบบความบันเทิงภายในรถยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม BYD ระบุว่าจะพัฒนาประสิทธิภาพเหล่านี้ผ่านการอัปเดตระบบแบบไร้สายในอนาคต เนื่องจากความต้องการของซอฟต์แวร์ในแต่ละตลาดทั่วโลกมีความแตกต่างกัน BYD จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มี Apple CarPlay แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและการอัปเดตซอฟต์แวร์ ระบบความบันเทิงในรถรุ่นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ผ่านช่องทางทางการของ BYD เพื่อรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต
Q
ยางติดรถของ BYD Atto 3 ใช้ยี่ห้ออะไร?
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับ ยี่ห้อยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ BYD Atto 3 อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดยางของแต่ละรุ่น ได้ดังนี้:รุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 215/55 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่น Extended Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 235/50 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่นปี 2022 (Atto 3 รุ่นแรก) ใช้ยางขนาด215/55 R18 สำหรับล้อหน้าและหลังเช่นกัน พารามิเตอร์ของข้อมูลจำเพาะของยางเหล่านี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ความกว้างของยาง อัตราส่วนขนาด และเส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อ ยางที่มีข้อมูลจำเพาะต่างกันอาจมีสมรรถนะ การควบคุม ความสบาย และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบที่แท้จริงของตนเอง
Q
BYD Atto 3 เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
BYD Atto 3 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีข้อดีหลายประการ ในด้าน ดีไซน์ ภายนอก: หน้ารถออกแบบสไตล์ “เกล็ดมังกร” ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ส่วนไฟท้ายแบบ LED พาดยาวเต็มคัน ช่วยให้รถดูเด่น มีเอกลักษณ์ และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนน ในด้าน สมรรถนะการขับขี่: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็ว ขับทางไกลหรือแซงบนทางด่วนก็ทำได้สบาย แบตเตอรี่แบบใบมีด (Blade Battery) ของ BYD ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ ที่ทดสอบจริงแล้วพบว่า ระยะทางลดลงเพียงประมาณ 10% เท่านั้นจากที่เคลมไว้ ซึ่งถือว่าเสถียรมาก ในด้าน ค่าใช้จ่าย: BYD Atto 3 มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีน้ำมันเครื่องหรืออะไหล่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน และค่าไฟถูกกว่าเชื้อเพลิงมาก โดยมีผู้ใช้จริงในไทยระบุว่า ค่าการใช้งานรายเดือนถูกกว่ารถ Toyota รุ่นใกล้เคียงถึงประมาณ 40% นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล SUV พลังงานไฟฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามักมีปัญหาเรื่อง “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) ซึ่งหมายถึงการกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังมี จำนวนสถานีชาร์จไฟน้อย และบางแห่งชาร์จได้ช้า อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 ก็ยังถือว่าเป็นรถที่น่าพิจารณาและคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน
Q
ความกว้างของ BYD Atto 3 เท่าไหร่?
BYD Atto 3 มีความกว้างของตัวรถอยู่ที่ 1,875 มม. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ ขนาด C-Segment ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ภายในห้องโดยสารมี พื้นที่แนวกว้างที่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลัง นั่งได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะบริเวณช่วงไหล่และแขนที่สามารถขยับได้สะดวก นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถที่เหมาะสมยังช่วย เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง หรือขับเข้าโค้ง ซึ่งเมื่อนำมารวมกับระบบช่วงล่างของรถ จะช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีและขับได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น
Q
ภาษีถนนของ BYD Atto 3 เท่าไหร่? คิดยังไง?
รถยนต์ BYD Atto 3 ในประเทศไทยจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามนโยบายภาครัฐและลักษณะเฉพาะของรถแต่ละคัน โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งผู้ซื้อสามารถได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท และยังอาจได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตบางส่วนอีกด้วย ภาษีรถยนต์ประจำปี (ภาษีถนน) จะคำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์เป็นลิตร ซึ่งรถแต่ละระดับความจุจะมีอัตราภาษีที่ต่างกัน และอัตราภาษีนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของรัฐ โดยต้องชำระภาษีภายในวันครบรอบการจดทะเบียนรถของทุกปี ในการชำระภาษี จะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:สมุดเล่มทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย) หากรถมีอายุครบ 6 ปีขึ้นไป จะต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี โดยตรวจสอบระบบไฟต่าง ๆ, การปล่อยไอเสีย และระบบเบรกหากไม่ชำระภาษีภายในกำหนด อาจถูกปรับหรือต้องรับโทษตามกฎหมายได้

ข้อดี

เส้นทางการขับขี่ที่น่าประทับใจ
ภายในที่ทันสมัยและมีอุปกรณ์ครบครัน

ข้อเสีย

ความน่าเชื่อถือในระยะยาวยังไม่ได้รับการพิสูจน์
ราคาสูงเมื่อซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 วิ่งเลขไมล์เท่าไร?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมากครับ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC 3 สูบ รุ่นที่ใช้เกียร์ CVT นั้นวิ่งได้ประมาณ 20-22 กิโลเมตรต่อลิตร (อาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับและสภาพถนน) ซึ่งเหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ รวมถึงการเดินทางไกลด้วยครับ รุ่นนี้ยังคงดีไซน์ที่เน้นความประหยัดแบบฉบับ Mitsubishi ในตลาดอาเซียน ถังน้ำมันจุ 40 ลิตร ด้วยระยะทางตามทฤษฎีมากกว่า 800 กิโลเมตร ช่วยลดการแวะเติมน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาคุณสมบัติประหยัดน้ำมัน เช่น โหมดการขับขี่แบบ ECO ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น Attrage มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่กว้างขวางของมิตซูบิชิในประเทศไทยก็อำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษาตามปกติ ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอแนะนำให้ทดลองขับเพื่อยืนยันประสิทธิภาพการใช้น้ำมันภายใต้สภาพการใช้งานจริง นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานก็ควรพิจารณาเช่นกัน
Q
ความแตกต่างระหว่าง Mitsubishi Mirage และ Attrage 2023 คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 และ Attrage ในตลาดไทยมีการวางตำแหน่งที่แตกต่างกัน Mirage เป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ออกแบบมาสำหรับการเดินทางในเมืองด้วยความคล่องตัว ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดเพียง 3.8 เมตร เหมาะกับถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.6 ลิตร/100 กม. และมาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 7 ใบมาตรฐาน ส่วน Attrage เป็นรถเก๋ง 3 คันมาตรฐานความยาว 4.3 เมตร ที่ให้พื้นที่เบาะหลังกว้างขวางขึ้น พร้อมความจุกระโปรงหลังสูงถึง 450 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวที่เดินทางไกล ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC คู่กับเกียร์ CVT ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและกล้องถอยหลัง อย่างไรก็ตาม Attrage รุ่นไฮเอนด์ได้เพิ่มเบาะหนังและช่องแอร์ด้านหลัง ในประเทศไทย Mirage ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 460,000 บาท และ Attrage อยู่ที่ประมาณ 540,000 บาท ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ขอแนะนำให้ใช้ฟิล์มฉนวนเซรามิกในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ทั้งสองรุ่นมีนโยบายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร จากมิตซูบิชิ ประเทศไทย และผลิตที่โรงงานในจังหวัดชลบุรีของประเทศไทย โดยมีอัตราค่าอะไหล่ในประเทศที่ 70% และค่าบำรุงรักษาต่ำ
Q
ระบบปรับอากาศของ Mitsubishi Attrage 2023 เป็นอย่างไรบ้าง?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย มาพร้อมกับระบบแอร์แบบมือที่ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนของไทยโดยเฉพาะ แอร์ระบบนี้ทำงานได้เสถียร ให้ความเย็นสม่ำเสมอ และใช้งานง่าย แค่ปรับปุ่มหมุนก็สามารถควบคุมลมและอุณหภูมิได้ทันใจ เหมาะสำหรับคนที่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอย ระบบยังติดตั้งฟิลเตอร์กรองเกสรดอกไม้มาตรฐาน ช่วยกรองอากาศภายในรถให้สะอาดขึ้น แม้ว่าแอร์มือด้วยมือจะพบได้บ่อยในรุ่นพื้นฐาน แต่ Mitsubishi ได้พัฒนาประสิทธิภาพให้เย็นเร็วกว่ารถระดับเดียวกันในตลาด สำหรับคนไทยแล้ว แอร์ด้วยมือยังมีจุดเด่นเรื่องค่าบำรุงรักษาถูกและทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักในสภาพอากาศร้อนที่ต้องเปิดแอร์บ่อยๆ ถ้ามีงบประมาณมากขึ้นก็อาจเลือกรุ่นอื่นในระดับเดียวกันที่ติดตั้งแอร์อัตโนมัติซึ่งปรับลมอัตโนมัติตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แต่ราคาก็จะสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากอุณหภูมิของประเทศไทยสูงตลอดทั้งปี การทำความสะอาดระบบปรับอากาศและเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพในการทำความเย็น
Q
รถ Mitsubishi Attrage 2023 มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ?
รถ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 นี้มีถุงลมนิรภัยทั้งหมด 2 จุด คือถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมนิรภัยถือเป็นหนึ่งในระบบความปลอดภัยสำคัญของรถยนต์ เวลาเกิดอุบัติเหตุชนกระแทก มันจะพองตัวออกมาทันทีเพื่อช่วยลดแรงกระแทกและปกป้องคนในรถให้ได้รับบาดเจ็บน้อยลง นอกจากถุงลมนิรภัยพื้นฐานทั้งสองจุดนี้แล้ว รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกเพียบ ทั้งระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบแจ้งเตือนเมื่อไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย และจุดต่อเชื่อมสำหรับที่นั่งเด็กมาตรฐาน ISO FIX อีกด้วย ระบบทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยแบบครบทุกด้าน
Q
คู่แข่งของ Mitsubishi Attrage 2023 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมีคู่แข่งหลักๆ ได้แก่ Toyota Yaris Honda City Nissan Almera และ Mazda 2 ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ในครอบครัว Toyota Yaris เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการครองรถที่สูง ส่วน Honda City โดดเด่นในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารและความประหยัดน้ำมัน ขณะที่ Nissan Almera ดึงดูดผู้ซื้อด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและความสบายในการนั่ง ส่วน Mazda 2 นั้นเน้นที่การตกแต่งภายในหรูหราและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ในตลาดไทย รุ่นรถเหล่านี้ล้วนมีตัวเลือกหลายระดับความพิเศษ และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนและความต้องการของคนไทย โดยเฉพาะในเรื่องการประหยัดน้ำมันและระบบปรับอากาศที่ต้องใช้งานหนัก นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรถกลุ่มนี้ เวลาตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบได้ตามความต้องการส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความกว้างของรถ ระดับความพิเศษ อัตราการใช้น้ำมัน หรือความสะดวกในการบริการหลังการขาย
ดูเพิ่มเติม