Q
วิธีการชาร์จ byd atto 3
BYD ATTO 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมในตลาดไทยที่ระบบการชาร์จนั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยได้อย่างดี รุ่นนี้รองรับทั้งการชาร์จแบบช้า (AC) และแบบเร็ว (DC) โดยใช้งานร่วมกับสถานีชาร์จทั่วไปในไทยได้ไม่ว่าจะเป็น EA Anywhere หรือ EV Station การชาร์จแบบช้าสามารถใช้ได้ทั้งไฟบ้าน 220V หรือตามจุดชาร์จสาธารณะ ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม เหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืนหรือตอนจอดรถนานๆ ส่วนการชาร์จเร็วนั้นใช้เวลาเพียง 40 นาทีเพื่อเพิ่มประจุจาก 30% เป็น 80% สะดวกมากเมื่อต้องใช้บริการบนทางด่วนหรือตามห้างสรรพสินค้า ในสภาพอากาศร้อนของไทย ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จรถตอนกลางวันแดดจัดเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ และควรตรวจสอบพอร์ตชาร์จให้สะอาดแห้งอยู่เสมอ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งใช้รถไฟฟ้า รัฐบาลไทยกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และเมืองหลักอื่นๆ ที่ตอนนี้มีจุดชาร์จรวมแล้วกว่า 500 แห่ง สามารถค้นหาสถานีชาร์จใกล้ๆคุณได้ง่ายๆผ่านระบบนำทางในรถหรือแอปพลิเคชันเช่น PlugShare ที่สำคัญ BYD ATTO 3 ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Blade Battery ที่มีความเสถียรสูงแม้ในอุณหภูมิร้อนจัดของไทย การใช้งานประจำวันแนะนำให้รักษาระดับประจุระหว่าง 20%-80% จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ หากต้องจอดรถเป็นเวลานานควรเก็บประจุไว้ที่ระดับ 50%
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Atto 3 2022 ราคาเท่าไหร่?
ราคาขายของ BYD Atto 3 รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 1.4 ล้านบาท โดยราคาอาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ให้ระยะทางประมาณ 480 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถเติมไฟได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 40 นาที ออกแบบมาเพื่อครอบครัวรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ Dragon Face 3.0 ทั้งภายนอกและภายใน ติดตั้งหน้าจอกลางขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้และระบบช่วยขับอัจฉริยะ DiPilot มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถผลิตกำลังสูงสุด 150 kW เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.3 วินาที
ตอนนี้การซื้อรถไฟฟ้าจะได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลทั้งส่วนลดและลดหย่อนภาษี แนะนำให้ตรวจสอบโปรโมชั่นล่าสุดก่อนตัดสินใจซื้อ และควรพิจารณาความพร้อมในการติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้านด้วย รุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและระบบอัจฉริยะที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน นอกจากนี้ค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่ารถยนต์น้ำมันมาก ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกรถไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดตอนนี้
Q
BYD Atto 3 คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่?
BYD Atto 3 เป็น SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่คุ้มค่าและใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถพลังงานใหม่ แบตเตอรี่แบบ Blade ที่ติดตั้งมาด้วยมีความปลอดภัยสูง ให้ระยะทางประมาณ 480 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เพียงพอสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ ในโหมดชาร์จเร็วสามารถเติมไฟได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งในเขตเมืองหลักๆ การชาร์จไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หน้าจอควบคุมกลางแบบหมุนได้ 12.8 นิ้วและระบบ DiLink อัจฉริยะรองรับภาษาไทยและแอปพลิเคชันยอดนิยมได้ดี ส่วนเรื่องพื้นที่ภายใน ด้วยระยะฐานล้อ 2720 มม. ทำให้มีพื้นที่ด้านหลังกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับรถน้ำมันในราคาใกล้เคียง การตั้งค่าตัวถังของ Atto 3 จะเน้นความสบายมากกว่าความสปอร์ต และในสภาพอากาศเย็น ระยะทางอาจจะลดลงบ้าง ในด้านบริการหลังการขาย BYD มีเครือข่ายบริการในเมืองหลักแล้ว แต่สำหรับพื้นที่ห่างไกลควรตรวจสอบความสะดวกในการซ่อมบำรุงล่วงหน้า นโยบายภาษีสำหรับรถ EV และความครอบคลุมของสถานีชาร์จเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา แนะนำให้ทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
รถ BYD Atto 3มีข้อเสียอะไรบ้าง?
BYD Atto 3 อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยจากความคิดเห็นของตลาด พบว่าในช่วงหลังราคาของรุ่นนี้ลดลงมาก เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ราคาราว 1.19 ล้านบาท แต่ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2024 ราคาลดลงเหลือประมาณ 9 แสนบาท ทำให้เจ้าของรถที่ซื้อในช่วงแรกเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกเสียเปรียบ ในแง่ของการใช้งาน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีจุดชาร์จสาธารณะเพียงประมาณ 500 จุด และการชาร์จก็ค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 เพราะอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก และจำกัดระยะทางที่ใช้งานได้ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งบางรุ่น BYD Atto 3 อาจยังมีจุดที่พัฒนาได้ในเรื่องของพื้นที่เก็บของและการออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นก็มีทั้งจุดเด่นและข้อเสีย ผู้บริโภคควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของตัวเองเป็นหลัก
Q
BYD Atto 3 อยู่ในเซกเมนต์อะไร?
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มซีซีgment C ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,720 มม. ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในรถออกแบบมาอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี ส่วนน้ำหนักรถจะแตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานมีน้ำหนัก 1,680 กก. ส่วนรุ่นระยะไกลจะมีน้ำหนัก 1,750 กก. นอกจากนี้ยังมีปริมาณกระโปรงท้าย 440 ลิตร ที่เพียงพอต่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไปแล้วรถกลุ่มซีซีgment C จะมีขนาด พื้นที่ภายใน และอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างรถคอมแพคและรถขนาดกลาง ทำให้ Atto 3 ด้วยสเปคและคุณสมบัติเฉพาะตัว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย
Q
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อยู่ที่เท่าไร?
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ในปี 2024 BYD Atto 3 รุ่นมาตรฐาน Standard Range Active ราคาอยู่ที่ประมาณ 799,900 บาท รุ่น Standard Range Premium อยู่ที่ 859,900 บาท และรุ่น Extended Range Premium อยู่ที่ 899,900 บาท ก่อนหน้านี้ในปี 2022 รถรุ่นนี้เคยมีราคาสูงถึง 1,199,900 บาท แต่หลังจากการปรับราคาครั้งใหญ่ในประเทศไทย ราคาลดลงมาเหลือราว 900,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อราคาขายต่อของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระยะทางวิ่งน้อย และระบบต่าง ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ มูลค่าขายต่อก็อาจสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดก็มีผลต่อราคามือสองเช่นกัน BYD Atto 3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ATTO 3 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่ามือสองได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี เหมือนกับรถทุกคัน มูลค่าขายต่อจะลดลงตามกาลเวลาเนื่องจากการใช้งาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Atto 3 เป็นแบบไหน?
BYD Atto 3 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV (Electric Vehicle Transmission) โดยเป็นเกียร์ แบบ 1 สปีด (1 ระดับ) ซึ่งเป็นรูปแบบเกียร์ที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเกียร์แบบนี้มีโครงสร้างค่อนข้างเรียบง่าย ช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากมอเตอร์สู่ล้อ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีและตอบสนองทันใจ ด้วยการออกแบบให้มีแค่เกียร์เดียว จึงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ทำให้ผู้ขับรู้สึกนุ่มนวลและขับสนุกยิ่งขึ้น BYD Atto 3 ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ด้านหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (Nm) พละกำลังระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางระยะสั้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
Q
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3คือเท่าไร?
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3 คือ 5×114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาดรถเมืองไทย และใช้ร่วมกันได้กับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Toyota, Honda เป็นต้น ตัวเลข “5” หมายถึงล้อมี รูน็อต 5 รู ตัวเลข “114.3” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่รูน็อตทั้ง 5 รูเรียงอยู่ ซึ่งมีขนาด 114.3 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ยังใช้ ขนาดรูดุมกลาง (Center Bore) อยู่ที่ 67.1 มม. และมีค่าออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถเลือกเปลี่ยนหรือแต่งล้อได้หลากหลายรุ่นในตลาดไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน และควรเลือกล้อที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพถนนไทย ร้านแต่งรถที่ได้รับอนุญาตจาก BYD ในไทยมีล้อแม็กตรงรุ่นที่ตรงกับสเปก PCD ของ Atto 3 ซึ่งจะช่วยให้ล้อเข้ากับระบบช่วงล่างอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ
ข้อควรระวัง: หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อขนาดใหญ่ขึ้น ควรรักษา “เส้นรอบวงล้อรวมยาง” ให้ใกล้เคียงของเดิม เพื่อไม่ให้มีผลต่ออัตราการใช้พลังงานของรถ และความแม่นยำของมาตรวัดความเร็ว
Q
BYD Atto 3 รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Atto 3 ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แม้ว่าจอแสดงผลจะมีความใหญ่พอสมควร แต่ระบบความบันเทิงภายในรถยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม BYD ระบุว่าจะพัฒนาประสิทธิภาพเหล่านี้ผ่านการอัปเดตระบบแบบไร้สายในอนาคต เนื่องจากความต้องการของซอฟต์แวร์ในแต่ละตลาดทั่วโลกมีความแตกต่างกัน BYD จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มี Apple CarPlay แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและการอัปเดตซอฟต์แวร์ ระบบความบันเทิงในรถรุ่นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ผ่านช่องทางทางการของ BYD เพื่อรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต
Q
ยางติดรถของ BYD Atto 3 ใช้ยี่ห้ออะไร?
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับ ยี่ห้อยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ BYD Atto 3 อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดยางของแต่ละรุ่น ได้ดังนี้:รุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 215/55 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่น Extended Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 235/50 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่นปี 2022 (Atto 3 รุ่นแรก) ใช้ยางขนาด215/55 R18 สำหรับล้อหน้าและหลังเช่นกัน พารามิเตอร์ของข้อมูลจำเพาะของยางเหล่านี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ความกว้างของยาง อัตราส่วนขนาด และเส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อ ยางที่มีข้อมูลจำเพาะต่างกันอาจมีสมรรถนะ การควบคุม ความสบาย และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบที่แท้จริงของตนเอง
Q
BYD Atto 3 เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
BYD Atto 3 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีข้อดีหลายประการ ในด้าน ดีไซน์ ภายนอก: หน้ารถออกแบบสไตล์ “เกล็ดมังกร” ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ส่วนไฟท้ายแบบ LED พาดยาวเต็มคัน ช่วยให้รถดูเด่น มีเอกลักษณ์ และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนน ในด้าน สมรรถนะการขับขี่: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็ว ขับทางไกลหรือแซงบนทางด่วนก็ทำได้สบาย แบตเตอรี่แบบใบมีด (Blade Battery) ของ BYD ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ ที่ทดสอบจริงแล้วพบว่า ระยะทางลดลงเพียงประมาณ 10% เท่านั้นจากที่เคลมไว้ ซึ่งถือว่าเสถียรมาก ในด้าน ค่าใช้จ่าย: BYD Atto 3 มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีน้ำมันเครื่องหรืออะไหล่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน และค่าไฟถูกกว่าเชื้อเพลิงมาก โดยมีผู้ใช้จริงในไทยระบุว่า ค่าการใช้งานรายเดือนถูกกว่ารถ Toyota รุ่นใกล้เคียงถึงประมาณ 40% นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล SUV พลังงานไฟฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามักมีปัญหาเรื่อง “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) ซึ่งหมายถึงการกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังมี จำนวนสถานีชาร์จไฟน้อย และบางแห่งชาร์จได้ช้า อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 ก็ยังถือว่าเป็นรถที่น่าพิจารณาและคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
มูลค่าขายต่อของรถ Nissan ปี 2020 คือเท่าไหร่?
มูลค่าการขายต่อของรถยนต์ Nissan รุ่น 2020 จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น รุ่น ระยะทาง สภาพการบํารุงรักษา และอุปสงค์และอุปทานของตลาด เช่น รุ่นยอดนิยมอย่าง Nissan Almera Kicks หรือ Terra มีผลงานค่อนข้างคงที่ในตลาดรถยนต์มือสอง โดยปกติอัตราความตกค้างของอายุ 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50% -60% ของราคาเดิม และราคาเฉพาะต้องประเมินตามสภาพรถ ขอแนะนำให้ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและเก็บบันทึกที่สมบูรณ์ซึ่งสามารถเพิ่มราคาขายต่อได้อย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดรถยนต์มือสองมีความต้องการสูงจากรุ่นแบรนด์นิสสันที่มีระยะทางต่ำและปราศจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรุ่นที่ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมน้อย หากพิจารณาการขาย การประเมินราคาแบบเรียลไทม์สามารถรับได้ผ่านแพลตฟอร์มรถยนต์มือสองหลักหรือตัวแทนจําหน่าย ในขณะเดียวกันก็ทราบราคาจดทะเบียนในตลาดของรถรุ่นเดียวกันเป็นข้อมูลอ้างอิง ความทนทานและเครือข่ายหลังการขายของรุ่น Nissan ได้รับการยอมรับในระดับท้องถิ่นสูงซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสําคัญในการรักษามูลค่า
Q
2020 Nissan มีชื่อเสียงในเรื่องอะไรบ้าง?
รถยนต์ Nissan รุ่นปี 2020 ได้รับความนิยมในเรื่องความทนทานและความประหยัด โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวและ SUV อย่าง Nissan Almera และ Nissan Kicks ที่โดดเด่นมากๆ รุ่น Almera นี่แหละที่คนไทยชอบเพราะประหยัดน้ำมัน โปร่งสบาย และราคาคุ้มค่า ส่วน Kicks มาด้วยดีไซน์สวยๆ มีรุ่นไฮบริดให้เลือก พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ สองรุ่นนี้ปรับให้เหมาะกับสภาพถนนไทยและนิสัยการขับของคนไทย แถมซ่อมบำรุงก็ง่ายด้วย นอกจากนี้ปี 2020 ยังอัพเกรดระบบความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน ช่วยชีวิตเวลาเจอรถติดหรือขับทางไกล ส่วนใครสนใจเทคโนโลยีไฮบริด ระบบ e-Power ของ Nissan ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะรวมข้อดีของรถไฟฟ้าและรถน้ำมันเข้าไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากช่วยโลกแต่ยังไม่มั่นใจเรื่องสถานีชาร์จ โดยรวมแล้ว Nissan รุ่นปี 2020 ทำได้ดีทั้งเรื่องความทนทาน ความประหยัด และเทคโนโลยี ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลายสไตล์จริงๆ
Q
รถนิสสัน 2020 ใช้เครื่องยนต์ประเภทใด?
รถยนต์ Nissan รุ่นปี 2020 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามรุ่นรถ โดยรุ่นยอดนิยมอย่าง Altima และ Sylphy ส่วนใหญ่จะติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติ หรือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร ส่วนรุ่นสมรรถนะสูงบางรุ่นอาจใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์เหล่านี้ให้ความสมดุลที่ดีระหว่างประหยัดน้ำมันและกำลังขับเคลื่อน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกลเป็นอย่างดี เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Nissan ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะระบบฉีดน้ำมันตรงสูบและระบบปรับเวลาปิดเปิดวาล์วแบบคู่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในประเทศไทย รถรุ่นเหล่านี้มีค่าบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำและหาอะไหล่ได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันมากๆ ถ้าสนใจรถระบบไฮบริดหรือรถไฟฟ้า Nissan ก็มีซีรีส์ e-Power ให้เลือก ซึ่งเป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องรักษ์โลก
Q
น้ำมันที่ใช้ในรถ Nissan ปี 2020 คืออะไร?
รถยนต์ Nissan รุ่นปี 2020 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่มีความหนืด 0W-20 หรือ 5W-30 โดยรุ่นที่เหมาะสมให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือสัญลักษณ์บนฝาปิดน้ำมันเครื่อง เช่น รุ่นซันนี่และโชคที่นิยมในประเทศไทย หากใช้งานในสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทยควรเลือกความหนืด 5W-30 จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้นในอุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบให้การป้องกันความร้อนและความสะอาดที่ดีกว่า แนะนำเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่ถ้าต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นกว่าเดิม เวลาเลือกน้ำมันเครื่องต้องดูมาตรฐานสากลอย่าง API SN/SP หรือ ILSAC GF-6 ซึ่งแบรนด์ดังๆ ในไทยอย่าง PTT หรือเชลล์ก็มีผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานนี้ ส่วนรถที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ทนแรงเฉือนได้ดีตามที่ผู้ผลิตแนะนำ อย่าลืมตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องสม่ำเสมอและสังเกตสีหากพบว่าน้ำมันเครื่องดำเร็วหรือลดลงผิดปกติควรรีบไปเช็คที่ศูนย์บริการ การดูแล สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้นานขึ้น
Q
Nissan เป็นรถญี่ปุ่นหรือรถจีน?
Nissan เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น และเป็นสมาชิกของพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi โดยมีประวัติความเป็นมาย้อนไปถึงปี 1933 จากบริษัท "Jidosha Seizo Co. Ltd." ถือเป็นหนึ่งในบริษัทตัวแทนของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น สำหรับตลาดในประเทศเรา รถยนต์ Nissan อย่าง Almera และ Navara ได้รับความนิยมเนื่องจากประหยัดน้ำมัน ทนทาน และมีราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะ Navara ที่เป็นรถปิกอัพตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย Nissan มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีเช่นระบบช่วยขับอัจฉริยะ ProPILOT และเทคโนโลยีไฮบริด e-Power ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ก็เริ่มนำมาใช้ในรุ่นที่จำหน่ายในประเทศเราแล้ว ข้อควรทราบคือแม้ว่า Nissan จะมีโครงการร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์จีนในระดับโลก (เช่น Dongfeng Nissan) แต่ความเป็นแบรนด์ งานวิจัยพัฒนาแกนหลัก และการบริหารจัดการยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น รถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศเรามีจำนวนการใช้งานสูง มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบครัน และหาอะไหล่ได้ค่อนข้างสะดวก ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคหลายคนคำนึงถึง หากสนใจรถรุ่นใดเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสสมรรถนะและอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตัวเองว่าจะตรงกับความต้องการหรือไม่
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

BYD Atto 3 ตารางผ่อนชำระล่าสุด คือ SUV ไฟฟ้าที่คุ้มค่ามาก
ธนวัฒน์Nov 6, 2025

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
Kevin WongSep 12, 2025

เกี่ยวกับราคาการซื้อรถและคำแนะนำที่ละเอียดที่สุดสำหรับ BYD Atto 3
ณัฐวุฒิMar 14, 2025

BYD Atto 3 ตอนที่เปิดตัวในประเทศจีน รุ่นย่อยทั้งหมดมาพร้อมระบบ DiPilot 100
ธนวัฒน์Mar 6, 2025

BYD Atto 3 พลังงานวิเคราะห์,ด้วยแบตเตอรี่แบบใบมีดเป็นประจุพลังงาน สามารถวิ่งได้กี่กิโลเมตร?
ธนวัฒน์Oct 17, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย