Q

Audi TT เป็นรถที่ควรซื้อหรือไม่

Audi TT เป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่ผสมผสานระหว่างสมรรถนะการขับขี่ระดับสปอร์ตกับดีไซน์หรูหรา เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความสนุกในการขับขี่และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0T เทอร์โบชาร์จที่ให้กำลังขับเคลื่อนสูง พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมรถบนถนนเปียกชื้นของไทย ซึ่งมีฝนตกบ่อย ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ ด้านภายในห้องโดยสารออกแบบมาแบบ Virtual Cockpit สุดล้ำสมัย วัสดุและงานประกอบยังคงมาตรฐานระดับพรีเมียมเหมือนแบรนด์หรูอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ต้องบอกเลยว่าที่นั่งแถวหลังค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับการใช้เพียง 2 คนเท่านั้น และเนื่องจากเป็นรถนำเข้า ราคาและค่าบำรุงรักษาในไทยจะสูงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศ ถ้าคุณให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์แบรนด์ ประสบการณ์การขับขี่ และดีไซน์เฉพาะตัว TT ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าคิดถึงความประหยัดและความใช้งานได้จริง อาจต้องเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ เพิ่มเติม แนะนำให้เลือกเสริมที่นั่งระบายอากาศสำหรับอากาศร้อนของไทย และไม่ต้องห่วงเรื่องบริการหลังการขาย เพราะ奥迪ไทยมีเครือข่ายบริการครอบคลุมในเมืองใหญ่ๆ ทำให้การดูแลรักษาทำได้ง่ายสะดวก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เครื่องยนต์ของ Audi TT ใช้งานได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ Audi TT โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 ถึง 300,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาประจำวันและสภาพแวดล้อมในการใช้งาน สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถให้ความสำคัญกับการดูแลระบบระบายความร้อนและระบบหล่อลื่นเป็นพิเศษ การเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาจะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเมืองไทยที่การจราจรคับคั่งบ่อยครั้ง เครื่องยนต์มักทำงานที่รอบต่ำเป็นเวลานานซึ่งทำให้เกิดการสะสมของคาร์บอนได้ง่าย แนะนำให้ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงทุก 20,000 กิโลเมตร สำหรับเจ้าของรถที่ชอบท่องเที่ยวแบบขับรถเอง ขณะขับขี่ในพื้นที่ภูเขาของประเทศไทย ควรระวังไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเป็นเวลานานเกินไป การจอดรถให้เครื่องยนต์เย็นลงบ้างเป็นระยะจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ ข้อสำคัญคือต้องใช้อะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ในตลาดไทยมีแบรนด์น้ำมันเครื่องให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ต้องมั่นใจว่าได้มาตรฐาน VW50200 หรือ 50500 หากพบว่าเครื่องยนต์มีเสียงผิดปกติหรือกำลังลดลง ควรนำรถไปตรวจเช็กที่อู่ซ่อมมืออาชีพทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็กๆ ลุกลามเป็นอาการใหญ่ นอกจากนี้นิสัยการขับขี่ที่ดี เช่น การเร่งเครื่องอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการหมุนรอบสูงขณะเครื่องเย็น ก็จะช่วยเพิ่มความทนทานให้เครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด
Q
ถัดจาก Audi TT ควรเลือกซื้อรถยนต์รุ่นไหนดี?
ถ้าคุณกำลังมองหารถแทน Audi TT ในตลาดไทยมีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายรุ่นที่ทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และเหมาะกับสภาพถนนรวมถึงไลฟ์สไตล์คนไทย ถ้าชอบคูเป้สปอร์ต BMW Z4 หรือ Mercedes SLC ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะให้ประสบการณ์การขับและความหรูหราใกล้เคียงกัน แถมยังเหมาะกับการขับในเมืองไทยอีกด้วย แต่ถ้าอยากได้รถที่ใช้งานได้หลากหลายกว่า Toyota GR86 หรือ Subaru BRZ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสองรุ่นนี้ขายดีในไทย ราคาไม่แรง แถมยังขับสนุกและเหมาะกับคนชอบแต่งรถสุดๆ ส่วนคนที่ชอบรถไฟฟ้า Tesla Model 3 Performance ก็ตอบโจทย์ด้วยสมรรถนะแรงและเทคโนโลยีล้ำๆ แถมสถานีชาร์จในไทยก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ตลาดไทยยังนิยมรถปิกอัพและ SUV ถ้าต้องการรถที่ขับทั้งในเมืองและลุยทางวิบากบ้าง Ford Ranger Raptor หรือ Toyota Fortuner ก็ใช้ได้ทั้งงานประจำและงานอดิเรก แนะนำว่าก่อนตัดสินใจควรลองขับทุกรุ่นให้แน่ใจว่าเหมาะกับสไตล์ตัวเอง และอย่าลืมว่าอากาศเมืองไทยร้อนมาก ควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ให้ดีเป็นพิเศษเวลาซื้อรถ
Q
Audi TT ใช้สายพานหรือโซ่?
Audi TT ใช้ระบบไทม์มิ่งเชนแทนที่จะเป็นสายพาน ซึ่งการออกแบบนี้ให้ความทนทานและประหยัดค่าบำรุงรักษามากกว่า โดยปกติแล้วไทม์มิ่งเชนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าและสามารถใช้งานไปพร้อมกับเครื่องยนต์ได้ตลอดอายุการใช้งาน ลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนตามระยะ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย เพราะความร้อนและความชื้นสูงอาจเร่งให้สายพานเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ในตลาดไทย Audi TT เป็นรถสปอร์ตนำเข้าที่ได้รับความนิยม และการออกแบบระบบส่งกำลังแบบเชนยังช่วยลดภาระการดูแลรักษาในระยะยาวให้กับเจ้าของรถ ทำให้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนสายพานบ่อยๆ ข้อที่น่าสนใจคือ แม้ว่าระบบเชนอาจจะมีเสียงดังกว่าเล็กน้อย แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้มากแล้ว และระบบเชนยังเหมาะกับความต้องการของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงอีกด้วย นี่คือเหตุผลที่แบรนด์หรูหลายแห่งเลือกใช้ระบบเชน สำหรับผู้บริโภคไทย การเลือกรถที่ใช้ระบบเชนหมายถึงประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพการจราจรและสภาพอากาศที่ซับซ้อนของไทย ซึ่งลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะเสียหายจากการขาดของสายพานได้
Q
ทำไม Audi ถึงหยุดผลิต TT?
เหตุผลหลักที่ Audi TT ต้องหยุดผลิตนั้นมาจากแนวโน้มตลาดรถยนต์โลกที่เปลี่ยนไป รวมถึงการปรับกลยุทธ์ของแบรนด์ การเปลี่ยนผ่านสู่รถไฟฟ้าและการเติบโตของรถ SUV ทำให้ Audi ต้องทุ่มทรัพยากรไปที่รถรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากกว่า แม้ TT จะเป็นรถสปอร์ตคลาสสิกที่มีดีไซน์เลิศหรูและการขับขี่สมรรถนะสูง แต่ยอดขายที่น้อยเกินไปก็ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะในตลาดอย่างไทยที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบรถ SUV แบบประหยัดหรือรถประหยัดพลังงานมากกว่า การหยุดผลิตของ TT ก็สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่รถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาปกำลังเผชิญทั่วโลก อย่างไรก็ตาม Audi ยืนยันว่า DNA ด้านดีไซน์และเทคโนโลยีของ TT จะยังคงสืบทอดต่อไปในรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างเช่นซีรีส์ e-tron ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก TT สำหรับแฟนๆรถไทย แม้จะรู้สึกเสียดายที่ TT ต้องยุติการผลิต แต่ในตลาดมือสองก็ยังมีรถสภาพดีให้เลือกมากมาย แถมยังสามารถลุ้นรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก Audi ที่จะมาสร้างประสบการณ์ขับขี่แบบใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย
Q
Audi TT รุ่นไหนที่จะกลายเป็นรถคลาสสิก?
ในตลาดไทย Audi TT รุ่นแรก (8N 1998-2006) และรุ่นที่สอง (8J 2006-2014) โดยเฉพาะเวอร์ชันสมรรถนะสูงอย่างรุ่น 3.2 VR6 ของเจเนอเรชันแรก รวมถึง TTS และ TT RS น่าจะกลายเป็นคลาสสิกคาร์ที่ทรงคุณค่า ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมที่ทำให้แฟนรถหลงรัก แถมสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยยังทำให้การดูแลรถเก่าทำได้ยาก รถสภาพดีเวอร์ชันหายากจึงมีค่ามากเป็นพิเศษ ถ้าจะพูดให้ลึกอีกหน่อย วัฒนธรรมการเก็บคลาสสิกคาร์ในไทยเริ่มมาแรง แต่ต้องระวังเรื่องอากาศร้อนชื้นที่ทำลายยางและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำให้เปลี่ยนซีลยางบ่อยๆ และเก็บรถในที่ป้องกันความชื้น ส่วนเรื่องแต่งรถ Audi TT ก็เป็นที่นิยมในหมู่เด็กเล่นรถไทยเหมือนกัน การอัพเกรดระบบช่วงล่างและระบบไอเสียพอประมาณช่วยเพิ่มความสนุกได้ แต่ต้องอย่าลืมตรวจสอบให้ตรงตามกฎหมายขนส่งทางบกของไทย
Q
Audi TT มีปัญหาอะไรบ้าง?
Audi TT ถือเป็นรถสปอร์ตคลาสสิกที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในตลาดไทย แต่ในการใช้งานระยะยาวอาจเจอกับปัญหาบางอย่างที่พบบ่อย เช่น เกียร์ DSG แบบคลัตช์คู่ที่อาจมีอาการกระตุกหรือแสดงข้อความเตือนร้อนเกินในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนดและหลีกเลี่ยงการขับแบบรุนแรง นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนและชื้นยังเร่งให้ยางต่างๆ เสื่อมเร็วขึ้น เช่น ยางรองช่วงล่างหรือยางซีลรอบกระจกซันรูฟ เจ้าของรถควรตรวจสอบส่วนเหล่านี้เป็นประจำ ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบของ TT นั้นต้องการการระบายความร้อนที่ดี โดยเฉพาะเมื่อติดอยู่ในรถติดในกรุงเทพฯ ควรสังเกตุดูเข็มวัดอุณหภูมิน้ำเป็นประจำ และควรเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุก 2 ปี สำหรับคนที่กำลังมองหารถมือสอง ต้องระวังปัญหาระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น จอ MMI ที่อาจมีอาการแลกหรือค้าง รวมถึงควรตรวจสอบพวงมาลัยในรุ่นพวงมาลัยขวาว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ แม้ TT จะเป็นรถนำเข้า แต่ศูนย์บริการ Audi ในไทยสามารถจัดหาอะไหล่แท้และให้การสนับสนุนได้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอาจสูงกว่ารถที่ผลิตในประเทศเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับสมเหตุสมผล สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่สามารถเลือก TT ได้อย่างมั่นใจ แค่ต้องอย่าลืมดูแลรักษาให้ตรงเวลาก็พอ
Q
Audi TT เป็นรถที่ดูแลรักษาง่ายหรือไม่?
Audi TT ในฐานะรถคูเป้สปอร์ตที่เน้นสไตล์การขับขี่สมรรถนะสูง ในตลาดประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอยู่ในระดับกลางค่อนข้างสูง ค่าบำรุงรักษาจะแพงกว่ารถครอบครัวทั่วไปแต่ถูกกว่ารถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นเดียวกัน สาเหตุหลักมาจากระบบเครื่องยนต์เทอร์โบและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน พร้อมทั้งควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนและสภาพน้ำมันเกียร์เป็นประจำ ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่จะมีศูนย์บริการออดี้ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการซึ่งสามารถให้บริการอะไหล่แท้และการซ่อมมืออาชีพได้ แต่ในต่างจังหวัดอาจต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการ 4S ในเมืองหลัก สิ่งที่ควรทราบคือเมื่อเลยระยะประกันไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่แท้จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามในตลาดไทยก็มีอู่ซ่อมมือสามที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพซึ่งสามารถให้ทางเลือกในการบำรุงรักษาที่คุ้มค่ากว่า สำหรับเจ้าของที่ต้องการความสนุกในการขับขี่แต่ยังคงอยากควบคุมค่าใช้จ่าย แนะนำให้เลือกรุ่น 2.0TFSI ขับเคลื่อนล้อหน้าแทนรุ่น TTS ที่มีสมรรถนะสูงกว่า จะได้ทั้งดีไซน์คลาสสิกของ TT และลดค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาประจำวันลง นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังมีการเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ในอัตราที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นปัจจัยต้นทุนที่ต้องคำนึงถึงในการใช้งานระยะยาวอีกด้วย
Q
Audi TT ทำมาจากอะลูมิเนียมหรือไม่?
โครงสร้างตัวถังของ Audi TT นั้นมีการใช้วัสดุอลูมิเนียมจำนวนมาก โดยเฉพาะในรุ่นแรก (1998-2006) และรุ่นที่สอง (2006-2014) Audi ใช้เทคโนโลยีโครงสร้างอลูมิเนียมที่เรียกว่า "ASF" (Audi Space Frame) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมความแข็งแรงสูงกับโหนดหล่อที่แม่นยำ ช่วยลดน้ำหนักตัวถังในขณะเดียวกันก็เพิ่มความแข็งแกร่ง เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการความต้านทานการกัดกร่อนของตัวถัง อย่างไรก็ตามในรุ่นที่สาม (2014 เป็นต้นมา) เพื่อความสมดุลระหว่างต้นทุนและสมรรถนะ จึงมีการเปลี่ยนไปใช้เหล็กความแข็งแรงสูงในบางส่วนของตัวถัง แต่ยังคงใช้อลูมิเนียมในส่วนสำคัญเช่นประตูและฝากระโปรงหน้า สำหรับตลาดไทย การซ่อมแซมส่วนอลูมิเนียมของ Audi TT จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ เช่น Audi โชว์รูมในกรุงเทพฯ ที่มีเครื่องมือซ่อมอลูมิเนียมตามมาตรฐานโรงงาน จริงๆ แล้วตัวถังอลูมิเนียมเหมาะกับประเทศไทยมากเพราะไม่เป็นสนิมเหมือนเหล็ก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชายฝั่งอย่างพัทยาหรือภูเก็ตที่มีความชื้นสูง แต่ต้องระวังเรื่องเทคนิคการซ่อมอลูมิเนียมที่แตกต่างจากเหล็กทั่วไป ต้องการความชำนาญสูงกว่า
Q
ทำไม Audi TT ถึงได้ชื่อว่า "TT"?
ชื่อของ Audi TT มาจากคำย่อของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ "Tourist Trophy" หรือที่เรียกกันว่า "ทัวริสต์ โทรฟี" ซึ่งเป็นการแข่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความท้าทายและมีประวัติศาสตร์ยาวนานบนเกาะแมนของอังกฤษ การที่ Audi เลือกใช้ชื่อนี้ก็เพื่อเป็นการให้เกียรติกับการแข่งขันดังกล่าว และยังสะท้อนถึงดีเอ็นเอด้านสปอร์ตของรถรุ่น TT ด้วย ตอนที่รถคอนเซปต์ TT เปิดตัวครั้งแรกในงาน Frankfurt Motor Show ปี 1995 ด้วยดีไซน์เรียบกลมและสปิริตสปอร์ตที่ดึงดูดความสนใจได้มากมาย พอถึงรุ่นผลิตจริงก็ยังคงดีไซน์นี้ไว้จนกลายเป็นรถที่ดูออกทันทีว่าเป็น Audi สำหรับตลาดไทยแล้ว Audi TT เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่และคอรถด้วยขนาดตัวที่กระทัดรัดเหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ช่วยให้ขับลื่นไหลแม้ในหน้าฝน TT พัฒนามาแล้วสามรุ่น แต่ละรุ่นล้วนอัพเกรดทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี เช่น รุ่นล่าสุดอย่าง TT RS ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5T ห้าสูบให้กำลังสูงถึง 400 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที แสดงให้เห็นความสามารถของ Audi ในวงการรถสปอร์ต สำหรับคนไทยแล้ว TT ไม่ใช่แค่รถสปอร์ตสไตล์โดดเด่น แต่ยังเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณสปอร์ตจาก Audi ด้วย
Q
อะไหล่ของ Audi TT มีราคาแพงไหม?
Audi TT ในฐานะรถสปอร์ตนำเข้าเฉพาะกลุ่มในตลาดไทย ชิ้นส่วนอะไหล่ย่อมมีราคาสูงกว่ารถครอบครัวทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักๆ ก่อนอื่น TT ใช้ชิ้นส่วนสปอร์ตเฉพาะของ Audi เป็นจำนวนมาก (เช่นชิ้นส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ชมสปริงสปอร์ต ฯลฯ) ที่มีการออกแบบซับซ้อนกว่ารถทั่วไป ประการต่อมา ผู้จัดจำหน่ายในไทยมีสต็อกอะไหล่จำกัด บางส่วนต้องสั่งตรงจากโรงงานในเยอรมนี ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านลอจิสติกส์และระยะเวลารอนานขึ้น และที่สำคัญ ไทยมีการเก็บภาษีนำเข้าอะไหล่รถยนต์ในอัตราค่อนข้างสูง (ประมาณ 30%-80%) ถ้าพูดเป็นตัวเลขชัดเจน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอาจอยู่ที่ 5,000-7,000 บาท แต่ชิ้นส่วนสำคัญอย่างชุดไฟหน้าทั้งคู่ราคาอาจพุ่งไปถึง 1.5 แสนบาทขึ้นไป สำหรับเจ้าของ TT ในไทยที่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำ 3 วิธี หนึ่ง-เลือกใช้อะไหล่มือสองที่ผ่านการรับรองจาก Audi (มีร้านเฉพาะทางในตลาดนัดจตุจักร) สอง-ซื้อแพ็คเกจบริการจากศูนย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อรับส่วนลด สาม-ทำประกันขยายความคุ้มครองจากศูนย์เพื่อครอบคลุมค่าการซ่อมบำรุงสูงๆ อีกเรื่องที่ต้องเน้นคือสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยส่งผลต่ออายุการใช้งานของส่วนยาง (เช่นซีลประตู) และระบบระบายความร้อนค่อนข้างมาก ควรตรวจเช็คถี่ขึ้นเป็นทุก 1 หมื่นกิโลเมตร การบำรุงรักษาเชิงป้องกันแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องจ่ายค่าเปลี่ยนอะไหล่แพงๆ ในระยะยาว
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ DOHC 4 ลูกซู่ 2.0 ลิตรรุ่นใช้วิธีการเทอร์โบอัดน้ำมันซึ่งทำให้ทุ่มแรงดันสูง และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 ความเร็วที่พื้นผิวสัมผัสอย่างละเอียด ผลิตกำลังสูงสุดอยู่ที่ 230 แรงม้า มีพลังงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro AWD ซึ่งมีประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม สามารถปรับตัวให้เหมาะกับการขับขี่แบบใช้คุณภาพที่หลากหลาย
มีเส้นทางการขับขี่ที่ชัดเจนดี ตำแหน่งขับขี่ดี สามารถปรับเช้านั่งด้วยพลังไฟฟ้าได้
ไม่จำเป็นต้องกังวลเมื่ออยู่ในสภาพแดดร้อนด้วยระบบ Virtual Cockpit ที่มีแผนภูมิความละเอียดสูง
มีเทคโนโลยีช่วยการขับขี่เช่น Audi Side Assist

ข้อเสีย

ที่นั่งด้านหลังแคบ พื้นที่เล็กมาก
ทั้งหมดเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ไม่มีเกียร์ธรรมดา ผู้ใช้ที่ชอบรถยนต์อาจจะไม่ค่อยพอใจ
ไม่ค่อยเหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง มากกว่านั้นเหมาะสมกับการขับขี่ในวันหยุดหรือการเดินทางระยะไกล
การแสดงผลในการเลี้ยวไม่ดีเพียงพอ เนื่องจากท้ายรถสั้น การเลี้ยวและการขับขี่อาจจะเหวี่ยงบ้าง
ขาดระบบความปลอดภัยบางอย่าง เช่นระบบช่วยเหลือการเบรกอัตโนมัติ

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม