Q

Swift ซับซ้อนหรือไม่

Swift เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมพอสมควร ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวถังมีขนาดกะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือบนถนนที่คับแคบ ภายในรถถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้านสมรรถนะ รุ่นที่พบเห็นทั่วไปให้การขับขี่ที่มั่นคง และสามารถรับมือกับสภาพถนนในประเทศไทยได้ดี โดยรวมแล้ว Swift เป็นรถที่ไม่ยุ่งยากในการดูแล และถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มรถขนาดเล็ก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
วิธีการเปิดท้ายสุดสุซูกิสวิฟท์
วิธีเปิดฝากระโปรงท้ายของ Suzuki Swift โดยทั่วไปจะมีคันดึงอยู่ด้านล่างฝั่งซ้ายของเบาะคนขับ เพียงดึงคันดึงก็สามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้ อย่างไรก็ตาม อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น
Q
Suzuki Swift GLX และ GLX Navi แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Suzuki Swift GLX และ GLX Navi อยู่ที่การติดตั้งอุปกรณ์ GLX Navi มักจะมาพร้อมกับระบบนำทางที่ทันสมัยและฟังก์ชันการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีในรถที่ดีกว่า ด้านการออกแบบภายนอกทั้งสองรุ่นอาจมีความแตกต่างในรายละเอียด เช่น ลายล้อและตกแต่งตัวถัง ส่วนในเรื่องความสะดวกสบาย GLX Navi อาจมีคุณสมบัติที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้น เช่น วัสดุเบาะที่ดีกว่าและตัวเลือกในการปรับที่มากขึ้น ด้านระบบขับเคลื่อนทั้งสองรุ่นมักจะไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนและสามารถให้สมรรถนะที่ประหยัดและใช้งานได้ดี0
Q
Suzuki Swift มีทั้งหมดกี่รุ่น
Suzuki Swift มีรุ่นพื้นฐานหลักๆ คือ GL GL Next และ GLX รวมถึงรุ่นพิเศษต่างๆ เช่น Swift GL Plus Swift GL Sport Edition Swift Extreme Stylish และ Swift GL Max Edition
Q
ซูซูกิ สวิฟตัวไหนดีที่สุดสำหรับรถมือสอง
สมรรถนะของ Suzuki Swift แต่ละรุ่นในตลาดรถมือสองขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ หากเน้นความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง รุ่นใหม่มักให้สมรรถนะที่ดีกว่าและอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำกว่า Swift 12 เป็นรุ่นที่ประหยัดคุ้มค่าและมีค่าบำรุงรักษาต่ำ ในขณะที่ผู้ที่ต้องการพละกำลังและอุปกรณ์ครบครัน Swift 14 อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม สภาพของรถมือสองยังขึ้นอยู่กับประวัติการใช้งานและการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด
Q
Suzuki Swift ประหยัดน้ำมันหรือไม่
Suzuki Swift ในตลาดประเทศไทยถือเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันพอสมควร ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์และการออกแบบตัวถังที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ หากขับขี่อย่างเหมาะสม Swift สามารถช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ในระดับที่น่าพอใจ
Q
ข้อเสียของ Suzuki Swift มีอะไรบ้าง
ข้อด้อยของ Suzuki Swift อาจรวมถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ค่อนข้างเล็ก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารตอนหลังที่อาจรู้สึกคับแคบ ด้านสมรรถนะ สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงอาจมองว่าพละกำลังของเครื่องยนต์ยังไม่ตอบโจทย์เพียงพอ นอกจากนี้ การตกแต่งภายในอาจดูเรียบง่าย และขาดอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีระดับหรู อย่างไรก็ตาม การประเมินข้อดีข้อด้อยของรถยนต์แต่ละรุ่นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย.
Q
Suzuki Swift GL และ GL Plus มีความแตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Suzuki Swift รุ่น GL และ GL Plus อยู่ที่ระดับของอุปกรณ์และฟีเจอร์ โดยรุ่น GL Plus มักจะมาพร้อมกับฟังก์ชันและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากกว่า เช่น ระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้า วัสดุภายในที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ล้อแม็กขนาดใหญ่กว่า รวมถึงระบบความบันเทิงภายในรถที่ชาญฉลาดมากขึ้น ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งสองรุ่นอาจแตกต่างกันในรายละเอียด เช่น การออกแบบกันชนหรือลวดลายของล้อ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ชัดเจนควรดูจากสเปกและอุปกรณ์ของรถในแต่ละรุ่นอย่างละเอียด.
Q
Suzuki Swift GL และ GL Plus มีความแตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง Suzuki Swift รุ่น GL และ GL Plus อยู่ที่อุปกรณ์และฟีเจอร์ที่ติดตั้ง โดยรุ่น GL Plus จะเพิ่มความหรูหราและเทคโนโลยีมากขึ้นจากพื้นฐานของรุ่น GL เช่น ระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยมากขึ้นอย่างระบบเตือนจุดบอดและระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ภายในรถอาจใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่าเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนภายนอกก็อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น ลวดลายล้อแม็กหรือชุดตกแต่งรอบคัน แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน แต่ในบางกรณีรุ่น GL Plus อาจมีการปรับจูนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยรวมแล้วรุ่น GL Plus เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความทันสมัยและครบครันมากยิ่งขึ้น
Q
สุซึกิชวิฟท์สามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่
ความสามารถในการบรรทุกของ Suzuki Swift จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปแล้วจะสามารถบรรทุกได้ประมาณ 350 ถึง 500 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินจากที่กำหนด เนื่องจากอาจส่งผลต่อสมรรถนะของรถและความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีปิดเสียงเตือนซูซูกิสวิฟท์
วิธีปิดเสียงเตือนของรถ Suzuki Swift มักขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาในรถ โดยทั่วไปแล้วสามารถเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าบนหน้าจอกลางหรือแผงควบคุมเพื่อตรวจสอบตัวเลือกเกี่ยวกับเสียงเตือน หากไม่มีตัวเลือกในเมนู อาจต้องใช้การตั้งค่าผ่านปุ่มที่แผงหน้าปัด หรืออาจไม่สามารถปิดได้ในบางระบบเพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ของรถเพื่อวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรุ่นรถของคุณ

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Toyota Yaris มีระบบ Apple CarPlay หรือไม่?
Toyota Yaris รุ่นปรับโฉมตั้งแต่ปี 2020 (รวมถึง Yaris ATIV) มีบางรุ่นย่อย เช่น SV และ RS ที่มาพร้อมกุญแจ Smart Entry และระบบ Push Start ได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัส 7 หรือ 9 นิ้ว ซึ่งรองรับ Apple CarPlay แล้ว แต่รุ่นพื้นฐานอย่าง JL หรือ J ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ และใช้แค่ระบบวิทยุมาตรฐาน ผู้ที่ใช้รุ่นเก่า สามารถอัปเกรดเป็นหน้าจอที่รองรับ CarPlay ได้ผ่านศูนย์บริการโตโยต้าในไทย ราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาท โดยแนะนำให้ใช้สาย Lightning ที่ผ่านการรับรอง MFi เพราะอากาศร้อนในไทยอาจทำให้สายคุณภาพต่ำเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ โตโย่ายังมีอัปเดตระบบปีละ 1–2 ครั้ง ล่าสุดเพิ่มการรองรับ Siri ภาษาไทยด้วย หากสนใจซื้อ Yaris มือสอง แนะนำเลือกจาก Toyota Sure ที่รับรองคุณภาพ และมีการตรวจสอบระบบ CarPlay พร้อมประกันระบบมัลติมีเดีย 3 เดือน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Toyota Yaris คืออะไร?
ยางติดรถของ Toyota Yaris จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปมักใช้ยางยี่ห้อ Bridgestone รุ่น ECOPIA EP150 หรือ TURANZA T005A และ Dunlop ENASAVE EC300+ ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับถนนในเอเชีย เน้นความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน รุ่นที่ใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว มักใช้ยางขนาด 175/65 R15 ขณะที่รุ่นสปอร์ตอย่าง RS จะใช้ขนาดใหญ่ขึ้นคือ 195/50 R16 ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางเหล่านี้จึงผลิตจากสูตรยางพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะบนถนนเปียกและทนความร้อนได้ดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนควรเพิ่มความระมัดระวัง และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย โชว์รูมโตโยต้าในไทยยังมีตัวเลือกยางอัปเกรด เช่น Michelin หรือ Yokohama (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ที่เหมาะกับถนนไทยที่มีทั้งเรียบและขรุขระ แนะนำให้สลับยางทุก 10,000 กม. เพื่อยืดอายุการใช้งาน และตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนที่ความดันลมยางอาจสูงเกิน Toyota มีบริการสลับยางในราคาประมาณ 300–500 บาท หากต้องการเปลี่ยนยางขนาดเดิม ราคายางระดับเดียวกับยางติดรถในไทยอยู่ที่ประมาณเส้นละ 2,500–4,500 บาท (รวมติดตั้งและถ่วงล้อ) และสามารถผ่อนจ่ายผ่าน Toyota Easy Finance ได้อีกด้วย
Q
Toyota Yaris เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียของมันกันที่นี่เลย!
Toyota Yaris เป็นรถที่มีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน โดยจุดเด่นหลักคือความประหยัดน้ำมัน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้มาก ในด้านความปลอดภัย Toyota Yaris ก็มาพร้อมระบบมาตรฐานครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ, สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ด้านอุปกรณ์ภายในก็ถือว่าครบถ้วน โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, ช่องชาร์จ Type-C, แอร์อัตโนมัติ รวมถึงบางรุ่นที่มีเบาะหนังและกล้องรอบคัน เพิ่มความสะดวกและความสบายในการใช้งาน ดีไซน์ภายนอกก็ดูทันสมัย สีสันหลากหลาย และด้านหน้าของตัวรถมีความเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความโดดเด่น อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ Yaris คือเรื่องกำลังเครื่องยนต์ ซึ่ง 1.2 ลิตร อาจไม่แรงพอสำหรับคนที่ต้องการอัตราเร่งแรงหรือขับเร็วบนทางด่วน นอกจากนี้เบาะหลังของบางรุ่นอาจแคบไปเล็กน้อย ทำให้การนั่งระยะไกลรู้สึกไม่ค่อยสบาย โดยรวมแล้ว Toyota Yaris เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถประหยัดน้ำมัน ใช้งานในเมือง มีความปลอดภัย และมีฟีเจอร์พื้นฐานครบ โดยไม่เน้นเรื่องพละกำลังหรือพื้นที่กว้างมากนัก เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถเล็กค่ะ
Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris มีอะไรบ้าง?
Tแม้ว่า Toyota Yaris จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีจุดที่ควรพิจารณาเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ กำลังสูงสุด 92 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบการขับขี่ที่เร้าใจหรือเร่งแซงบ่อยในความเร็วสูง ด้านพื้นที่ภายใน ด้วยขนาดตัวรถแบบ B-Segment (ยาว 4,171 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475–1,500 มม. ฐานล้อ 2,550 มม.) อาจทำให้พื้นที่วางขาและศีรษะด้านหลังรู้สึกคับแคบ โดยเฉพาะกับผู้โดยสารที่รูปร่างสูงใหญ่ นอกจากนี้ ในขณะที่รถรุ่นอื่น ๆ ในระดับเดียวกันมีการอัปเดตดีไซน์และฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง Toyota Yaris บางรุ่นกลับดูขาดความทันสมัย ทั้งในด้านการออกแบบภายในและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบมัลติมีเดียที่ยังมีฟังก์ชันจำกัด วัสดุภายในที่ให้สัมผัสไม่หรูหรามากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่เน้นความล้ำสมัยหรือความหรูหรา Yaris จึงอาจดูเป็นรองในแง่ของความโดดเด่นและความน่าสนใจค่ะ
Q
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับไหน?
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment หรือที่เรียกว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก โดยมีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัด ได้แก่ ความยาวประมาณ 4,140 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,550 มม. ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและหาที่จอดรถได้ง่าย ราคาจำหน่ายอยู่ในช่วงประมาณ 559,000 – 694,000 บาท ถือว่าเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับผู้บริโภคทั่วไป เครื่องยนต์มีขนาดความจุ 1.2 ลิตร (1197 ซีซี) เป็นแบบ ดูดอากาศธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า (PS) โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ดีอยู่ที่ 4.3 ลิตร / 100 กม. จึงเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน เช่น ขับไปทำงานหรือเดินทางระยะสั้น ภายในรถยังมาพร้อมกับ อุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารค่ะ
ดูเพิ่มเติม