Q

วิธีตรวจสอบระดับน้ำมันใน BMW X5

การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง BMW X5 นั้นทำได้ง่ายมาก ขั้นแรกให้จอดรถบนพื้นราบและมั่นใจว่าเครื่องยนต์เย็นตัวแล้ว เช่น หลังจากจอดทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้า หาไม้วัดน้ำมันเครื่องสีส้มหรือสีเหลือง ดึงออกมาเช็ดให้สะอาดแล้วเสียบกลับไปใหม่ ดึงออกมาอีกครั้งเพื่อดูว่าเส้นน้ำมันอยู่ระหว่างขีด MIN กับ MAX หรือเปล่า สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องทุกเดือน เพราะความร้อนอาจทำให้น้ำมันเครื่องลดลงเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องขับรถทางไกลบ่อยๆ หรือเจอรถติดในกรุงเทพฯ ที่เครื่องยนต์เดินเบานานๆ ถ้าระดับน้ำมันต่ำกว่าขีด MIN ควรเติมน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ BMW รับรอง เช่น เกรด 5W-30 หรือ 0W-40 ซึ่งศูนย์บริการ BMW ในไทยมักจะมีน้ำมันเครื่องสูตรพิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนจัดไว้ให้ สำหรับรุ่น X5 ที่ใหม่กว่าอาจใช้ไม้วัดน้ำมันแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องตรวจสอบผ่านระบบ iDrive ขณะรถจอดนิ่ง โดยให้สตาร์ทเครื่องจนถึงอุณหภูมิทำงานปกติแล้วดับเครื่องรอสัก 5 นาทีก่อนตรวจสอบ อย่าลืมว่าการดูแลรักษาน้ำมันเครื่องในไทยควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะความชื้นสูงอาจทำให้น้ำมันเครื่องออกซิไดซ์เร็วขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทาง 10,000 กม. หรือทุก 12 เดือน (ขึ้นกับอย่างไหนถึงก่อน) ซึ่งสั้นกว่าช่วงเวลาบำรุงรักษาที่ยุโรปเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแบบไทยมากยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความแตกต่างระหว่าง BMW X5 ปี 2025 และ 2026 คืออะไร
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ BMW X5 รุ่นปี 2025 ในประเทศไทย แต่สำหรับรุ่นปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนั้นมีการอัปเกรดหลายอย่าง แนวการออกแบบภายนอกจะใช้ภาษา Neue Klasse (New Class) โดยไฟหน้าจะเชื่อมต่อกับกรอบกริลล์แบบแคบกว่าเป็นแนวเดียวกัน ส่วนช่องรับอากาศที่กันชนจะเล็กลง ทำให้เส้นโดยรวมดูเรียบง่ายขึ้น ความยาวตัวรถเกือบ 5 เมตร และอาจมีการยืดระยะฐานล้อเพื่อรองรับเก้าอี้แถวที่สาม ท้ายรถออกแบบให้กระชับขึ้น คาดว่าจะใช้ไฟ LED แบบ "รูปตัว L กลับด้าน" ส่วนรถทดสอบใช้วอล์ยขนาด 22 นิ้ว ภายในห้องโดยสารจะมีจอแสดงผลโค้งแบบเต็มแผง พร้อมระบบ iDrive X ที่รองรับการอัปเดตผ่านระบบ OTA และฟังก์ชันผู้ช่วยเสียง โดยลดปุ่มกดแบบฟิสิคัลลงอย่างมาก ในขณะที่ถ้ามีรุ่นปี 2025 ก็อาจเป็นการอัปเดตเล็กน้อยเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์เท่านั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งภายนอก ภายใน และเทคโนโลยีแบบรุ่นปี 2026 นี้ ซึ่งรุ่น 2026 นี้จะมอบประสบการณ์การขับขี่และเทคโนโลยีแบบใหม่ทั้งหมดจริงๆ
Q
BMW X5 2022 มีเครื่องยนต์ประเภทใด?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลไฮบริด มีความจุกระบอกสูบ 2993 มิลลิลิตร หรือเรียกสั้นๆว่า 3.0 ลิตร จำนวน 4 สูบ เครื่องยนต์แบบนี้รวมข้อดีของทั้งเครื่องดีเซลและระบบไฮบริดไว้ด้วยกัน ทำให้ได้ทั้งแรงบิดสูงและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆกัน เครื่องดีเซลนั้นขึ้นชื่อในเรื่องแรงบิดเยอะ เหมาะสำหรับการออกตัวหรือขับขึ้นเขาที่ต้องการแรงหนุน ส่วนระบบไฮบริดจะช่วยเสริมเมื่อจำเป็น ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน ถ้าเป็นชีวิตประจำวันหรือขับทางไกลก็ตอบโจทย์มาก เพราะนอกจากจะได้กำลังใจจากแรงม้าแล้ว ยังช่วยเซฟเงินค่ากระเป๋าได้อีกด้วย
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 มีมูลค่าเท่าไหร่?
ราคาตลาดมือสองของ BMW X5 รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทางเดินรถ อุปกรณ์เสริม และประวัติการรับประทาน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 - 4 ล้านบาท สำหรับรถที่เดินทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร) และมีอุปกรณ์เสริมเพียบ เช่น ชุดแต่ง M Sport หลังคากระจก หรือระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ราคาจะพุ่งไปอยู่ที่ระดับบน ส่วนรถที่配置พื้นฐานหรือระยะทางเดินรถสูงก็จะอยู่ที่ระดับล่าง ในไทย BMW X5 ถือเป็นหนึ่งใน SUV ระดับหรูที่ทรงตัวด้านมูลค่ามือสองได้ดี โดยเฉพาะรุ่นดีเซลอย่าง X5 xDrive30d ที่ประหยัดน้ำมันและเหมาะกับการเดินทางไกล จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง การซื้อ X5 มือสองจึงช่วยประหยัดเงินได้มาก แต่ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่ารถนำเข้าผ่านช่องทางทางการหรือไม่ และมีประวัติการรับประทานครบถ้วน เพื่อความมั่นใจในระยะยาว ถ้าคิดจะใช้รถนาน แนะนำให้เลือกรถที่ยังอยู่ในระยะรับประทานของศูนย์บริการหลัก และควรเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อรักษาสภาพรถและมูลค่า สำหรับคนที่กำลังมองหา นอกจากเปรียบเทียบราคาระหว่างศูนย์จำหน่ายกับรายบุคคลแล้ว ควรดูว่ามีโปรโมชั่นหรือของแถมอะไรบ้าง เช่น ชุดบริการฟรี หรือบริการรับประทาน延长 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการซื้อรถครั้งนี้ได้อีกเยอะ
Q
BMW X5 ปี 2022 เป็นรุ่นไฮบริดเบาหรือเปล่า?
ใช่แล้วครับ รุ่น BMW X5 ปี 2022 นั้นมีการติดตั้งระบบ Mild Hybrid หรือระบบไฮบริดแบบเบา ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะพบในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลบางรุ่น เช่น xDrive40i และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด xDrive45e ระบบนี้ใช้มอเตอร์ 48V เพื่อช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มพลังตอนออกตัวและเร่งแซง พร้อมทั้งลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองไทยที่ต้องเจอกับสภาพการจราจรหยุดๆ เดินๆ บ่อยๆ ตอนนี้เทคโนโลยี Mild Hybrid กำลังได้รับความนิยมในตลาดไทยมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังตอบโจทย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดของไทย เช่น มาตรฐานการระบายมลพิษของกรุงเทพฯ ด้วย อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ Mild Hybrid ก็ไม่ได้สูงกว่าเครื่องยนต์ทั่วไปมากนัก แบตเตอรี่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและความประหยัดสำหรับคนไทยครับ ในอนาคตถ้ารัฐบาลไทยสนับสนุนนโยบายรถพลังงานสะอาดมากขึ้น คาดว่าเราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีแบบนี้ในรถรุ่นอื่นๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวครับ
Q
X5 จะมีการเปลี่ยนแปลงในปี 2025 หรือไม่?
จากข้อมูลล่าสุด BMW X5 จะมีการอัพเดทรุ่นใหม่ในปี 2025 โดยคาดว่ารถรุ่นใหม่จะใช้ภาษาในการออกแบบที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งไฟหน้าที่เรียวบางขึ้นและกริลล์รูปไตขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนภายในคาดว่าจะอัพเกรดเป็นระบบ iDrive 8.5 ล่าสุด พร้อมฟังก์ชันช่วยขับขี่ที่เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของระบบขับเคลื่อนอาจมีการเพิ่มรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ลดการปล่อยมลพิษทั่วโลก สำหรับตลาดไทย BMW X5 รุ่นใหม่น่าจะยังคงนำเข้าเหมือนเดิม และเมื่อพิจารณาจากนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของไทย รุ่นปลั๊กอินไฮบริดน่าจะได้รับความนิยมมากกว่า BMW X5 ในฐานะหนึ่งใน SUV หรูระดับตำนาน ได้รับการยอมรับจากประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความหรูหรา การอัพเกรดในรุ่นใหม่นี้จะช่วยเสริมตำแหน่งในตลาดให้แข็งแกร่งขึ้น โดยผู้บริโภคไทยสามารถคาดหวังเทคโนโลยีล้ำสมัยและทางเลือกระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมกับเครือข่ายบริการหลังการขายของ BMW ในไทยที่พร้อมให้ความมั่นใจกับเจ้าของรถทุกคน
Q
BMW X5 2022 ใหญ่ขนาดไหน?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 เป็น SUV หรูขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มาพร้อมกับขนาดตัวถัง 4930×2004×1776 มิลลิเมตร (ยาว×กว้าง×สูง) และระยะฐานล้อ 2975 มิลลิเมตร ให้พื้นที่ภายในกว้างขวางสำหรับการจัดวางแบบ 5 ที่นั่ง แต่หากเลือกติดตั้งแถวที่นั่งที่สามก็จะเพิ่มเป็น 7 ที่นั่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบท่องเที่ยวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจ สัดส่วนตัวถังของ X5 นั้นขับเคลื่อนในกรุงเทพฯ ได้อย่างคล่องตัว ในขณะเดียวกันก็รับมือกับสภาพถนน複雜ในเขตชานเมืองได้ดี สิ่งที่น่าสนใจคือในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย กระจกกันความร้อนมาตรฐานและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (xDrive) ของ X5 ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายในไทยยังมีรุ่น底盘สูงเพื่อ適應สภาพถนนลูกรังในบางพื้นที่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLE และ Audi Q7 แล้ว X5 มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ BMW ให้ความสำคัญกับการตั้งค่าที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ ทำให้มีความได้เปรียบด้านการควบคุมบนเส้นทางคดเคี้ยวในภูเขาของไทย แนะนำให้ผู้ที่สนใจไปทดลองขับและสัมผัสพื้นที่ภายในรถด้วยตัวเองที่โชว์รูม BMW ในกรุงเทพฯ หรือพัทยา
Q
BMW X5 ปี 2022 เป็นรถ 5 ที่นั่งหรือ 7 ที่นั่ง?
รุ่น BMW X5 ปี 2022 ในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยรุ่นมาตรฐานมักเป็นแบบ 5 ที่นั่ง แต่ถ้าต้องการสามารถอัปเกรดเป็น 7 ที่นั่งได้ด้วยการเพิ่มเบาะแถวที่สาม ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่หรือการใช้งานที่ต้องรับผู้โดยสารหลายคนในไทย ระบบแอร์ของ X5 ทำงานได้ดีแม้อากาศร้อนของไทย ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลังรู้สึกสบาย ส่วนเบาะแถวที่สามเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้น แต่แนะนำให้ลองไปทดลองสเปซจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ เพราะแถวที่สามจะทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระลดลงบ้าง ในตลาด SUV ระดับหรูของไทย BMW X5 ถือว่ามีจุดแข็งในความยืดหยุ่นของการจัดเรียงเบาะ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLE ที่มีตัวเลือกใกล้เคียง แต่ X5 จะให้ความรู้สึกการขับที่สปอร์ตกว่า เหมาะกับทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชานเมืองของไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อไทยควรคำนึงถึงเรื่องภาษีและค่าประกันที่อาจเพิ่มขึ้นในรุ่น 7 ที่นั่ง แนะนำให้เลือก配置ตามความจำเป็นในการใช้งานจริงจะดีที่สุด
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 ผลิตที่ไหน?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงาน Spartanburg ของกลุ่ม BMW ในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ BMW ทั่วโลก โรงงานนี้รับผิดชอบการผลิตรถ SUV ซีรี่ส์ X หลายรุ่น รวมถึง X3, X4, X5, X6 และ X7 และยังส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย สำหรับผู้บริโภคไทย รถ BMW X5 ที่นำเข้าเข้ามาในประเทศไทยมักมาจากโรงงานในสหรัฐฯ แต่แหล่งผลิตของรุ่นย่อยอาจแตกต่างกันไปตามค่าประสมและความต้องการของตลาด ดังนั้นแนะนำให้สอบถามข้อมูลการผลิตรถคันนั้นๆโดยตรงจากตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นก่อนตัดสินใจซื้อ BMW X5 ในฐานะรถ SUV ระดับหรูได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม การตกแต่งภายในที่หรูหราพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ โดยทั่วไปตัวแทนจำหน่าย BMW ในประเทศไทยจะให้บริการหลังการขายที่ครบวงจร ทั้งการบริการประจำปีและการสนับสนุนอะไหล่แท้จากโรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีนโยบายภาษีนำเข้ารถที่อาจส่งผลต่อราคาขายปลีก ดังนั้นแนะนำให้ผู้ซื้อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราภาษีและสิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างละเอียดก่อนทำการซื้อ
Q
ความแตกต่างระหว่าง X5 ปี 2022 และ 2023 คืออะไร
รุ่น 2022 และ 2023 ของ BMW X5 มีความแตกต่างหลักๆ อยู่ที่การอัปเกรดในรายละเอียดและการปรับปรุงระบบเทคโนโลยี โดยรุ่น 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นเป็นพิเศษ ด้านหน้าตัวถัง รุ่น 2023 มีกริลล์炫影光幕ให้เลือกเพิ่ม ซึ่งทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน พร้อมทั้งออกแบบล้อใหม่เพื่อให้มีสมรรถนะทางอากาศ动力学ที่ดีขึ้น ช่วยเรื่องการขับขี่ในช่วงฤดูฝนของไทยได้ดี ส่วนภายในติดตั้งระบบ iDrive 8 เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มฟังก์ชันระบายอากาศให้กับเบาะ前排แบบมาตรฐาน ซึ่งเหมาะมากกับสภาพอากาศร้อน ระบบขับเคลื่อนยังใช้เครื่องยนต์ B58 3.0T เหมือนเดิม แต่รุ่น 2023 ได้ปรับโปรแกรม ECU ให้เหมาะกับน้ำมันเบนซิน 95 ของไทย ช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 5% ด้านความปลอดภัยเพิ่มระบบเตือนเมื่อ crossing路口 เพื่อรับมือกับสภาพการจราจรที่วุ่นวายในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือ X5 รุ่น 2023 เวอร์ชันไทยได้เสริมประสิทธิภาพระบบแอร์ให้เย็นเร็วขึ้น และมีกระจกป้องกันรังสียูวีให้เลือกติดตั้งได้ ซึ่งเป็นจุดขายที่ลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชอบมาก ส่วนใครที่กังวลเรื่องมูลค่าขายต่อของรถมือสอง รุ่น 2023 นี้จะมีเสถียรภาพของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีกว่ารุ่น 2022 เพราะปัญหาการขาดแคลนชิปได้คลี่คลายแล้ว
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 เป็น SUV หรูที่มีสมรรถนะรอบด้านโดดเด่น และได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย ระบบขับเคลื่อนทรงพลังมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ 3.0T แถวเรียง 6 สูบ และ 4.4T V8 คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ให้การตอบสนองเรียบร้อยและรวดเร็ว เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ซับซ้อนและการเดินทางไกลเป็นครั้งคราว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย โดยเฉพาะพื้นที่ขารองรับของผู้โดยสาร后排ที่เพียงพอ ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวคนไทย ด้านเทคโนโลยีมาพร้อมระบบ iDrive 7.0 เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับการควบคุมด้วยเสียงและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทำให้ใช้งานง่าย รวมถึงระบบช่วยขับขี่ครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ وسطการจราจรที่ติดขัดของไทย อย่างไรก็ตาม ควรระวังในเรื่องสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยที่อาจสร้างความเครียดให้กับระบบระบายความร้อนของรถ แนะนำให้ตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง BMW X5 ในไทยค่อนข้างสูง เป็นปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณา ก่อนตัดสินใจอาจเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน เช่น Mercedes-Benz GLE และ Audi Q7 ตามงบประมาณและความชอบส่วนตัว

ข้อดี

รถถูกออกแบบในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ด้วยกระจังหน้าใหญ่ที่ผสานกับไฟหน้าที่เ sharp
ภายในมีการตกแต่งด้วยหนัง คอนโซลควบคุมนุ่ม ที่นั่งมีระบบระบายอากาศและเป็นหนังแท้
ช่องเก็บของมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถเพิ่มความจุได้มากขึ้นหลังจากพับเก้าอี้
มีระบบทันสมัยเพื่อช่วยในการโหลดสิ่งของ เปิดปิดประตูหลังได้ด้วยไฟฟ้า มีระบบเข้าสู่รถที่ส comfortable
มีจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วที่สามารถควบคุมด้วยหลายวิธีและมีระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย
มีระบบจอดรถอัตโนมัติและกล้องวงจรปิดทัศนียภาพ 360 องศา มีเซนเซอร์ระยะห่างการจอดที่ด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำงานอั intelligent มีความสามารถในการทำให้ยางเกาะถนนได้ดี สามารถเข้ากับสภาพถนนหลากหลาย
มีตัวเลือกในการขับเคลื่อนดีเซลและไฮบริด มีพลังงานที่แ robust รวดเร็วในการเร่งความเร็ว

ข้อเสีย

การทำงานด้วยมือบางครั้งมีความรู้สึกอ่อนไหวเกินไปทำให้เกิดการทำงานผิด
ที่นั่งแถวที่สามมีพื้นที่น้อย ครอบครัวใหญ่ๆควรพิจารณา
ราคาสูง เมื่อเทียบกับ SUV ประเภทเดียวกัน อาจไม่เหมาะกับทุกคน
ในฐานะรถหรู ค่าซ่อมบำรุงและราคาส่วนประกอบบางส่วนสูง

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา BYD SEALION 7 เท่าไหร่
รถ BYD Sealion 7 เป็นรุ่น SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก BYD ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดไทย ตอนนี้ยังไม่มีประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากนโยบายการตั้งราคาของ BYD ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสเปกของรถรุ่นนี้ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความจุแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี e-platform 3.0 ล่าสุดจาก BYD ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถไฟฟ้าระยะทางไกลและชาร์จสะดวก ในตลาดไทย BYD Sealion 7 จะแข่งกับรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เช่น Tesla Model Y และ MG Marvel R แต่ BYD ได้เปรียบเรื่องการผลิตในประเทศที่อาจทำให้ราคาดีกว่าและมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมมากกว่า ที่สำคัญตอนนี้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ค่อนข้างดี ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคารถถูกลงอีก ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการรถยนต์อีโคคาร์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่าง BYD Sealion 7 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด
Q
BYD SEALION 7 มีที่นั่งกี่ที่
BYD SEALION 7 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมา 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวไทยหรือการออกทริปกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ยังมีพื้นที่ด้านหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องขนสัมภาระจำนวนมาก รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid แบบ Plug-in (DM-i Super Hybrid) ของ BYD ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย โหมด EV ก็เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง ส่วนเรื่องที่สำคัญคือ ตลาดไทยกำลังเติบโตในเรื่องรถพลังงานสะอาด ซึ่ง Sealion 7 เป็น Plug-in Hybrid ที่ได้สิทธิประโยชน์เหมือนรถ EV แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศแรงๆ สำหรับเมืองร้อน และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ ที่สำคัญแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ทนสภาพฝนตกชุกของไทยได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 ที่ก็เป็น 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ Sealion 7 โดดเด่นกว่าในเรื่องเทคโนโลยีเชื่อมต่อและนวัตกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนนโยบาย EV 3.5 ทำให้ SUV ประหยัดพลังงานแบบนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยมของครอบครัวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
Q
Isuzu MU-X 1.9 ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
ในประเทศไทย ภาษีของรถ Isuzu MU-X 1.9 จะประกอบไปด้วยภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริงจะขึ้นอยู่กับราคา CIF ของรถ (รวมค่าการขนส่งและประกัน) รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่นขนาดเครื่องยนต์ ตามนโยบายภาษีของไทย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรจะถูกจัดอยู่ในอัตราภาษีสรรพสามิต 20% และต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% โดยรวมแล้วภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของราคา CIF แต่จำนวนสุดท้ายต้องรอการประเมินจากศุลกากร นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยถ้า Isuzu MU-X 1.9 ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องดีเซลสามารถผ่านมาตรฐาน Euro ก็อาจจะได้รับส่วนลดภาษีบางส่วน ควรระวังไว้ว่ารัฐบาลไทยอาจมีการปรับอัตราภาษีรถยนต์เป็นครั้งคราว ดังนั้นก่อนซื้อควรสอบถามข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ สุดท้ายแล้ว Isuzu MU-X 1.9 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยเนื่องจากความทนทานและประหยัดน้ำมัน แม้ว่าภาษีจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการซื้อรถ แต่ในระยะยาวการประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำก็ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดเงินได้ไม่น้อย
Q
รีโมทคอนโทรลของ Isuzu MU-X รุ่นอะไร?
สำหรับรถยนต์ Isuzu MU-X ในตลาดไทย รีโมทคีย์ที่นิยมใช้จะเป็นยี่ห้อ 4D-TECH ซึ่งมักเป็นรุ่น 4D-60 หรือ 4D-63 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและระดับเครื่องของรถ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบป้ายด้านหลังของกุญแจหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีซูสุอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อความถูกต้อง ส่วนการเปลี่ยนหรือตั้งค่ารีโมทคีย์ในประเทศไทย ต้องทำผ่านช่องทางมืออาชีพโดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ควรเลือกบริการศูนย์บริการทางการของอีซูสุหรืออู่ที่ได้รับการรับรอง เพื่อความปลอดภัยและความเข้ากันได้ของระบบ นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรีโมท (ปกติใช้แบตเตอรี่รุ่น CR2032) ถ้ารีโมททำงานไม่ดีหรือกดแล้วไม่ค่อยตอบสนอง ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่ดูก่อน สำหรับการดูแลรักษารีโมทคีย์ในชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ในที่ร้อนเช่นแผงหน้าปัด และระวังไม่ให้น้ำเข้า เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรีโมทได้ หากต้องการทำกุญแจเพิ่ม ในไทยมีร้านค้าชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่เช่น Zeer Rangsit หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์เฉพาะทางที่ให้บริการได้ แต่ต้องมั่นใจว่าชิปที่ใช้เข้ากันได้กับของเดิมเพื่อป้องกันระบบรักษาความปลอดภัยของรถทำงานล็อกโดยไม่จำเป็น
Q
ยางขนาด 18 นิ้ว Isuzu MU-X ควรเลือกแบบไหน?
สำหรับรถ SUV อย่าง Isuzu MU-X การเลือกยางขนาด 18 นิ้วต้องคำนึงถึงสภาพอากาศในไทยที่ฝนชุกและถนนหลากหลายรูปแบบ แนะนำให้ใช้ยางออฟโรด (AT) หรือยางสำหรับ SUV แบบทางเรียบ (HT) ถ้าขับในเมืองบ่อย ยาง HT เช่น Bridgestone Dueler H/P Sport หรือ Michelin Primacy SUV+ จะให้ความรู้สึกเงียบกว่าและเกาะถนนดีเวลาฝนตก เหมาะกับฤดูฝนของไทย แต่ถ้าต้องเจอทางลูกรังหรือโคลนบ้างเป็นครั้งคราว ยาง AT อย่าง Toyo Open Country A/T หรือ Pirelli Scorpion ATR จะทนทานกว่าและเหมาะกับการขับออฟโรดเล็กน้อย อย่าลืมว่าอากาศร้อนของไทยส่งผลต่อการระบายความร้อนของยาง แนะนำให้เลือกยางที่มีมาตรฐานรับความร้อนสูง (เช่น TEMP ระดับ A) และตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ (ควรอยู่ที่ 32-35 psi ตามที่ผู้ผลิตกำหนด) นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ช่วงก่อนฝนควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อการระบายน้ำที่ดี ส่วนขนาดยางที่เหมาะกับกระทะล้อ 18 นิ้วของ MU-X จะเป็น 255/60R18 ต้องเช็คดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index) อย่างน้อย 110 ขึ้นไปเพื่อให้รับน้ำหนักรถได้ และอัตราความเร็ว (Speed Rating) อย่างน้อยระดับ H (210km/h) เพื่อให้เหมาะสมกับการขับบนทางด่วนในไทย
ดูเพิ่มเติม