Q

ภาษีรถยนต์ประจำปีของ Toyota Yaris ATIV ต้องจ่ายเท่าไหร่ ?คิดยังไง?

ถ้า Toyota Yaris ATIV ผลิตในไทย จะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีนำเข้า โดยลดได้ตั้งแต่ 10% ถึง 100% เลย ส่วนถ้าเป็นรถกระบะนำเข้า ต้องเสียภาษีสูงถึง 200% ในขณะที่รถกระบะที่ผลิตในประเทศไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเลย ภาษีสรรพสามิต (หรือที่เรียกว่าภาษีบริโภค) มักจะรวมอยู่ในราคารถแล้ว ส่วนภาษีรถประจำทาง (หรือที่บางคนเรียกว่า “ภาษีรถยนต์รายปี”) สำหรับรถนั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะคิดตามขนาดความจุเครื่องยนต์ เช่นรุ่นนี้มีความจุ 1,197 ซีซี อยู่ในช่วง 601 - 1800 ซีซี ต้องเสีย 1.50 บาทต่อซีซี รวมแล้วประมาณ 1,795.5 บาทต่อปี โดยต้องจ่ายอัตรานี้ต่อเนื่อง 5 ปี หลังจากนั้น (ปีที่ 6 ขึ้นไป) จะได้รับส่วนลดภาษีตามอายุการใช้งานของรถ ภาษีมูลค่าเพิ่มคิดในอัตรา 7% จากมูลค่ารวมของสินค้าที่นำเข้า (CIF) บวกกับภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้อง ส่วนภาษีอื่นอย่างภาษีซื้อรถ (หรือภาษีจดทะเบียน) ยังไม่มีอัตราที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สำหรับรถที่นำเข้าจากต่างประเทศ มูลค่าภาษีจะคำนวณจากราคาสินค้า ณ จุดขนส่งเข้าไทย (CIF) ถ้ามูลค่าเกิน 1,000 บาท จะต้องเสียทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนำเข้า และภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่ละเคสจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน เพราะนโยบายอาจเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้สอบถามกับดีลเลอร์โดยตรงตอนซื้อรถจะดีที่สุดค่ะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris ATIV มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris ATIV อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยเฉพาะในด้านพละกำลัง เพราะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดเพียง 94 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบขับรถแรง ๆ หรือชอบเร่งแซงเร็ว ๆ บนทางด่วน อัตราเร่งอาจรู้สึกว่าช้าไปนิด ในเรื่องพื้นที่เก็บของด้านหลังก็เช่นกัน ตัวรถมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด ทำให้พื้นที่ท้ายรถมีจำกัด เวลาต้องขนของเยอะ ๆ หรือของชิ้นใหญ่ อาจไม่สะดวกเท่ารถรุ่นที่ใหญ่กว่า อีกเรื่องที่ควรพิจารณาคือระบบเบรก บางรุ่นยังใช้ดรัมเบรกที่ล้อหลัง ซึ่งเมื่อเทียบกับดิสก์เบรกแล้ว อาจมีข้อเสียเรื่องการระบายความร้อนและความต่อเนื่องของประสิทธิภาพเบรก โดยเฉพาะเวลาขับบนทางชันหรือเบรกบ่อย ๆ อาจทำให้เบรกมีอาการเฟดหรือหน่วงช้าลงได้
Q
Toyota Yaris ATIV อยู่ใน Segment ไหน
Toyota Yaris ATIV เป็นรถในระดับ B-Segment ที่มีความโดดเด่นในเรื่องขนาด สมรรถนะ อุปกรณ์ และราคา ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี ตัวรถมีความยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้พื้นที่ภายในกว้างขวางพอที่จะนั่งได้ 5 คนอย่างสบายๆ ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2L แบบสูบธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 69 kW แรงม้า 94 PS แรงบิดสูงสุด 110 N·m คู่กับเกียร์ CVT และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้วิ่งในเมืองได้คล่องแคล่ว ประหยัดน้ำมันเหมือนกัน ส่วนอุปกรณ์ก็ครบครันทั้งเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 6 ตัว ระบบควบคุมเสถียรภาพ ระบบเตือนระยะถอยหลัง ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและใช้งานง่ายขึ้น
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris ATIV อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคารถ Toyota Yaris ATIV มือสองจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปีที่ผลิต ระยะทางที่วิ่งไปแล้ว สภาพของรถ ออปชันที่มี รวมถึงความต้องการในตลาดช่วงนั้นด้วย อย่างรุ่นปี 2020 ตอนเปิดตัวราคาประมาณ 529,000 - 649,000 บาท ถ้ารถใช้งานมาหลายปี วิ่งเยอะ สภาพธรรมดา ราคาขายต่อก็จะลดลงพอสมควร แต่ถ้าสภาพยังดี ไมล์น้อย ก็ยังขายได้ในราคาที่ไม่ขี้เหร่ ส่วนรุ่นปี 2022 เปิดราคาที่ประมาณ 549,000 - 699,000 บาท ถ้าดูแลดี มีออปชันเยอะ เวลาขายต่อก็จะได้ราคาที่ค่อนข้างดี สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Toyota Yaris ATIV Nightshade ปี 2024 ที่ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 699,000 บาท เนื่องจากเพิ่งออกไม่นาน ถ้าจะขายต่อแล้วรถยังอยู่ในสภาพดี ราคาก็ยังไม่ตกมาก สรุปแล้ว ราคาขายต่อของ Yaris ATIV ต้องดูเป็นคัน ๆ ไป ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ไมล์ และตลาดช่วงนั้นเป็นหลักค่ะ
Q
“Yaris ATIV ใช้เครื่องกี่ซีซี?
Toyota Yaris ATIV มีหลายรุ่นให้เลือก รุ่นที่ขายทั่วไปจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1197 ซีซี หรือ 1.2 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบธรรมดา (NA) มี 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 69 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร หรือประมาณ 94 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขับขี่นุ่มนวล ใช้งานในเมืองได้สบาย ประหยัดน้ำมันดีด้วย นอกจากนี้ยังมีรุ่น Yaris ATIV Hybrid ที่ใช้ระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ (Full Hybrid) เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1496 ซีซี หรือ 1.5 ลิตร เป็นแบบ 4 สูบ DOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ทั้งความแรงและความประหยัดน้ำมันมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความล้ำสมัยและเน้นความคุ้มค่าในระยะยาวค่ะ
Q
Toyota Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris ATIV ที่ขายในไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ แบบไม่มีเทอร์โบ (รหัสเครื่อง 3NR-FE) มาพร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i ที่ช่วยปรับการเปิด-ปิดวาล์วให้เหมาะสมตามรอบเครื่อง ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ เครื่องตัวนี้ออกแบบมาให้ประหยัดน้ำมันและตอบสนองดีในรอบต่ำ โดยรอบประมาณ 2,200 ก็สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดออกมาได้แล้ว ทำให้ขับในเมืองหรือขึ้นทางลาดได้สบาย นอกจากนี้ยังออกแบบให้ทนทานต่ออากาศร้อนและความชื้นสูงของไทย โดยใช้บล็อกเครื่องเป็นเหล็กหล่อ ส่วนฝาสูบเป็นอะลูมิเนียม ช่วยระบายความร้อนได้ดี เกียร์ที่ใช้เป็นแบบ CVT (เกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง) ที่มีการจำลอง 7 สปีด ขับลื่นๆ เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ดูแลง่าย ไม่จุกจิก เหมาะกับคนไทยที่อยากได้รถที่ทั้งประหยัดและไม่ต้องดูแลมากค่ะ
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris ATIV เป็นแบบไหน
Toyota Yaris ATIV ใช้เกียร์แบบ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง) ซึ่งให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล แทบไม่รู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ขับสบายมาก โดยเฉพาะในเมือง แถมเกียร์แบบนี้ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสม ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย ถึงแม้แต่ละรุ่นย่อยจะมีออปชันต่างกัน แต่ทุกรุ่นก็ใช้เกียร์ CVT เหมือนกัน เพื่อให้ได้ทั้งความนุ่มนวลและประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุดเวลาขับค่ะ
Q
ขนาด PCD ของล้อรถ Toyota Yaris ATIV คือเท่าไหร่?
ตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) ของ Toyota Yaris ATIV ครับ ขนาด PCD นี่สำคัญมากเวลาจะเปลี่ยนล้อหรือแต่งรถ เพราะรถแต่ละรุ่นจะมีขนาด PCD ไม่เหมือนกัน ถ้าใช้ล้อที่มีขนาด PCD ไม่ตรงกับรถ อาจทำให้การขับขี่ไม่เสถียร เสี่ยงต่อความปลอดภัย หรืออาจทำให้ยางสึกหรอผิดปกติได้ ถ้าอยากทราบขนาด PCD ที่แน่นอนของ Toyota Yaris ATIV แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถโตโยต้าสำหรับข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกต้องครับ พวกเขาจะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับขนาด PCD และอื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงที่เชื่อถือได้ในการเปลี่ยนล้อหรือแต่งรถครั้งต่อไป
Q
Toyota Yaris ATIV มีระบบ Apple CarPlay ไหม?
ตอนนี้ในข้อมูลของ Toyota Yaris ATIV ทุกรุ่นที่มีจำหน่าย ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่ารองรับระบบ Apple CarPlay หรือไม่ ซึ่ง Apple CarPlay เป็นระบบของทาง Apple ที่ช่วยให้เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับหน้าจอของรถ เพื่อใช้งานแอปต่าง ๆ ได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นระหว่างขับรถ ถ้ารถรองรับระบบนี้ ปกติจะต้องใช้สาย USB แบบ Lightning ต่อ iPhone เข้ากับพอร์ต USB ของรถ จากนั้นเปิด Siri ที่มือถือ แล้วระบบ CarPlay จะขึ้นมาที่หน้าจอรถโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่ขึ้นก็สามารถกดที่ไอคอน CarPlay บนมือถือได้เลย ถ้าอยากรู้แน่ชัดว่า Toyota Yaris ATIV รองรับ Apple CarPlay หรือไม่ แนะนำให้สอบถามโดยตรงกับศูนย์โตโยต้าหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าจะดีที่สุดค่ะ
Q
ยางติดรถของ Toyota Yaris ATIV ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางที่ใช้กับ Toyota Yaris ATIV โดยทั่วไปมักจะเป็นยี่ห้อดัง ๆ อย่าง Michelin, Goodyear, Bridgestone หรือ Pirelli ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น Michelin ชื่อเสียงดี ใช้งานนุ่มนวล, Goodyear ทนทาน คุ้มค่า, Bridgestone ก็ได้รับคำชมเยอะ ส่วน Pirelli จะเด่นเรื่องสมรรถนะและการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม ขนาดยางมาตรฐานที่มักใช้คือ 195/60 R16 ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง แต่ทั้งนี้ยี่ห้อและรุ่นของยางจริง ๆ ที่ติดมากับรถอาจแตกต่างกันตามล็อตการผลิตหรือรุ่นย่อยของรถ ถ้าอยากรู้แน่ ๆ แนะนำดูในคู่มือรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลยค่ะ
Q
Toyota Yaris ATIV เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
oyota Yaris ATIV มีข้อดีหลายอย่างนะ เป็นรถขนาด B-Segment ตัวรถยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และระยะฐานล้อ 2,620 มม. ขนาดกำลังดี ใช้งานได้ทั้งบรรทุกคนและของในชีวิตประจำวันแบบสบาย ๆ เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซิน 1.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล สมูธ ไม่กระชาก เหมาะกับคนที่ชอบความขับสบาย ประหยัดน้ำมันก็โอเค เรื่องความปลอดภัยก็จัดว่าดี มีระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC), ถุงลมนิรภัย 6 จุด ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนในห้องโดยสารก็มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แอร์หลัง และหน้าจอสัมผัส 9 นิ้วที่ช่วยให้ดูทันสมัยและใช้งานบันเทิงได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อสังเกตเหมือนกัน คือเครื่อง 1.2 ลิตรอาจไม่ค่อยถูกใจสายแรง ขับแซงบนทางด่วนอาจต้องรอรอบหน่อย ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคานบิด (Torsion Beam) ซึ่งอาจไม่ได้แน่นหนึบเท่ารถที่ใช้ช่วงล่างแบบอิสระ โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระหรือขับเร็ว ๆ

ข้อดี

ราคาให้คุณคุ้มค่า, เริ่มต้นที่ 529,000 บาท, ต่ำกว่า Yaris รุ่นทวินเบ็กเล็กน้อย
การตั้งค่าความปลอดภัยครบครัน, มีระบบ ABS/EBD, TRC, HAC และอื่น ๆ, มาพร้อม 7 ถุงลมนิรภัย
ดีไซน์น่าดู, มีชุดสปอร์ตที่เพิ่มความทันสมัย
การซื้อและขายง่าย, การบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ, การรับประกันจากแบรนด์

ข้อเสีย

พลังงานค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แรงม้าและค่าแรงบิดน้อยกว่า
เป็นรุ่นหลักที่บางครั้งชนิดธรรมดา การออกแบบภายนอกและประสิทธิภาพการขับขี่ไม่โดดเด่น ทำให้คนรู้สึกเบื่อง่าย

Q&A ล่าสุด

Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda Mobilio และ Renault Lodgy คืออะไร
ฮอนด้า โมบิลิโอ กับ เรโนลต์ ลอดจี เป็นรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย แต่ทั้งคู่มีความต่างในแนวคิดการออกแบบและจุดเด่น โมบิลิโอโดดเด่นด้านความประหยัดและความทนทานของฮอนด้า มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ช่วยประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงถูก เป็นทางเลือกตอบโจทย์คนไทยที่มองหารถใช้งานประจำวันแบบคุ้มค่า ส่วนลอดจีจะเน้นความสบายและการออกแบบสไตล์ยุโรปมากกว่า มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรและดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูงเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ด้านในตกแต่งหรูและระบบกันเสียงดีกว่าเล็กน้อย ในตลาดมือสอง โมบิลิโอถือว่าค่าตัวสูงกว่า แต่ลอดจีก็ดึงดูดด้วยราคาคุ้มค่าและพื้นที่เก้าอี้แถวสามที่กว้างขวางกว่า เลือกตามไลฟ์สไตล์ได้เลย ถ้าใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลักแนะนำโมบิลิโอ แต่ถ้าต้องการความสบายและบรรทุกผู้โดยสารบ่อย ลอดจีน่าจะเหมาะกว่า สำหรับสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรทดสอบระบบแอร์และกันสนิมซึ่งทั้งสองรุ่นทำได้ดี แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของฮอนด้า โมบิลิโอคือเท่าไร
ในตลาดไทย Honda Mobilio ในฐานะ MPV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยม การประหยัดน้ำมันตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัว โดยขึ้นอยู่กับรุ่นรถและสภาพการขับขี่ น้ำมันจริงประมาณ 5.5–6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC การจับคู่เกียร์ CVT และพฤติกรรมการขับขี่ ในสภาพถนนในเมืองไทยที่มีการหยุด-ออกตัวบ่อย แนะนำให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วอย่างราบรื่นและใช้โหมดประหยัดพลังงานหากมี เพื่อช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยและการใช้แอร์บ่อยอาจเพิ่มการใช้น้ำมันเล็กน้อย การบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น ทำความสะอาดไส้กรองอากาศและตรวจสอบความดันลมยาง จะช่วยรักษาประสิทธิภาพน้ำมัน ในบรรดารถระดับเดียวกัน Mobilio โดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยและค่าบำรุงรักษาต่ำ หากสนใจเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นพิเศษ สามารถดูฉลาก TISI ของกระทรวงพลังงานไทย หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในฟอรัมเพื่อประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมได้
Q
ฮอนด้า โมบิลิโอ ยังมีจำหน่ายอยู่หรือไม่
ตอนนี้ฮอนด้า โมบิลิโอในตลาดไทยได้หยุดผลิตไปแล้ว รุ่นเอ็มพีวีขนาดกะทัดรัดนี้เข้ามาในไทยเมื่อปี 2014 ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่นและประหยัดน้ำมัน ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัว แต่เมื่อความต้องการของตลาดเปลี่ยนไปและมีการปรับสายผลิตภัณฑ์ ฮอนด้า ประเทศไทยก็เริ่มโฟกัสไปที่รุ่นอื่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น เช่น ฮอนด้า บีอาร์-วี และเอชอาร์-วี ที่เป็นรุ่นครอสโอเวอร์ ซึ่งทั้งคู่มีจุดเด่นทั้งเรื่องพื้นที่ใช้งานและความสะดวกในการขับขี่บนหลากหลายเส้นทาง ถ้าคุณกำลังมองหารุ่นที่คล้ายกับโมบิลิโอ อาจจะพิจารณาเอ็มพีวีในระดับเดียวกันหรือรถครอสโอเวอร์สักรุ่น ตอนนี้ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายรุ่น เช่น โตโยต้า อวานซ่า มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ซึ่งแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และความต้องการของครอบครัว แนะนำว่าก่อนซื้อควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อเปรียบเทียบและเลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด รวมทั้งคอยอัปเดตข่าวรถรุ่นใหม่ๆ เพราะตลาดรถไทยอัปเดตเร็ว บ่อยครั้งที่มีรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจออกมาให้เลือก
Q
ทางเลือกแทนฮอนด้า โมบิลิโอคืออะไร
ในตลาดไทย Honda Mobilio ในฐานะ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นความคุ้มค่าและใช้งานได้จริง สามารถพิจารณาเป็น Toyota Avanza หรือ Mitsubishi Xpander ซึ่งทั้งสองรุ่นมีพื้นที่กว้างและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับครอบครัว Toyota Avanza ได้รับความนิยมจากคุณภาพที่เชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาต่ำ ส่วน Mitsubishi Xpander ดึงดูดครอบครัวรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ทันสมัยและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ Chevrolet Spin และ Nissan Livina ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ มีความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครัน ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกตามงบประมาณและความต้องการ เช่น ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของแบรนด์เลือก Toyota ต้องการดีไซน์ทันสมัยเลือก Mitsubishi รุ่นเหล่านี้ผลิตในไทย มีเครือข่ายบริการหลังการขายครบครัน และออกแบบให้เหมาะกับสภาพถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ช่วงล่างสูงรองรับสภาพอากาศฝนตก แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสความรู้สึกการขับขี่และพื้นที่แถวสาม พร้อมติดตามโปรโมชั่นเช่น ดาวน์ต่ำหรือบริการบำรุงรักษาฟรี
Q
มอบิโลมีเครื่องยนต์แบบไหน
รถฮอนด้า โมบิลิโอ ที่วางขายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดธรรมดา เครื่องยนต์ 4 สูบนี้มาพร้อมเทคโนโลยี i-VTEC ที่ช่วยปรับช่วงเปิดปิดวาล์วได้อย่างอัจฉริยะ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้าและแรงบิด 145 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำให้การขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในเมืองและการขับขี่สำหรับครอบครัวคนไทย พูดเลยว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ยังถูกใช้ในรถฮอนด้าซิตี้รุ่นยอดนิยมอีกด้วย ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง คนไทยมั่นใจได้เลยครับ สำหรับสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องน้ำมันก็ใช้น้ำมันเบนซิน 91 ขึ้นไปก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเลขสูงให้เปลืองเงิน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับคนไทยครับ
ดูเพิ่มเติม