Q

ปัญหาของเกียร์ CVT ใน Honda Accord 2023 คืออะไร?

ปัญหากล่องเกียร์ CVT ของ Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่มีผู้ใช้บางรายรายงานมา ส่วนใหญ่จะเป็นอาการกระตุกเวลาเปลี่ยนเกียร์และเสียงดังเล็กน้อยเวลาขับความเร็วต่ำ โดยในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจจะเห็นอาการชัดเจนขึ้น เพราะกล่องเกียร์ CVT ค่อนข้างไวต่ออุณหภูมิ การขับขี่ในสภาพรถติดนานๆ หรือการเร่ง-หยุดบ่อยๆ อาจทำให้เสียงเสียดทานระหว่างสายพานกับลูกปืนรุนแรงขึ้น แต่เทคโนโลยี CVT ของฮอนด้าถือว่าพัฒนามาแล้วและค่อนข้างเสถียร อาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเสมอ โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบระบายความร้อนของเกียร์ ข้อดีของเกียร์ CVT คือการทำงานที่เนียนและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพที่รถติดบ่อย แต่ควรหลีกเลี่ยงการขับแบบรุนแรงเพราะอาจทำให้สายพานลื่นไถลได้ ถ้าเจอปัญหาอะไร แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Honda ไทยโดยตรง เพราะศูนย์ในไทยมีอุปกรณ์ตรวจเช็คเฉพาะที่สามารถแก้ไขปัญหาอิเล็กทรอนิกส์เล็กๆ น้อยๆ ได้รวดเร็ว รถยี่ห้ออื่นที่ใช้เกียร์ CVT ในเขตร้อนก็อาจมีอาการคล้ายๆ กัน สิ่งสำคัญคือขับขี่อย่างเหมาะสมและเข้าศูนย์บริการตามกำหนด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความหนาของกันชนหลังของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร
2023 Honda Accord มีความหนาของกันชนหน้า-หลังที่แตกต่างกันไปตามการออกแบบและมาตรฐานความปลอดภัย โดยทั่วไปจะใช้โครงสร้างแบบหลายชั้น ชั้นนอกเป็นพลาสติกเพื่อลดการบาดเจ็บของผู้ถูกชน ภายในอาจติดตั้งโฟมดูดซับพลังงานหรือคานเหล็กเสริมเพื่อปรับปรุงการป้องกันการชนที่ความเร็วต่ำ รุ่นที่ขายในไทยก็ทำตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกเหมือนกัน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก วัสดุกันชนต้องทนต่อการเสื่อมสภาพจากแสง UV และป้องกันการกัดเกาะด้วย นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รถญี่ปุ่นขายดีในไทย แต่ต้องเข้าใจว่าความหนากันชนไม่ใช่ตัววัดความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว รถสมัยใหม่เน้นการออกแบบโครงสร้างดูดซับพลังงานแบบองค์รวม อย่างเทคโนโลยีตัวถัง ACE ของ Honda ที่ช่วยกระจายพลังงานจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาซื้อรถในไทย ลองดูคะแนน ASEAN NCAP ที่ออกแบบทดสอบมาเฉพาะสำหรับสภาพถนนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรุ่น 2023 Accord ทำผลงานได้ดีมาก นอกจากนี้ กฎหมายไทยยังมีข้อกำหนดเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของผู้เดินถนน ซึ่งส่งผลต่อการออกแบบกันชนด้วย แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพตัวยึดกันชนเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังฤดูฝน เพื่อให้มั่นใจว่ายังทำงานได้ปกติ
Q
ค่าใช้จ่ายในการประกันภัยสำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ปี 2023 คือเท่าไหร่?
เบี้ยประกันรถยนต์ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย โดยทั่วไปเบี้ยประกันปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 3%-5% ของราคารถ ซึ่ง Accord ในไทยมีราคาประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ดังนั้นเบี้ยประกันเต็มรูปแบบต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 45,000-100,000 บาท ตัวเลขที่แน่นอนขึ้นอยู่กับอายุผู้ขับขี่ ประวัติการขับรถ ความครอบคลุมของกรมธรรม์ (เช่น ประกันชั้น 1 ที่รวมความเสี่ยงไฟไหม้และโจรกรรม) และโปรโมชั่นจากบริษัทประกัน เช่น คนขับวัยหนุ่มสาวหรือคนที่อาศัยในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อาจต้องจ่ายเบี้ยสูงกว่า ประกันรถยนต์ที่นิยมในไทยมีทั้งประกันภาคบังคับ (พรบ.) และประกันภาคสมัครใจ ซึ่งประกันภาคสมัครใจยังแบ่งเป็นประกันรถชนและประกันครอบคลุม แนะนำให้ผู้สนใจเช็คเบี้ยประกันที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันชั้นนำในไทยเช่นไทยเจเนอรัลหรือวิริยะ นอกจากนี้ควรรู้ว่าบริษัทประกันบางแห่งในไทยมีโปรโมชั่น "ไม่เคลมลดเบี้ย" ถ้าขับรถปลอดภัยติดต่อกันหลายปีก็จะได้ส่วนลดเพิ่ม ส่วนรุ่น Hybrid อาจมีเบี้ยประกันสูงกว่านิดหน่อยเนื่องจากค่าซ่อมที่แพงกว่า ก่อนตัดสินใจซื้อควรเปรียบเทียบบริการเสริมอย่างบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและประสิทธิภาพในการเคลมของแต่ละบริษัทประกันด้วย
Q
รัศมีวงเลี้ยวของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถ Honda Accord 2023 มีรัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปในรุ่นรถซีดานขนาดกลางด้วยกัน ทำให้ขับเคลื่อนในสภาพถนนเมืองและซอยแคบๆ แบบไทยได้สะดวก รัศมีวงเลี้ยวเป็นตัวชี้วัดความคล่องตัวของรถ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ยิ่งเลี้ยวกลับรถหรือจอดในที่จำกัดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ สำหรับตลาดไทย Accord ตอบโจทย์ด้วยระบบช่วงล่างนุ่มสบายและพวงมาลัยแม่นยำ ที่ช่วยให้รับมือกับสภาพถนนหลากหลาย ทั้งถนนเมืองที่วุ่นวายหรือทางโค้งในเขตท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ นอกจากเรื่องวงเลี้ยวแล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับทางไกลหรือบนทางด่วนของไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถซีดานขนาดกลาง แอคคอร์ดถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและความสะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองและการเดินทางพร้อมครอบครัวที่ทำได้ดีเยี่ยม
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบรีโมทสตาร์ทหรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยมีฟีเจอร์ Remote Start หรือระบบสตาร์ทรถจากระยะไกลให้ใช้จริง โดยเฉพาะในรุ่นท็อปๆ จะสามารถสั่งงานผ่านรีโมตคีย์หรือแอปพลิเคชัน Honda Connect ได้ ให้เจ้าของรถเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าเพื่อคลายร้อนในอากาศร้อน ซึ่งตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทยมากๆ ข้อควรรู้ก็คือ ระบบนี้จะทำงานในระยะประมาณ 30-50 เมตร และเครื่องยนต์จะหยุดทำงานอัตโนมัติภายใน 10 นาทีเพื่อความปลอดภัย สำหรับคนไทยที่สนใจ ฟังก์ชันนี้มักจะมาพร้อมกับระบบระบบกุญแจอัจฉริยะ แอร์อัตโนมัติ และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ แนะนำให้ถามพนักงานขายให้แน่ใจว่ารุ่นที่ซื้อมีระบบนี้ด้วยนะ นอกจากนี้ Remote Start ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Honda Connect เท่านั้น เพราะยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อีกเช่น ล็อครถจากระยะไกล ตรวจสอบตำแหน่งรถ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย รับรองว่าช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
Q
“Honda Accord ปี 2023 มีสมรรถนะในการทดสอบการชนเป็นอย่างไรบ้าง?”
รถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ทำผลงานได้ดีมากในการทดสอบความปลอดภัย โดยได้รับรางวัล "Top Safety Pick+" จาก IIHS ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านความปลอดภัย และยังได้คะแนนเต็ม 5 ดาวจาก NHTSA อีกด้วย ความปลอดภัยระดับนี้มาจากโครงสร้างตัวรถ ACE ที่อัพเกรดแล้วและระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน ทั้งระบบเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงการชน และระบบช่วยรักษาเลน สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถยนต์ปลอดภัย รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะแอคคอร์ดที่ขายในประเทศไทยมักใช้มาตรฐานความปลอดภัยเดียวกันกับเวอร์ชันทั่วโลก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย ทั้งรถติดหนักในกรุงเทพและการแบ่งถนนกับรถมอเตอร์ไซค์ ฟีเจอร์ความปลอดภัยเหล่านี้จะช่วยป้องกันคุณได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นที่ขายในไทยอาจมีการปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับกฎหมายและสภาพถนนท้องถิ่น ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษารายละเอียดสเปคให้ดี พร้อมทั้งอย่าลืมว่าปัจจุบันรัฐบาลไทยก็กำลังเข้มงวดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์มากขึ้น การเลือกรถที่มีเรตติ้งความปลอดภัยสูงแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้บริโภคไทย
Q
ตารางการบำรุงรักษาสำหรับ Honda Accord ปี 2023 คืออะไร?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทย แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) โดยบริการปกติจะรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง พร้อมกับการตรวจเช็คสภาพยาง ระบบเบรก ไฟรถ และส่วนสำคัญอื่นๆ เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและชื้น ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองแอร์และน้ำยาคูลแลนท์เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนรุ่น Hybrid ต้องตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำด้วย แนะนำให้ใช้บริการที่ Honda 4S ที่ได้รับการรับรองเท่านั้นและใช้อะไหล่แท้จาก Honda เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน ช่วงหน้าฝนของไทยควรเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและป้องกันสนิมใต้ท้องรถ ส่วนการขับขี่ในเมืองที่ติดขัดบ่อยๆ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนกำหนดได้ สามารถจองบริการบำรุงรักษาผ่านแอป MyHonda ในเว็บไซต์ Hondaไทยได้เลย ซึ่งบริการแบบดิจิทัลนี้สะดวกมากในไทย อีกเรื่องที่สำคัญคือ น้ำมันในไทยส่วนใหญ่เป็นแบบเอทานอล ควรใช้น้ำมันตามเลข octane ที่คู่มือระบุไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคาร์บอนสะสมในเครื่องยนต์ นอกจากนี้ อู่ Honda ในไทยยังมีบริการตรวจเช็คฟรี 21 จุดที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพรถได้อย่างละเอียดอีกด้วย
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบเสียง Bose หรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose ซึ่งระบบนี้มักมาพร้อมกับลำโพง 12 ตัว และใช้เทคโนโลยี Centerpoint พิเศษร่วมกับเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัล SurroundStage ของ Bose ที่มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงให้กับผู้โดยสารในรถยนต์ เหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงป็อปและเพลงไทยที่คนไทยชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบเสียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่าย Honda ในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบเสียง Bose ผ่านการออกแบบพิเศษให้ทนทานต่อความร้อนและความชื้นสูง เพื่อความเสถียรในการใช้งานระยะยาว นอกจาก Honda Accord 2023 ยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย Honda SENSING ล่าสุดและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านเทคโนโลยีและความสบายของตลาดไทย แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองฟังเสียงจริงก่อนซื้อ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น เพื่อเลือกรุ่นที่ตรงความต้องการมากที่สุด
Q
มูลค่าขายต่อของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถยนต์มือสอง Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าที่ค่อนข้างดี สืบเนื่องมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Honda ในตลาดไทย รวมถึงภาพลักษณ์ความทนทานและประโยชน์ใช้สอยของ Accord ที่สั่งสมมายาวนาน ตามหลักการทั่วไปของตลาดรถไทย รถใหม่จะเสียมูลค่าไปประมาณ 15-20% ในปีแรก จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สำหรับ Accord ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถเก๋งขนาดกลาง มักจะมีอัตราการรักษามูลค่าสูกว่าค่าเฉลี่ยของรถระดับเดียวกัน คาดว่าหลังจาก 3 ปียังสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ประมาณ 60% คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่ง Honda Accord 2023 ตอบโจทย์ได้ดีด้วยระบบเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศและมีอะไหล่พร้อมให้บริการเสมอ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยเสริมมูลค่ารถมือสองได้ไม่น้อย เคล็ดลับอีกอย่างคือสีรถก็มีผลต่อราคาขายต่อด้วย สีขาวและสีเงินจะขายได้ราคาดีกว่าสีสันแปลกๆ นอกจากนี้การมีประวัติการบริการที่ครบถ้วนและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจะช่วยรักษาราคารถได้มาก แนะนำให้บริการตามศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ การจอดรถในที่ร่มและตรวจสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์กับยางเป็นประจำจะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของรถ ทำให้ขายต่อได้ราคาดีขึ้น
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่
แน่นอนว่า Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ติดตั้งระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือ LKAS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย Honda Sensing ระบบนี้ใช้กล้องหน้าจับภาพเส้นแบ่งช่องทางรถ เมื่อความเร็วเกิน 65 กม./ชม. จะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่กลางช่องทางเดินรถโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกลในไทย ที่สำคัญระบบ LKAS ของ Honda ยังมีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ถ้ารถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะสั่นพวงมาลัยพร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าปัด ซึ่งช่วยได้มากในเส้นทางชนบทที่เส้นแบ่งช่องทางไม่ชัดเจน หรือกรณีผู้ขับเหนื่อยล้า นอกจาก LKAS แล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า ระบบช่วยเบรกป้องกันการชน ซึ่งทำให้คันนี้แข่งขันได้ดีในระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ แนะนำให้ลองขับจริงเพื่อทดสอบการทำงานของระบบเหล่านี้ โดยเฉพาะความแม่นยำของ LKAS ในสภาพการจราจรที่ต้องแบ่งช่องทางกับรถมอเตอร์ไซค์แบบไทยๆ รวมถึงความนุ่มนวลเวลาระบบทำงานว่าจะเข้ากับสไตล์การขับของแต่ละคนหรือไม่ ทุกวันนี้กรมการขนส่งไทยได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ ทำให้ระบบช่วยขับขี่แบบนี้กลายเป็นสิ่งที่รถระดับกลางถึงสูงต้องมีกันแล้ว
Q
คุณภาพการขับขี่ของ Honda Accord 2023 เป็นอย่างไร
รถ Honda Accord 2023 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องความสบายในการนั่ง ซึ่งมาจากระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างดีและห้องโดยสารที่กว้างขวาง ระบบช่วงล่างใช้แบบแมคเฟอร์สันด้านหน้าและมัลติลิงค์ด้านหลัง ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระและสะพานชะลอความเร็วที่พบได้บ่อยในไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเบาะนั่งก็มีความนุ่มที่พอดี ให้การรองรับที่ดีแม้ในการเดินทางไกล เหมาะสมทั้งสำหรับการขับในเมืองกรุงเทพฯที่รถติดและทริปท่องเที่ยวทางไกลในไทย แถมยังมีเทคโนโลยี Active Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงลมและเสียงถนนเวลาขับความเร็วสูง ทำให้ภายในรถเงียบขึ้นมาก ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์อัตโนมัติแบบสองโซนและช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็ช่วยเพิ่มความสบายได้ไม่น้อย ที่น่าสนใจคือความสูงของช่วงล่างที่ทำงานได้ดีกับสภาพถนนไทย ทั้งในเมืองและบนทางด่วนที่ความเร็วสูง ก็ไม่รู้สึกเหินเลย ส่วนเรื่องการใช้งานพื้นที่ในรถนั้น Accord ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับขาที่ด้านหลังซึ่งกว้างขวางใกล้เคียงรถหรูบางรุ่น สำหรับคนไทยที่เน้นการใช้รถครอบครัว นี่ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ นอกจากนี้รุ่น 2023 ยังปรับปรุงระบบพวงมาลัยให้คงความสบายแต่เพิ่มความมั่นคงเวลาเข้าโค้ง เหมาะมากกับถนนคดเคี้ยวในเขาหรือทางด่วนของไทย

ข้อดี

เครื่องยนต์ที่หลากหลาย 1.5 ลิตร เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ในขณะที่ 2.0 ลิตร ระบบไฮบริดจะร่วมมือกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุด 215 แรงม้า
ฉนวนเสียงในประตูดี การฉีดฟองเสียงที่หลายแห่งครั้งแรก และติดตั้งระบบลดเสียงที่ใช้งาน
การออกแบบภายในสบาย ความรู้สึกในการจับเวลเป็นเลิศ การออกแบบเบาะดีและสบาย ที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง
ขันธ์ที่ดี ยังมีความสนุกในการขับขี่ในเมืองและชานเมือง การขับขี่ช้าๆเป็นความสบาย แข็งแรงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย มีระบบช่วยขับขี่และความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น พวงมาลัยหลายฟังก์ชัน จอสัมผัสหรูหรา

ข้อเสีย

ส่วนภายในของรถบางส่วนไม่มีคุณภาพสูงพอ การใช้พลาสติกบางส่วนทำให้รู้สึกถึงคุณภาพ
รถรุ่นพื้นฐานไม่มีพอร์ท USB ที่ด้านหลัง หากต้องการ 4 พอร์ทคุณต้องซื้อรุ่น Hybrid
การปรับหมอนรองคอที่นั่งด้านหลังยาก ไม่มีการล็อคปรับภายในรถ
รถไม่กันแดด ราคาเกินหนึ่งล้านแต่มีกระจกข้างที่ปรับด้วยมือและไม่มีกระจกกันแดด ราคาคุ้มค่าน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
ความดันลมยางสำหรับ Suzuki Swift 2024 คือเท่าไร?
สำหรับรถ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 32-35 PSI (ประมาณ 2.2-2.4 บาร์) แต่ค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับขนาดยาง (เช่น 165/80 R14 หรือ 185/65 R15) และการจัดแต่งรถ (เช่น รุ่นมาตรฐานหรือรุ่นสปอร์ต) แนะนำให้ตรวจสอบป้ายที่กรอบประตูด้านคนขับหรือคู่มือการใช้งานเพื่อดูค่าที่กำหนดสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แรงดันลมยางจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น ดังนั้นควรวัดลมยางตอนยางเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำที่สุด และควรหลีกเลี่ยงการเติมลมยางตอนกลางวันที่อากาศร้อนจัด นอกจากนี้การขับขี่เป็นเวลานานในสภาพอากาศร้อนอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จึงควรตรวจสอบเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ลมยางเกินกำหนด ในชีวิตประจำวัน การที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเสื่อมสภาพเร็ว ส่วนลมยางแข็งเกินไปจะลดแรงยึดเกาะและความนุ่มนวลของรถ แนะนำให้ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการระบายน้ำของยาง การรักษาค่าแรงดันลมยางให้ได้มาตรฐานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนพื้นผิวเปียกลื่น หากเปลี่ยนยางที่ไม่ได้เป็นขนาดเดิมจากโรงงาน ควรปรับค่าแรงดันลมยางตามที่ผู้ผลิตยางใหม่แนะนำ เพราะยางแต่ละยี่ห้ออาจมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับแรงดันลมยางที่แตกต่างกัน
Q
ตัวแปรของ Swift 2024 มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ในตลาดประเทศไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้บริโภค โดยแบ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน GL รุ่นกลาง GL Plus และรุ่นสูงสุด RS ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมชาติ คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและให้การขับขี่ลื่นไหลในเมือง รุ่น GL เน้นความคุ้มค่า พร้อมระบบความบันเทิงและระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ส่วนรุ่น GL Plus เพิ่มความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะและหน้าจอสัมผัส ขณะที่รุ่น RS เน้นดีไซน์สปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกพิเศษและห้องโดยสารติดตะเข็บสีแดง เหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มที่ชอบความแตกต่าง จุดเด่นของ Swift ในไทยคือขนาดกะทัดรัดและควบคุมง่าย เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้การออกแบบที่น้ำหนักเบายังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ซึ่งตรงกับความต้องการของคนไทยที่ชอบรถเล็กประหยัดน้ำมัน แถมยังมีเครือข่ายศูนย์บริการและอะไหล่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ค่าบำรุงรักษาไม่แพง นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ Swift ยังคงได้รับความนิยมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
Q
"ฉันจะปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำมันของ Suzuki Swift ปี 2024 ได้อย่างไร"
อยากให้ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ลองปรับจากสองเรื่องหลักๆ คือการขับขี่และการดูแลรักษารถ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทยกับรถติดในเมือง แนะนำให้การขับขี่ที่ราบรื่น หลีกเลี่ยงการเหยียบกระชากหรือเบรคกะทันหัน รักษาความเร็วสม่ำเสมอที่ 60-80 กม./ชม. เพราะเป็นช่วงที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ส่วนแอร์ก็สำคัญ ควรเปิดกระจกไล่ความร้อนออกก่อน แล้วค่อยเปิดแอร์ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 24-26 องศา แอร์ทำงานหนักจะทำให้เปลืองน้ำมันมากๆ การดูแลรักษาประจำนี่จำเป็นมาก เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศทุก 5,000 กม. โดยใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 ที่บริษัทแนะนำ จะช่วยลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ แล้วอย่าลืมเช็กลมยางเดือนละครั้ง ใช้ค่าตามที่ระบุบนป้ายข้างประตู (ส่วนใหญ่ลมหน้าอยู่ที่ 32 psi ลมหลัง 30 psi) ยางลมอ่อนจะทำให้เสียดทานเพิ่ม แถมยังควรเอาของไม่จำเป็นออกจากรถด้วย ถ้าไม่ใช้ก็ถอดราวบนหลังคาออกจะลดแรงต้านลมได้นะ ส่วนในฤดูฝนของไทย ต้องเช็กระบบเชื้อเพลิงให้ดี ป้องกันการระเหยของแก๊สโซฮอล์จะได้ไม่เสียเงินฟรีๆ เจ้าของรถยนต์ไฮบริดสามารถใช้โหมด EV สำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำในเขตเมืองได้ การใช้มาตรการเหล่านี้ร่วมกันมักจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้ 10-15% ที่น่าสังเกตคือ แม้ว่าน้ำมันเบนซินเอทานอล E20 ในตลาดประเทศไทยจะมีราคาถูกกว่า แต่ความหนาแน่นของพลังงานของน้ำมันเบนซิน E20 ต่ำกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดาประมาณ 3% ซึ่งอาจทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เจ้าของรถยนต์สามารถเลือกประเภทเชื้อเพลิงที่เหมาะสมที่สุดตามการใช้งานจริง
Q
ขนาดยางที่ดีที่สุดสำหรับ Suzuki Swift 2024 คือขนาดเท่าไหร่?
สำหรับ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 แล้ว ขนาดยางที่ทางโรงงานแนะนำจะเป็น 185/55 R16 ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศไทย เพราะให้สมดุลที่ดีทั้งในเรื่องการยึดเกาะถนนเวลาฝนตกและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางใกล้ๆ แต่ถ้าอยากได้ความสบายและลดเสียงรบกวน อาจจะอัพเกรดไปที่ 195/55 R16 ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่สัมผัสพื้นถนนนิดหน่อย ช่วยให้ขับขี่มั่นคงขึ้น แต่ก็อาจจะเสียดน้ำมันเพิ่มเล็กน้อย เนื่องจากไทยร้อนและฝนบ่อย ควรเลือกยางที่มีดอกยางดีๆ เพื่อรีดน้ำได้ดี และต้องดูว่าเนื้อยางทนความร้อนได้แค่ไหน แนะนำให้เลือกยางแบรนด์ดังอย่าง Bridgestone หรือ Michelin ที่เป็นยางฤดูร้อนหรือยางอเนกประสงค์ เพราะหาซื้อง่ายและมีศูนย์บริการทั่วไทย นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบลมยางบ่อยๆ เพราะอากาศร้อนๆ แบบไทยทำให้ลมยางเพิ่มได้ การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมจะช่วยยืดอายุยางและทำให้ขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
Q
Swift 2024 เร็วหรือช้า?
Swift รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยถือเป็นรถเมืองขนาดกะทัดรัดที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดและความคล่องตัว มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดา (ให้กำลังประมาณ 83 แรงม้า) หรือรุ่น 1.0 ลิตรเทอร์โบไฮบริด (ประมาณ 111 แรงม้า) ที่ถูกตั้งค่าให้เน้นประหยัดน้ำมันเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ความเร็ว 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ประมาณ 11 วินาทีสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา และประมาณ 9 วินาทีสำหรับรุ่นไฮบริด แม้จะไม่ใช่รถสปอร์ตแต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาพร้อมระบบคันเร่งที่ตอบสนองไว ทำให้ขับเคลื่อนในเมืองได้อย่างคล่องตัว ต้องบอกก่อนว่าจุดเด่นของสวิฟท์คือการขับขี่ระยะสั้นและความคล่องตัวในซอยแคบๆ เกียร์ CVT นั้นเน้นความลื่นมากกว่าความสปอร์ต หากคุณกำลังมองหาเสถียรภาพความเร็วสูงหรือการขับขี่บนภูเขา ขอแนะนำให้ตัดสินใจหลังจากทดลองขับแล้ว ส่วนคู่แข่งอย่างฮอนด้าบริโอหรือโตโยต้ายาริส แอททิฟก็มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ต่างออกไป แต่ต้องระวังเรื่องค่าบำรุงรักษาเพราะสวิฟท์เป็นรถนำเข้า แนะนำให้เปรียบเทียบนโยบายประกันของศูนย์บริการแต่ละแห่ง ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทยแนะนำให้เลือกสีอ่อนที่ดูดความร้อนน้อยกว่าและตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ ส่วนช่วงหน้าฝนต้องระวังเรื่องยางเป็นพิเศษเพราะยางขนาด 165 มม. ที่ติดตั้งมาด้วยนั้นเหมาะกับถนนแห้งมากกว่า
ดูเพิ่มเติม