Q

byd atto 3 มีสีอะไรบ้าง

BYD ATTO 3 มีตัวเลือกสีหลากหลาย เช่น สีขาวสกี สีแดงปาร์กูร์ สีเขียวแอดเวนเจอร์ สีน้ำเงินเซิร์ฟ และสีม่วงรีธึม โทนสีเหล่านี้ออกแบบมาอย่างทันสมัยและมีพลังตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยที่ต้องการความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสีน้ำเงินเซิร์ฟและสีเขียวแอดเวนเจอร์ที่ดูสะดุดตาในสภาพอากาศเขตร้อนของไทย ในฐานะที่เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้า BYD ATTO 3 ไม่เพียงให้ภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนวัยและทันสมัย แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่บเลดที่ล้ำสมัย มีสมรรถนะการวิ่งที่ยอดเยี่ยม เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้น ภายในตลาดไทย รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง BYD ATTO 3 จึงกลายเป็นตัวเลือกสำคัญด้วยความคุ้มค่าและออปชันที่ครบครัน ขณะที่การมีทางเลือกด้านสีสันสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของแบรนด์ต่อความหลากหลายของตลาดและรสนิยมของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ BYD Atto 3มีข้อเสียอะไรบ้าง?
BYD Atto 3 อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยจากความคิดเห็นของตลาด พบว่าในช่วงหลังราคาของรุ่นนี้ลดลงมาก เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ราคาราว 1.19 ล้านบาท แต่ภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2024 ราคาลดลงเหลือประมาณ 9 แสนบาท ทำให้เจ้าของรถที่ซื้อในช่วงแรกเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกเสียเปรียบ ในแง่ของการใช้งาน ปัจจุบันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีจุดชาร์จสาธารณะเพียงประมาณ 500 จุด และการชาร์จก็ค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 เพราะอาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก และจำกัดระยะทางที่ใช้งานได้ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถคู่แข่งบางรุ่น BYD Atto 3 อาจยังมีจุดที่พัฒนาได้ในเรื่องของพื้นที่เก็บของและการออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม รถแต่ละรุ่นก็มีทั้งจุดเด่นและข้อเสีย ผู้บริโภคควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของตัวเองเป็นหลัก
Q
BYD Atto 3 อยู่ในเซกเมนต์อะไร?
BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มซีซีgment C ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,720 มม. ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในรถออกแบบมาอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี ส่วนน้ำหนักรถจะแตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานมีน้ำหนัก 1,680 กก. ส่วนรุ่นระยะไกลจะมีน้ำหนัก 1,750 กก. นอกจากนี้ยังมีปริมาณกระโปรงท้าย 440 ลิตร ที่เพียงพอต่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ โดยทั่วไปแล้วรถกลุ่มซีซีgment C จะมีขนาด พื้นที่ภายใน และอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างรถคอมแพคและรถขนาดกลาง ทำให้ Atto 3 ด้วยสเปคและคุณสมบัติเฉพาะตัว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย
Q
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อยู่ที่เท่าไร?
มูลค่าขายต่อของ BYD Atto 3 อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ในปี 2024 BYD Atto 3 รุ่นมาตรฐาน Standard Range Active ราคาอยู่ที่ประมาณ 799,900 บาท รุ่น Standard Range Premium อยู่ที่ 859,900 บาท และรุ่น Extended Range Premium อยู่ที่ 899,900 บาท ก่อนหน้านี้ในปี 2022 รถรุ่นนี้เคยมีราคาสูงถึง 1,199,900 บาท แต่หลังจากการปรับราคาครั้งใหญ่ในประเทศไทย ราคาลดลงมาเหลือราว 900,000 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อราคาขายต่อของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากรถได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระยะทางวิ่งน้อย และระบบต่าง ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ มูลค่าขายต่อก็อาจสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดก็มีผลต่อราคามือสองเช่นกัน BYD Atto 3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ATTO 3 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่ามือสองได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี เหมือนกับรถทุกคัน มูลค่าขายต่อจะลดลงตามกาลเวลาเนื่องจากการใช้งาน การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Atto 3 เป็นแบบไหน?
BYD Atto 3 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV (Electric Vehicle Transmission) โดยเป็นเกียร์ แบบ 1 สปีด (1 ระดับ) ซึ่งเป็นรูปแบบเกียร์ที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเกียร์แบบนี้มีโครงสร้างค่อนข้างเรียบง่าย ช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจากมอเตอร์สู่ล้อ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีและตอบสนองทันใจ ด้วยการออกแบบให้มีแค่เกียร์เดียว จึงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ทำให้ผู้ขับรู้สึกนุ่มนวลและขับสนุกยิ่งขึ้น BYD Atto 3 ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ด้านหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร (Nm) พละกำลังระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางระยะสั้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
Q
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3คือเท่าไร?
ขนาด PCD ของ BYD Atto 3 คือ 5×114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาดรถเมืองไทย และใช้ร่วมกันได้กับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Toyota, Honda เป็นต้น ตัวเลข “5” หมายถึงล้อมี รูน็อต 5 รู ตัวเลข “114.3” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่รูน็อตทั้ง 5 รูเรียงอยู่ ซึ่งมีขนาด 114.3 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ยังใช้ ขนาดรูดุมกลาง (Center Bore) อยู่ที่ 67.1 มม. และมีค่าออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ทำให้สามารถเลือกเปลี่ยนหรือแต่งล้อได้หลากหลายรุ่นในตลาดไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก จึงแนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ล้อแม็กน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน และควรเลือกล้อที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพถนนไทย ร้านแต่งรถที่ได้รับอนุญาตจาก BYD ในไทยมีล้อแม็กตรงรุ่นที่ตรงกับสเปก PCD ของ Atto 3 ซึ่งจะช่วยให้ล้อเข้ากับระบบช่วงล่างอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ ข้อควรระวัง: หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อขนาดใหญ่ขึ้น ควรรักษา “เส้นรอบวงล้อรวมยาง” ให้ใกล้เคียงของเดิม เพื่อไม่ให้มีผลต่ออัตราการใช้พลังงานของรถ และความแม่นยำของมาตรวัดความเร็ว
Q
BYD Atto 3 รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Atto 3 ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แม้ว่าจอแสดงผลจะมีความใหญ่พอสมควร แต่ระบบความบันเทิงภายในรถยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม BYD ระบุว่าจะพัฒนาประสิทธิภาพเหล่านี้ผ่านการอัปเดตระบบแบบไร้สายในอนาคต เนื่องจากความต้องการของซอฟต์แวร์ในแต่ละตลาดทั่วโลกมีความแตกต่างกัน BYD จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มี Apple CarPlay แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีและการอัปเดตซอฟต์แวร์ ระบบความบันเทิงในรถรุ่นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ผ่านช่องทางทางการของ BYD เพื่อรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต
Q
ยางติดรถของ BYD Atto 3 ใช้ยี่ห้ออะไร?
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับ ยี่ห้อยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ BYD Atto 3 อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดยางของแต่ละรุ่น ได้ดังนี้:รุ่น Standard Range Dynamic 2024 และ Standard Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 215/55 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่น Extended Range Premium 2024 ใช้ยางขนาด 235/50 R18 ทั้งล้อหน้าและหลัง รุ่นปี 2022 (Atto 3 รุ่นแรก) ใช้ยางขนาด215/55 R18 สำหรับล้อหน้าและหลังเช่นกัน พารามิเตอร์ของข้อมูลจำเพาะของยางเหล่านี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ความกว้างของยาง อัตราส่วนขนาด และเส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อ ยางที่มีข้อมูลจำเพาะต่างกันอาจมีสมรรถนะ การควบคุม ความสบาย และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบที่แท้จริงของตนเอง
Q
BYD Atto 3 เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
BYD Atto 3 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีข้อดีหลายประการ ในด้าน ดีไซน์ ภายนอก: หน้ารถออกแบบสไตล์ “เกล็ดมังกร” ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ส่วนไฟท้ายแบบ LED พาดยาวเต็มคัน ช่วยให้รถดูเด่น มีเอกลักษณ์ และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนน ในด้าน สมรรถนะการขับขี่: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็ว ขับทางไกลหรือแซงบนทางด่วนก็ทำได้สบาย แบตเตอรี่แบบใบมีด (Blade Battery) ของ BYD ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ ที่ทดสอบจริงแล้วพบว่า ระยะทางลดลงเพียงประมาณ 10% เท่านั้นจากที่เคลมไว้ ซึ่งถือว่าเสถียรมาก ในด้าน ค่าใช้จ่าย: BYD Atto 3 มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีน้ำมันเครื่องหรืออะไหล่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน และค่าไฟถูกกว่าเชื้อเพลิงมาก โดยมีผู้ใช้จริงในไทยระบุว่า ค่าการใช้งานรายเดือนถูกกว่ารถ Toyota รุ่นใกล้เคียงถึงประมาณ 40% นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล SUV พลังงานไฟฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามักมีปัญหาเรื่อง “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) ซึ่งหมายถึงการกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังมี จำนวนสถานีชาร์จไฟน้อย และบางแห่งชาร์จได้ช้า อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 ก็ยังถือว่าเป็นรถที่น่าพิจารณาและคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน
Q
ความกว้างของ BYD Atto 3 เท่าไหร่?
BYD Atto 3 มีความกว้างของตัวรถอยู่ที่ 1,875 มม. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ ขนาด C-Segment ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ภายในห้องโดยสารมี พื้นที่แนวกว้างที่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลัง นั่งได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะบริเวณช่วงไหล่และแขนที่สามารถขยับได้สะดวก นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถที่เหมาะสมยังช่วย เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง หรือขับเข้าโค้ง ซึ่งเมื่อนำมารวมกับระบบช่วงล่างของรถ จะช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีและขับได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น
Q
ภาษีถนนของ BYD Atto 3 เท่าไหร่? คิดยังไง?
รถยนต์ BYD Atto 3 ในประเทศไทยจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามนโยบายภาครัฐและลักษณะเฉพาะของรถแต่ละคัน โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งผู้ซื้อสามารถได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 150,000 บาท และยังอาจได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตบางส่วนอีกด้วย ภาษีรถยนต์ประจำปี (ภาษีถนน) จะคำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์เป็นลิตร ซึ่งรถแต่ละระดับความจุจะมีอัตราภาษีที่ต่างกัน และอัตราภาษีนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของรัฐ โดยต้องชำระภาษีภายในวันครบรอบการจดทะเบียนรถของทุกปี ในการชำระภาษี จะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:สมุดเล่มทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย) หากรถมีอายุครบ 6 ปีขึ้นไป จะต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี โดยตรวจสอบระบบไฟต่าง ๆ, การปล่อยไอเสีย และระบบเบรกหากไม่ชำระภาษีภายในกำหนด อาจถูกปรับหรือต้องรับโทษตามกฎหมายได้

ข้อดี

เส้นทางการขับขี่ที่น่าประทับใจ
ภายในที่ทันสมัยและมีอุปกรณ์ครบครัน

ข้อเสีย

ความน่าเชื่อถือในระยะยาวยังไม่ได้รับการพิสูจน์
ราคาสูงเมื่อซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
การจัดอันดับความปลอดภัยของ Nissan Navara ปี 2021 คืออะไร?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยค่อนข้างโดดเด่น โดยได้รับคะแนนความปลอดภัย 4 ดาวจาก ASEAN NCAP ซึ่งประเมินจากโครงสร้างตัวถัง ระบบความปลอดภัย และผลการทดสอบชน ส่วนมาตรฐานจะมีถุงลมนิรภัยคู่ ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และเซนเซอร์ถอยหลัง ส่วนรุ่นท็อปจะเพิ่มระบบควบคุมเสถียรภาพรถและระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่ปกติและเส้นทางยากๆ ที่น่าสนใจคือ Navara ออกแบบตัวถังให้แข็งแรงเป็นพิเศษ ผลทดสอบชนด้านหน้าและด้านข้างแสดงให้เห็นว่าสามารถปกป้องผู้โดยสารได้ดี ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนที่ต้องขับทางไกลหรือใช้บรรทุกของบ่อยๆ แม้คะแนน 4 ดาวจะถือว่าดีระดับหนึ่งในกลุ่มรถปิคอัพ แต่เจ้าของรถก็ยังแนะนำให้ติดตั้งระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมตามความจำเป็น เช่น กล้องถอยหลังหรือระบบเตือนจุดบอด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ การตรวจสอบระบบเบรกและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญมาก เพราะรถปิคอัพมักต้องเจอกับการบรรทุกหนักและเส้นทางหลากหลายแบบ
Q
Nissan Navara 2021 ใช้เคลื่องยนต์ประเภทอะไร?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ บางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5L แบบดูดซึมธรรมชาติ รหัส QR25 แบบ 4 สูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า (บางแหล่งข้อมูลระบุ 193 แรงม้า) แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 236 นิวตันเมตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อเกียร์ธรรมดา ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งเกียร์ธรรมดาและออโต้จะมีแรงบิดสูงสุด 251 นิวตันเมตร ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (สองล้อ) เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (สี่ล้อ) และเกียร์ออโต้ 7 สปีดแบบเปลี่ยนเกียร์เองได้ (ทั้งสองล้อและสี่ล้อ) นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร 4 สูบ โดยรุ่นพื้นฐานเป็นแบบเทอร์โบเดี่ยว ให้กำลัง 120 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นสูงกว่านี้จะอัพเกรดเป็นเทอร์โบคู่ ให้กำลังมากขึ้นถึง 140 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร
Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Nissan Navara 2021 คือเท่าไร?
รถปิกอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและการใช้งาน ข้อมูลทางการระบุว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 10-11 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร จะประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย โดยสามารถวิ่งได้เฉลี่ย 12-14 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งนี้ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักบรรทุก สภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ Navara เป็นรถปิกอัพที่ออกแบบมาให้ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับทั้งการขับขี่ทั่วไปและการขนส่งของ สำหรับวิธีช่วยประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน แนะนำให้บำรุงรักษารถตามกำหนด ตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกะทันหัน รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอาจประหยัดน้ำมันกว่าแต่ก็ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ราคาน้ำมันดีเซลและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่า โดยรวมแล้ว Navara ถือว่ามีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถปิกอัพรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน หากต้องการประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษอาจเลือกรุ่นดีเซลหรือรุ่นไฮบริด แต่ควรพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานและงบประมาณที่มี เพราะแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
Q
“อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Nissan Navara ปี 2021 คือเท่าไหร่?”
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการขับขี่ ข้อมูลทางการระบุว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 9.5-10.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 7.5-8.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร รุ่นดีเซลจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ หรือมีภาระหนักในการบรรทุก สภาพถนน พฤติกรรมการขับขี่ และน้ำหนักบรรทุกล้วนส่งผลต่ออัตราการใช้น้ำมันจริง เช่น ในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ จะสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นชัดเจน ขณะที่ขับบนทางหลวงจะประหยัดน้ำมันกว่า Navara ในฐานะรถกระบะนั้นตอบโจทย์ทั้งเรื่องความเป็นประโยชน์และการประหยัดน้ำมันได้ดี เครื่องยนต์ดีเซลที่มีแรงบิดสูงที่รอบต่ำเหมาะเป็นพิเศษกับงานบรรทุกหนักของรถกระบะ ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้รักษาความดันลมยางให้เหมาะสม ลดน้ำหนักบรรทุกที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน เทคนิคเหล่านี้ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในการใช้งานจริงได้
Q
“ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถของ Nissan Navara ปี 2021 คือเท่าไหร่?”
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีความสูงช่วงล่าง 228 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับรถปิคอัพในกลุ่มเดียวกัน ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนลูกรังหรือเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ ได้อย่างคล่องตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้งานบนถนนทางบ่อยๆ ตัวรถออกแบบมาเน้นความใช้งานได้จริง โดยมีมุมเข้า (approach angle) 31 องศา และมุมออก (departure angle) 22 องศา พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการลุยทั้งถนนโคลนช่วงฤดูฝนและเส้นทางภูเขา การออกแบบความสูงช่วงล่างที่มากกว่าปกติของปิคอัพประเภทนี้ก็เพื่อรองรับการยุบตัวของระบบช่วงล่างเมื่อบรรทุกของ แนะนำให้กระจายน้ำหนักบรรทุกให้สมดุลเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสามารถในการลุย ถ้าต้องการขับบ่อยในเส้นทางขรุขระ อาจพิจารณาติดตั้งแผ่นป้องกันช่วงล่างเพิ่มเติม สำหรับการใช้งานประจำวัน ควรตรวจสอบสภาพระบบช่วงล่างและความดันลมยางให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการขับเคลื่อนจริง
ดูเพิ่มเติม