Q

"M3 ปี 2025 ใช้เครื่องยนต์อะไร"

รุ่น BMW M3 ปี 2025 คาดว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ (รหัส S58) ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งเครื่องยนต์นี้ในรุ่นปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่ากำลังสูงสุดอาจเพิ่มขึ้นเกิน 510 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหรือเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อตอบโจทย์ทั้งการขับขี่บนสนามแข่งและการใช้งานประจำวัน ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจถึงความเสถียรในการขับขี่ภายใต้ภาระหนัก นอกจากนี้ผู้ใช้ในประเทศไทยควรเลือกใช้เชื้อเพลิงที่ตรงกับมาตรฐานน้ำมันเบนซิน 95 เอ็กซ์ในท้องถิ่นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ข้อสังเกตสำคัญคือเครื่องยนต์ S58 ใช้ชิ้นส่วนระดับแข่งเช่นเพลาข้อเหวี่ยงฟอร์จ พร้อมด้วยดีไซน์แบบโมดูลาร์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดัดแปลงเครื่องยนต์ในประเทศไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มีศักยภาพในการอัพเกรดสูง แต่แนะนำให้ทำการดัดแปลงเพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกันผ่านช่องทางการรับรองอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ BMW M3 ปี 2025 มีแรงม้ากี่ตัว?
รถ BMW M3 รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยได้รับความสนใจไม่น้อยในเรื่องสมรรถนะ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง Twin-Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า คู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic หรือจะเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดก็ได้ เร่งแรงจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที (รุ่น Competition ขับเคลื่อนล้อหลัง) สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบระบายความร้อนของ M3 ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพแม้ขับเคลื่อนแบบสมรรถนะสูง นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เพื่อเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ดี ต้องระวังเรื่องราคาที่อาจสูงกว่าประเทศอื่นเนื่องจากภาษีนำเข้าที่ค่อนข้างแพง แต่ BMW ประเทศไทยให้บริการรับประกันยาวถึง 5 ปี และในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ก็มีศูนย์บริการเฉพาะสำหรับรถรุ่น M Power โดยเฉพาะ สำหรับเจ้าของรถที่หลงใหลในการดัดแปลง ประเทศไทยก็มีวัฒนธรรมการดัดแปลงที่เต็มเปี่ยม แต่ต้องใส่ใจกับข้อ จำกัด มาตรฐานของกฎหมายเกี่ยวกับคลื่นเสียงและการปล่อยไอเสีย ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดรถซูเปอร์ซีดานไทยก็มี Mercedes-Benz C63 AMG และ Audi RS5 ที่น่าสนใจเหมือนกัน ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามสไตล์การขับและงบประมาณที่มี
Q
“BMW M3 Touring 2025 ราคาเท่าไหร่?”
จากข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้ รุ่น BMW M3 Touring ปี 2025 คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8-9 ล้านบาทในประเทศไทย ราคาสุดท้ายอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับสเปก ออปชั่นเสริม และภาษีท้องถิ่น รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแบบเรียงแถว เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ซึ่งให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ในตลาดไทย BMW M3 Touring น่าจะเป็นที่สนใจของคนที่มองหารถสปอร์ตประสิทธิภาพสูงแต่ยังต้องการพื้นที่ใช้งานที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตญี่ปุ่นที่นิยมในไทยอย่าง Honda Civic Type R หรือ Toyota GR Yaris แล้ว BMW M3 Touring ให้ความรู้สึกหรูหรากว่าและมีกำลังมากกว่า แต่ก็มีราคาที่สูงกว่าด้วย สภาพอากาศร้อนของไทยอาจเป็นความท้าทายสำหรับระบบระบายความร้อนของรถสปอร์ต แต่ระบบทำความเย็นของ BMW มักจะรับมือกับอุณหภูมิสูงได้ดี แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อความมั่นใจในบริการหลังการขายและสิทธิ์การรับประกัน ตลาดรถหรูในไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และรถสปอร์ตประเภทสเตชันวากอนแบบนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Q
2025 M3 ผลิตที่ไหน?
รุ่นปี 2025 ของ BMW M3 ยังคงผลิตที่โรงงานในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านฝีมือประณีตและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่า M3 ทุกรุ่นมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานของโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับผู้บริโภคไทย รุ่นนี้จะนำเข้ามาผ่านช่องทางนำเข้าอย่างเป็นทางการโดย BMW ประเทศไทย พร้อมรับบริการหลังการขายแบบครบวงจร ทั้งการรับประกันจากศูนย์และโปรแกรมดูแลเฉพาะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ต้องบอกว่าตลาดไทยมีความต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ BMW M3 ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 6 สูบแบบเรียง พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือสี่ล้อนั้น เหมาะสุดๆ สำหรับคอรถระดับพรีเมียมในไทย เนื่องจากไทยมีอัตราภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง แนะนำให้ผู้สนใจสอบถามราคาและโปรแกรมผ่อนชำระล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนของไทยยังเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับระบบระบายความร้อนของรถสมรรถนะสูง แต่ BMW M3 มีระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรับมือได้ดี แถมศูนย์บริการ BMW ในไทยยังมีบริการตรวจเช็คเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นอีกด้วย สำหรับใครที่คิดจะนำเข้าเอง ต้องระวังในเรื่องเงื่อนไขการรับประกันและความเหมาะสมสำหรับรถพวงมาลัยขวาด้วย
Q
รถ M3 ปี 2025 เป็นเกียร์อัตโนมัติหรือไม่?
แน่นอนว่า BMW M3 รุ่นปี 2025 คาดว่าจะยังคงมีตัวเลือกเกียร์ออโต้มาเช่นเดิม โดยอาจใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ที่ได้รับการอัปเกรด ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่เร็วและลื่นไหล เหมาะสมทั้งสำหรับการขับในเมืองที่รถติดอย่างในไทยและการขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน แถมรถเกียร์ออโต้ยังขายดีในตลาดไทยมานาน เพราะการจราจรที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆในกรุงเทพฯ ทำให้เกียร์ออโต้สะดวกกว่ามาก อีกประเด็นที่ต้องพูดถึงคือสภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการระบบระบายความร้อนของเกียร์ที่ดี ซึ่งระบบทำความเย็นของ BMW มักรับมือได้ดีกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ นอกจากนี้แม้นโยบายภาษีนำเข้ารถในไทยจะทำให้รถสมรรถนะสูงมีราคาสูง แต่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ M3 มักให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่มากกว่าตัวราคา ถ้าคุณมองหาจุดสมดุลระหว่างสมรรถนะและความสะดวก เกียร์ออโต้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ BMW ก็อาจจะยังมีเกียร์มือให้เลือกสำหรับคนที่ชอบขับขี่สปอร์ตเหมือนเดิม แนะนำให้ติดตามประกาศสเปกอย่างเป็นทางการสำหรับตลาดไทยในอนาคต
Q
“รถรุ่น 2025 M5 Hybrid มีกำลังแรงม้าเท่าไหร่?”
รุ่น BMW M5 ปี 2025 ที่จะออกมา คาดว่าจะมาพร้อมกับระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ กับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยกำลังผลิตรวมอาจสูงถึง 718 แรงม้า แรงบิดอาจเกิน 1,000 นิวตันเมตร ซึ่งประสิทธิภาพระดับนี้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ชอบรถซีดานสมรรถนะสูงอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะขับในเมืองกรุงเทพฯ หรือบนถนนคดเคี้ยวแถบภูเขาของไทยก็ให้ความรู้สึกขับขี่ที่ทรงพลัง การเพิ่มระบบไฮบริดนอกจากจะเพิ่มสมรรถนะแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นอีก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหมาะกับทั้งกฎหมายควบคุมมลพิษที่เข้มงวดขึ้นและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงในไทย ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานใหม่ เช่น ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้รถไฮบริดน่าสนใจมากขึ้นในตลาดไทย ถ้าคุณกำลังมองหารถซีดานสมรรถนะสูง รุ่น M5 ไฮบริดปี 2025 นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง เพราะไม่เพียงคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ที่สม่ำเสมอของ BMW M Series แต่ยังสอดรับกับเทรนด์พลังงานใหม่
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน 2025 M3 Touring คืออะไร?
รถ BMW M3 ทัวริ่ง รุ่นปี 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ S58 ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง เทอร์โบชาร์จคู่ ที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว โดยเครื่องยนต์นี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คาดว่าจะมีกำลังสูงสุดเกิน 500 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่เลือกได้ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ช่วยให้การขับขี่มีเสถียรภาพและควบคุมได้ดีแม้บนถนนสภาพหลากหลายของไทย สำหรับคนไทยแล้ว รถสมรรถนะสูงสไตล์ทัวริ่งคันนี้ไม่เพียงเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง แต่ยังตอบโจทย์การเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางและความประหยัดพื้นที่ ส่วนเครื่องยนต์ S58 ก็ขึ้นชื่อในเรื่องการตอบสนองที่รวดเร็วและความทนทาน แม้ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ก็ยังคงประสิทธิภาพได้อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญ BMW ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย คอยให้การสนับสนุนเจ้าของรถได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถสมรรถนะสูงทัวริ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รถคันนี้จะดึงดูดผู้บริโภคที่แสวงหาความสนุกสนานในการขับขี่และต้องการประโยชน์ใช้สอย
Q
รถ BMW M3 ปี 2025 เป็นเกียร์ธรรมดาหรือเปล่า?
รุ่นปี 2025 ของ BMW M3 ยังคงมีการให้เลือกเกียร์ธรรมดาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การควบคุมรถอย่างแท้จริง รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จะทำให้ผู้ขับรู้สึกถึงการส่งกำลังและการเปลี่ยนเกียร์ที่ตรงไปตรงมาเป็นพิเศษ เหมาะสมกับสภาพถนนโค้งเขาและภูมิประเทศแบบไทยแลนด์เป็นอย่างดี สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว เกียร์ธรรมดาไม่เพียงให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับการขับขี่มากขึ้น แต่ยังช่วยให้ควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้แม่นยำในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ด้วยเกียร์ต่ำ ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าตลาดไทยจะนิยมรถเกียร์ออโต้เป็นหลัก แต่การที่ BMW ยังคงเสนอเกียร์ธรรมดาในรุ่นสมรรถนะสูงเช่น M3 นี่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ที่ต้องการรักษาจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ดั้งเดิมไว้ เมื่อวัฒนธรรมรถยนต์ของไทยพัฒนาขึ้น เราจะเห็นคนรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นที่เริ่มชื่นชอบเสน่ห์ของเกียร์ธรรมดา และ M3 ก็ตอบโจทย์นี้ได้อย่างดี พร้อมทั้งยังมีระบบดิฟเฟอเรนเชียลแอกทีฟและระบบช่วงล่างปรับได้ที่ออกแบบมาเพื่อสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย
Q
BMW M3 รุ่นปี 2025 มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถ BMW M3 รุ่นปี 2025 กำลังเป็นที่จับตามองในตลาดไทยด้วยสมรรถนะด้านแรงขับที่ยอดเยี่ยม ภายใต้กระโปรงหน้ามีเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียงแบบเทอร์โบชาร์จคู่ที่สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 503 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่เลือกได้ รถสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที แม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย สมรรถนะยังคงเสถียรด้วยระบบระบายความร้อนอันล้ำสมัยจาก BMW และโปรแกรมดูแลรักษาที่เหมาะสมจากผู้จำหน่ายในไทย สำหรับคนไทยแล้ว M3 ไม่เพียงขับเคลื่อนในเมืองได้ดี แต่ยังเหมาะกับถนนภูเขาและทางโค้งที่พบได้บ่อย ระบบช่วงล่างอัจฉริยะสามารถปรับความแข็งอ่อนตามสภาพถนนอัตโนมัติ ร่วมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือระบบสี่ล้อที่เลือกได้ เพื่อให้การควบคุมรถในถนนเปียกลื่นยังคงดีเยี่ยม ข้อควรทราบคือรัฐบาลไทยมีการจัดเก็บภาษีรถยนต์ขนาดความจุสูงในอัตราที่ค่อนข้างแพง ทำให้ M3 ถือเป็นตัวแทนของรถสปอร์ตระดับพรีเมียมในไทย แนะนำให้ผู้สนใจสอบถามข้อมูลสเปคและราคาผ่านช่องทางทางการ พร้อมทั้งร่วมทดลองขับในกิจกรรมที่ BMW ไทยจัดเป็นประจำ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงของรถสมรรถนะสูงคันนี้ในสภาพอากาศร้อนชื้น
Q
ความเร็วสูงสุดของ M3 CS ปี 2025 คือเท่าไหร่?
รถ BMW M3 CS รุ่นปี 2025 ถูกจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 302 กม./ชม. สำหรับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบชาร์จคู่ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 543 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ทำให้มันยังคงแสดงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมได้แม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย สำหรับแฟนๆ รถไทยแล้ว ความเร็วระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งบนทางหลวงและสนามแข่ง แต่อย่าลืมว่ารถส่วนใหญ่ในไทยถูกจำกัดความเร็วที่ 120 กม./ชม. บนทางหลวง ดังนั้นจะเห็นศักยภาพเต็มที่ก็ต่อเมื่อใช้ในสนามแข่งเท่านั้น รุ่น CS นี้ยังมาพร้อมกับการตั้งค่าตัวถังพิเศษและการออกแบบน้ำหนักเบา รวมถึงหลังคาและชิ้นส่วนภายในคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วสูงสุด แต่ยังช่วยการควบคุมรถบนถนนคดเคี้ยวในไทยได้ดีขึ้น เนื่องจากไทยมีอากาศร้อนและชื้น แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระบบระบายความร้อนและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานที่ดีที่สุดตลอดเวลา
Q
รถ M3 รุ่นปี 2025 เป็นรถไฮบริดหรือไม่?
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทาง BMW ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปิดตัวรุ่น M3 ปี 2025 ในรูปแบบไฮบริด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์ไฟฟ้าของกลุ่ม BMW ที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ รวมถึงการนำรถไฟฟ้าสาย i-series เข้าสู่ตลาดไทย ความเป็นไปได้ที่ M3 จะเพิ่มระบบไฮบริดในอนาคตก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในบริบทที่รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมนโยบายรถพลังงานสะอาด อย่างเช่นมาตรการลดภาษีสำหรับรถไฮบริด BMW M3 มีชื่อเสียงในด้านสมรรถนะสูงเสมอมา หากในอนาคตมีการเปิดตัวรุ่นไฮบริด คาดว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จกับเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อรักษาความสนุกสนานในการขับขี่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ตลาดไทยมีความต้องการรถสมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน หาก M3 รุ่นไฮบริดถูกนำเข้ามา อาจดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อที่ทั้งโหยหาความแรงและใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ปัจจุบันตลาดไทยยังมีตัวเลือกรถสปอร์ตไฮบริดไม่มากนัก ถ้า BMW เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ในเวลาที่เหมาะสม ก็อาจได้เปรียบในการแข่งขัน

ข้อดี

เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงสำหรับการขับขี่ที่น่าตื่นเต้น
การควบคุมที่ดีอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยวมุมอย่างแม่นยำ
ยี่ห้อ BMW พรีเมียมที่มีชื่อเสียงดี
การออกแบบลักษณะภายนอกที่โดดเด่นทำให้ผู้คนสังเกต

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงสูงทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
พื้นที่ด้านหลังอาจรู้สึกแคบเล็กน้อย
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาจสูงค่อนข้างมาก
บางคนคิดว่าการใช้ระบบสื่อสารและความบันเทิงซับซ้อน

Q&A ล่าสุด

Q
ฮอนด้า CR V มีที่นั่งกี่ที่
ฮอนด้า CR-V ในตลาดไทยมักเป็นรุ่น 5 ที่นั่งซึ่งเป็นการจัดมาตรฐานตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวส่วนใหญ่พื้นที่ด้านหลังกว้างและเบาะปรับได้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารเหมาะอย่างยิ่งกับการเดินทางครอบครัวหรือการสัญจรในเมืองที่พบได้บ่อยในไทยควรทราบว่า CR-V ในบางตลาดต่างประเทศมีรุ่น 7 ที่นั่งแต่รุ่นจำหน่ายในไทยเน้น 5 ที่นั่งเป็นหลักผู้บริโภคสามารถพิจารณาตามความต้องการเรื่องจำนวนผู้โดยสารนอกจากนี้เมื่อพับเบาะหลังแล้วพื้นที่เก็บสัมภาระขยายมากขึ้นเหมาะกับการเดินทางแบบขับเองหรือขนของจำนวนมากในไทยรถรุ่นนี้ยังมีความประหยัดน้ำมันและความน่าเชื่อถือสูงเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนในเมืองที่ซับซ้อน
Q
สิ่งที่ทำให้ฮอนด้า CR-V เด่นเด่นจาก SUV ขนาดกะทัดรัดอื่น ๆ
ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็น SUV คอมแพคที่โดดเด่นในตลาดไทย ด้วยจุดแข็งด้านความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน และพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า ซีอาร์-วี ให้พื้นที่เบาะหลังและกระโปรงท้ายที่กว้างขวางกว่าใครในรุ่นเดียวกัน เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยทั้งทริปยาวและใช้งานประจำวัน เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดนั้นให้กำลังสมบูรณ์แบบแต่ยังประหยัดน้ำมัน แม้จะเจอทั้งรถติดในกรุงเทพหรือขับทางไกลก็ไร้กังวล ที่สำคัญ ซีอาร์-วี ยังเป็นรถที่ทรงมูลค่ามากในตลาดมือสอง แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่บานปลาย ทำให้เป็นตัวเลือกน่าสนใจ อากาศร้อนชื้นของไทยก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะระบบแอร์เย็นฉ่ำและโครงสร้างป้องกันสนิมได้รับการออกแบบมาเฉพาะ อีกทั้งระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยครบครัน ช่วยให้ขับขี่มั่นใจในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างโหดของเมืองไทย พูดได้เต็มปากว่า ซีอาร์-วี คือ SUV อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ครอบครัวไทยได้ครบวงจร แม้คู่แข่งในระดับเดียวกันอาจโดดเด่นในบางจุด แต่ด้วยความสมดุลในทุกด้านทำให้ ซีอาร์-วี ยังคงเป็นตัวท็อปที่เอาชนะได้ยาก
Q
เมื่อฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่จะเปิดตัว
ฟอร์ดเอเวอเรสต์เจเนอเรชันใหม่คาดว่าจะเปิดตัวในตลาดไทยไตรมาสแรกของปี 2024 โดยวันเปิดตัวที่แน่นอนต้องรอการยืนยันจากฟอร์ดไทยรุ่นนี้ได้เผยโฉมแล้วในหลายตลาดทั่วโลกการปรับปรุงสำคัญรวมถึงดีไซน์ภายนอกที่แข็งแรงขึ้นติดตั้งระบบสาระบันเทิง SYNC 4 รุ่นล่าสุดและเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบที่ประหยัดขึ้นบางรุ่นอาจมีตัวเลือกปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบสนองความต้องการรถประหยัดพลังงานของผู้บริโภคไทยในฐานะตลาดกระบะและเอสยูวีสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คู่แข่งหลักของเอเวอเรสต์คือโตโยต้าโฟร์จูนเนอร์และอีซูซุ MU-X แต่ฟอร์ดมีโอกาสดึงดูดผู้ใช้ที่เน้นการใช้งานจริงและเทคโนโลยีด้วยสมรรถนะออฟโรดที่ดีและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะเช่นกล้องรอบคัน 360 องศาและระบบจัดการทุกสภาพถนนควรสังเกตว่าตลาดไทยกำหนดมาตรฐานการปล่อยไอเสียเข้มงวดขึ้นรุ่นใหม่อาจปรับให้รองรับมาตรฐานยูโร 6 ล่วงหน้าและการผลิตในประเทศจะช่วยให้มีราคาที่แข่งขันได้แนะนำให้ผู้สนใจติดตามเว็บไซต์ฟอร์ดไทยหรือตัวแทนจำหน่ายเพื่อรับข้อมูลทดลองขับและการพรีออเดอร์อย่างทันเวลา
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Ford Everest สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้รถดับสนิทและจอดอยู่บนพื้นเรียบ จากนั้นมองหาแถบดึงปลดล็อกฝากระโปรง (มักมีสัญลักษณ์รูปฝากระโปรง) ที่บริเวณเท้าด้านคนขับ ดึงเบาๆจนได้ยินเสียง"คลิก" ฝากระโปรงจะเปิดขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นให้มือเข้าไปที่ล็อกซิปรองตรงกลางส่วนหน้าของฝากระโปรง แล้วดันไปทางซ้ายหรือขวา (แล้วแต่รุ่นปี) พร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น ข้อควรระวังคืออากาศร้อนของไทยอาจทำให้ยางซีลฝากระโปรงเสื่อมเร็ว แนะนำให้ทายารักษายางเป็นประจำ ส่วนแกนไฮดรอลิกก็ต้องเช็คบ่อยๆ ถ้ายกไม่ค่อยอยู่ควรเปลี่ยนใหม่โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเพราะความชื้นจะทำให้ชิ้นส่วนโลหะขึ้นสนิมเร็ว สำหรับคนที่ขับรถในชนบทหรือแถบชายทะเลบ่อยๆ ควรตรวจสอบสภาพท่อและสายในกระโปรงรถทุกเดือน เพราะทั้งความร้อนและเกลือจะเร่งให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อีกอย่างฝากระโปรง Everest ทำจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก เวลาทำความสะอาดอย่าใช้สารเคมีแรงๆเพราะจะทำลายสารเคลือบผิวได้
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอฟเวอร์เรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ในตลาดไทย ฟอร์ด Everest และ โตโยต้า Fortuner เป็น SUV ระดับกลางที่ได้รับความนิยมสูงทั้งคู่ แต่ละรุ่นมีจุดแข็งต่างกัน ฟอร์ด Everest ได้รับการพูดถึงจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรที่ทรงพลังร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ชั้นเยี่ยม เหมาะกับคนที่ชอบความรู้สึกด้านการขับเคลื่อน นอกจากนี้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและระบบจัดการสภาพถนนยังทำงานได้ดีในเส้นทางหลากหลายประเภท ส่วนโตโยต้า Fortuner นั้นโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตรที่เชื่อถือได้คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยเน้นจุดขายเรื่องประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถใช้งานระยะยาว ในส่วนของห้องโดยสาร Everest ให้ความรู้สึกทันสมัยกว่า พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC 4 ขณะที่ Fortuner ออกแบบมาเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ถ้าชอบความแรงและเทคโนโลยีล้ำๆ Everest น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้รถที่ทนทานและมีมูลค่าซื้อขายต่อสูง Fortuner ก็ตอบโจทย์กว่า ทั้งสองรุ่นมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในไทย ทำให้สะดวกในการซ่อมบำรุงไม่ต่างกันมากนัก
ดูเพิ่มเติม