Q

เครื่องยนต์ใน Attrage 2023 คืออะไร?

รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ แบบประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ออโต้ CVT ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองไทยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่าสามารถวิ่งได้ถึง 4.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ถือว่าเป็นรถประหยัดน้ำมันตัวท็อปๆ สำหรับ Attrage ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถเก๋งขนาดเล็กของเมืองไทย นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ยังได้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน เครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดอาเซียน อย่าง Toyota Vios ก็ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แต่จุดเด่นของ Attrage คือเทคโนโลยี MIVEC ที่ช่วยปรับช่วงเปิดปิดวาล์วให้เหมาะสม ส่งผลให้มีแรงบิดที่ดีในรอบต่ำ ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ส่วนเรื่องการดูแลรักษาก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Mitsubishi มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย และมีอะไหล่แท้พร้อมให้บริการเสมอ ทำให้เจ้าของรถมั่นใจได้ในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Mitsubishi Attrage 2023 นั้นคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยถือเป็นรถเซดานเศรษฐกิจที่คุ้มค่าเงิน เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัดแต่ยังเน้นใช้งานได้จริง ระบบเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC ให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ข้อมูลทางการระบุว่าน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5 ลิตร/100 กม. ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อย ส่วนเกียร์ CVT ก็ทำงานลื่นไหล ไม่มีสะดุด ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงมาก ในเรื่องของพื้นที่ด้านหลังอาจจะพอใช้แต่ไม่กว้างขวางนัก เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่นพื้นฐานมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมนิรภัย 2 ใบและ ABS ส่วนรุ่นสูงขึ้นมาจะมีฟังก์ชั่นเสริมเช่นกล้องถอยหลัง เทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City แล้ว Attrage ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า แต่ค่าตัวและราคาขายต่ออาจจะสู้ไม่ได้ ถ้าคุณมองหาความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก Attrage ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ศูนย์จำหน่ายเพื่อเปรียบเทียบด้วยตัวเอง และด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรตรวจสอบระบบแอร์และป้องกันสนิมซึ่ง Attrage ก็ตอบโจทย์พื้นฐานได้ดี
Q
คู่แข่งของ Mitsubishi Attrage 2023 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมีคู่แข่งหลักๆ ได้แก่ Toyota Yaris Honda City Nissan Almera และ Mazda 2 ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ในครอบครัว Toyota Yaris เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการครองรถที่สูง ส่วน Honda City โดดเด่นในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารและความประหยัดน้ำมัน ขณะที่ Nissan Almera ดึงดูดผู้ซื้อด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและความสบายในการนั่ง ส่วน Mazda 2 นั้นเน้นที่การตกแต่งภายในหรูหราและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ในตลาดไทย รุ่นรถเหล่านี้ล้วนมีตัวเลือกหลายระดับความพิเศษ และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนและความต้องการของคนไทย โดยเฉพาะในเรื่องการประหยัดน้ำมันและระบบปรับอากาศที่ต้องใช้งานหนัก นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรถกลุ่มนี้ เวลาตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบได้ตามความต้องการส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความกว้างของรถ ระดับความพิเศษ อัตราการใช้น้ำมัน หรือความสะดวกในการบริการหลังการขาย
Q
รถ Mitsubishi Attrage 2023 มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ?
รถ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 นี้มีถุงลมนิรภัยทั้งหมด 2 จุด คือถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมนิรภัยถือเป็นหนึ่งในระบบความปลอดภัยสำคัญของรถยนต์ เวลาเกิดอุบัติเหตุชนกระแทก มันจะพองตัวออกมาทันทีเพื่อช่วยลดแรงกระแทกและปกป้องคนในรถให้ได้รับบาดเจ็บน้อยลง นอกจากถุงลมนิรภัยพื้นฐานทั้งสองจุดนี้แล้ว รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกเพียบ ทั้งระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบแจ้งเตือนเมื่อไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย และจุดต่อเชื่อมสำหรับที่นั่งเด็กมาตรฐาน ISO FIX อีกด้วย ระบบทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยแบบครบทุกด้าน
Q
ระบบปรับอากาศของ Mitsubishi Attrage 2023 เป็นอย่างไรบ้าง?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย มาพร้อมกับระบบแอร์แบบมือที่ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนของไทยโดยเฉพาะ แอร์ระบบนี้ทำงานได้เสถียร ให้ความเย็นสม่ำเสมอ และใช้งานง่าย แค่ปรับปุ่มหมุนก็สามารถควบคุมลมและอุณหภูมิได้ทันใจ เหมาะสำหรับคนที่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอย ระบบยังติดตั้งฟิลเตอร์กรองเกสรดอกไม้มาตรฐาน ช่วยกรองอากาศภายในรถให้สะอาดขึ้น แม้ว่าแอร์มือด้วยมือจะพบได้บ่อยในรุ่นพื้นฐาน แต่ Mitsubishi ได้พัฒนาประสิทธิภาพให้เย็นเร็วกว่ารถระดับเดียวกันในตลาด สำหรับคนไทยแล้ว แอร์ด้วยมือยังมีจุดเด่นเรื่องค่าบำรุงรักษาถูกและทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักในสภาพอากาศร้อนที่ต้องเปิดแอร์บ่อยๆ ถ้ามีงบประมาณมากขึ้นก็อาจเลือกรุ่นอื่นในระดับเดียวกันที่ติดตั้งแอร์อัตโนมัติซึ่งปรับลมอัตโนมัติตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แต่ราคาก็จะสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากอุณหภูมิของประเทศไทยสูงตลอดทั้งปี การทำความสะอาดระบบปรับอากาศและเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพในการทำความเย็น
Q
ความแตกต่างระหว่าง Mitsubishi Mirage และ Attrage 2023 คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 และ Attrage ในตลาดไทยมีการวางตำแหน่งที่แตกต่างกัน Mirage เป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ออกแบบมาสำหรับการเดินทางในเมืองด้วยความคล่องตัว ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดเพียง 3.8 เมตร เหมาะกับถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.6 ลิตร/100 กม. และมาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 7 ใบมาตรฐาน ส่วน Attrage เป็นรถเก๋ง 3 คันมาตรฐานความยาว 4.3 เมตร ที่ให้พื้นที่เบาะหลังกว้างขวางขึ้น พร้อมความจุกระโปรงหลังสูงถึง 450 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวที่เดินทางไกล ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC คู่กับเกียร์ CVT ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและกล้องถอยหลัง อย่างไรก็ตาม Attrage รุ่นไฮเอนด์ได้เพิ่มเบาะหนังและช่องแอร์ด้านหลัง ในประเทศไทย Mirage ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 460,000 บาท และ Attrage อยู่ที่ประมาณ 540,000 บาท ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ขอแนะนำให้ใช้ฟิล์มฉนวนเซรามิกในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ทั้งสองรุ่นมีนโยบายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร จากมิตซูบิชิ ประเทศไทย และผลิตที่โรงงานในจังหวัดชลบุรีของประเทศไทย โดยมีอัตราค่าอะไหล่ในประเทศที่ 70% และค่าบำรุงรักษาต่ำ
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 วิ่งเลขไมล์เท่าไร?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมากครับ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC 3 สูบ รุ่นที่ใช้เกียร์ CVT นั้นวิ่งได้ประมาณ 20-22 กิโลเมตรต่อลิตร (อาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับและสภาพถนน) ซึ่งเหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ รวมถึงการเดินทางไกลด้วยครับ รุ่นนี้ยังคงดีไซน์ที่เน้นความประหยัดแบบฉบับ Mitsubishi ในตลาดอาเซียน ถังน้ำมันจุ 40 ลิตร ด้วยระยะทางตามทฤษฎีมากกว่า 800 กิโลเมตร ช่วยลดการแวะเติมน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาคุณสมบัติประหยัดน้ำมัน เช่น โหมดการขับขี่แบบ ECO ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น Attrage มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่กว้างขวางของมิตซูบิชิในประเทศไทยก็อำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษาตามปกติ ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอแนะนำให้ทดลองขับเพื่อยืนยันประสิทธิภาพการใช้น้ำมันภายใต้สภาพการใช้งานจริง นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานก็ควรพิจารณาเช่นกัน
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 เป็นรถที่น่าเชื่อถือหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยเป็นรถเก๋งคอมแพคต์ที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริง โดยรวมตอบโจทย์การใช้งานประจำวัน เครื่องยนต์ 1.2L MIVEC 3 สูบผ่านการทดสอบในตลาดมาหลายปี ให้ความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูง ตรงกับความต้องการของคนไทยที่ชอบรถประหยัดและทนทาน รถรุ่นนี้มาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่น 7 เอียร์แบ็ก ระบบ ABS+EBD แต่ควรระวังเรื่องน้ำหนักตัวรถที่ค่อนข้างเบา อาจทำให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูงสู้รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันไม่ได้ แนะนำให้ตรวจสอบระบบช่วงล่างและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางไกล ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์ของ Attrage ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วไป แต่เนื่องจากมีชิ้นส่วนพลาสติกในห้องโดยสารค่อนข้างมาก การตากแดดเป็นเวลานานอาจทำให้เสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ใช้ม่านบังแดดเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ยังมี Toyota Yaris หรือ Honda City ที่น่าสนใจ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน ผู้บริโภคควรทดลองขับและเปรียบเทียบตามงบประมาณและความต้องการ โดยรวมแล้ว Attrage เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ซื้อรถยนต์คันแรกที่มีงบประมาณจำกัดและให้ความสำคัญกับราคารถยนต์เป็นหลัก เครือข่ายบริการหลังการขายของมิตซูบิชิในประเทศไทยนั้นกว้างขวางและมีอะไหล่สำรองเพียงพอ ซึ่งเป็นเครื่องรับประกันความน่าเชื่อถือที่สำคัญ
Q
Mitsubishi Attrage 2023 มีกี่ที่นั่ง?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยเป็นรถเก๋งคอมแพคต์ที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง มาพร้อมกับการจัดวางที่นั่งมาตรฐาน 5 ที่นั่งแบบ 2+3 ซึ่งตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ดี แอทเทรจเป็นที่นิยมในไทยเพราะใช้เครื่องยนต์ MIVEC 1.2 ลิตรที่ประหยัดน้ำมันและมีประสิทธิภาพ พร้อมขนาดตัวรถที่คล่องตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรคับคั่ง แม้บริเวณหลังที่นั่งจะออกแบบมาแบบกะทัดรัด แต่ก็มีการออกแบบที่ให้พื้นที่ขาเพียงพอ รวมถึงมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 450 ลิตร ที่สามารถบรรจุของใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก จุดเด่นอีกอย่างคือ Mitsubishi มีการผลิตในประเทศไทยและพัฒนาอย่างดี Attrage มีเครือข่ายอะไหล่และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้ค่าบำรุงรักษาไม่สูงเกินไป สำหรับคนไทยแล้ว รุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบแอร์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย และมีการป้องกันสนิมที่เตรียมพร้อมสำหรับฤดูฝน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ปรับแต่งมาเฉพาะตลาดไทย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แอทเทรจได้เปรียบในเรื่องราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับครอบครัววัยเริ่มต้นหรือผู้ที่กำลังมองหารถคันแรกที่เน้นความประหยัดแต่ยังได้รถที่ใช้งานได้จริงและน่าเชื่อถือ
Q
รถ Mitsubishi Attrage 2023 ประหยัดน้ำมันไหม?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage 2023 เป็นรุ่นที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริงในตลาดไทย โดยเฉพาะเรื่องประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดีมาก เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC 3 สูบร่วมกับเกียร์ CVT ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 20-22 กม./ลิตร (ข้อมูลอาจแตกต่างตามสภาพการขับขี่และเส้นทาง) ซึ่งถือว่าเป็นระดับกลางถึงดีในรุ่นเดียวกัน เหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุด-บ่อยและผู้ที่เน้นเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จุดเด่นที่ทำให้ Attrage ประหยัดน้ำมันยังมาจากการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบาและการใช้ยางลดแรงต้านทานการหมุน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย สำหรับคนไทยแล้ว นอกจากเรื่องน้ำมันแล้ว ค่าบำรุงรักษาก็สำคัญ ซึ่ง Attrage มีอะไหล่พร้อมและราคาไม่แพง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าคุณต้องขับบ่อยในเส้นทางติดขัดอย่างกรุงเทพฯ แนะนำให้ควบคุมการเหยียบคันเร่งและใช้โหมด ECO เพื่อประหยัดน้ำมันให้ได้มากที่สุด รวมถึงควรดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดไส้กรองอากาศ ตรวจสอบลมยาง ก็จะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของรถให้ดีที่สุดได้
Q
ความเร็วสูงสุดของ Mitsubishi Attrage ปี 2023 คือเท่าไหร่
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ที่ขายในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดประมาณ 175 กม./ชม. รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC 3 สูบ แบบดูดธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์ CVT ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ประจำวันของครอบครัว ในสภาพอากาศร้อนและถนนซับซ้อนของไทย Attrage ทำคะแนนในเรื่องประหยัดน้ำมัน ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 4.6 ลิตร/100 กม. ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังช่วยให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ ได้สะดวก ควรรู้ไว้ว่ารุ่นไทยมาตรฐานมาพร้อมถุงลมนิรภัย 2 ใบและระบบ ABS แต่ในการขับความเร็วสูงควรรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัย เพราะเครื่องยนต์ขนาดเล็กอาจต้องลดเกียร์เมื่อต้องการแซง ในกลุ่มรถขนาดเดียวกัน Attrageได้ชื่อเรื่องความประหยัดและค่าบำรุงรักษาต่ำ ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย เหมาะกับพื้นถนนยางมะตอยแบบที่พบทั่วไปในไทย แต่ควรระวังการโคลงตัวเมื่อขับแบบกระชาก ควรสอบถามศูนย์บริการมิตซูบิชิในไทยเกี่ยวกับโปรโมชั่นประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กม. และในช่วงฤดูฝนแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางเพื่อการยึดเกาะถนนที่เปียกชื้นที่ดี

ข้อดี

เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 กระบอก ประหยัดน้ำมัน ตอบสนองการเร่งดี
รถเก๋งสี่ประตูรัศมีการเลี้ยวเพียง 4.8 เมตร, การขับขี่ที่ยืดหยุ่น สำหรับผู้ขับที่เพิ่งเริ่มต้นและผู้ขับหญิง
พร้อมระบบป้องกันการชนด้านหน้าและระบบช่วยเสริมความเร็ว ที่สามารถประเมินระยะห่างจากรถหน้าถ้าคุณยกเท้าอันไวระบบจะจำกัดการให้น้ำมันเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ
การออกแบบภายในใหม่ทำให้พื้นที่กว้างขึ้น มีเสียง 7 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay ฉนวนเสียงดี

ข้อเสีย

ระบบล่างทำงานไม่ดี, อาจมีความรู้สึกว่าจะลอยไปเมื่อขับด้วยความเร็วสูง

Q&A ล่าสุด

Q
ปีสุดท้ายของ Alfa Romeo 4C คือปีใด?
Alfa Romeo 4C ยุติการผลิตในปี 2020 แต่ยังคงเป็นรถสปอร์ตคูเป้น้ำหนักเบาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยดีไซน์อิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในประเทศร้อนชื้นอย่างไทย โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและแชสซีอลูมิเนียมไม่เพียงให้ความแข็งแกร่งเหนือระดับ แต่ยังช่วยรับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลัง 240 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ DCT ที่ตอบสนองฉับไว เหมาะสมทั้งกับการขับขี่ในเส้นทางภูเขาและในเมืองของไทย แม้จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ 4C ยังเป็นที่ต้องการในตลาดมือสอง โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความสนุกในการขับและดีไซน์เฉพาะตัว แบรนด์ Alfa Romeo ในไทยอาจไม่ใหญ่โต แต่ด้วยสไตล์อิตาเลียนและสมรรถนะโดดเด่น ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ซื่อสัตย์ และในอนาคตอาจมีโมเดลใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทยมากขึ้น
Q
Alfa 4C เป็นระบบเกียร์ธรรมดาหรือไม่?
Alfa Romeo 4C มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกจริงๆ รถคันนี้ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบน้ำหนักเบาและความสนุกในการขับขี่ เหมาะมากกับถนนเขียวชอุ่มและทางคดเคี้ยวในเมืองไทย แม้ว่าตลาดไทยจะเน้นรุ่นเกียร์ออโต้เป็นหลัก แต่ 4C แบบเกียร์มือถือจะตอบโจทย์คนรักรถที่ต้องการประสบการณ์ขับขี่แบบจัดเต็มมากกว่า ตัวรถใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและการขับเคลื่อนแบบกลางลำตัว-ส่งกำลังหลัง ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดาจะช่วยดึงศักยภาพของรถออกมาได้เต็มที่ ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมขับขี่ตลอดเวลา สำหรับคนไทยที่ชอบความมันส์ในการควบคุมพวงมาลัย 4C รุ่นเกียร์ธรรมดานี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง ทั้งสนุกไปกับการขับขี่และได้สัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของรถสปอร์ตอิตาเลียนแท้ๆ
Q
ราคา Alfa 4C อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาของ Alfa Romeo 4C ในตลาดไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสเปกและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยราคาประมาณใหม่จะอยู่ที่ 3.5 ถึง 4.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมและภาษีต่างๆ รถคันนี้โดดเด่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและการออกแบบคลาสสิกสไตล์อิตาลี เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบความสนุกในการขับขี่ แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทยควรระวังเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์กลางที่อาจมีผลด้วย เนื่องจากปัจจุบัน 4C หยุดผลิตแล้ว ตลาดไทยจึงมีแต่รถมือสองเป็นส่วนใหญ่ โดยรถสภาพดีจะราคาประมาณ 2.5 ถึง 3.5 ล้านบาท เวลาซื้อควรตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาและสภาพช่วงล่างให้ดี ต้องบอกว่า 4C ในไทยถือเป็นรถเฉพาะกลุ่มจริงๆ การซ่อมบำรุงแนะนำให้ใช้บริการเฉพาะที่อู่ที่ได้รับการรับรองจาก Alfa Romeo เท่านั้น ถึงแม้ว่าอะไหล่อาจต้องรอนานหน่อย แต่ด้วยประสบการณ์การขับที่แตกต่างและความสวยระดับหันหลังมองทำให้รถคันนี้ยังเป็นที่นิยมในวงการคนรักรถไทยอยู่ดี
Q
รถ 4C มีระบบพวงมาลัยพาวเวอร์หรือไม่?
เกี่ยวกับคำถามที่ว่าการขับขี่ของ Alfa Romeo 4C มีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์หรือไม่นั้น จริงๆ แล้วรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นระบบพวงมาลัยแบบไม่มีพาวเวอร์ (unassisted steering) เพื่อเน้นความรู้สึกในการขับที่สมจริงและลดน้ำหนักรถ โดยเฉพาะเมื่อขับบนถนนโค้งในไทยหรือบนสนามแข่งจะให้ความรู้สึกต่อถนนที่ตรงไปตรงมา แต่พอขับในเมืองหรือตอนจอดรถความเร็วตํ่าอาจจะรู้สึกหนักมือหน่อยนะครับ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ระวังเรื่องลมยางด้วยเพราะมันส่งผลต่อความรู้สึกพวงมาลัยพอสมควร ปัจจุบันรถทั่วไปอย่างโตโยต้า ยาริส หรือรถรุ่นอื่นๆ ในไทยมักใช้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ที่ปรับแรงช่วยตามความเร็วรถ ทำให้ขับความเร็วตํ่าก็เบา สูงก็มั่นคง ถ้าสนใจรถสปอร์ตอาจลองดูรุ่นอย่างพอร์เช่ 718 ที่มีเทคโนโลยีอัตราทดพวงมาลัยแปรผัน (variable ratio steering) ซึ่งช่วยให้ควบคุมรถได้แม่นยำขึ้น แนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบระบบพวงมาลัยแต่ละแบบด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
รถ Alfa Romeo 4C มีเครื่องปรับอากาศหรือไม่?
Alfa Romeo 4C นั้นมีการติดตั้งระบบแอร์ แม้ว่ารถคันนี้จะออกแบบมาเพื่อความเบาและสมรรถนะสปอร์ตเป็นหลัก แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย แอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นผู้ผลิตจึงยังคงรักษาความสบายส่วนนี้ไว้โดยไม่เพิ่มน้ำหนักตัวรถเกินจำเป็น สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว ระบบแอร์ของ Alfa Romeo 4C นั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้อากาศร้อนจัด สามารถลดอุณหภูมิภายในรถได้เร็ว และการควบคุมแบบมือยังคงสอดคล้องกับแนวคิดรถสปอร์ตที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ที่น่าสนใจคือสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยนั้นท้าทายความทนทานของระบบแอร์เป็นพิเศษ แต่ระบบแอร์ของ 4C ออกแบบมาโดยใช้วัสดุทนความร้อนและคอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ทำให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่ารถรุ่นนี้จะเน้นประสบการณ์การขับขี่เป็นหลัก แต่ก็ยังให้ความสบายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้รถสปอร์ตในตลาดไทยที่คล้ายคลึงกันก็มักจะยังคงรักษาระบบแอร์ไว้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความเป็นประโยชน์ของผู้บริโภคท้องถิ่น
ดูเพิ่มเติม