Q

รถ BMW X5 ปี 2022 มีมูลค่าเท่าไหร่?

ราคาตลาดมือสองของ BMW X5 รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทางเดินรถ อุปกรณ์เสริม และประวัติการรับประทาน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 - 4 ล้านบาท สำหรับรถที่เดินทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร) และมีอุปกรณ์เสริมเพียบ เช่น ชุดแต่ง M Sport หลังคากระจก หรือระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ราคาจะพุ่งไปอยู่ที่ระดับบน ส่วนรถที่配置พื้นฐานหรือระยะทางเดินรถสูงก็จะอยู่ที่ระดับล่าง ในไทย BMW X5 ถือเป็นหนึ่งใน SUV ระดับหรูที่ทรงตัวด้านมูลค่ามือสองได้ดี โดยเฉพาะรุ่นดีเซลอย่าง X5 xDrive30d ที่ประหยัดน้ำมันและเหมาะกับการเดินทางไกล จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง การซื้อ X5 มือสองจึงช่วยประหยัดเงินได้มาก แต่ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่ารถนำเข้าผ่านช่องทางทางการหรือไม่ และมีประวัติการรับประทานครบถ้วน เพื่อความมั่นใจในระยะยาว ถ้าคิดจะใช้รถนาน แนะนำให้เลือกรถที่ยังอยู่ในระยะรับประทานของศูนย์บริการหลัก และควรเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อรักษาสภาพรถและมูลค่า สำหรับคนที่กำลังมองหา นอกจากเปรียบเทียบราคาระหว่างศูนย์จำหน่ายกับรายบุคคลแล้ว ควรดูว่ามีโปรโมชั่นหรือของแถมอะไรบ้าง เช่น ชุดบริการฟรี หรือบริการรับประทาน延长 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการซื้อรถครั้งนี้ได้อีกเยอะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความแตกต่างระหว่าง BMW X5 ปี 2025 และ 2026 คืออะไร
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ BMW X5 รุ่นปี 2025 ในประเทศไทย แต่สำหรับรุ่นปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนั้นมีการอัปเกรดหลายอย่าง แนวการออกแบบภายนอกจะใช้ภาษา Neue Klasse (New Class) โดยไฟหน้าจะเชื่อมต่อกับกรอบกริลล์แบบแคบกว่าเป็นแนวเดียวกัน ส่วนช่องรับอากาศที่กันชนจะเล็กลง ทำให้เส้นโดยรวมดูเรียบง่ายขึ้น ความยาวตัวรถเกือบ 5 เมตร และอาจมีการยืดระยะฐานล้อเพื่อรองรับเก้าอี้แถวที่สาม ท้ายรถออกแบบให้กระชับขึ้น คาดว่าจะใช้ไฟ LED แบบ "รูปตัว L กลับด้าน" ส่วนรถทดสอบใช้วอล์ยขนาด 22 นิ้ว ภายในห้องโดยสารจะมีจอแสดงผลโค้งแบบเต็มแผง พร้อมระบบ iDrive X ที่รองรับการอัปเดตผ่านระบบ OTA และฟังก์ชันผู้ช่วยเสียง โดยลดปุ่มกดแบบฟิสิคัลลงอย่างมาก ในขณะที่ถ้ามีรุ่นปี 2025 ก็อาจเป็นการอัปเดตเล็กน้อยเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์เท่านั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งภายนอก ภายใน และเทคโนโลยีแบบรุ่นปี 2026 นี้ ซึ่งรุ่น 2026 นี้จะมอบประสบการณ์การขับขี่และเทคโนโลยีแบบใหม่ทั้งหมดจริงๆ
Q
BMW X5 2022 มีเครื่องยนต์ประเภทใด?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลไฮบริด มีความจุกระบอกสูบ 2993 มิลลิลิตร หรือเรียกสั้นๆว่า 3.0 ลิตร จำนวน 4 สูบ เครื่องยนต์แบบนี้รวมข้อดีของทั้งเครื่องดีเซลและระบบไฮบริดไว้ด้วยกัน ทำให้ได้ทั้งแรงบิดสูงและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆกัน เครื่องดีเซลนั้นขึ้นชื่อในเรื่องแรงบิดเยอะ เหมาะสำหรับการออกตัวหรือขับขึ้นเขาที่ต้องการแรงหนุน ส่วนระบบไฮบริดจะช่วยเสริมเมื่อจำเป็น ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน ถ้าเป็นชีวิตประจำวันหรือขับทางไกลก็ตอบโจทย์มาก เพราะนอกจากจะได้กำลังใจจากแรงม้าแล้ว ยังช่วยเซฟเงินค่ากระเป๋าได้อีกด้วย
Q
BMW X5 ปี 2022 เป็นรุ่นไฮบริดเบาหรือเปล่า?
ใช่แล้วครับ รุ่น BMW X5 ปี 2022 นั้นมีการติดตั้งระบบ Mild Hybrid หรือระบบไฮบริดแบบเบา ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะพบในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลบางรุ่น เช่น xDrive40i และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด xDrive45e ระบบนี้ใช้มอเตอร์ 48V เพื่อช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มพลังตอนออกตัวและเร่งแซง พร้อมทั้งลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองไทยที่ต้องเจอกับสภาพการจราจรหยุดๆ เดินๆ บ่อยๆ ตอนนี้เทคโนโลยี Mild Hybrid กำลังได้รับความนิยมในตลาดไทยมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังตอบโจทย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดของไทย เช่น มาตรฐานการระบายมลพิษของกรุงเทพฯ ด้วย อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ Mild Hybrid ก็ไม่ได้สูงกว่าเครื่องยนต์ทั่วไปมากนัก แบตเตอรี่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและความประหยัดสำหรับคนไทยครับ ในอนาคตถ้ารัฐบาลไทยสนับสนุนนโยบายรถพลังงานสะอาดมากขึ้น คาดว่าเราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีแบบนี้ในรถรุ่นอื่นๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวครับ
Q
X5 จะมีการเปลี่ยนแปลงในปี 2025 หรือไม่?
จากข้อมูลล่าสุด BMW X5 จะมีการอัพเดทรุ่นใหม่ในปี 2025 โดยคาดว่ารถรุ่นใหม่จะใช้ภาษาในการออกแบบที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งไฟหน้าที่เรียวบางขึ้นและกริลล์รูปไตขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนภายในคาดว่าจะอัพเกรดเป็นระบบ iDrive 8.5 ล่าสุด พร้อมฟังก์ชันช่วยขับขี่ที่เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของระบบขับเคลื่อนอาจมีการเพิ่มรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ลดการปล่อยมลพิษทั่วโลก สำหรับตลาดไทย BMW X5 รุ่นใหม่น่าจะยังคงนำเข้าเหมือนเดิม และเมื่อพิจารณาจากนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของไทย รุ่นปลั๊กอินไฮบริดน่าจะได้รับความนิยมมากกว่า BMW X5 ในฐานะหนึ่งใน SUV หรูระดับตำนาน ได้รับการยอมรับจากประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความหรูหรา การอัพเกรดในรุ่นใหม่นี้จะช่วยเสริมตำแหน่งในตลาดให้แข็งแกร่งขึ้น โดยผู้บริโภคไทยสามารถคาดหวังเทคโนโลยีล้ำสมัยและทางเลือกระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมกับเครือข่ายบริการหลังการขายของ BMW ในไทยที่พร้อมให้ความมั่นใจกับเจ้าของรถทุกคน
Q
BMW X5 2022 ใหญ่ขนาดไหน?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 เป็น SUV หรูขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มาพร้อมกับขนาดตัวถัง 4930×2004×1776 มิลลิเมตร (ยาว×กว้าง×สูง) และระยะฐานล้อ 2975 มิลลิเมตร ให้พื้นที่ภายในกว้างขวางสำหรับการจัดวางแบบ 5 ที่นั่ง แต่หากเลือกติดตั้งแถวที่นั่งที่สามก็จะเพิ่มเป็น 7 ที่นั่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบท่องเที่ยวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจ สัดส่วนตัวถังของ X5 นั้นขับเคลื่อนในกรุงเทพฯ ได้อย่างคล่องตัว ในขณะเดียวกันก็รับมือกับสภาพถนน複雜ในเขตชานเมืองได้ดี สิ่งที่น่าสนใจคือในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย กระจกกันความร้อนมาตรฐานและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (xDrive) ของ X5 ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายในไทยยังมีรุ่น底盘สูงเพื่อ適應สภาพถนนลูกรังในบางพื้นที่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLE และ Audi Q7 แล้ว X5 มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ BMW ให้ความสำคัญกับการตั้งค่าที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ ทำให้มีความได้เปรียบด้านการควบคุมบนเส้นทางคดเคี้ยวในภูเขาของไทย แนะนำให้ผู้ที่สนใจไปทดลองขับและสัมผัสพื้นที่ภายในรถด้วยตัวเองที่โชว์รูม BMW ในกรุงเทพฯ หรือพัทยา
Q
BMW X5 ปี 2022 เป็นรถ 5 ที่นั่งหรือ 7 ที่นั่ง?
รุ่น BMW X5 ปี 2022 ในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยรุ่นมาตรฐานมักเป็นแบบ 5 ที่นั่ง แต่ถ้าต้องการสามารถอัปเกรดเป็น 7 ที่นั่งได้ด้วยการเพิ่มเบาะแถวที่สาม ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่หรือการใช้งานที่ต้องรับผู้โดยสารหลายคนในไทย ระบบแอร์ของ X5 ทำงานได้ดีแม้อากาศร้อนของไทย ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลังรู้สึกสบาย ส่วนเบาะแถวที่สามเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้น แต่แนะนำให้ลองไปทดลองสเปซจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ เพราะแถวที่สามจะทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระลดลงบ้าง ในตลาด SUV ระดับหรูของไทย BMW X5 ถือว่ามีจุดแข็งในความยืดหยุ่นของการจัดเรียงเบาะ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLE ที่มีตัวเลือกใกล้เคียง แต่ X5 จะให้ความรู้สึกการขับที่สปอร์ตกว่า เหมาะกับทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชานเมืองของไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อไทยควรคำนึงถึงเรื่องภาษีและค่าประกันที่อาจเพิ่มขึ้นในรุ่น 7 ที่นั่ง แนะนำให้เลือก配置ตามความจำเป็นในการใช้งานจริงจะดีที่สุด
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 ผลิตที่ไหน?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงาน Spartanburg ของกลุ่ม BMW ในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ BMW ทั่วโลก โรงงานนี้รับผิดชอบการผลิตรถ SUV ซีรี่ส์ X หลายรุ่น รวมถึง X3, X4, X5, X6 และ X7 และยังส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย สำหรับผู้บริโภคไทย รถ BMW X5 ที่นำเข้าเข้ามาในประเทศไทยมักมาจากโรงงานในสหรัฐฯ แต่แหล่งผลิตของรุ่นย่อยอาจแตกต่างกันไปตามค่าประสมและความต้องการของตลาด ดังนั้นแนะนำให้สอบถามข้อมูลการผลิตรถคันนั้นๆโดยตรงจากตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นก่อนตัดสินใจซื้อ BMW X5 ในฐานะรถ SUV ระดับหรูได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม การตกแต่งภายในที่หรูหราพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ โดยทั่วไปตัวแทนจำหน่าย BMW ในประเทศไทยจะให้บริการหลังการขายที่ครบวงจร ทั้งการบริการประจำปีและการสนับสนุนอะไหล่แท้จากโรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีนโยบายภาษีนำเข้ารถที่อาจส่งผลต่อราคาขายปลีก ดังนั้นแนะนำให้ผู้ซื้อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราภาษีและสิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างละเอียดก่อนทำการซื้อ
Q
ความแตกต่างระหว่าง X5 ปี 2022 และ 2023 คืออะไร
รุ่น 2022 และ 2023 ของ BMW X5 มีความแตกต่างหลักๆ อยู่ที่การอัปเกรดในรายละเอียดและการปรับปรุงระบบเทคโนโลยี โดยรุ่น 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นเป็นพิเศษ ด้านหน้าตัวถัง รุ่น 2023 มีกริลล์炫影光幕ให้เลือกเพิ่ม ซึ่งทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน พร้อมทั้งออกแบบล้อใหม่เพื่อให้มีสมรรถนะทางอากาศ动力学ที่ดีขึ้น ช่วยเรื่องการขับขี่ในช่วงฤดูฝนของไทยได้ดี ส่วนภายในติดตั้งระบบ iDrive 8 เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มฟังก์ชันระบายอากาศให้กับเบาะ前排แบบมาตรฐาน ซึ่งเหมาะมากกับสภาพอากาศร้อน ระบบขับเคลื่อนยังใช้เครื่องยนต์ B58 3.0T เหมือนเดิม แต่รุ่น 2023 ได้ปรับโปรแกรม ECU ให้เหมาะกับน้ำมันเบนซิน 95 ของไทย ช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 5% ด้านความปลอดภัยเพิ่มระบบเตือนเมื่อ crossing路口 เพื่อรับมือกับสภาพการจราจรที่วุ่นวายในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือ X5 รุ่น 2023 เวอร์ชันไทยได้เสริมประสิทธิภาพระบบแอร์ให้เย็นเร็วขึ้น และมีกระจกป้องกันรังสียูวีให้เลือกติดตั้งได้ ซึ่งเป็นจุดขายที่ลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชอบมาก ส่วนใครที่กังวลเรื่องมูลค่าขายต่อของรถมือสอง รุ่น 2023 นี้จะมีเสถียรภาพของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีกว่ารุ่น 2022 เพราะปัญหาการขาดแคลนชิปได้คลี่คลายแล้ว
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ BMW X5 รุ่นปี 2022 เป็น SUV หรูที่มีสมรรถนะรอบด้านโดดเด่น และได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย ระบบขับเคลื่อนทรงพลังมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ 3.0T แถวเรียง 6 สูบ และ 4.4T V8 คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ให้การตอบสนองเรียบร้อยและรวดเร็ว เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ซับซ้อนและการเดินทางไกลเป็นครั้งคราว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย โดยเฉพาะพื้นที่ขารองรับของผู้โดยสาร后排ที่เพียงพอ ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวคนไทย ด้านเทคโนโลยีมาพร้อมระบบ iDrive 7.0 เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับการควบคุมด้วยเสียงและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทำให้ใช้งานง่าย รวมถึงระบบช่วยขับขี่ครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ وسطการจราจรที่ติดขัดของไทย อย่างไรก็ตาม ควรระวังในเรื่องสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยที่อาจสร้างความเครียดให้กับระบบระบายความร้อนของรถ แนะนำให้ตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง BMW X5 ในไทยค่อนข้างสูง เป็นปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณา ก่อนตัดสินใจอาจเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน เช่น Mercedes-Benz GLE และ Audi Q7 ตามงบประมาณและความชอบส่วนตัว
Q
รถ BMW X5 ปี 2022 เป็นไฮบริดหรือไม่?
แน่นอนว่า BMW X5 รุ่นปี 2022 มีเวอร์ชันไฮบริดให้เลือก นั่นคือ X5 xDrive45e ที่มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริดซึ่งผสานระหว่างเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแบบเรียงแถวเทอร์โบชาร์จกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 394 แรงม้า และวิ่งได้ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตรในโหมดไฟฟ้าล้วน เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย เพราะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแถมยังได้สัมผัสการขับขี่ที่เงียบสงบเหมือนรถไฟฟ้า ตอนนี้รถไฮบริดกำลังมาแรงในตลาดไทย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น X5 xDrive45e ไม่เพียงช่วยลดมลพิษแต่ยังประหยัดค่าน้ำมันไปได้มาก แถมรัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาดแบบนี้ ทำให้ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ นอกจากนี้ BMW X5 ในฐานะ SUV หรูยังตอบโจทย์การใช้งานบนถนนไทยได้ดีทั้งในเมืองและทางต่างจังหวัด ส่วนรุ่นไฮบริดนี่ยิ่งครบเครื่องทั้งเรื่องสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะกับคนที่ชอบเทคโนโลยีและใส่ใจความยั่งยืนจริงๆ

ข้อดี

รถถูกออกแบบในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ด้วยกระจังหน้าใหญ่ที่ผสานกับไฟหน้าที่เ sharp
ภายในมีการตกแต่งด้วยหนัง คอนโซลควบคุมนุ่ม ที่นั่งมีระบบระบายอากาศและเป็นหนังแท้
ช่องเก็บของมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถเพิ่มความจุได้มากขึ้นหลังจากพับเก้าอี้
มีระบบทันสมัยเพื่อช่วยในการโหลดสิ่งของ เปิดปิดประตูหลังได้ด้วยไฟฟ้า มีระบบเข้าสู่รถที่ส comfortable
มีจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วที่สามารถควบคุมด้วยหลายวิธีและมีระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย
มีระบบจอดรถอัตโนมัติและกล้องวงจรปิดทัศนียภาพ 360 องศา มีเซนเซอร์ระยะห่างการจอดที่ด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำงานอั intelligent มีความสามารถในการทำให้ยางเกาะถนนได้ดี สามารถเข้ากับสภาพถนนหลากหลาย
มีตัวเลือกในการขับเคลื่อนดีเซลและไฮบริด มีพลังงานที่แ robust รวดเร็วในการเร่งความเร็ว

ข้อเสีย

การทำงานด้วยมือบางครั้งมีความรู้สึกอ่อนไหวเกินไปทำให้เกิดการทำงานผิด
ที่นั่งแถวที่สามมีพื้นที่น้อย ครอบครัวใหญ่ๆควรพิจารณา
ราคาสูง เมื่อเทียบกับ SUV ประเภทเดียวกัน อาจไม่เหมาะกับทุกคน
ในฐานะรถหรู ค่าซ่อมบำรุงและราคาส่วนประกอบบางส่วนสูง

Q&A ล่าสุด

Q
Ferrari 296 นั่งสบายหรือไม่?
Ferrari 296 ในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน ถือว่ามีความสบายที่พัฒนาขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ของ Ferrari โดยระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งพิเศษให้เข้ากับสภาพถนนในไทยได้ดีกว่า ทั้งถนนในเมืองและทางหลวง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับสภาพการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่นั่งถูกออกแบบตามหลักเออร์โกโนมิกส์ ช่วยลดความเมื่อยล้าแม้ต้องขับทางไกล เหมาะกับชาวไทยที่ชอบท่องเที่ยวแบบขับรถเองไปยังหัวหินหรือเชียงใหม่ นอกจากนี้ระบบไฮบริดของ 296 ในโหมดไฟฟ้าทำให้การทำงานเงียบเป็นพิเศษ ซึ่งเหมาะกับการปิดกระจกและเปิดแอร์ในวันที่อากาศร้อนของกรุงเทพฯ แม้จะมีความสูงของช่วงล่างที่ต่ำเหมือนซูเปอร์คาร์ทั่วไป แต่ด้วยสภาพถนนในเมืองหลักของไทยที่ค่อนข้างดี แค่ระวังจุดสะดุดหรือบ่อทางก็สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไม่มีปัญหา เมื่อเทียบกับรุ่นที่เน้นสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง 296 ให้ความสำคัญกับสมดุลในการขับขี่บนถนนจริงมากกว่า ทำให้มันเป็นหนึ่งในรุ่น Ferrari ที่เหมาะกับการใช้งานประจำวันมากที่สุดในขณะนี้ ที่ยังคงรักษาความตื่นเต้นในการขับขี่แบบ Ferrari แท้ๆ แต่ก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงบนถนนได้เป็นอย่างดี
Q
การชาร์จ Ferrari 296 ใช้เวลานานเท่าใด?
สำหรับ Ferrari 296 รถซูเปอร์คาร์แบบปลั๊กอินไฮบริด ถ้าใช้สถานีชาร์จที่บ้านขนาด 7.4kW ในประเทศไทย จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ 6kWh ให้เต็ม แต่ถ้าใช้สถานีชาร์จสาธารณะแบบเร็วจะประหยัดเวลาได้มากกว่า อย่างไรก็ตามเวลาที่ใช้จริงขึ้นอยู่กับกำลังไฟของสถานีชาร์จและความเสถียรของระบบไฟฟ้า สภาพอากาศร้อนของไทยมีผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เล็กน้อย แนะนำให้ชาร์จในช่วงเช้าหรือเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ เช่นสยามพารากอนหรือไอคอนสยามมักมีสถานีชาร์จที่ใช้งานได้ดีกับรถรุ่นนี้ จุดที่ควรรู้คือระบบชาร์จของรถปลั๊กอินไฮบริดทำงานต่างจากรถไฟฟ้าทั่วไป แม้ไม่ชาร์จไฟก็ยังสามารถใช้งานได้ด้วยเครื่องยนต์ปกติ แต่การชาร์จเป็นประจำจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เต็มที่ รัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาด ทำให้รถซูเปอร์คาร์แบบนี้ได้ประโยชน์ด้านภาษีนำเข้าดีกว่ารถที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว แม้สถานีชาร์จในไทยจะยังไม่ทั่วถึงเหมือนในจีน แต่ในเขตท่องเที่ยวและคอนโดหรูเริ่มมีให้บริการมากขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถขอติดตั้งสถานีชาร์จส่วนตัวได้อีกด้วย
Q
แนวโน้มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่คาดว่าจะวิ่งได้ในปี 2025 คือเท่าใด?
คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทยจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 500-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มครั้ง โดยรุ่นพรีเมียมบางรุ่นอาจทะลุถึง 800 กิโลเมตร ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาของแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้นและเทคโนโลยีการชาร์จที่ก้าวหน้า ปัญหาเรื่องสภาพอากาศร้อนในประเทศไทยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ก็ได้รับการแก้ไขแล้วด้วยระบบจัดการความร้อนที่ทันสมัย นอกจากนี้โครงการติดตั้งสถานีชาร์จของรัฐบาลก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ การใช้เครื่องปรับอากาศ และสภาพการจราจร โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นอาจทำให้ระยะทางลดลง 10-15% จึงแนะนำให้ผู้บริโภคคำนึงถึงระยะทางในการใช้งานประจำวันเมื่อเลือกซื้อรถ ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยยังมีมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบในประเทศผ่านการให้เงินอุดหนุน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการซื้อได้อีกด้วย และในอนาคตด้วยการเติบโตของเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตตความทนทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
Q
ข้อมูลจำเพาะของ GAC AION UT ในตลาดไทย
รถยนต์ไฟฟ้า Aion UT รุ่นปี 2025 ของ GAC Aion ที่จะเข้าตลาดไทย คาดว่าจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ผสมผสานความทันสมัยและประโยชน์ใช้สอยเหมือนรุ่นที่ขายในจีน โดยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานสูงสุด 150kW ให้ระยะทางวิ่งประมาณ 500 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับระบบชาร์จเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในประเทศไทย ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ของรถรุ่นนี้ยังทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่พื้นที่ภายในที่กว้างขวางก็ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยได้เป็นอย่างดี ต้องบอกว่าตลาดรถไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลสนับสนุนผ่านมาตรการลดภาษีและให้เงินอุดหนุน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้อย่าง Aion UT มีโอกาสสูงในตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรตรวจสอบความพร้อมของสถานีชาร์จโดยเฉพาะในต่างจังหวัด แนะนำให้ใช้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่โครงสร้างพื้นฐานพร้อมมากกว่า ส่วนฟีเจอร์อัจฉริยะอย่างระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และผู้ช่วยเสียงสั่งการก็จะช่วยให้การขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของไทยสะดวกสบายขึ้น
Q
แรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นอย่างไรหลังจาก 5 ปี?
รถไฟฟ้าที่ใช้งานในไทยมาแล้ว 5 ปี โดยทั่วไปความจุแบตเตอรี่จะลดลงเหลือประมาณ 80% จากเดิม ซึ่งถือเป็นการเสื่อมสภาพตามปกติ แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นเล็กน้อย แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดเป็นเวลานาน ปัจจุบันแบตเตอรี่ของแบรนด์หลักส่วนใหญ่มีประกัน 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร หากเกินระยะประกันแล้วต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ แต่ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ค่าแบตเตอรี่น่าจะถูกลง ส่วนเรื่องค่าซื้อขายต่อรถไฟฟ้าในตลาดมือสองของไทยนั้น ค่าเสื่อมจะต่ำกว่ารถน้ำมัน โดยรถอายุ 5 ปีจะเหลือมูลค่าประมาณ 30-40% แต่ข้อดีคือรถไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ ใน 5 ปีนี้แค่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกและไส้กรองแอร์ของเครื่องปรับอากาศเท่านั้น ผ้าเบรกก็สึกหรอน้อยกว่าด้วย ที่น่าสนใจคือตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันการสร้างสถานีชาร์จให้มากขึ้น ในอนาคตความสะดวกในการชาร์จไฟจะดีขึ้น สำหรับคนที่กำลังมองหารถไฟฟ้ามือสอง แนะนำให้ขอรายงานสุขภาพแบตเตอรี่ผ่านช่องทางทางการ และเลือกรถที่มีประวัติการบริการครบถ้วน จะช่วยให้ใช้งานได้สบายใจกว่า
ดูเพิ่มเติม