Q

คือ Porsche 911 ที่ดีที่สุดคืออะไร

รถยนต์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในตระกูล Porsche 911 ได้แก่ 911 Carrera และ 911 Turbo โดย 911 Carrera มีความสมดุลด้านสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม การควบคุมที่แม่นยำ และพละกำลังที่เพียงพอ เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการใช้งานในสนามแข่ง ในขณะที่ 911 Turbo มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จอันทรงพลัง ให้สมรรถนะการเร่งสปีดที่เหนือชั้นและเสถียรภาพสูงสุดในความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม รุ่นที่ "ดีที่สุด" ขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและการใช้งานในชีวิตประจำวัน Carrera เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการสมรรถนะขั้นสูงสุด Turbo จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Porsche 911 มีที่นั่งกี่ที่
Porsche 911 โดยปกติเป็นรถสปอร์ตสองประตูสี่ที่นั่ง แต่พื้นที่ด้านหลังค่อนข้างเล็ก โดยเหมาะสำหรับการนั่งสองคนเป็นหลัก ในตลาดประเทศไทย รุ่นที่ทั่วไปก็มักจะมีการจัดที่นั่งในรูปแบบนี้เช่นกัน
Q
เมื่อครั้งที่ Porsche 911 ถูกเปิดตัว
Porsche 911 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนกันยายนปี 1964 โดยต้นแบบรถคันนี้ได้เผยโฉมครั้งแรกที่งานแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ปี 1963 ในชื่อ Porsche 901 แต่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Porsche 911 เนื่องจากข้อโต้แย้งจากบริษัท Peugeot ในปี 1964 Porsche 911 เริ่มเข้าสู่สายการผลิต โดยรุ่นแรกมาพร้อมกับการวางเครื่องยนต์หลังและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอนระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาด 1.9 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 130 แรงม้า
Q
ปอร์เช่ 911 มีเครื่องยนต์ประเภทไหน
Porsche 911 มักมาพร้อมกับเครื่องยนต์หลากหลายรูปแบบ โดยทั่วไปจะใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอน (Flat-six) ซึ่งมีทั้งแบบไร้ระบบอัดอากาศและแบบเทอร์โบชาร์จ ประเภทและสมรรถนะของเครื่องยนต์อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต เช่น รุ่นพื้นฐานบางรุ่นอาจมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่มีกำลังต่ำกว่า ในขณะที่รุ่นสมรรถนะสูงจะมีพละกำลังที่มากกว่า
Q
เพอร์เช่ 911 กว้างเท่าไหร่
ความกว้างของ Porsche 911 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตกแต่ง โดยทั่วไปรุ่นที่พบได้บ่อยมีความกว้างประมาณ 1852 มม.
Q
มีกี่รุ่นของ porsche 911
Porsche 911 ในตลาดประเทศไทยมีหลายรุ่นให้เลือก โดยรุ่นที่ทั่วไป เช่น Carrera, Carrera S และ Carrera 4S แต่ละรุ่นมีความแตกต่างในด้านสมรรถนะและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง
Q
เครื่องยนต์ Porsche 911 GT3 RS มีเครื่องยนต์อะไร
Porsche 911 GT3 RS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 4.0 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ เครื่องยนต์นี้มีสมรรถนะที่โดดเด่น ให้กำลังที่เหนือชั้น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่
Q
ความเร็วของ porsche 911 gt3 rs คืออย่างไร
Porsche 911 GT3 RS มีสมรรถนะความเร็วที่โดดเด่น โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม. และเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.2 วินาที รุ่นปี 2024 นี้ยังสร้างสถิติรอบที่น่าประทับใจในสนามแข่งนูร์เบอร์กริงนอร์ทชไลเฟอร์ โดยทำเวลาได้ 6 นาที 49.328 วินาที ส่งผลให้กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ผลิตจำนวนมากที่เร็วที่สุดในสนามนูร์เบอร์กริง ซูเปอร์คาร์รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบนอนขนาด 4.0 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุดถึง 518 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 470 นิวตันเมตร
Q
ราคาของโปรเช่ 911 ทูโบเอสเท่าไหร่
ราคาของ 911 Turbo S อาจแตกต่างกันไปตามช่องทางการจัดจำหน่ายและข้อมูลล่าสุด โดยเว็บไซต์ทางการของ Porsche ประเทศไทยระบุราคาอยู่ที่ 25.5 ล้านบาท ในขณะที่เว็บไซต์ ZigWheels ระบุราคาบนท้องถนนในกรุงเทพฯ สำหรับรุ่นปี 2023 อยู่ที่ 27.7 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาของรถยนต์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามการปรับแต่งรุ่นย่อย สภาวะตลาด และโปรโมชั่นต่าง ๆ จึงขอแนะนำให้ติดต่อผู้แทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูลราคาอัปเดตล่าสุด
Q
ราคาโปรเช่ 911 คือเท่าไหร่
Porsche 911 มีราคาที่แตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย โดยรุ่นเริ่มต้น Carrera มีราคา 9.9 ล้านบาท ส่วน Carrera Cabriolet มีราคา 11.4 ล้านบาท รุ่นที่มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่าง Turbo มีราคา 19 ล้านบาท ในขณะที่รุ่นท็อปสุด Turbo S PDK มีราคาสูงถึง 27.7 ล้านบาท นอกจากนี้ รุ่นที่มุ่งเน้นสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง เช่น GT3 และ GT3 RS มีราคาประมาณ 21.4 ล้านบาท และ 22 ล้านบาทตามลำดับ
Q
เครื่องยนต์ Porsche 911 GT3 RS มีเครื่องยนต์อะไร
Porsche 911 GT3 RS ใช้เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร สูบนอน 6 สูบ แบบดูดอากาศธรรมชาติ เครื่องยนต์ตัวนี้มีประสิทธิภาพสูงและกำลังแรง สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่

ข้อดี

หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ที่ดูเป็นการขับรถ
ภายในความสะดวกสบายและสะดวกสบาย ปุ่มของรุ่นก่อนๆถูกรวมอยู่ในหน้าจอควบคุมกลางขนาด 10.9 นิ้วที่สามารถควบคุมหลากหลายฟังก์ชัน
การขับรถสนุก มอเตอร์เป็น 6 ถัง Boxer วินาที หน่วยความจุ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 450 แรงม้า ความเร็วจากศูนย์ถึง 100 กิโลเมตรใน 3.5 วินาที
ชาซีมั่นคงสภาพ ใช้เทคโนโลยี Bilstein DTX ใหม่ ระบบกันสะเทือนสามารถปรับแต่งอัตโนมัติ
ระบบเบรกที่เชื่อถือได้ สามารถเบรกอย่างมั่นคงและนุ่มนวล

ข้อเสีย

พื้นที่เล็ก ถึงแม้จะใหญ่กว่ารถแข่งปกติบ้างแต่ก็ยังจำกัด
ศูนย์บริการและจุดซ่อมบำรุงน้อยมาก เพียงเล็กน้อยในกรุงเทพฯ
ซ่อมบำรุงและค่าบริการสูง

Q&A ล่าสุด

Q
Toyota Yaris ATIV หนักกี่กิโลกรัม? ดูรายละเอียด
น้ำหนักของ Toyota Yaris ATIV ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย รุ่นเกียร์ธรรมดาจะหนักประมาณ 1,060–1,080 กิโลกรัม ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งเป็นรุ่นที่นิยมมากกว่า จะอยู่ที่ประมาณ 1,090–1,120 กิโลกรัม ความแตกต่างของน้ำหนักนี้มาจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งในแต่ละรุ่น เช่น รุ่นท็อปที่มีถุงลมนิรภัย 6 จุด หรือหน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดีย ก็จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นพื้นฐานเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เช่น Honda City (ประมาณ 1,100–1,150 กิโลกรัม) หรือ Nissan Almera (ประมาณ 1,080–1,120 กิโลกรัม) จะเห็นว่า Yaris ATIV มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่รถติดบ่อยอย่างในกรุงเทพฯ ช่วยให้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรตอบสนองได้ดี และประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ยประมาณ 15–18 กม./ลิตร) อีกจุดที่น่าสนใจคือ วิศวกรโตโยต้าได้ออกแบบวัสดุของตัวถังให้รองรับอุณหภูมิสูงตามสภาพอากาศเมืองไทยได้ดี แม้รถจะเบาแต่โครงสร้างยังแข็งแรง เพราะใช้เทคโนโลยี GOA ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวของ ASEAN NCAP มาแล้ว
Q
ราคาเบี้ยประกันของ Toyota Yaris ATIVประมาณเท่าไหร่? คุณควรต้องจ่ายประมาณกี่บาท
ค่าเบี้ยประกันของ Toyota Yaris ATIV โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณปีละ 15,000 ถึง 25,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของประกัน (เช่น ประกันชั้น 1, ชั้น 2 หรือชั้น 3) รวมถึงอายุผู้ขับขี่ ประสบการณ์การขับขี่ และพื้นที่ที่อยู่อาศัย เช่น ในกรุงเทพฯ ค่าเบี้ยจะสูงกว่าต่างจังหวัดเล็กน้อย เพราะมีความเสี่ยงจากการจราจรและอุบัติเหตุมากกว่า หากเลือกทำประกันชั้น 1 ซึ่งคุ้มครองครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ การโจรกรรม และภัยธรรมชาติ ราคาจะอยู่ใกล้เคียง 25,000 บาท ส่วนประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 ที่คุ้มครองน้อยกว่าจะมีราคาอยู่ประมาณ 15,000 - 20,000 บาท นอกจากนี้ บางบริษัทประกันยังมีส่วนลดเบี้ยประกันกรณีไม่มีการเคลมในปีที่ผ่านมา (No Claim Bonus) ทำให้เบี้ยลดลงในปีถัดไปอีกด้วย สำหรับ Yaris ATIV ซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทย อะไหล่หาง่าย ค่าซ่อมไม่แพง ทำให้ค่าเบี้ยประกันถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงเหมือนรถนำเข้า แนะนำว่าควรเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัท และเลือกแบบที่มีบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือรถยก เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
Q
Toyota Yaris ATIV มีขนาดเท่าไหร่? มาดูรายละเอียด
Toyota Yaris ATIV มีขนาดตัวถังยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. และสูง 1,480 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,620 มม. ขนาดแบบนี้ทำให้รถคล่องตัวเวลาใช้งานในเมือง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่หรือลานจอดรถก็ทำได้ง่ายขึ้น ฐานล้อยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ทำให้นั่งสบายมากขึ้น เมื่อดูจากสัดส่วนของตัวรถแล้ว ถือว่ามีการจัดวางพื้นที่อย่างลงตัว ทั้งด้านความสวยงามภายนอกและการใช้งานภายใน ไม่ว่าจะขับไปทำงานในเมืองหรือพาครอบครัวไปเที่ยว ก็รองรับได้สบายทั้งคนและของ ใช้งานได้จริงและยังคงความสะดวกสบายไว้อย่างครบถ้วน
Q
พื้นที่เก็บของด้านท้าย (ท้ายรถ) ของ Toyota Yaris ATIV กว้างขนาดไหน?
Toyota Yaris ATIV มีปริมาตรกระโปรงหลังเพียง 272 ลิตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพับเบาะหลังลง полностью ความลึกจะเพิ่มขึ้นถึง 1,430 มม. ทำให้สามารถขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ได้ แต่ต้องระวังเรื่องช่องว่างระหว่างเบาะกับกระโปรงที่ค่อนข้างกว้าง อาจทำให้การบรรทุกสิ่งของทรงยาวไม่สะดวกนัก แม้ว่าพื้นที่เก็บของจะไม่ใช่จุดเด่น แต่ถ้าใช้งานอย่างเหมาะสม ก็ยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ เช่น สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดปกติหรือของใช้ทั่วไปได้สบายๆ
Q
ค่าบำรุงรักษา Toyota Yaris ATIV ประมาณเท่าไหร่? มาดูรายละเอียด
ค่าบำรุงรักษาปกติของ Toyota Yaris ATIV จะอยู่ที่ประมาณ 2,000–3,000 บาท ซึ่งรวมถึงค่าน้ำมันเครื่อง (แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ของ Toyota เบอร์ 0W-20 หรือ 5W-30 ที่เหมาะกับอากาศร้อนของไทย) ค่ากรองน้ำมันเครื่อง และค่าตรวจเช็กพื้นฐานต่างๆ โดยศูนย์บริการ Toyota ในไทยแนะนำให้เข้ารับบริการทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ดีเสมอ นอกจากนี้ ในช่วงก่อนและหลังฤดูฝน ควรตรวจเช็กระบบแอร์และเบรกเป็นพิเศษ ซึ่งบริการส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500–800 บาท เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Yaris ATIV ถือว่ามีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัด เพราะ Toyota มีระบบอะไหล่และบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มีศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 150 แห่งทั่วไทย ทำให้เจ้าของรถมั่นใจได้ทั้งเรื่องราคาและคุณภาพการดูแล อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานบนถนนเมืองไทยที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
ดูเพิ่มเติม