Q
SsangYong Stavic ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเท่าไหร่
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ SsangYong Stavic แตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นเครื่องยนต์สองจุดสองลิตรขับเคลื่อนสองล้อเกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อนสองล้อเกียร์อัตโนมัติ และขับเคลื่อนสี่ล้อเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลทางการอยู่ที่เจ็ดจุดแปดลิตรต่อหนึ่งร้อยกิโลเมตร อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงอัตราสิ้นเปลืองอาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยเช่นพฤติกรรมการขับขี่สภาพถนนและน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่นหากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงหรือขับในสภาพจราจรติดขัดบ่อยครั้งอัตราสิ้นเปลืองมักจะสูงกว่าค่ามาตรฐาน ในทางกลับกันหากขับขี่อย่างนุ่มนวลรักษาความเร็วที่เหมาะสมและรถบรรทุกน้ำหนักไม่มากอัตราสิ้นเปลืองก็อาจใกล้เคียงกับค่าที่ระบุไว้ ทั้งนี้สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดอื่นยังไม่มีข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองอย่างเป็นทางการปรากฏในขณะนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ความสูงของ SsangYong Stavic 7 ที่นั่งคืออะไร
SsangYong Stavic มีความสูงอยู่ที่หนึ่งพันแปดร้อยห้าสิบมิลลิเมตร ซึ่งเหมาะสมทั้งกับรุ่นที่จัดวางที่นั่งเจ็ดที่นั่งและการใช้งานประจำวัน ความสูงของตัวรถที่เพียงพอช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนมีพื้นที่เหนือศีรษะอย่างกว้างขวาง ทำให้การโดยสารไม่รู้สึกอึดอัด ตัวรถยาวห้าพันหนึ่งร้อยสามสิบมิลลิเมตร กว้างหนึ่งพันเก้าร้อยสิบห้ามิลลิเมตร ระยะฐานล้อสามพันมิลลิเมตร ขนาดตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ช่วยสร้างพื้นที่ภายในที่กว้างขวางไม่ว่าจะเดินทางพร้อมครอบครัวหรือใช้ในงานธุรกิจ ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี ผู้โดยสารนั่งสบายไม่รู้สึกอึดอัดจากพื้นที่จำกัด
Q
สเปคของ SsangYong Stavic 11 ที่นั่งคืออะไร
SsangYong Stavic รุ่น 11 ที่นั่ง จัดอยู่ในกลุ่ม E-Segment ตัวรถยาวห้าพันหนึ่งร้อยสามสิบมิลลิเมตร กว้างหนึ่งพันเก้าร้อยสิบห้ามิลลิเมตร สูงหนึ่งพันแปดร้อยห้าสิบมิลลิเมตร ระยะฐานล้อสามพันมิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันแปดสิบลิตร ระยะห่างจากพื้นอย่างน้อยหนึ่งร้อยแปดสิบห้ามิลลิเมตร พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีหลายรุ่นเครื่องยนต์ให้เลือก ได้แก่ ดีเซลขนาดสองพันลบเซนติเมตร และสองพันหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดลบเซนติเมตร ทั้งสองรุ่นมีจำนวนสูบสี่สูบ ส่วนรุ่นเบนซินมีขนาดสามพันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าลบเซนติเมตร จำนวนสูบหกสูบ ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา ให้เลือก ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ น้ำหนักรถขึ้นอยู่กับรุ่นอยู่ระหว่างหนึ่งพันเก้าร้อยหกสิบแปดถึงสองพันหนึ่งสิบสี่กิโลกรัม ห้องโดยสารกว้างขวางสามารถรองรับผู้โดยสารได้สิบเอ็ดคนอย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางในครอบครัวหรือกลุ่มเล็ก
Q
SsangYong Stavic มีความจุถังน้ำมันเท่าไหร่
SsangYong Stavic มีความจุถังน้ำมันอยู่ที่แปดสิบลิตร ความจุถังน้ำมันที่ค่อนข้างใหญ่ช่วยให้รถมีระยะทางวิ่งไกลขึ้นและลดความถี่ในการเติมน้ำมันระหว่างการเดินทางไกล ทำให้ผู้ขับขี่มีความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายมากขึ้นในการเดินทาง แม้ว่ารุ่นต่างๆ ของ Stavic จะมีความแตกต่างกันในด้านขนาดเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และประเภทเกียร์ แต่ทุกรุ่นยังคงใช้ความจุถังน้ำมันที่แปดสิบลิตร ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนการเดินทางได้ดีขึ้นตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางประจำวันหรือทริประยะไกล
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติม

ข้อดี
ข้อเสีย