Q

ความยาวของ Suzuki Swift คือเท่าไหร่?

รถ Suzuki Swift แต่ละรุ่นมีความยาวแตกต่างกันบ้าง โดยส่วนใหญ่จะมีความยาว 3,845 มม. แต่บางรุ่นเก่าอาจจะสั้นกว่าแค่ 5 มม. คือ 3,840 มม. ความยาวรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่ ความคล่องตัวบนถนน และการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความยาวสั้นแบบ Swift นี่แหละ ที่ขับในเมืองสะดวกมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ ที่ถนนคับคั่ง จะแทรก lane หรือหาที่จอดก็ง่ายกว่า รถขนาดนี้เหมาะกับสภาพถนนแบบไทยๆ ที่ค่อนข้างติดขัดและแออัด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Suzuki Swift มีอะไรบ้าง?
Suzuki Swift ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เน้นความประหยัดและคล่องตัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยจากจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่ว่องไว อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่ภายในค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะบริเวณเบาะหลังที่พื้นที่วางขาและห้องเก็บสัมภาระอาจไม่เพียงพอสำหรับครอบครัวหรือการเดินทางไกล วัสดุภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแข็ง ซึ่งอาจให้ความรู้สึกเรียบง่าย ส่วนเรื่องการเก็บเสียงยังมีช่องว่างให้พัฒนา โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง นอกจากนี้ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย หากใช้แอร์บ่อยในรุ่นเริ่มต้น อาจส่งผลต่อแรงตอบสนองของเครื่องยนต์ และบางคนอาจรู้สึกว่าระบบช่วงล่างแข็งไปเล็กน้อย เมื่อต้องขับบนถนนที่ไม่เรียบ อาจรู้สึกสะเทือนมากกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน แม้ว่าตลาดรถในไทยจะมีความต้องการรถกระบะและ SUV สูง แต่ Swift ก็ยังตอบโจทย์คนที่เน้นขับในเมืองมากกว่า หากต้องใช้งานบ่อยบนถนนขรุขระหรือมีการบรรทุกของบ่อย ๆ อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น จุดแข็งของ Swift คือค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง และราคาขายต่อในตลาดรถมือสองอยู่ในเกณฑ์ดี จึงเหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด เช่น นักศึกษาหรือผู้ที่มองหารถคันที่สองไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน แนะนำให้ผู้ที่สนใจพิจารณาความเหมาะสมกับการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ.
Q
Suzuki Swift อยู่ใน Segment ไหน?
Suzuki Swift ในตลาดประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (B-Segment) และถือเป็นรถแฮทช์แบ็กรุ่นประหยัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมแบบเมืองไทยที่มีการจราจรหนาแน่นและพื้นที่จอดรถจำกัด Swift กลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี ด้วยขนาดตัวถังที่กะทัดรัด การควบคุมที่คล่องตัว และความประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น ทำให้ Swift เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนรุ่นใหม่และครอบครัวขนาดเล็กในไทย นอกจากนี้ ดีไซน์ที่ทันสมัยและสปอร์ตยังสอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ในตลาดไทย Swift ต้องแข่งขันกับรถรุ่นอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน เช่น Honda Jazz และ Toyota Yaris แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและค่าดูแลรักษาที่ไม่แพง ทำให้ Swift ยังคงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี Swift ที่จำหน่ายในไทยมักจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ และ 1.0 ลิตรแบบเทอร์โบ ซึ่งให้สมรรถนะที่เพียงพอควบคู่กับความประหยัดน้ำมัน อีกทั้งยังมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและสภาพถนนในประเทศไทย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ และการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับการขับบนถนนไทย สำหรับผู้ที่มีงบจำกัดแต่ต้องการรถที่มีคุณภาพดี ดีไซน์สวย และใช้งานได้จริง Swift ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และด้วยอัตราการรักษามูลค่าที่ดีในตลาดรถมือสอง ยังช่วยลดต้นทุนในการใช้งานระยะยาวอีกด้วย.
Q
มูลค่าขายต่อของ Suzuki Swift คือเท่าไหร่?
ในตลาดรถยนต์ประเทศไทย Suzuki Swift มีมูลค่าขายต่อที่ค่อนข้างมั่นคง สาเหตุหลักมาจากความประหยัด ทนทาน และชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร และ 1.4 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ซึ่งมีต้นทุนการซ่อมบำรุงต่ำและอะไหล่หาง่าย ทำให้ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้ว Swift ที่มีอายุการใช้งานระหว่าง 3-5 ปี มักจะสามารถขายต่อได้ในราคาประมาณ 50%-65% ของราคารถใหม่ และหากรถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วน ราคาขายต่ออาจสูงกว่านั้นอีก ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย สีรถที่ได้รับความนิยมอย่างสีแดงหรือสีน้ำเงิน มักจะมีความน่าสนใจในตลาดมือสองมากกว่าสีพื้นทั่วไป และด้วยจำนวน Swift ที่มีใช้งานอยู่มากในไทย ทำให้การซื้อขายรถรุ่นนี้ในตลาดมือสองค่อนข้างคล่องตัว ทั้งนี้ รุ่นที่เป็นไฮบริดหรือเครื่องยนต์เทอร์โบจะพบได้น้อยในไทย และอาจมีผลต่อความนิยมและราคาขายต่อของรถบางรุ่น หากเจ้าของรถต้องการเพิ่มมูลค่ารถในอนาคต แนะนำให้เก็บประวัติการบำรุงรักษาให้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการดัดแปลงรถ เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่มักชอบรถที่ยังอยู่ในสภาพเดิมจากโรงงาน นอกเหนือจาก Swift แล้ว Honda Jazz และ Toyota Yaris ก็ถือเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดรถมือสองกลุ่มนี้ แต่ Swift ยังคงได้เปรียบด้านราคาและดีไซน์ที่ดูสปอร์ต ซึ่งมักจะถูกใจกลุ่มผู้ใช้รถวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ.
Q
Suzuki Swift มีขนาดเครื่องยนต์กี่ซีซี?
เครื่องยนต์ Suzuki Swift มีความจุ 1,197 ซีซี หรือเท่ากับ 1.2 ลิตร ซึ่งขนาดเครื่องยนต์นี้ถือว่าดีลระหว่างพลังและประหยัดน้ำมันได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกขับขี่ลื่นไหล ไม่สะดุด สำหรับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรของ Swift โดยทั่วไปแล้วจะให้กำลังม้าและแรงบิดที่เพียงพอ ทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวในทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับในเมืองหรือเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1,197 ซีซี ก็ตอบโจทย์ได้ดี นอกจากนี้ ขนาดเครื่องยนต์ที่กระทัดรัดยังช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดขึ้น ส่งผลให้การควบคุมและการขับขี่มีความคล่องตัวมากขึ้น
Q
Suzuki Swift ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Suzuki Swift มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดา (Naturally Aspirated Engine) ใช้ระบบดูดอากาศธรรมชาติ มีจำนวนกระบอกสูบ 4 ลูก เครื่องยนต์สามารถให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 4400 รอบต่อนาที เทคโนโลยีของเครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาอย่างดี มั่นคง และมีต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมือง ในด้านประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ก็ทำได้ดี โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันรวม 4.4L/100km ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันได้ เครื่องยนต์นี้ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น มีการสลับเกียร์ที่น้อยมาก ทำให้ประสบการณ์การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น
Q
เกียร์ของ Suzuki Swift เป็นแบบไหน?
รถ Suzuki Swift ทุกรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนเวลาขับขี่ ไม่มีสะดุดเวลาเปลี่ยนเกียร์ แถมยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย เกียร์แบบ CVT นี่แหละที่ทำให้การขับขี่ในเมืองหรือบนถนนที่มีการหยุด-เดินบ่อยๆ รู้สึกสบายๆ ไม่หงุดหงิด เพราะมันปรับเปลี่ยนได้ตามความเร็วรถอัตโนมัติ ส่วนเรื่องประหยัดนี่ก็เด็ด เพราะเกียร์ CVT จะช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้ทำงานในระดับที่เหมาะสม ผลก็คือ Suzuki Swift ที่ติดตั้งเกียร์ CVT คู่กับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร สามารถทำระยะทางได้ถึง 4.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรตามที่บริษัทประกาศ ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าน้ำมันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Q
PCD Size ของ Suzuki Swift คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ Suzuki Swift ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทย รูยึดล้อหรือ PCD มีขนาด 4x100 หมายความว่าล้อจะมีรูสลัก 4 รู และระยะวงกลมระหว่างศูนย์กลางรูสลักคือ 100 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดนี้เข้ากันได้กับล้อแม็กซ์อัพเกรดส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ในไทย เวลาติดตั้งต้องระวังเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) ที่ปกติจะอยู่ที่ 54.1 มิลลิเมตร และควรใช้ริงปรับขนาดเพื่อให้ล้อเข้าได้พอดีกับดุมล้อ สภาพอากาศไทยที่ชื้นและฝนบ่อยอาจส่งผลต่อวัสดุของล้อ แนะนำให้เลือกล้ออัลลอยเพื่อลดน้ำหนักและช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น ที่สำคัญต้องคอยตรวจสอบแรงขันน็อตล้อบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ขับบ่อย ส่วนเรื่องแต่งล้อที่นิยมในไทย ต้องเช็คค่า ET (ระยะออฟเซ็ตล้อ) ให้ใกล้เคียงของเดิมที่สุด จะได้ไม่กระทบ suspension หรือให้ล้อเสียดสีกับบังโคลน และอย่าลืมตรวจสอบกฎหมายจากกรมการขนส่งทางบกว่าสามารถแต่งได้แค่ไหน
Q
Suzuki Swift รับรอง Apple Carplay ไหม?
ใช่แล้ว รุ่น Suzuki Swift บางรุ่นและบางปีมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay โดยขึ้นอยู่กับสเปคและการกำหนดระดับของรถในแต่ละตลาด สำหรับตลาดไทย รุ่น Swift ระดับสูงตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไปมักมาพร้อมกับ Apple CarPlay เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone กับหน้าจอรถยนต์ได้สะดวก ใช้สำหรับการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้อย่างราบรื่น แต่สำหรับรุ่นพื้นฐานอาจไม่มีฟีเจอร์นี้ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายในไทยก่อนซื้อเพื่อตรวจสอบสเปคของรถรุ่นนั้นๆ ที่น่าสนใจคือ Apple CarPlay ในไทยถือว่ามีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ฟังก์ชันมือถือได้อย่างปลอดภัยขึ้น แต่ถ้ารุ่น Swift ของคุณไม่รองรับ CarPlay ก็สามารถติดตั้งหัวเครื่องหลังขายที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้ ร้านแต่งรถหลายแห่งในไทยให้บริการติดตั้งในราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท นอกจากนี้ คนไทยยังนิยมใช้ Android Auto หรือระบบมัลติมีเดียในรถที่รองรับการใช้งานในท้องถิ่น เช่น Mapbox ที่มีระบบนำทางภาษาไทย ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยอัปเกรดประสบการณ์การขับขี่ได้ดีเหมือนกัน
Q
ยางยี่ห้อไหนที่ใช้ได้กับ Suzuki Swift?
ในตลาดไทย ยางรถยนต์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ Suzuki Swift จะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการปรับแต่ง ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นยางแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างบริดจสโตนหรือดันลอป ซึ่งเป็นยางที่หาซื้อได้ทั่วไปในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2022 บางรุ่นใช้ยางซีรีส์ Ecopia ของบริดจสโตน ที่เน้นการประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับสภาพถนนในเมืองและช่วงฤดูฝนของไทย เวลาเลือกซื้อยางเปลี่ยน นอกจากยางแบรนด์เดิมแล้ว คนไทยนิยมเลือกใช้ยางอย่างมีชลิน ซีรีส์ Energy หรือแบรนด์ท้องถิ่นอย่างดีสโตน เพราะราคาดีและเหมาะกับถนนร้อนๆ ของไทย แต่อย่าลืมเช็คขนาดยางให้ตรงกับขนาดเดิมของรถ เช่น 185/55 R16 หรือ 165/80 R14 รวมถึงต้องสังเกตดอกยางและสภาพการสึกหรอด้วย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนควรเลือกยางที่มีดอกยางรีดน้ำดี นอกจากนี้ กฎหมายไทยกำหนดให้ยางต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน TIS เพราะฉะนั้นเวลาซื้อต้องตรวจสอบฉลากให้ชัวร์ว่าได้มาตรฐานความปลอดภัย
Q
รถ Suzuki Swift เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนได้คล่องตัวในซอยแคบๆ หรือที่จอดรถที่คับคั่ง ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงนัก เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด ด้านการออกแบบภายในตัวรถ สวิฟท์มาด้วยความเรียบง่ายและใช้งานได้จริง แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่ก็มีการประกอบที่แน่นหนา สมกับระดับราคา ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานก็มีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และถุงลมนิรภัย 2 ตอน ส่วนรุ่นสูงอาจมีกล้องถอยหลังให้ด้วย แต่จุดที่อาจต้องแลกมาคือพื้นที่เบาะหลังที่ค่อนข้างจำกัด เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือการเดินทางในเมือง แต่ถ้าเดินทางไกลอาจรู้สึกอึดอัด ส่วนระบบกันเสียงในเวลาที่ขับด้วยความเร็วสูงก็ยังมีที่ต้องปรับปรุง ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญ ซึ่งสวิฟท์ทำได้อยู่ในระดับพอใช้ รถคันนี้เหมาะกับวัยทำงานหรือนักศึกษาในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ด้วยความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงที่ต่ำ ทำให้มูลค่ารถมือสองยังอยู่ในระดับดี สำหรับคนไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ ควรเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการจริงๆ และอย่าลืมดูแลรักษาให้ดี ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจ อาจลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้า ยาริส หรือฮอนด้า บรีโอ เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะที่สุด

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
ข้อเสียของ Honda City Hatchback คืออะไร
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อสังเกตบางประการในตลาดไทยที่ผู้บริโภคควรพิจารณา อันดับแรกคือพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังค่อนข้างเล็ก มีความจุเพียง 289 ลิตร ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่มักต้องบรรทุกของขนาดใหญ่ ประการต่อมาคือระบบกันสะเทือนหลังแบบคานบิด ที่อาจลดความนุ่มนวลเมื่อต้องวิ่งบนถนนที่มีสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทย นอกจากนี้ แม้จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร แต่ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของเมืองไทย ประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศอาจลดลง และการควบคุมเสียงรบกวนเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงก็ยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้ต้องพิจารณาควบคู่กับตำแหน่งทางการตลาดของรถรุ่นนี้ ในฐานะรถยนต์ระดับเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานในเมืองเป็นหลัก จุดเด่นด้านความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในเมืองยังถือว่าน่าพอใจ ผู้บริโภคชาวไทยจึงควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานของตน เช่น หากเดินทางไกลบ่อยหรือมีความต้องการใช้พื้นที่มาก อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น แต่ถ้าใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก รถรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดมือสองของไทยถือว่าคงมูลค่าได้ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮอนด้าที่แข็งแกร่งในไทย คุณภาพที่เชื่อถือได้ รวมถึงจำนวนรถที่จำหน่ายออกไปในตลาดค่อนข้างสูง โดยทั่วไปรถอายุ 3 ปีจะยังคงมูลค่าได้ประมาณ 60% แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง เวอร์ชั่นอุปกรณ์ และประวัติการเซอร์วิสด้วย ในตลาดไทยผู้บริโภคมีความต้องการรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กค่อนข้างมาก แถมซิตี้ แฮทช์แบ็กยังประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงไม่แพง สิ่งเหล่านี้ช่วยพยุงมูลค่ารถมือสองได้ดี ถ้าคิดจะซื้อหรือขายรถรุ่นนี้ แนะนำให้เข้าศูนย์บริการตามกำหนดและเก็บหลักฐานการบำรุงรักษาให้ครบถ้วน จะช่วยเพิ่มมูลค่ารถมือสองได้อย่างเห็นได้ชัด ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบสภาพการป้องกันสนิมและระบบแอร์เป็นพิเศษ เพราะส่งผลต่อมูลค่ารถเช่นกัน โดยรวมแล้วซิตี้ แฮทช์แบ็กเป็นรถที่ขายง่ายในตลาดมือสองของไทย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างตกลงราคาได้ไม่ยาก
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคมีกี่ซีซี
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบ็ก รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมกับ 2 ตัวเลือกเครื่องยนต์ คือรุ่น 1.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยเครื่อง 1.0 ลิตร เทอร์โบ VTEC เป็นรุ่นเบนซิน คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร e:HEV เป็นระบบไฮบริด โดยเครื่องยนต์ผลิตกำลัง 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถเพิ่มกำลังได้ถึง 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 27.8 กม./ลิตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ SV และ RS ด้วยความหลากหลายของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในแง่ประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ตามความต้องการของแต่ละคน
Q
เครื่องยนต์ใน Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ แบบแรกคือเครื่องยนต์ 1.5L DOHC i-VTEC แบบสูบธรรมชาติ คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 119 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐาน 5.6L/100km เครื่องยนต์แบบนี้ให้กำลังส่งที่เนียนๆ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองทั่วไป ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้ดี อีกแบบคือระบบไฮบริด 1.5L i-MMD ในรุ่น e:HEV RS ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า แต่แรงบิดสูงถึง 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันได้ดีมากแค่ 3.6L/100km ระบบไฮบริดนี้ผสมผสานจุดเด่นของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากให้กำลังขับเคลื่อนที่มั่นคงแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่ประหยัดน้ำมันหรือต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่แรงกว่า ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กก็มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น
Q
เกียร์แบบใดคือเกียร์ของ Honda City Hatchback
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบที่มาพร้อมระบบเกียร์ต่างกัน สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิเตอร์ เทอร์โบ VTEC ใช้ระบบเกียร์ CVT ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์เนียนๆ ไม่สะดุด พร้อมแรงม้าสูงสุด 122 แรงม้าและแรงบิด 173 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่นไฮบริด 1.5 ลิเตอร์ e:HEV ไม่ได้ระบุประเภทเกียร์ชัดเจน แต่เครื่องยนต์หลักให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มพลังเป็น 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้นไปถึง 27.8 กม./ลิตร มีตัวเลือกรุ่น SV และ RS ระบบเกียร์ CVT ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหล ไม่สะดุด เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล สร้างความรู้สึกสบายขณะขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม