Q

ขนาดยางของ Nissan Almera คืออะไร ตรวจสอบมาตรฐานได้ที่นี่

ยางของ Nissan Almera มีขนาดสำหรับล้อหน้าที่ 195/65 R15 และล้อหลังขนาดเดียวกันคือ 195/65 R15 ขนาดยางนี้ช่วยให้รถมีการยึดเกาะถนนและความมั่นคงในการขับขี่ที่เหมาะสม พร้อมกับยังคำนึงถึงความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันด้วย เลข 195 หมายถึงความกว้างของยางเป็น 195 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้มีพื้นที่สัมผัสถนนที่พอดี ส่วนเลข 65 คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางเทียบกับความกว้าง เป็นอัตราส่วนที่ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากถนนได้ดี ตัวอักษร R หมายถึงโครงสร้างยางแบบเรเดียล หรือเรียกว่ายางโครงสร้างซุ้มล้อ ส่วนเลข 15 หมายถึงขนาดของล้อแม็กซ์ที่ใช้ร่วมกับยางเป็นขนาด 15 นิ้ว ขนาดล้อและยางที่เหมาะสมนี้ส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่อย่างมีนัยสำคัญ โดยในแต่ละรุ่นรถที่มีการตั้งค่าหรือปรับแต่งต่างกัน อาจทำให้การขับขี่และความนุ่มนวลมีความแตกต่างเล็กน้อยตามลักษณะการใช้งานจริง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีหน้าปัดดิจิทัลหรือไม่?
สำหรับรุ่น Nissan Almera 2024 ที่วางขายในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลดิจิทัล TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ภาพคมชัดและสามารถสลับแสดงข้อมูลการขับขี่ได้หลายแบบ อย่างไรก็ตาม รุ่นเริ่มต้นยังคงใช้อุปกรณ์ชี้ตำแหน่งแบบดั้งเดิมพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลขนาดเล็ก การตั้งค่าที่แตกต่างนี้ตอบสนองความต้องการของตลาดไทยในด้านความคุ้มค่า หน้าจอดิจิทัลนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดแสงสะท้อนแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย และสามารถเช็คข้อมูลเช่นอัตราการใช้น้ำมันและความดันลมยางได้อย่างรวดเร็วผ่านปุ่มบนพวงมาลัย ซึ่งเหมาะเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ในสภาพจราจรติดขัดแบบหยุดๆ เริ่มๆ ในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Toyota Yaris Ativ และ Honda City ก็มีฟีเจอร์คล้ายๆ กัน ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามงบประมาณ ที่น่าสนใจคือ Almera เวอร์ชั่นไทยมาพร้อมกับหน้าจอกลาง 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay มาตรฐาน ระบบ NissanConnect นี้ได้รับการปรับแต่งสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย แนะนำให้ผู้บริโภคไทยลองทดสอบการมองเห็นหน้าจอดิจิทัลจากมุมต่างๆ ในโชว์รูมก่อนตัดสินใจ และควรสังเกตว่ารุ่นท็อปอาจมีฟีเจอร์เสริมเช่นกล้องรอบคันที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับรถในซอยแคบๆ ได้อย่างมาก
Q
รถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีรุ่นไฮบริดหรือไม่?
ปัจจุบัน Nissan Almera รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid โดยยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ คู่กับเกียร์ CVT ซึ่งเครื่องยนต์นี้ให้ประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับการขับขี่ในเมืองไทยที่รถติดบ่อยและต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แม้ว่า Almera จะไม่มีรุ่น Hybrid แต่ Nissan ก็มีรถ Hybrid อื่นๆ ในตลาดไทย เช่น Nissan Kicks e-POWER ที่ใช้เทคโนโลยี Hybrid แบบซีรีส์ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อรถโดยตรง ส่วนเครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องปั่นไฟ ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น สำหรับคนไทยที่สนใจรถ Hybrid สามารถติดตามเทคโนโลยี e-POWER ของ Nissan ได้ เพราะเทคโนโลยีนี้ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีโดยเฉพาะในเมือง และไม่ต้องเสียบชาร์จไฟ ใช้งานสะดวกเหมือนรถเบนซินทั่วไป นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้รถ Hybrid และ EV ในตลาดไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตอาจจะมีรุ่น Hybrid เพิ่มเข้ามาอีก
Q
รถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่?
รถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยอย่างแน่นอนมีการติดตั้งระบบ Lane Keep Assist หรือระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ โดยเทคโนโลยีนี้จะใช้กล้องในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทาง เมื่อรถเริ่มเบี่ยงออกจากเลน ระบบจะทำการปรับพวงมาลัยแบบอัตโนมัติเพื่อให้รถอยู่กลางช่องทาง ซึ่งเหมาะมากกับการใช้งานบนถนนทางไกลหรือแม้แต่ในสภาพการจราจรที่ติดขัดบนถนนวงแหวนรอบกรุงเทพฯ เมื่อใช้คู่กับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ได้มาก แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่านี่เป็นเพียงระบบช่วยเหลือ ผู้ขับขี่ยังคงต้องควบคุมรถอยู่เสมอ ในระดับเดียวกัน รุ่นแข่งอย่าง Toyota Yaris Ativ และ Honda City ก็มีเทคโนโลยีคล้ายๆ กัน แต่รายละเอียดการทำงานอาจแตกต่างกันบ้าง เช่น จังหวะที่ระบบจะทำงานหรือความแรงในการปรับพวงมาลัย สำหรับผู้บริโภคไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อรถ แนะนำให้ลองทดลองขับด้วยตัวเองเพื่อเปรียบเทียบ และควรสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการฝึกอบรมการใช้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่จากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นด้วย เพราะสภาพถนนที่แตกต่างกัน เช่น ถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือถนนชนบทที่เส้นแบ่งช่องทางไม่ชัดเจน อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบ นอกจากนี้ Nissan ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยอื่นๆ ใน Almera เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบเตือนจุดบอด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีประโยชน์มากในสภาพการจราจรที่ซับซ้อนแบบไทย
Q
2024 Nissan Almera จะเปิดตัวเมื่อเหร่?
Nissan Almera รุ่นปี 2024 เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 โดยรุ่นนี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์เชิงยุทธศาสตร์สำคัญของ Nissan ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เน้นความประหยัดและการออกแบบให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองไทยเป็นพิเศษ รถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองดี มีการปรับปรุงระบบแอร์และป้องกันสนิมให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย พิเศษไปกว่านั้น Almera 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย พร้อมฟีเจอร์มาตรฐานอย่างกุญแจอัจฉริยะ จอทัชสกรีน 8 นิ้ว และระบบความปลอดภัย Nissan Safety Shield ส่วนรุ่นสูงสุดยังเพิ่มไฟหน้า LED และกล้องรอบคัน ซึ่งทำให้สามารถแข่งขันกับรถในระดับเดียวกันได้ จุดเด่นที่คนไทยจะชอบคือค่าบำรุงรักษาที่ถูกและความทนทานที่น่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวที่อยากได้รถคันแรกหรือวัยทำงานรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
Q
ความแตกต่างระหว่าง Nissan Almera ปี 2023 และ 2024 คืออะไร?
สำหรับรุ่นปี 2023 และ 2024 ของ Nissan Almera ในตลาดไทย ความแตกต่างหลักจะอยู่ที่การอัปเกรดรายละเอียดและการปรับแต่งคอนฟิก รุ่นปี 2024 มีการปรับโฉมเล็กน้อยที่กรอบหน้าตะแกรงและดีไซน์ล้อใหม่ ส่วนภายในบางรุ่นเพิ่มวัสดุหุ้มนุ่มเพื่อเพิ่มความรู้สึกพรีเมียม นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอควบคุมกลางขนาด 8 นิ้วที่ได้รับการอัพเกรดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และรองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย เสริมระบบเตือนการจราจรด้านหลังเพื่อความปลอดภัย ระบบส่งกำลังยังคงใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร แต่ปรับแต่ง ECU ให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้วทั้งสองรุ่นได้รับการพัฒนาเฉพาะเรื่องประสิทธิภาพเครื่องปรับอากาศในสภาพอากาศร้อนและป้องกันสนิมช่วงล่างให้เหมาะกับถนนไทย ที่สำคัญรุ่น Variant แบบตลาดไทยมักจะมีกระจกกันยูวีและพอร์ต USB ชาร์จเร็วซึ่งใช้งานได้จริง แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูม Nissan ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ก่อนตัดสินใจซื้อ และอย่าลืมว่ามีนโยบายลดภาษีรถรักษ์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทยซึ่งส่งผลต่อราคาขายสุดท้ายด้วย
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Nissan Almera รุ่นปี 2024 คือเท่าไหร่?
สำหรับรุ่น Nissan Almera 2024 ที่ประเทศไทย ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างประหยัด เหมาะกับคนที่เน้นความคุ้มค่า ตามระยะบำรุงรักษาที่ Nissan แนะนำและราคาจากศูนย์บริการในไทย ค่าบำรุงรักษาเบื้องต้นเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง พร้อมตรวจเช็คพื้นฐาน ทุก 10,000 กม. หรือทุก 6 เดือน จะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันเครื่องที่เลือกใช้ (น้ำมันแร่ กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์เต็มรูปแบบ) ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่เช่นเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ฟิลเตอร์แอร์ น้ำมันเบรก อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000-6,000 บาท ด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น อาจส่งผลต่อระบบแอร์และแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบเป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพ นอกจากนี้การจราจรในไทยที่ติดขัดบ่อยๆ การเร่งและเบรกซ้ำๆ อาจทำให้ผ้าเบรกและเกียร์สึกเร็วขึ้น การบำรุงรักษาบ่อยขึ้นเล็กน้อยจะช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้ โชว์รูม Nissan ในไทยมีเครือข่ายกว้างขวาง ทำให้สะดวกในการหาอะไหล่แท้และบริการมาตรฐาน แต่ก็มีอู่บริการอื่นที่เสนอทางเลือกค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่า แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ก่อนตัดสินใจ เลือกได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน
Q
Nissan Almera ปี 2024 มีระยะเวลารับประกันนานเท่าไหร่?
สำหรับรถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย ทาง Nissan ได้ให้ระยะเวลารับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน) ซึ่งครอบคลุมส่วนสำคัญของรถยนต์อย่างเครื่องยนต์และเกียร์ นี่ถือเป็นการการันตีถึงความมั่นใจในคุณภาพของ Nissan พร้อมมอบความคุ้มครองหลังการขายให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก เจ้าของรถควรหมั่นตรวจเช็คระบบต่างๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะระบบระบายความร้อน ระบบแอร์ และการป้องกันสนิมใต้ท้องรถ แม้ว่าส่วนเหล่านี้จะไม่รวมอยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน แต่ก็สำคัญมากต่อการใช้งานรถในระยะยาว ส่วนใหญ่แล้วตัวแทนจำหน่าย Nissan ในไทยจะบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและตรวจเช็คฟรีในครั้งแรก แต่หลังจากนั้นควรใช้อะไหล่แท้จาก Nissan เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน ข้อควรรู้คือบางครั้งโปรโมชั่นจากตัวแทนอาจมีเงื่อนไขการรับประกันที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น ตัวแทนจำหน่ายบางรายอาจเสนอแพ็คเกจการรับประกันแบบขยายเวลา ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ ประเทศไทยมีความต้องการรถยนต์ซีดานขนาดเล็กอย่างมากในตลาด และ Almera ก็ได้รับความนิยมเนื่องจากประหยัดน้ำมันและพื้นที่ใช้งานที่กว้างขวาง การทำความเข้าใจนโยบายการรับประกันจะช่วยให้เจ้าของรถวางแผนค่าใช้จ่ายรถยนต์ได้ดีขึ้น
Q
“Nissan Almera ปี 2024 มีระยะห่างจากพื้นเท่าไหร่?”
สำหรับ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีระยะความสูงจากพื้น 160 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าให้ความสะดวกในการขับขี่ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนในกรุงเทพฯ ที่มักมีน้ำท่วมขัง หรือแม้แต่ทางลูกรังแถบภาคเหนือ ที่นั่งขับสบายไม่สะเทือนมากด้วยระบบช่วงล่างแบบ MacPherson ด้านหน้าและคอยล์สปริงด้านหลัง ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนสภาพไม่สมบูรณ์แบบของไทยได้ดี แนะนำให้เช็คสภาพยางบ่อยๆ เพราะระยะความสูงจากพื้นอาจลดลงเมื่อมีน้ำหนักบรรทุกเต็มที่ และที่สำคัญในสภาพอากาศแบบไทย ที่ฝนตกบ่อย การมีระยะความสูงจากพื้นที่เหมาะสมคู่กับยางสภาพดีจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับลุยน้ำหรือถนนลื่นๆ ได้เยอะ
Q
รถยนต์ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีซันรูฟแบบพานอรามาหรือไม่?
รุ่น Nissan Almera 2024 ที่วางขายในตลาดไทยสำหรับรุ่นท็อป อย่าง VL และ VLT นั้นมีการติดตั้งซันรูฟ (sunroof) มาให้ด้วย ซันรูฟแบบนี้ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในรถได้ดีขึ้น แถมยังช่วยระบายอากาศได้สะดวก โดยเฉพาะกับอากาศร้อนในประเทศไทย ที่สำคัญคือทำให้การขับขี่สบายขึ้นมากๆ เลยนะ แต่ต้องบอกก่อนว่าซันรูฟมักจะมีเฉพาะในรุ่นสูงเท่านั้น เพราะงั้นเวลาจะซื้อแนะนำให้เช็คสเปคดีก่อน สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นที่มีซันรูฟแบบนี้ขายดีมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้รู้สึกว่าภายในรถโปร่งขึ้นแล้ว ยังเหมาะมากเวลาออกทริปกลางคืนจะได้มองเห็นดาวสวยๆ ด้วย โดยเฉพาะครอบครัวที่ชอบขับรถเที่ยวไกลๆ ส่วนเรื่องสมรรถนะก็ไม่ต้องห่วง รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงดีพอตัว เหมาะกับทั้งขับในเมืองและออกต่างจังหวัดของไทย ถ้าสนใจอยากได้รถที่มีซันรูฟ แนะนำให้แวะไปทดลองขับที่โชว์รูม Nissan ใกล้บ้านดู จะได้สัมผัสของจริง พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ที่จะช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้นเยอะเลย
Q
ตัวเลือกสีสำหรับ Nissan Almera รุ่นปี 2024 มีอะไรบ้าง?
Nissan Almera รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีตัวเลือกสีสันให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งโทนคลาสสิกอย่างสีขาวไข่มุก สีเงินเมทัลลิก สีดำลึก รวมถึงอาจมีสีสันสดใสที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างสีแดงเพลิงหรือสีน้ำเงินอมเทา แนะนำให้ตรวจสอบแพ็กเกจสีล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่าย Nissan ในพื้นที่ สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกสีอ่อนอย่างขาวไข่มุกเพราะช่วยสะท้อนแสงแดด ลดความร้อนภายในรถได้ดี แถมยังไม่ค่อยแสดงคราบสกปรกเหมือนสีเข้ม ทำให้ดูใหม่ได้ยาวนานกว่า ต้องบอกว่าสีรถไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่อมูลค่ารถมือสองด้วย โดยในตลาดรถมือสองไทยมักนิยมสีโทนเรียบร้อย ส่วนเทคโนโลยีการพ่นสีรถสมัยนี้พัฒนาขึ้นมาก ส่วนใหญ่ใช้ระบบเคลือบหลายชั้น ช่วยป้องกันทั้งรังสี UV และกรดจากฝนได้ดี ซึ่งสำคัญมากสำหรับเมืองร้อนแบบไทย นอกจากความชอบส่วนตัว ยังสามารถพิจารณาถึงรูปลักษณ์ภายนอกของขนาดตัวถังได้อีกด้วย สีสันอ่อนๆ สามารถทำให้รถยนต์ขนาดเล็กอย่าง Almera ดูสง่างามยิ่งขึ้น

ข้อดี

การออกแบบภายนอกโดดเด่นด้วยสไตล์สปอร์ต
การออกแบบภายในดี เน้นความกว้างขวางและยังมีจอแสดงผลขนาดใหญ่และปุ่มเชื่อมต่อจำนวนมาก การประสบการณ์สีไม่น่าเบื่อ
อุปกรณ์ความปลอดภัยสูงสุด รุ่นที่ใช้งานที่สุดมาพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ
เครื่องยนต์ใหม่มีสมรรถนะที่ดีขึ้น การตอบสนองที่ดีที่สุดในด้านพลังงาน
การขับขี่มีฟังก์ชันพื้นฐานทั้งหมด
มีความหลากหลายในการเลือกสีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ต่างกัน

ข้อเสีย

เสียงเครื่องยนต์สูงเวลาความเร็วสูง
CVT ทำงานไม่มีความประณีตและไม่เข้มข้นด้านเรื่องการผลิต, มีปัญหาที่รายละเอียดห้องเครื่อง
พื้นที่ภายในรถไม่สบายเท่าที่คาดหวัง, พื้นที่หัวในแถวหลังมีความรู้สึกถูกกดขี่
มีปัญหาเกี่ยวกับการบริการ มีการร้องเรียนในด้านบริการลูกค้า

Q&A ล่าสุด

Q
อันไหนใหญ่กว่า subaru forester หรือ outback
ในตลาดประเทศไทย Subaru Forester และ Outback เป็น SUV ที่ได้รับความนิยมมากทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงขนาดแล้ว Outback จะใหญ่กว่า Forester นิดหน่อย โดยตัวถังและระยะฐานล้อของ Outback ยาวกว่าเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่บรรจุของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระ ในขณะที่ Forester จะสูงกว่าด้านส่วนหัว ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่าและมุมมองการขับขี่ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือเส้นทางขรุขระ ส่วนระบบขับเคลื่อนทั้งคู่มาพร้อม Symmetrical AWD และเครื่องยนต์ Boxer แบบราบที่ให้การควบคุมและความปลอดภัยสูง เหมาะกับสภาพถนนเปียกและภูมิประเทศแบบภูเขาในไทย นอกจากนี้ Outback ยังมีระยะความกว้างจากพื้นสูงกว่า ทำให้ผ่านถนนลูกรังได้ดี ในขณะที่ Forester ขนาดกะทัดรัดกว่า ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น จำนวนผู้โดยสาร สัมภาระที่ต้องขน หรือสภาพถนนที่ใช้งานเป็นหลัก ส่วนบริการหลังการขายทั้งสองรุ่นในไทยก็พร้อมให้บริการทั่วถึง
Q
ระยะเวลาที่เบรกของซูบารุฟอร์สเตอร์ใช้งานได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของระบบเบรกในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษาตามระยะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้นและรถติดบ่อย แนะนำให้ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกทุก 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี ถ้าผ้าเบรกบางกว่า 3 มิลลิเมตรควรเปลี่ยนทันที ส่วนจานเบรกปกติจะอยู่ได้ประมาณ 60,000-80,000 กิโลเมตร ช่วงฤดูฝนต้องระวังเป็นพิเศษเพราะความชื้นจะทำให้จานเบรกเป็นสนิมและผ้าเบรกสึกเร็วขึ้น การขับบนทางเขาภูเขาที่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงด้วย สัญญาณเตือนว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกได้แก่ เสียงโลหะเสียดสี ระยะเบรกยาวขึ้น หรือไฟเตือนบนหน้าปัด ควรใช้ของแท้จากศูนย์เพื่อให้เข้ากับระบบ ABS ของรถ ระบบเบรกทุกคันคืออะไหล่สิ้นเปลืองทั้งนั้น การทำความสะอาดฝุ่นผ้าเบรกและไม่จอดรถทิ้งไว้หลังล้างรถจะช่วยยืดอายุอะไหล่ได้ ถ้าคุณขับบ่อยๆบนทางลาดชันในกรุงเทพหรือทางเขาสูงในเชียงใหม่ อาจต้องลดระยะการตรวจเช็คให้ถี่ขึ้นอีก 20% จากปกติ
Q
สุบารุฟอเรสเตอร์กว้างเท่าใด
รถ SUV Subaru Forester ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีขนาดความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,815 มิลลิเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดกลางที่ค่อนข้างกว้างขวางในกลุ่มรถ SUV ประเภทนี้ ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย พร้อมทั้งยังให้ความมั่นคงบนถนนได้ดีเยี่ยม สำหรับสภาพการขับขี่ในไทยที่ต้องเผชิญทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชนบท ความกว้างตัวถังขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คนแบบไม่เบียดกันแล้ว ยังไม่กว้างเกินไปจนทำให้ขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นได้ลำบาก อย่างไรก็ตาม ความกว้างตัวถังมีผลต่อความสะดวกในการขับในซอยแคบๆ ดังนั้นผู้บริโภคไทยควรพิจารณาจากเส้นทางที่ใช้ประจำด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตรของฟอเรสเตอร์ทำงานได้ดีบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนของไทย ส่วนระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตรก็เหมาะกับถนนลูกรังบางสายในประเทศ หากเปรียบเทียบกับรถ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Honda CR-V ที่มีความกว้าง 1,855 มม. และ Toyota RAV4 ที่ 1,854 มม. ฟอเรสเตอร์ถือว่ามีขนาดตัวถังที่กะทัดรัดกว่า แต่ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่เหมาะสม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในใกล้เคียงกัน
Q
วิธีเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ subaru forester
เวลาขับรถ Subaru Forester ในประเทศไทย ถ้าต้องการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD โดยปกติแล้วสามารถปรับได้ที่ปุ่มเลือกโหมดขับขี่บนคอนโซลกลาง ตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีของรถ สำหรับรุ่นใหม่ๆ อาจมีฟังก์ชัน X-MODE ซึ่งปุ่มจะอยู่แถวๆ เกียร์ ระบบนี้จะช่วยปรับการกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ให้เหมาะสมอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีระบบช่วยลงทางลาดชัน เหมาะมากๆ สำหรับขับในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทยหรือเวลาถนนลื่นช่วงฤดูฝน ต้องบอกเลยว่า Forester ออกแบบมาให้ระบบสี่ล้อทำงานแบบเต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ X-MODE จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาพถนนที่เกาะยางไม่ดีเป็นพิเศษ แนะนำให้ปิดโหมดนี้เวลาขับบนถนนปกติเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนเจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของเราอาจทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็ว และช่วงน้ำท่วมต้องระวังไม่ขับลุยน้ำลึกเกิน 500mm เด็ดขาด เดี๋ยวจะเสียชิ้นส่วนระบบส่งกำลังเข้าไป ถ้ารุ่นของคุณมีระบบ SI-DRIVE การเลือกโหมด "SPORT" จะช่วยเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานพื้นฐานของระบบสี่ล้อนะจ๊ะ
Q
ราคาของซูบารุฟอร์เรสเตอร์เท่าไหร่
ราคารถ Subaru Forester ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 1.4 - 1.8 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอราคาที่อัปเดตที่สุด Forester เป็น SUV ที่เน้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มเวลากับความประหยัดพื้นที่ เหมาะสมกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและเส้นทาง複雜ของไทย นอกจากนี้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight ที่มาพร้อมมาตรฐานยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ผู้บริโภคไทยควรทราบว่าภาษีนำเข้ารถอาจส่งผลต่อราคาสุดท้าย และแม้เครื่องยนต์แบบ Boxer ของซูบารุจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและเพิ่มความคล่องตัว แต่ค่าซ่อมอาจสูงกว่าเครื่องยนต์แบบทั่วไปเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาด EV ในไทยเติบโตเร็ว แต่ Forester ยังคงเป็นรุ่นน้ำมันเป็นหลัก หากสนใจรุ่นไฮบริดควรตรวจสอบว่ามีจำหน่ายในไทยหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V และควรทดลองขับเพื่อสัมผัสพื้นที่ภายในและความรู้สึกในการขับขี่ตามความต้องการส่วนตัว
ดูเพิ่มเติม