Q

ราคา Maserati Ghibli เท่าไหร่

ราคาของ Maserati Ghibli จะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยรุ่นปี 2024 มีราคาดังนี้: Ghibli 334 Ultima 5,115,000 บาท, Ghibli Modena Ultima Q4 3,394,500 บาท, Ghibli F Tributo Q4 4,042,090 บาท, Ghibli S 2,541,690 บาท, Ghibli GranSport 2,687,390 บาท, Ghibli Modena S 2,631,900 บาท, Ghibli Modena 2,755,900 บาท, Ghibli Modena Q4 2,870,600 บาท; ส่วนรุ่นปี 2025 Ghibli Modena Ultima Q4 AWD มีราคาอยู่ที่ 3,543,300 บาท
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความแตกต่างระหว่าง Maserati Ghibli และ Quattroporte คืออะไร
ความแตกต่างระหว่าง Maserati Ghibli และ Quattroporte อยู่ที่ขนาด ตำแหน่งทางการตลาด และสมรรถนะ Ghibli มีขนาดกะทัดรัดกว่า มุ่งเน้นความสปอร์ตและกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาว ในขณะที่ Quattroporte มีขนาดใหญ่กว่า เน้นความหรูหราและความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถซีดานหรูขนาดใหญ่ ในด้านสมรรถนะ Quattroporte มักติดตั้งระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลังยิ่งกว่า และมีอุปกรณ์ที่หรูหรามากกว่า ในแง่การออกแบบ Ghibli มีเส้นสายที่ลื่นไหลและดูปราดเปรียว ในขณะที่ Quattroporte ดูภูมิฐานและมีความสง่างาม โดยรวมแล้ว ทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันหลายประการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
Q
เครื่องยนต์ตัวไหนที่ใช้ใน Maserati Ghibli
Maserati Ghibli มักมาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ ซึ่งทั้งคู่เป็นเครื่องยนต์ 3.0T V6 เทอร์โบคู่ แต่มีการปรับจูนที่แตกต่างกัน รุ่นแรกให้กำลังประมาณ 350 แรงม้า ขณะที่รุ่นที่ปรับจูนเพิ่มสามารถให้กำลังได้สูงถึง 430 แรงม้า การตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์จะเปลี่ยนไปตามรุ่นย่อยและเวอร์ชันของรถแต่ละคัน
Q
ค่าใช้จ่ายในการบริการ Maserati Ghibli คือเท่าใด
ค่าใช้จ่ายในการบริการ Maserati Ghibli อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปกติแล้ว ค่าบำรุงรักษาแบบทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท แต่หากต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญหรือซ่อมแซมเชิงลึก ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ค่าบริการที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของรถยนต์ รายการซ่อมแซม และต้นทุนแรงงานรวมถึงอะไหล่ในพื้นที่นั้นๆ
Q
Maserati Ghibli รับน้ำมันเครื่องเท่าไหร่ในหน่วยควอต
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Maserati Ghibli อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นและการตั้งค่าเครื่องยนต์ แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 8 ลิตร ในสภาพการใช้งานในประเทศไทย แนะนำให้เติมและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามคู่มือบำรุงรักษาของรถยนต์อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาสมรรถนะและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ที่ดี
Q
Maseratis เหมาะสำหรับการขับขี่ประจำวันหรือไม่?
Maserati ไม่ค่อยเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากในประเทศไทย Maserati มีราคาสูง ค่าบำรุงรักษาแพง และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้การใช้รถรุ่นนี้สำหรับการเดินทางประจำวันไม่ค่อยประหยัด นอกจากนี้ สภาพถนนและการจราจรในประเทศไทยที่ซับซ้อนยังทำให้สมรรถนะสูงของ Maserati ไม่สามารถแสดงออกได้เต็มที่ อีกทั้งพื้นที่ภายในและการจัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอาจไม่ตอบโจทย์เท่ากับรถที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม หากคุณมองหาประสบการณ์ขับขี่ระดับพรีเมียมและแบรนด์หรู Maserati ก็สามารถเป็นตัวเลือกสำหรับการใช้งานประจำวันได้เช่นกัน
Q
Maserati Ghibli มีปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคืออะไร?
ในตลาดประเทศไทย ปัญหาที่พบบ่อยของ Maserati Ghibli คือความผิดปกติเล็กน้อยในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถอาจมีอาการค้างหรือการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร นอกจากนี้ บางรุ่นของเครื่องยนต์อาจพบปัญหาการใช้น้ำมันเครื่องที่มากเกินไปเล็กน้อย อีกทั้งวัสดุตกแต่งภายในบางชิ้นอาจมีความทนทานที่ไม่แน่นอน
Q
Maserati Ghibli รักษาค่าของตัวเองได้หรือไม่?
Maserati Ghibli มีความคุ้มค่าตลาดที่ค่อนข้างดีในประเทศไทย สาเหตุหลักเป็นเพราะชื่อเสียงในฐานะแบรนด์หรู การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และสมรรถนะที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ระดับความคุ้มค่าตลาดยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพการใช้งาน ระยะทางการขับขี่ ประวัติการบำรุงรักษา และความต้องการในตลาดของรุ่นรถ โดยทั่วไปแล้ว หากรถได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ระยะทางการขับขี่น้อย และความต้องการของตลาดยังคงเสถียร ความคุ้มค่าตลาดก็จะดีด้วย
Q
Maserati Ghibli มีราคาซ่อมแพงหรือไม่?
Maserati Ghibli มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ค่อนข้างสูงในประเทศไทย เนื่องจากเป็นรถยนต์หรูหรา ชิ้นส่วนอะไหล่และบริการซ่อมมักมีราคาสูง ความซับซ้อนของเทคโนโลยีในรถหรูประเภทนี้และข้อกำหนดที่เข้มงวดในด้านคุณภาพของชิ้นส่วนและทักษะช่างซ่อมทำให้ค่าซ่อมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามประเภทของงานซ่อมที่ต้องดำเนินการ
Q
Maserati Ghibli มีความหรูหราหรือไม่
Maserati Ghibli ถือเป็นรถยนต์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราในตลาดประเทศไทย ด้วยการออกแบบภายนอกที่สง่างามและโฉบเฉี่ยว เส้นสายที่ลื่นไหล ช่วยสร้างความมีเสน่ห์อันโดดเด่น ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและงานฝีมือที่ประณีต มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและหรูหรา อีกทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ยังยอดเยี่ยม สามารถมอบความเร้าใจในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยรวมแล้ว Maserati Ghibli ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์หรูที่น่าจับตามองในตลาดรถยนต์ประเทศไทย
Q
เท่าไหร่สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันของ Maserati Ghibli?
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสำหรับ Maserati Ghibli จะแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย โดยปกติในประเทศไทย การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบทั่วไป รวมถึงไส้กรองน้ำมันเครื่องและค่าแรงจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรดสูงหรือดำเนินการในศูนย์บริการรถยนต์หรูโดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 8,000 บาทหรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ ราคาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่และศูนย์บริการที่เลือกใช้

ข้อดี

เครื่องยนต์ที่แข็งแรงให้กำลังขับรถที่ทรงพลัง
ห้องโดยสารที่ประณีต ผลิตด้วยวัสดุระดับสูง
การออกแบบครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร มีความโดดเด่นสูง
ยี่ห้อรถให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของที่แรง

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานเพิ่มขึ้น
ส่วนประกอบพลาสติกบางส่วนดูถูกๆ และแตกหักง่าย
ระยะห่างออกเท้าด้านหลังอาจรู้สึกแคบเล็กน้อย
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมสูง

Q&A ล่าสุด

Q
ราคามือสองของ Denza D9 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ DENZA D9 โดยตรง แต่รุ่นใหม่ของ DENZA D9 ในตลาดไทยมีหลายเวอร์ชัน ได้แก่ DENZA D9 Premium 2024 ราคาขาย 1,999,900 บาท และ DENZA D9 Performance AWD 2024 ราคาขาย 2,699,900 บาท ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน กิโลเมตรที่วิ่ง สภาพรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด โดยรถที่อายุใช้งานสั้น วิ่งน้อย และสภาพดี มักมีราคาสูงกว่า ส่วนรถที่มีประวัติอุบัติเหตุหรือสภาพไม่ดี ราคาจะลดลงอย่างมาก หากต้องการทราบราคามือสองที่แม่นยำ แนะนำให้ติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในท้องถิ่น หรือติดต่อผู้จำหน่ายรถมือสองที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการค่ะ
Q
ความดันลมยางของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 เป็น MPV พลังงานใหม่ระดับพรีเมียม มีค่าความดันลมยางมาตรฐานแนะนำอยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (33-36 psi) ซึ่งค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันตามรุ่นรถหรือขนาดยาง ควรอ้างอิงข้อมูลจากป้ายที่เสากลางประตูหรือคู่มือฉบับภาษาไทย เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย ควรปรับความดันลมยางตามฤดูกาล โดยในฤดูร้อนสามารถลดความดันลง 0.1-0.2 บาร์ เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและการระเบิดของยาง ส่วนในฤดูฝนหรือก่อนเดินทางไกลควรตรวจสอบความดันให้คงที่ สภาพถนนในไทยมีทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและถนนชนบทที่ซับซ้อน การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และยืดอายุการใช้งานยาง หากบรรทุกน้ำหนักมากหรือใช้ความเร็วสูง สามารถเพิ่มความดันขึ้นประมาณ 0.1 บาร์ กฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ยางที่ผ่านมาตรฐาน TIS และระบบตรวจจับความดันลมยาง (TPMS) มีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้น ควรตรวจวัดความดันอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเฉพาะก่อนและหลังฤดูฝน เพื่อป้องกันปัญหายางสึกหรอเกินไปหรือแตกร้าวบริเวณแก้มยาง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยและการดูแลรักษารถยนต์อย่างมาก
Q
ขนาดยางของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 มีขนาดยางล้อหน้าเป็น 235/60 R18 และยางล้อหลังก็มีขนาดเดียวกันคือ 235/60 R18 ขนาดยางนี้มีคุณสมบัติและข้อดีหลายประการ โดยอัตราส่วนแก้มยาง 60 ทำให้แก้มยางค่อนข้างหนา ซึ่งช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ทำให้ประสบการณ์การขับขี่และโดยสารนุ่มนวลขึ้น ขอบล้อขนาด 18 นิ้วมีขนาดที่เหมาะสม ทั้งด้านความสวยงามและการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ขนาดยางนี้ยังเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาด ทำให้การเปลี่ยนยางในอนาคตมีตัวเลือกมากมายและราคามีความหลากหลาย อีกทั้งยางขนาดนี้ยังทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างของรถได้ดี ช่วยให้รถมีความมั่นคงและการควบคุมที่ดีขณะขับขี่อีกด้วย
Q
Denza D9 คุ้มค่าหรือไม่ มาดูจุดเด่นและฟังก์ชันกัน
Denza D9 เป็นรถ MPV พลังงานไฟฟ้าหรูที่น่าสนใจ ราคาของรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าอยู่ที่ 1,999,900 บาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อราคา 2,699,900 บาท รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีกำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ และระยะทางขับขี่ได้ 600 กิโลเมตร รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีกำลังรวม 275 กิโลวัตต์ ระยะทางขับขี่ 580 กิโลเมตร ตัวรถมีขนาดยาว 5,250 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร สูง 1,920 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร ใช้การจัดวางที่นั่งแบบ 2+2+3 รวม 7 ที่นั่ง ภายในกว้างขวาง ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง Dynaudio 14 ตัว ระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 8 จุด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) อย่างไรก็ตาม รถยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ซึ่งลดสเปกลงเมื่อเทียบกับรุ่นสูงในจีน และมีเสียงรบกวนบางส่วนจากการใช้งาน เช่น เสียงเบรกหรือเสียงปัดน้ำฝน โดยรวม Denza D9 มีข้อดีในด้านพลังงานไฟฟ้าและดีไซน์ที่ดึงดูดใจ สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละคนว่าคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
Q
เมื่อไรคือวันเปิดตัว Denza D9
Denza D9 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 โดยรุ่นที่เปิดตัวในตลาดไทยครั้งแรกคือรุ่น Premium-AWD ซึ่งเป็นรถ MPV พลังงานไฟฟ้าระดับหรูที่มีความยาวตัวถังมากกว่า 5.25 เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์ (ประมาณ 368 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.9 วินาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า คือ DENZA D9 Premium 2024 ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยวแบบขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 9.5 วินาที และระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าตามที่ระบุอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 600 กิโลเมตร ทั้งสองรุ่นติดตั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery และระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ที่สามารถรองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี
ดูเพิ่มเติม