Q
BYD Sealion 7 มือสองราคาเท่าไหร่?
ตอนนี้ราคามือสองของ BYD Sealion 7 ในไทยยังขึ้นอยู่กับสภาพรถ ปีที่ผลิต ระยะทาง และรุ่นย่อยที่เลือก เนื่องจากรถรุ่นนี้เพิ่งเริ่มวางขายในไทยช่วงปี 2024 ทำให้ยังมีรถในตลาดมือสองไม่มากนัก
จากการประเมินโดยอิงตามอัตราการเสื่อมราคาของรถ SUV ไฟฟ้าทั่วไป รถที่อายุประมาณ 1 ปี วิ่งมาแล้วประมาณ 10,000–20,000 กิโลเมตร ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.5–1.8 ล้านบาท (จากราคาป้ายแดง 2–2.5 ล้านบาท)
ถ้าเป็นรถทดลองขับของโชว์รูม หรือเป็นรุ่นท็อปที่ใช้งานน้อย อย่างรุ่น Premium อาจมีราคาลดลงมาเหลือประมาณ 1.4–1.6 ล้านบาท
แต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบ สภาพแบตเตอรี่ ให้ดี เพราะแม้ BYD จะรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กม. แต่แบตเตอรี่ที่เสื่อมมากอาจส่งผลต่อระยะทางวิ่ง
ผู้ซื้อยังสามารถใช้สิทธิ์ต่าง ๆ ที่เหลือจากเจ้าของเดิมได้ เช่น การรับประกัน หรือสิทธิ์ใช้งานสถานีชาร์จฟรี (ถ้ามี) แต่ต้องเช็กให้แน่ใจว่าเจ้าของเดิมโอนสิทธิ์เหล่านี้ให้แล้ว
แนะนำให้เปรียบเทียบราคารถจากแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง CARRO, One2Car และควรเลือกรถที่ยังอยู่ในระยะรับประกันของศูนย์ พร้อมขอ รายงานสุขภาพแบตเตอรี่ (EV Battery Health Report) เพื่อความมั่นใจว่าแบตยังมีประสิทธิภาพดี
ในอนาคตเมื่อมีรถใหม่ในตลาดมากขึ้น ตลาดรถมือสองของรุ่นนี้จะเริ่มคึกคักขึ้น แต่ระยะสั้นนี้ ราคายังถือว่าค่อนข้างนิ่งค่ะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ BYD Sealion 7 มีอะไรบ้าง?
BYD Sealion 7 อาจมีข้อเสียอยู่บ้างตามความคิดเห็นของผู้ใช้งานบางส่วน เช่น เวลาที่เปิดแอร์อาจมีเสียงแปลกๆ ดังออกมา ทำให้รู้สึกรบกวนขณะขับขี่
ในเรื่องของเบาะนั่ง มีคนพบว่าเบาะนิ่มจนยุบง่าย พอนั่งนานๆ อาจรู้สึกปวดหลัง และถ้าใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เบาะยังอาจเกิดสนิมได้ด้วย
ระบบหน้าจอและซอฟต์แวร์ในรถก็มีปัญหาจุกจิก เช่น มีบั๊กเยอะ บางครั้งอัปเดตระบบแล้วฟังก์ชันชาร์จไร้สายหายไป และสัญญาณอินเทอร์เน็ตในรถก็ไม่ค่อยเสถียร
ในส่วนของระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้ใช้บางคนที่ต้องเดินทางไกล ทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการเดินทางไกล
อีกจุดหนึ่งคือความสูงของใต้ท้องรถค่อนข้างต่ำ พอขับผ่านถนนขรุขระหรือเนินต่างๆ อาจโดนขูดได้ง่าย ซึ่งมีผลต่อความสะดวกในการใช้งานในสภาพถนนที่หลากหลายค่ะ
Q
BYD Sealion 7 จัดอยู่ในกลุ่มรถประเภทไหน?
BYD Sealion 7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV ที่จัดอยู่ในกลุ่ม D-Segment โดยเฉพาะรุ่นนี้ถือเป็นรถ SUV ไฟฟ้าล้วน (EV) ที่มีการออกแบบและวางตำแหน่งให้เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว
รุ่นนี้เปิดตัวพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ BYD e-Platform 3.0 EVO ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการชาร์จ ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 200KW ทำให้สามารถชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% ได้ภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานจริง
ในด้านสมรรถนะ มอเตอร์ถูกวางไว้ด้านหลัง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้การเร่งแซงทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 225 กม./ชม.
ดีไซน์ตัวรถแบบ SUV ที่ยกสูงช่วยให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัว และยังมาพร้อมเทคโนโลยีโครงสร้างแบตเตอรี่แบบรวมกับตัวถัง (CTB – Cell to Body) ช่วยให้โครงสร้างรถแข็งแรงมากขึ้น โดยมีค่าความแข็งแรงการบิดตัวรถสูงถึง 40,000 นิวตันเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกระดับค่ะ
Q
ราคาขายต่อของ BYD Sealion 7 คือเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของ BYD Sealion 7 จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ระยะทางที่ขับไปแล้ว สภาพรถ ความนิยมในตลาด รวมถึงมีออปชันหรืออัปเกรดเพิ่มเติมหรือไม่
ตอนนี้ BYD Sealion 7 เพิ่งเปิดตัวในช่วงปี 2024–2025 ยังถือว่าใหม่อยู่ในตลาด รถมือสองเลยยังมีไม่เยอะ และข้อมูลราคาขายต่อก็ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
ตัวรถมีหลายรุ่น เช่น รุ่นขับหลังแบบพรีเมียม และรุ่นขับสี่แบบสมรรถนะสูง ถ้ารถอยู่ในสภาพดีมาก ใช้งานน้อย ก็มีโอกาสขายได้ราคาดี อาจจะใกล้เคียงกับราคาลดจากป้ายแดง แต่ถ้าขับมาเยอะ มีรอย มีปัญหา หรือหมดประกันแล้ว ราคาก็จะตกลงไปอีก
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ “ความต้องการในตลาด” ถ้าคนกำลังมองหารถ EV มือสองเยอะ แต่รถในตลาดมีน้อย ราคาก็จะดีขึ้น แต่ถ้ามีเยอะจนเกินไป หรือรุ่นใหม่เข้ามาแทน ราคาก็อาจตกได้เหมือนกัน
ราคาป้ายแดงของ BYD Sealion 7 ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1,149,900 – 1,399,900 บาท ส่วนราคามือสองจะลดลงเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพและปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด
ถ้าอยากรู้ราคาที่แม่นยำ แนะนำให้ลองเช็กกับเต็นท์รถมือสอง หรือแพลตฟอร์มขายรถออนไลน์ต่างๆ เพื่อดูราคาเฉลี่ยในตลาดจริงค่ะ
Q
BYD Sealion 7 มีกี่ CC?
BYD Sealion 7 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (EV) จึงไม่ได้วัดสมรรถนะด้วยหน่วยซีซี (CC) แบบรถยนต์เครื่องยนต์น้ำมัน แต่จะดูที่กำลังมอเตอร์ แรงม้า แรงบิด และความจุของแบตเตอรี่เป็นหลัก
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะใช้มอเตอร์แม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 313 แรงม้า ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงถึง 390 กิโลวัตต์ หรือราว 530 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมากสำหรับรถ SUV ไฟฟ้า
ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมเฟอร์โรฟอสเฟต (LFP) ความจุ 82.5 kWh รองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% แค่ประมาณ 0.53 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้คล่องตัว ไม่ต้องรอนาน
นอกจากนี้ BYD Sealion 7 ยังมาพร้อมระบบช่วงล่างและระบบเบรกที่ออกแบบมาอย่างมั่นคง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสบายตลอดทางค่ะ
Q
BYD Sealion 7 ใช้ระบบเกียร์ประเภทไหน?
BYD Sealion 7 ใช้ระบบเกียร์แบบ EV ที่มีเกียร์เดียว ซึ่งเป็นการออกแบบเฉพาะสำหรับรถไฟฟ้า แตกต่างจากเกียร์รถน้ำมันแบบเดิมค่อนข้างมาก มันถูกออกมาให้ทำงานร่วมกับลักษณะการส่งกำลังของรถไฟฟ้าได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับเกียร์แบบเดิม ระบบเกียร์นี้มีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า ช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการส่งกำลัง ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น และส่งผลให้รถวิ่งได้ไกลขึ้น แถมการออกแบบเกียร์เดียวยังทำให้การขับขี่สะดวกขึ้น ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ให้ความรู้สึกการขับที่ลื่นไหล โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมือง จะช่วยลดภาระการขับขี่ได้มาก ทำให้การขับรถรู้สึกสบายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
Q
BYD Sealion 7 มีขนาด PCD เท่าไหร่?
PCD ของ BYD Sealion 7 คือ 5x120 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับรถบางรุ่นของ BMW และ MINI ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยนล้อแม็กในไทย สามารถเลือกแม็กรุ่นที่มี Offset อยู่ในช่วง +35 ถึง +45 ได้ (โดยค่า Offset เดิมจากโรงงานคือ +40)
แต่อย่าลืมว่า ตามกฎหมายจราจรของไทย ห้ามให้ขอบล้อยื่นเกินตัวถังรถ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย
ถ้าคุณอยากอัปเกรดขนาดล้อแม็ก แนะนำให้ใช้ขนาดเท่าเดิมจากโรงงานคือ 20 นิ้ว (ยางขนาด 255/50 R20) เพราะถ้าเปลี่ยนขนาดไปมาก อาจทำให้ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางทำงานผิดพลาด และมีผลต่อการรับประกันรถด้วย
ศูนย์บริการ BYD ที่ได้รับอนุญาตในไทย (เช่น BYD Rama 9 ในกรุงเทพฯ) มีบริการเปลี่ยนแม็กแท้จากโรงงาน และช่วยตรวจสอบว่าแม็กจากที่อื่นเข้ากับรถได้หรือไม่
ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่ฝนตกบ่อย แนะนำให้ใช้แม็กเดิมจากโรงงาน เพราะดีไซน์แบบอากาศพลศาสตร์ (aerodynamic) ของแม็กเดิมช่วยให้รถวิ่งได้นานขึ้นเล็กน้อย
ข้อควรระวัง: ถ้าเปลี่ยนไปใช้แม็กที่ไม่ใช่ของแท้จาก BYD แนะนำให้ เช็กลูกน็อตทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร เพราะอุณหภูมิร้อนจัดของถนนในไทย อาจทำให้โลหะล้าเร็วกว่าปกติค่ะ
Q
BYD Sealion 7 รองรับ Apple CarPlay ไหมคะ?
BYD Sealion 7 รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย
ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วที่หมุนได้ของรถ เพื่อใช้งานแผนที่นำทาง เพลง หรือโทรศัพท์ได้อย่างลื่นไหล รองรับตั้งแต่ iOS 12 ขึ้นไป และโดยรวมถือว่าทำงานได้ดีทั้งในแง่ความลื่นและความเข้ากันได้
อย่างไรก็ตาม รถล็อตแรกบางคันอาจต้องนำไปที่ศูนย์บริการ BYD (เช่น BYD สาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ) เพื่ออัปเกรดระบบก่อน จึงจะเปิดใช้ CarPlay ได้ ซึ่งบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้สอบถามพนักงานขายเกี่ยวกับเวอร์ชันระบบก่อนตัดสินใจซื้อ
ถึงแม้จะไม่เชื่อมต่อ CarPlay ตัวรถก็ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้ตามปกติ
หากเจอปัญหาเชื่อมต่อไม่ได้ ลองรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายในรถ หรือเปลี่ยนสาย USB (พอร์ตอยู่ในกล่องเก็บของตรงกลาง มีหัวแบบ USB-C)
เนื่องจากอากาศในไทยค่อนข้างร้อน ถ้าจอดกลางแดดนาน ๆ อาจทำให้หน้าจอค้างหรือช้าเป็นช่วง ๆ แนะนำให้ใช้ม่านบังแดดป้องกันจอกลางไว้ด้วย
ปล. รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ระบบเดียวกัน เช่น BYD Atto 3 และ Dolphin ก็รองรับ Apple CarPlay เหมือนกัน และการใช้งานคล้าย ๆ กันค่ะ
Q
ยางรถของ BYD Sealion 7 เป็นยี่ห้ออะไรคะ?
ยางติดรถเดิมของ BYD Sealion 7 ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่มาจากแบรนด์ Continental (คอนติเนนทอล) หรือ Michelin (มิชลิน)
โดยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่เลือก เช่น
• รุ่นท็อปอาจได้ยางแบบนุ่มเงียบพิเศษ เช่น Michelin Primacy
• รุ่นมาตรฐานอาจใช้ยางสมดุลเน้นทนทาน เช่น Continental ContiPremiumContact
ขนาดยางที่ติดรถมาจากโรงงานมักจะอยู่ที่ประมาณ 235/50 R19 (อาจต่างกันเล็กน้อยตามรุ่น) ซึ่งเป็นขนาดที่ออกแบบมาให้รองรับแรงบิดสูงของรถไฟฟ้าได้ดี ขณะเดียวกันก็ยังนั่งสบาย
เนื่องจากสภาพอากาศในไทยร้อนและฝนตกบ่อย แนะนำให้:
• ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ (รถ BYD มีระบบตรวจวัดลมยางอัตโนมัติอยู่แล้ว)
• สลับยางทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร เพื่อให้สึกเท่า ๆ กัน
• ช่วงหน้าฝนให้เน้นเรื่องรีดน้ำของยางด้วย
ถ้าจะเปลี่ยนยางนอกเหนือจากยี่ห้อเดิม ตัวเลือกที่คนนิยมในไทย เช่น:
• Bridgestone Alenza (นุ่ม เงียบ เหมาะขับทางไกล)
• Pirelli Scorpion Verde (รีดน้ำดี เหมาะกับฤดูฝน)
ราคาประมาณ 8,000 – 12,000 บาทต่อเส้น (รวมติดตั้ง)
ถ้าเปลี่ยนยาง ต้องตั้งค่า TPMS ใหม่ด้วย (ระบบแจ้งเตือนลมยาง) ซึ่งศูนย์บริการจะมีอุปกรณ์เฉพาะให้บริการ
แนะนำให้เปลี่ยนยางที่ศูนย์ BYD โดยตรง เช่น BYD สาขา Siam ในกรุงเทพฯ เพื่อรับสิทธิ์ประกันต่อเนื่อง และควรเก็บใบเสร็จไว้ เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงในอนาคตค่ะ
Q
BYD Sealion 7 เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันที่นี่เลยค่ะ
BYD Sealion 7 ถือเป็นรถที่น่าสนใจและมีข้อดีหลายอย่าง
ดีไซน์ภายนอกมาในแนวคิด “Ocean Aesthetics” หรือความงามแบบทะเล มีทรงท้ายลาดแบบสปอร์ต และไฟท้ายแบบเส้นยาวทั้งแถบ ทำให้ดูทันสมัยและโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ภายในกว้างขวาง ด้วยระยะฐานล้อ 2,930 มม. ไม่ว่าจะนั่งด้านหน้า หรือด้านหลังก็รู้สึกสบาย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังก็ใหญ่ถึง 500 ลิตร ใช้ใส่ของเดินทางหรือของใช้ประจำวันได้สบาย
เรื่องสมรรถนะก็ไม่ธรรมดา มีให้เลือกทั้งขับหลังและขับสี่ล้อ
• รุ่นขับหลัง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที
• รุ่นขับสี่ล้อ แรงสุด วิ่งจาก 0-100 กม./ชม. แค่ 4.5 วินาทีเท่านั้น!
ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนก็ถือว่าดีมาก:
• รุ่นขับหลัง วิ่งได้สูงสุด 567 กม.
• รุ่นขับสี่ล้อ ได้ 542 กม.
เพียงพอสำหรับใช้ในเมือง หรือไปเที่ยวใกล้ ๆ ได้สบาย
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม มีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติหลายอย่าง พร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุด เพิ่มความอุ่นใจทุกการเดินทาง
หน้าจอกลางใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพงจาก DYNAUDIO ถึง 12 ตัว ให้ประสบการณ์ภาพและเสียงระดับพรีเมียม
แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อย:
• บางคนพบว่าเสียงลมและเสียงยางตอนขับเร็วค่อนข้างชัด
• ระบบหน้าจอและสั่งงานด้วยเสียงยังไม่ลื่นเท่าที่ควร มีบางช่วงที่ตอบสนองช้า
Q
ความกว้างของ BYD Sealion 7 คือเท่าไหร่?
BYD Sealion 7 มีความกว้างถึง 1,925 มม. ซึ่งจัดอยู่ในระดับรถยนต์คลาส D ความกว้างตัวถังขนาดนี้ช่วยสร้างพื้นที่ภายในที่กว้างขวางโดยเฉพาะด้านความกว้าง ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนขับหรือผู้โดยสารแถวหน้า รวมถึงผู้โดยสารแถวหลัง ก็จะมีพื้นที่เคลื่อนไหวบริเวณไหล่และข้อศอกที่เพียงพอ ลดความรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ตัวถังที่กว้างยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้ง จะให้ความรู้สึกทรงตัวที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและความนุ่มนวลขณะขับขี่
Q&A ล่าสุด
Q
HR-V 2022 ราคาเท่าไหร่
รถยนต์ Honda HR-V รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีเฉพาะรุ่น Hybrid เท่านั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยคือ E, EL และ RS ราคาเริ่มต้นที่ 979,000 บาท ส่วนรุ่นสูงสุดราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท HR-V รุ่นปี 2022 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและมีฟังก์ชันครบครันสำหรับทุกคน โดย HR-V ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดใช้ระบบขับเคลื่อน e:HEV i-MMD Full Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ Atkinson Cycle i-VTEC ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เพื่อส่งกำลังไปยังล้อหน้าอีกทั้ง Honda Thailand ยังให้บริการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 10 ปี พร้อมรับประกันระบบ Hybrid 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง หากคุณกำลังมองหารถคันใหม่ สามารถไปที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสอบถามราคาจริงและโปรโมชั่นต่างๆได้เลยครับ
Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda HRV 2022 และ 2023 คืออะไร
Honda HR-V รุ่นปี 2023 เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2022 ในตลาดไทย การปรับปรุงหลักอยู่ที่ด้านการออกแบบและเทคโนโลยี โดยภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์คมชัดและกระจังหน้าที่ออกแบบใหม่ ทำให้รูปลักษณ์สอดคล้องกับภาษาการออกแบบล่าสุดของ Honda พร้อมเพิ่มตัวเลือกสีภายนอกใหม่อย่างสีเทาเมทัลลิกเข้ม ภายในห้องโดยสารรุ่นปี 2023 ได้อัปเกรดจอสัมผัส 7 นิ้ว และติดตั้งระบบ Honda CONNECT เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทยและระบบนำทางแบบเรียลไทม์ ด้านความปลอดภัยเพิ่มระบบ Honda SENSING ครบชุดในทุกรุ่นย่อย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ขุมพลังในตลาดไทยยังคงใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i VTEC จับคู่เกียร์ CVT แต่รุ่นปี 2023 ได้ปรับปรุงการตอบสนองของคันเร่งและการเก็บเสียงให้ดีขึ้น สำหรับสภาพการใช้งานในไทย รุ่นปี 2023 ยังได้ปรับปรุงการทำงานของระบบควบคุมแรงฉุดเกาะถนนให้เหมาะกับถนนลื่นในช่วงฤดูฝน และระบบปรับอากาศก็ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นเพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ความแตกต่างของราคาจำหน่ายระหว่างสองรุ่นอยู่ที่ประมาณ 5 ถึง 8 หมื่นบาทไทย โดยจุดต่างสำคัญคือเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุกและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ซึ่งเมื่อพิจารณาสภาพจราจรที่หนาแน่นในเมืองใหญ่ของไทยแล้ว ฟังก์ชันควบคุมความเร็วตามคันหน้าในความเร็วต่ำที่เพิ่มเข้ามาถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก
Q
รถฮอนด้า HR-V ปี 2022 นั้นคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
Honda HR-V รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่น่าพิจารณา จุดเด่นอยู่ที่คุณภาพการผลิตอันเชื่อถือได้ของ Honda พื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบอย่างลงตัว และความประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับการขับในเมือง รถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรแบบดูดธรรมชาติ ให้พละกำลังที่ราบรื่นพร้อมค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีเบาะนั่งอเนกประสงค์ (Magic Seat) ที่สามารถปรับรูปแบบการใช้งานของเบาะหลังได้อย่างยืดหยุ่น รองรับทั้งการเดินทางของครอบครัวหรือการขนสัมภาระ ขณะที่เครือข่ายศูนย์บริการของ Honda ในไทยก็มีความครอบคลุมสูง ช่วยให้การซ่อมบำรุงเป็นเรื่องสะดวก นอกจากนี้ HR-V ยังมีมูลค่าขายต่อที่ดี ทำให้ต้นทุนการใช้งานระยะยาวอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ จุดที่ควรสังเกตคือรุ่นปี 2022 อาจมีอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีน้อยกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ระบบความปลอดภัยพื้นฐานอย่าง Honda SENSING (เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน) ก็มีมาให้ครบ สำหรับผู้บริโภคในไทยที่มีงบประมาณจำกัดแต่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ HR-V ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และถ้าสนใจเทคโนโลยีไฮบริดก็สามารถติดตามรุ่น e:HEV ที่มีแผนทำตลาดภายหลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดการใช้น้ำมันในระยะยาว
Q
Porsche Cayenne 2023 สามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนเมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง
Porsche Cayenne รุ่นปี 2023 เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังระยะทางที่วิ่งได้ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพการขับขี่ โดยตัวอย่างรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร มาพร้อมถังน้ำมัน 90 ลิตร สามารถวิ่งได้ราว 650 ถึง 750 กิโลเมตรในสภาพถนนผสม หากขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัดซึ่งพบได้บ่อยในไทยอัตราสิ้นเปลืองจะสูงขึ้นทำให้ระยะทางลดลงเหลือประมาณ 600 กิโลเมตร แต่หากวิ่งบนทางด่วนหรือนอกเมืองอาจทำได้เกิน 800 กิโลเมตร ทั้งนี้สภาพอากาศร้อนจัดและการหยุดติดบ่อยครั้งในไทยส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลือง จึงควรตรวจเช็กระบบแอร์และแรงดันลมยางเป็นประจำเพื่อคงประสิทธิภาพด้านพลังงาน สำหรับรุ่น Cayenne E Hybrid แบบปลั๊กอินไฮบริดสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ราว 50 กิโลเมตร เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและช่วยลดการใช้น้ำมันได้อย่างชัดเจน ผู้ใช้ในไทยควรให้ความสำคัญกับความเข้ากันได้ของน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น เบนซิน 95 หรือไบโอดีเซล B7 ที่ใช้ได้กับเครื่องยนต์ Cayenne หากมีแผนขับทางไกลไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือควรตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันล่วงหน้าเนื่องจากการขับขึ้นทางชันที่ระดับความสูงมากอาจทำให้การสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ระบบเกียร์ PDK และช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติของ Porsche ช่วยให้การขับขี่บนสภาพถนนที่หลากหลายของไทยมีความสมดุลทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน
Q
เครื่องยนต์ของ Porsche ปี 2023 ทนทานไหม
เครื่องยนต์รุ่นปี 2023 ของปอร์เช่ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดแบบเดิมๆ ของแบรนด์ ทั้งในด้านการออกแบบและการผลิต โดยใช้วัสดุและเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การออกแบบน้ำหนักเบาและระบบเทอร์โบชาร์จที่ปรับแต่งมาอย่างละเอียด เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเสริมความทนทานให้กับเครื่องยนต์อีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แค่ดูแลรักษาตามคู่มือการบริการอย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นตามกำหนดเวลา รวมถึงดูแลความสะอาดระบบระบายความร้อน เครื่องยนต์เหล่านี้ก็มักจะทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว นอกจากนี้ ศูนย์บริการปอร์เช่ในประเทศไทยยังให้การสนับสนุนอย่างมืออาชีพ การใช้น้ำมันเครื่องและอะไหล่ที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ สำหรับรถสปอร์ตสมรรถนะสูง การหลีกเลี่ยงการขับขี่แบบหนักติดต่อกันเป็นเวลานานและการวอร์มเครื่องที่เหมาะสมก็เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลเครื่องยนต์ โดยรวมแล้วความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ปอร์เช่ถือว่าดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ แต่อายุการใช้งานจริงยังขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่และการดูแลรักษาของเจ้าของรถด้วย แนะนำให้เจ้าของรถในประเทศไทยเลือกใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากปอร์เช่เพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพประกอบการยื่นขอจดทะเบียน BYD Sealion 07 DM-i ถูกเปิดเผย: มาพร้อมเทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5
ธนวัฒน์Dec 10, 2024

"BYD SEALION 7 ไทยแลนด์ Motor Expo 2024 โดดเด่น: คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา, มีการตั้งค่าที่หลากหลาย!"
สุรเดชNov 29, 2024

BYDโรงงานในประเทศไทยส่งออกไปยุโรปเป็นครั้งแรก รถยนต์รุ่น Dolphin แบบพวงมาลัยขวาผลิตในประเทศไทยเริ่มออกสู่ตลาดทั่วโลก
สุรเดชAug 27, 2025

BYD Seal 5 DM-i เปิดตัว ชนตรง Yaris ATIV HEV และ City e:HEV
พงศธรAug 14, 2025

BYD Song Plus EV โดนฟ้าผ่าซ้ำ แต่ยังขับได้ปกติ!
AshleyAug 11, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย