Q
ราคาบริการของ Nissan Almera คืออะไร ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา Nissan Almera ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามประเภทบริการและตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต โดยการบำรุงรักษาพื้นฐาน เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมัน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 ถึง 3,000 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ที่รวมการเปลี่ยนน้ำมันเบรก น้ำยาแอร์ และของเหลวอื่น ๆ อาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 5,000 ถึง 8,000 บาท แนะนำให้สอบถามราคาที่แม่นยำจากศูนย์ Nissan 4S ใกล้บ้าน การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอในประเทศไทยซึ่งมีสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอาจทำให้อะไหล่สึกหรอเร็วกว่าปกติ การดูแลรักษาตามคู่มือช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ Nissan ยังมีแพ็กเกจบำรุงรักษาและบริการรับประกันจากโรงงานให้เลือกใช้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการ บางศูนย์จำหน่ายยังมีโปรโมชั่นตามฤดูกาลเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ควรเลือกใช้อะไหล่แท้และช่างผู้ชำนาญเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพงานซ่อมแซม ป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan Almera คืออะไร
รถยนต์ Nissan Almera ในตลาดประเทศไทยถูกยกให้เป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ก็มีข้อด้อยบางอย่าง เช่น วัสดุภายในห้องโดยสารทำจากพลาสติกแข็งที่ให้สัมผัสธรรมดา, การกันเสียงไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเสียงลมและเสียงถนนเวลาขับความเร็วสูงที่ค่อนข้างได้ยินชัดเจน นอกจากนี้พื้นที่เบาะหลังอาจจะคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง ส่วนระบบช่วงล่างที่ตั้งมาแข็งทำให้ความนุ่มสบายลดลงเวลาเจอถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทย อย่างไรก็ตาม ข้อเสียเหล่านี้ก็สอดคล้องกับตำแหน่งรถยนต์ราคาประหยัดของ Almera ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรของ Almera ประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูง สำหรับผู้บริโภคไทยที่งบประมาณจำกัดแต่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยแล้ว Almera ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้นที่อาจส่งผลต่อความทนทานของรถ แนะนำให้เจ้าของควรตรวจสอบยางและระบบแอร์เป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถ
Q
Nissan Almera อยู่ใน Segment อะไร
นิสสัน อัลเมร่า ในตลาดไทยจัดอยู่ในระดับ B-Segment หรือที่เราเรียกกันว่าเซดานคอมแพคต์ ซึ่งรถระดับนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัด ความใช้งานได้จริง และขนาดที่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง อัลเมร่ามีจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน ราคาที่เข้าถึงง่าย และเหมาะกับสภาพถนนไทย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งครอบครัวและคนรุ่นใหม่ โดยในตลาดไทยคู่แข่งของอัลเมร่าก็จะมีโตโยต้า วิออส, ฮอนด้า ซิตี้ และมิตซูบิชิ แอทเทรจ ที่ต่างก็เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริงเหมือนกัน แต่อัลเมร่ามีข้อได้เปรียบในเรื่องพื้นที่และความสบาย โดยเฉพาะช่วงขาที่กว้างขวางด้านหลังซึ่งเหมาะกับการเดินทางไกล นอกจากนี้ อัลเมร่ายังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างหน้าจอสัมผัสและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มจุดขายในการแข่งขันในตลาด สำหรับคนไทยเวลาเลือกรถระดับ B-Segment นอกจากจะดูเรื่องราคาและความประหยัดแล้ว ยังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายและค่าซ่อมบำรุง ซึ่งนิสสันในไทยมีเครือข่ายดีลเลอร์ที่ครอบคลุม นี่ก็เป็นอีกจุดแข็งของอัลเมร่า ถ้าคุณกำลังมองหาเซดานคอมแพคต์ที่ประหยัดและใช้งานได้จริง อัลเมร่าก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันเพื่อตัดสินใจให้เหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด
Q
มูลค่าการขายต่อของ Nissan Almera คืออะไร
ในตลาดรถมือสองของไทย Nissan Almera มีอัตราการรักษามูลค่าในระดับปานกลาง ซึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลได้แก่ ชื่อเสียงของแบรนด์ อายุรถ ระยะทางที่ใช้งาน และสภาพการดูแลรักษา โดยทั่วไปแล้ว Almera ที่มีอายุ 3 ปี จะรักษามูลค่าได้ประมาณ 50%-60% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะเหลือประมาณ 40%-50% แต่ราคาจริงก็ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพรถด้วย Almera ได้รับความนิยมในไทยในด้านความประหยัดและการใช้งานสะดวก โดยจุดเด่นคือประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงต่ำ ทำให้มี demand ในตลาดมือสองพอสมควร โดยเฉพาะรุ่นเครื่อง 1.2L และ 1.5L แบบธรรมชาติ สภาพอากาศและถนนในไทยก็ส่งผลต่อมูลค่ารถมือสองเช่นกัน ถ้ารถได้รับการบริการอย่างสม่ำเสมอและไม่มีประวัติน้ำท่วมหรือชนะมูลค่าจะสูงกว่า นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของ Nissan ในไทยที่ค่อนข้างครอบคลุมก็ช่วยสนับสนุนมูลค่ารถมือสองได้ส่วนหนึ่ง ถ้าอยากได้ราคาขายที่ดี แนะนำให้เก็บประวัติการบำรุงรักษาให้ครบและหลีกเลี่ยงการแต่งรถมากเกินไป เพราะคนไทยมักชอบรถสภาพเดิมมากกว่า เมื่อเข้าใจปัจจัยเหล่านี้แล้วจะช่วยให้ประเมินราคารถมือสองได้เหมาะสมขึ้น และก่อนขายควรเปรียบเทียบราคาจากแพลตฟอร์มหรือตัวแทนขายรถมือสองในท้องถิ่นเพื่อให้ได้ราคาที่สอดคล้องกับตลาด
Q
Nissan Almera มีความจุเครื่องยนต์กี่ซีซี
นิสสัน อัลเมร่าในตลาดไทยนั้น ตัวรถรุ่นหลักจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ความจุ 999 ซีซี แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่ด้วยเทคโนโลยีเทอร์โบทำให้สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 100 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยที่ทั้งประหยัดน้ำมันและยังให้กำลังดีพอใช้ สำหรับคนไทยแล้วการที่อัลเมร่าใช้เครื่องขนาดเล็กยังช่วยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลสำหรับรถรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุนในการซื้ออีกด้วย ที่สำคัญตลาดไทยให้ความสนใจกับเรื่องความจุซีซีมากเพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับภาษีประจำปีและค่าประกัน ซึ่ง 999 ซีซีของอัลเมร่าก็ попаดิ่งอยู่ในเกณฑ์ภาษีรถต่ำกว่า 1.0 ลิตรที่จ่ายน้อยกว่าในระยะยาว แถมในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย การจัดการความร้อนของเครื่องเทอร์โบขนาดเล็กก็เป็นเรื่องที่ควรสังเกต แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่วนคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอทีฟ (1.2 ลิตร) หรือฮอนด้า ซิตี้ (1.5 ลิตร) อาจจะให้กำลังมากกว่าแต่ก็กินน้ำมันมากขึ้นเช่นกัน ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามงบและความต้องการของตัวเองครับ
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Almera คืออะไร
นิสสัน อัลเมร่า ในตลาดไทยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ (รหัส HR10DET) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีปรับอัตราส่วนการอัดตัวแปรได้ (VCR) ล่าสุดจากนิสสัน ซึ่งสามารถปรับอัตราส่วนการอัดได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและมีกำลังส่งที่ดี เครื่องยนต์นี้ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและการเดินทางไกลในไทย นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานยูโร 5 ของไทย ช่วยลดมลพิษได้ดี ส่วนระบบระบายความร้อนก็ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้稳定ในสภาพอากาศร้อนของไทย สำหรับคนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริงจัง เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาดเล็กนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แถมนิสสันยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายทั่วไทย ทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย สังเกตได้ว่าเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมในไทยมากขึ้น เพราะช่วยลดภาษีและยังให้กำลังเพียงพอ เหมาะกับเทรนด์รถยนต์ประหยัดในปัจจุบัน
Q
กล่องเกียร์ของ Nissan Almera เป็นแบบใด
Nissan Almera ในตลาดประเทศไทยมีระบบเกียร์หลัก 2 แบบคือ เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ เกียร์ CVT โดดเด่นในด้านความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์และประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรที่แออัดในเมืองของไทย และยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในขณะขับทางไกล ขณะที่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความรู้สึกในการควบคุมรถโดยตรง โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทย หรือถนนที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ซึ่งเกียร์ธรรมดาจะตอบสนองได้ทันใจมากกว่า ควรสังเกตว่าเกียร์ CVT จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะตามรอบการบำรุงรักษา ส่วนเกียร์ธรรมดามีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมีค่าดูแลรักษาต่ำกว่า ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้ตรวจเช็กสภาพน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบเกียร์ทำงานได้อย่างราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ด้วยกระแสรถยนต์ประหยัดพลังงานในไทยที่เพิ่มขึ้น เกียร์ CVT จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักในตลาด แต่เกียร์ธรรมดาก็ยังคงมีความนิยมในรุ่นพื้นฐานอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเลือกระบบเกียร์แบบใด การขับขี่อย่างถูกวิธีและการบำรุงรักษาตามคำแนะนำจะช่วยให้รถใช้งานได้อย่างยาวนาน
Q
PCD Size ของ Nissan Almera คืออะไร
ค่า PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Nissan Almera คือ 4x100 หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 4 รู โดยเรียงอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่พบได้บ่อยในตลาดรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ของไทย เช่น Honda City, Toyota Vios เป็นต้น ดังนั้นการเปลี่ยนล้อแม็กหรืออัปเกรดยางในประเทศไทยจึงสามารถหาอะไหล่หรือแม็กรุ่นที่เข้ากันได้ง่าย ค่า PCD เป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อจะเปลี่ยนล้อ เพราะหากเลือกไม่ตรงสเปก อาจทำให้ติดตั้งไม่ได้หรือเกิดอาการสั่นสะเทือนขณะขับขี่ นอกจาก PCD แล้ว ยังควรตรวจสอบค่า Offset (ET) และขนาดรูดุมกลาง (CB) ด้วย เพราะทั้งสามค่านี้มีผลต่อความพอดีและความปลอดภัยในการใช้งาน ในประเทศไทยมีร้านยางและร้านแต่งรถจำนวนมากที่ให้บริการตรวจวัดและติดตั้งล้ออย่างมืออาชีพ จึงแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการเปลี่ยนหรือแต่งล้อเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยและถูกต้องตามมาตรฐาน
Q
Nissan Almera มี Apple Carplay หรือไม่
ใช่แล้ว Nissan Almera รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ขับสามารถใช้งานแอปนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอของรถได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้งาน iPhone ได้อย่างดี การมี Apple CarPlay ช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันของ Almera ในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นหรือผู้ที่ใช้งานสมาร์ตโฟนเป็นประจำ ในประเทศไทย ผู้ขับขี่จำนวนมากมักพึ่งพาแอปนำทางอย่าง Google Maps หรือ Apple Maps เพื่อรับมือกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อน และในบางรุ่นยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งช่วยลดปัญหาสายเชื่อมต่อระหว่างการใช้งาน นอกจาก Apple CarPlay แล้ว บางรุ่นของ Almera ยังรองรับ Android Auto เพื่อรองรับผู้ใช้สมาร์ตโฟน Android อีกด้วย Nissan ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีภายในรถอย่างต่อเนื่อง และ Almera ในฐานะรถยนต์อีโคคาร์ก็ถือว่ามีฟีเจอร์ด้านความบันเทิงและระบบช่วยขับขี่ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการความคุ้มค่าและความทันสมัย หากคุณต้องการทราบรายละเอียดของรุ่นย่อยเพิ่มเติม แนะนำให้ติดต่อโชว์รูม Nissan ใกล้บ้านเพื่อทดลองขับหรือสอบถามข้อมูลล่าสุด
Q
ยางรถยนต์ของ Nissan Almera คือยี่ห้ออะไร
ยังไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับยี่ห้อยางรถยนต์ของ Nissan Almera แต่ในตลาดรถยนต์ของไทยมีแบรนด์ยางรถยนต์ที่นิยมหลายยี่ห้อ ได้แก่ Michelin ซึ่งเป็นแบรนด์จากฝรั่งเศส มีชื่อเสียงเรื่องความนุ่มนวลและเงียบ พร้อมทั้งยึดเกาะถนนดี เหมาะกับรถยนต์ระดับกลางถึงสูง, Bridgestone แบรนด์ญี่ปุ่นที่เน้นความคงทนและการควบคุมรถที่ดี รองรับรถหลายประเภท, Goodyear แบรนด์สหรัฐฯ ที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับรถที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน ส่วนแบรนด์จากเอเชียอย่าง Hankook จากเกาหลีใต้มีความคุ้มค่าและเทคโนโลยีทันสมัย และ Giti จากสิงคโปร์ที่มีความแข็งแรง ทนทาน พร้อมการจัดการเสียงรบกวนที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มรถเชิงพาณิชย์ หากต้องการเปลี่ยนยาง ควรพิจารณาจากประสิทธิภาพ ราคา และความเหมาะสมกับรถเพื่อให้ได้ยางที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
Q
นิสสัน อัลเมร่า เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Nissan Almera เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย จุดเด่นคือความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองไทย เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร ให้พลังงานที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน ต้นทุนการบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด การออกแบบภายในเรียบง่ายและใช้งานได้จริง พร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะและหน้าจอสัมผัสที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย พื้นที่ภายในกว้างขวางโดยเฉพาะพื้นที่วางขาหลัง เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็มีข้อจำกัด เช่น ระบบกันสะเทือนที่แข็งไปบ้าง ทำให้ความนุ่มนวลเวลาขับผ่านถนนที่มีสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยลดลง ระบบเก็บเสียงระดับกลาง และมีเสียงลมดังเมื่อขับเร็ว ช่วงล่างหลังใช้ระบบทอร์ชั่นบีม ทำให้มีอาการโคลงตัวชัดเจนเวลาขับเข้าโค้ง กำลังเครื่องยนต์เน้นความนุ่มนวลมากกว่าความแรง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ต ในตลาดไทย Almera มีคู่แข่งหลักคือ Toyota Yaris และ Honda City ซึ่ง Almera มีราคาที่น่าสนใจกว่า แต่ความคงทนของแบรนด์ยังด้อยกว่า Toyota หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและใช้งานได้ทนทาน Almera ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่อย่างไรก็ดีควรทดลองขับและเปรียบเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน และควรระวังเรื่องสภาพอากาศร้อนจัดของไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อวัสดุภายในรถ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้มากขึ้น
Q&A ล่าสุด
Q
2023 Honda CR-V เป็นรถ 7 ที่นั่งหรือไม่
Honda CR-V ปี 2023 ในตลาดประเทศไทยมีทางเลือกแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการอัปเกรดสำคัญที่ Honda พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระยะฐานล้อถูกเพิ่มขึ้น 40 มิลลิเมตรเป็น 2700 มิลลิเมตร ทำให้เบาะแถวที่สามมีพื้นที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวไทยที่มักมีหลายเจเนอเรชันไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังในรุ่น 7 ที่นั่งเมื่อมีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะเหลือเพียง 146 ลิตร แต่สามารถขยายเป็น 472 ลิตรได้ด้วยการพับเบาะแถวที่สามลง ซึ่งตอบสนองการใช้งานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาลที่ต้องขนของจำนวนมากได้เป็นอย่างดี รถรุ่นนี้มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 15 ลิตร (193 แรงม้า) และระบบไฮบริด 20 ลิตร (207 แรงม้า) โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่เหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่มีการหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมัน CR-V ในประเทศไทยยังคงมีมูลค่าขายต่อสูงและมีความน่าเชื่อถือที่พิสูจน์แล้วภายใต้สภาพอากาศร้อนและฝนชุก การเพิ่มทางเลือก 7 ที่นั่งยิ่งทำให้ CR-V แข็งแกร่งขึ้นในฐานะ SUV สำหรับครอบครัว แต่แนะนำให้ผู้บริโภคทดลองใช้งานจริงในเบาะแถวที่สามก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเบาะแถวหลังของ SUV ขนาดคอมแพกต์มักจะเหมาะกับเด็กหรือการนั่งระยะสั้นมากกว่า
Q
มีปัญหาใดๆ กับ Honda CR-V 2023 หรือไม่
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยแสดงผลงานค่อนข้างนิ่ง แต่จากเสียงสะท้อนของเจ้าของรถบางส่วนอาจพบปัญหาที่พบบ่อยอยู่บ้าง อย่างแรกคือระบบมัลติมีเดียอาจมีอาการค้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเมื่อใช้งานระบบนำทางในสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้การตอบสนองช้าลง ซึ่งควรอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบเป็นประจำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จริงๆ ส่วนรุ่นไฮบริดอาจมีเสียงเบรกผิดปกติเล็กน้อยในช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบเบรกทุกครั้งที่เข้าศูนย์บริการ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้บางรายรายงานว่าหลังจากการพับเบาะหลังลงจะมีระดับต่างจากพื้นที่เก็บของประมาณ 2 ซม. ควรระมัดระวังเรื่องความเรียบเมื่อขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามปัญหาส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ผ่านช่องทางบริการหลังการขายของฮอนด้าไทย และไม่ส่งผลต่อสมรรถนะหลักของรถ สำหรับคนไทยแล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ของ CR-V ยังคงแสดงประสิทธิภาพการบริโภคน้ำมันที่ประมาณ 6.8L/100km แม้ในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่นไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างเมืองบ่อยๆ ก่อนซื้อแนะนำให้ทดลองขับเน้นการตอบสนองของระบบอิเล็กทรอนิกส์และประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้รถในไทย และฮอนด้าไทยยังมีบริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรเพื่อคุ้มครองสิทธิ์เจ้าของรถอย่างมีประสิทธิภาพ
Q
2023 Honda CRV สามารถไปได้เร็วแค่ไหน
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ที่ขายในไทยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 190 กม./ชม. แต่ความเร็วจริงอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตั้งค่าระบบ รวมถึงสภาพถนนในแต่ละพื้นที่ SUV คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรหรือระบบไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ยังคงให้กำลังขับเคลื่อนได้อย่างมั่นคงแม้ในสภาพอากาศร้อนและรถติดในเมืองไทย ควรระวังว่าความเร็วสูงสุดบนทางด่วนไทยส่วนใหญ่จำกัดที่ 120 กม./ชม. ดังนั้นควรขับขี่ตามกฎจราจร ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะของ CR-V เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยให้ขับขี่สะดวกสบายในสภาพถนนที่ซับซ้อนรอบกรุงเทพฯ รถรุ่นนี้ขายดีในตลาดไทยเพราะประหยัดน้ำมันและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัว โดยรุ่นไฮบริดยิ่งตอบโจทย์ในยุคที่油价น้ำมันแพงขึ้นเรื่อยๆ ควรบำรุงรักษาเครื่องยนต์เป็นประจำเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อน
Q
ฮอนด้า CR-V 2023 ใช้เชื้อเพลิงกี่ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่นเบนซินทั่วไปจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 7.5-8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นประหยัดกว่าคืออยู่ที่ประมาณ 5.0-5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และการใช้แอร์ด้วยนะ โดยเฉพาะในไทยที่อากาศร้อนและถนนในกรุงเทพก็ติดขัดบ่อย ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ แนะนำให้ขับแบบเนียนๆ ไม่เร่งกระชาก แล้วก็คาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า จะช่วยลดการสิ้นเปลืองได้ ส่วนการดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศและน้ำมันเครื่อง ก็ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ที่สำคัญ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีให้รถไฮบริด ทำให้ CR-V รุ่นไฮบริดประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวกว่า แถมระบบ i-MMD ของฮอนด้ายังเหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ ช่วยลดการกินน้ำมันได้ดีเลย สำหรับคนที่กำลังมองหารถ SUV ในไทย นอกจากจะดูตัวเลข油耗จากแคตาล็อกแล้ว ควรดูด้วยว่าวันๆ ขับในเมืองมากหรือขับทางไกลบังคับ เพราะถ้าขับทางไกล ความแตกต่างของอัตราสิ้นเปลืองระหว่างรุ่นเบนซินกับไฮบริดจะลดลงนะ
Q
2023 CR-V ดีกว่า 2022 หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นปี 2023 ได้รับการอัปเกรดหลายจุดเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2022 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยมากขึ้น เริ่มจากดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยขึ้นด้วยกริลหน้าและไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคมกว่าเดิม พร้อมเส้นสายตัวรถที่ลื่นไหล ทำให้ภาพรวมดูโมเดิร์นกว่า ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างหนังนุ่มเพิ่มขึ้น จอทัชสกรีนขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 9 นิ้ว และรองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกไฮเทคได้ชัดเจน
ในส่วนของพื้นที่โดยสาร รุ่น 2023 เพิ่มระยะฐานล้ออีก 40 มม. ทำให้มีพื้นที่ขาโดยเฉพาะเบาะหลังกว้างขวางขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางไกล แม้ยังใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบเหมือนเดิม แต่มีการปรับตั้งใหม่ให้ประหยัดน้ำมันขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับสภาพการจราจรติดขัดในไทย
ระบบความปลอดภัยก็ดีขึ้นด้วยการติดตั้ง Honda Sensing เป็นมาตรฐาน ซึ่งรวมฟังก์ชั่น Cruise Control แบบปรับความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยควบคุมเลน ช่วยให้ขับขี่ในเมืองไทยที่การจราจรซับซ้อนได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังปรับระบบช่วงล่างให้รองรับถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้ดีกว่าเดิม
ราคาของรุ่น 2023 อาจสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็คุ้มค่ากับการอัปเกรดต่างๆ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถครอสโอเวอร์ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่เน้นความทันสมัยและความสบายในการใช้งาน รุ่น 2023 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้ายังเน้นราคาประหยัด อาจมองหารุ่น 2022 ที่ตอนนี้อาจมีโปรโมชั่นน่าสนใจ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan Almera มอบส่วนลดพิเศษ 90,000 บาท โดยมีราคาต่ำสุดเพียง 499,000 บาท
LienJun 11, 2025

ดีไซน์สปอร์ตและภายในกว้างขวาง Nissan Almera คู่ควรแก่การเลือกซื้อ
LienApr 16, 2025

Honda city vs Nissan Almeria ถ้ามีงบ 600,000 บาท คุณจะเลือกรุ่นไหนดี?
AshleyJul 13, 2024

Mazda 2 VS Nissan Almera ไดนามิกหรือใช้งานได้จริง? ถ้ามีงบ 600,000 บาทคุณจะเลือกรุ่นไหนดี?
AshleyJul 10, 2024

2024 Nissan Almera ราคา 549,000 บาท ใช่ Mini Teana หรือไม่
LienMay 13, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย