Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มตลาดวัยรุ่น มาพร้อมยางติดรถจากโรงงานซึ่งอาจเลือกใช้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Michelin หรือ Continental ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ยางประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานที่ดีในสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างยางและลดแรงต้านการหมุนเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเพิ่มระยะทางในการขับขี่ สำหรับผู้ใช้ในไทยที่ต้องการเปลี่ยนยาง นอกจากรุ่นเดียวกับยางติดรถแล้ว ยังสามารถพิจารณาแบรนด์ที่พบเห็นบ่อยในประเทศอย่าง Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งมีไลน์ผลิตภัณฑ์รองรับรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน และมีจำหน่ายทั่วไปในโชว์รูม 4S และร้านยางต่างๆ สิ่งสำคัญคือยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากยางของรถยนต์เครื่องยนต์ทั่วไปในด้านดัชนีการรับน้ำหนักและเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน จึงแนะนำให้เลือกยางที่มีสัญลักษณ์ EV เป็นหลัก พร้อมทั้งตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอุณหภูมิสูงในไทยอาจทำให้แรงดันยางเปลี่ยนแปลงเร็ว ซึ่งมีผลต่อการใช้พลังงานและความปลอดภัยในการขับขี่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น อาจมีข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้งานในประเทศไทย เช่น พื้นที่เบาะหลังที่ค่อนข้างกะทัดรัดอาจไม่เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวใหญ่ โดยเฉพาะการเดินทางไกลที่อาจลดทอนความสบายลง อีกทั้งการใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อระยะทางวิ่งของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบอัจฉริยะและการควบคุมที่คล่องตัวของ Zeekr X ถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ สำหรับผู้บริโภคในไทย การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังควรคำนึงถึงความครอบคลุมของสถานีชาร์จ แม้ Zeekr X จะรองรับการชาร์จเร็ว แต่เครือข่ายสถานีชาร์จในไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ พื้นที่ห่างไกลยังมีข้อจำกัดด้านความสะดวก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ผ่านมาตรการลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนเงินอุดหนุนการซื้อรถ ซึ่งช่วยให้รถ EV รวมถึง Zeekr X มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถพิจารณาจากลักษณะการใช้งานประจำวันและความสะดวกในการชาร์จไฟเพื่อประกอบการตัดสินใจ
Q
Zeekr X อยู่ในกลุ่ม Segment ใด
รถ Zeekr X อยู่ในกลุ่มรถยนต์รุ่น C หรือที่เรียกกันว่า SUV ขนาดกะทัดรัดแบบไฟฟ้า 100% ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 4,432 มม. กว้าง 1,836 มม. และสูง 1,566 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดมาตรฐานของ SUV Compact ส่วนในเรื่องสมรรถนะ Zeekr X มีทั้งรุ่นมอเตอร์เดียวขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นมอเตอร์คู่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นมอเตอร์เดียวสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.6 วินาที ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ทำได้เร็วเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น ด้านอุปกรณ์ก็ครบครันไม่น้อยหน้า มีถุงลมนิรภัยถึง 7 จุด พร้อมระบบ ABS ควบคุมการล็อกล้อและระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ รวมถึงฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายอื่นๆ ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้
Q
ขนาด PCD ของ Zeekr X คืออะไร
สำหรับรถ Zeekr X นั้นมีขนาด PCD (ระยะวงกลมของรูยึดล้อ) อยู่ที่ 5×112 มิลลิเมตร ซึ่งหมายความว่ารูสลักทั้ง 5 รูบนล้อจะเรียงตัวเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 มิลลิเมตร ขนาดนี้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถยุโรปหลายรุ่น เช่น รถโวลค์สวาเก้นหรือออดี้บางแบบ ทำให้เจ้าของรถในไทยสามารถหาล้ออะไหล่หรืออัพเกรดล้อได้ง่ายขึ้น แต่ต้องบอกว่าในไทยเนี่ยะ ถนนบางพื้นที่ก็ขรุขระ แถมฤดูฝนก็ยาว เลยแนะนำให้ใช้ล้อที่ได้มาตรฐานของทางโรงงานหรือล้อที่ผ่านการรับรองเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงเวลาขับขี่ ส่วนใครที่อยากแต่งล้อเพิ่มเติม ในไทยก็มีร้านแต่งรถมืออาชีพหลายร้านที่บริการปรับ PCD ให้ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยนะ เช่น ห้ามให้ล้อยื่นออกมานอกตัวถังเกินกำหนด นอกจากนี้ PCD ไม่ใช่แค่ตัวเดียวที่ต้องดูเวลาซื้อล้อ ยังต้องเช็คค่าอื่นๆ เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางรูกลางล้อ (CB) หรือค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาล้อไม่พอดีหรือส่งผลต่อการควบคุมรถ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาเซ็นเตอร์ของ Zeekr ในไทยหรือร้านขายล้อมืออาชีพจะดีที่สุดครับ
Q
Does Zeekr X มี Apple Carplay ไหม
ตามข้อมูลในปัจจุบัน Zeekr X ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay หรือไม่ แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มุ่งทำตลาดระดับโลก ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในรถอาจมีการอัปเดตผ่าน OTA เพื่อเพิ่มการรองรับ CarPlay ได้ในอนาคต แนะนำให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยติดตามข่าวสารจาก Zeekr อย่างใกล้ชิด ในประเทศไทย Apple CarPlay ได้รับความนิยมอย่างมากจากความสามารถในการเชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้จำนวนมากคุ้นเคยกับการใช้ CarPlay สำหรับนำทาง ฟังเพลง และสื่อสาร หาก Zeekr X รองรับฟีเจอร์นี้ในอนาคต จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้ในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ระบบเชื่อมต่อภายในรถของแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น Android Auto หรือระบบที่พัฒนาขึ้นเองก็สามารถมอบฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ผู้บริโภคในไทยควรพิจารณาความต้องการของตนเองประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถ เช่น ความเข้ากันได้กับสมาร์ตโฟน ความลื่นไหลของระบบ และบริการที่รองรับในประเทศ เพื่อเลือกรถที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งาน
Q
รถ Zeekr X เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Zeekr X เป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและล้ำยุค พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันและสมรรถนะไฟฟ้าที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะขนาดตัวรถที่กะทัดรัดทำให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ ได้อย่างคล่องตัว แถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันและลดมลพิษได้อีกด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า Zeekr X อาจมีจุดอ่อนเรื่องสถานีชาร์จในไทยที่ยังไม่ครอบคลุมนัก ถ้าจะขับทางไกลต้องวางแผนจุดชาร์จล่วงหน้า รวมถึงเครือข่ายบริการหลังการขายที่อาจยังไม่แข็งแรงเท่ายี่ห้อเก่าแก่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ควรประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองก่อนซื้อ เช่น มีจุดชาร์จที่บ้านหรือไม่ หรือต้องเดินทางไกลบ่อยแค่ไหน
ตอนนี้รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนในการซื้อ Zeekr X ได้ ใครที่สนใจลองไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นกับตัวแทนจำหน่ายดูได้นะครับ
Q
ความกว้างของ Zeekr X คือเท่าไร
Zeekr X มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1836 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ากว้างเมื่อเทียบกับรถ SUV ขนาดกะทัดรัดทั่วไป ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางและเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรของเมืองไทย เช่น ถนนที่แออัดในกรุงเทพฯ หรือซอยแคบๆ ซึ่งตัวถังที่กว้างช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ Zeekr X ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งรูปทรงแบบกว้างช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นและสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับผู้บริโภคในไทย นี่หมายถึงต้นทุนการใช้งานที่ลดลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Zeekr X ด้วยขนาดและสมรรถนะที่ลงตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้น อีกทั้งดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยยังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและความทันสมัย
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X คือเท่าไร จะคำนวณอย่างไร
เรื่องราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X ในประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้าโมเดลนี้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นอัตราภาษีที่แน่นอนยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงจากวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากกำลังมอเตอร์ (กิโลวัตต์) หรือน้ำหนักรถ โดยมีอัตราภาษีที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีในปีแรก ถ้าในอนาคต Zeekr X เข้าสู่ตลาดไทย ภาษีอาจจะคำนวณตามระดับกำลังมอเตอร์ เช่น 15-50 กิโลวัตต์ อาจมีอัตราภาษีประมาณ 400-800 บาทต่อปี แต่สุดท้ายแล้วต้องดูกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบก (DLT) ประกาศอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายอย่าง เช่น ลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ก่อนซื้อแนะนำให้ตรวจสอบนโยบายล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานภาษี และที่สำคัญอย่าลืมว่า ค่าประกันรถยนต์ ค่าตรวจสภาพรถประจำปี ก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการใช้งานด้วย ควรพิจารณารวมๆกันให้ดี
Q
ความดันลมยางของ Zeekr X คือเท่าไร
ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานของ Zeekr X แนะนำให้อยู่ระหว่าง 2.3 ถึง 2.5 บาร์ หรือประมาณ 33 ถึง 36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นรถ ประเภทยาง หรือภาระน้ำหนักที่บรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบจากคู่มือผู้ใช้รถหรือติดตามฉลากบนกรอบประตูรถ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อุณหภูมิสูงอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนการขับขี่ยาว ปรับแรงดันลมยางในสภาวะเย็นให้อยู่ในค่าที่แนะนำ เพื่อป้องกันแรงดันยางสูงเกินไปจนส่งผลต่อการยึดเกาะถนน หรือแรงดันต่ำเกินไปที่อาจเพิ่มการสิ้นเปลืองพลังงาน หากใช้ล้อขนาด 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานพร้อมยางโปรไฟล์ต่ำ ควรใส่ใจความแม่นยำของแรงดันลมยางเพื่อรักษาความสบายและการควบคุมรถ ในช่วงฤดูฝนของไทย แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้ใกล้เคียงค่าบนสุดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พร้อมตรวจสอบแรงดันยางทุกสองเดือน หากรถมีระบบตรวจสอบแรงดันยาง (TPMS) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ เช่น Tesla หรือ BYD ในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ค่าแรงดันลมยางก็มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน แต่ควรอิงข้อมูลจากผู้ผลิตเป็นหลัก
Q
ขนาดยางของ Zeekr X คืออะไร
รถยนต์ Zeekr X มีสเปกรถแต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาตรฐานจะมีขนาดยางทั้งคู่ที่ 18 นิ้ว ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อระดับ Flagship จะใช้ยางขนาด 245/45R20 ทั้งคู่ ซึ่งขนาดยางแต่ละแบบก็ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ต่างกันออกไป ยางขนาดเล็กอย่าง 18 นิ้วจะให้ความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนและลดเสียงยางได้ดี เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปหรือคนที่เน้นความสบายเป็นหลัก ส่วนยางขนาดใหญ่แบบ 245/45R20 จะให้ความแม่นยำในการควบคุมรถและความมั่นคงสูงกว่า แถมยังดูสปอร์ตเท่ๆ อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบการขับขี่แบบสปอร์ตหรือต้องการสัมผัสถึงประสิทธิภาพการควบคุมรถอย่างเต็มที่
Q
Zeekr X คุ้มค่าที่จะซื้อไหม
ในฐานะรถ SUV พลังงานไฟฟ้าที่มุ่งเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมือง Zeekr X มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีในตลาดไทย ด้วยความยาวตัวถัง 4432 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2750 มิลลิเมตร ทำให้ขับขี่คล่องตัวในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ พร้อมทั้งยังให้พื้นที่โดยสารเพียงพอ รถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 200 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 268 แรงม้า ซึ่งยังคงสมรรถนะที่เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในมีหน้าจอกลางขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าปัดดิจิทัล 8.8 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ตอบโจทย์ความต้องการเทคโนโลยีอัจฉริยะของคนรุ่นใหม่ในไทย ด้านระยะทางขับขี่มีให้เลือกทั้งรุ่นที่วิ่งได้ 500 กิโลเมตรและ 560 กิโลเมตร ร่วมกับเครือข่ายสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาในไทย สามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางรอบเมืองได้ดี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก ทำให้ Zeekr X มีความได้เปรียบด้านราคาในตลาดท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ผู้สนใจซื้อทดลองขับเพื่อสัมผัสการปรับแต่งช่วงล่างว่ารองรับถนนที่หลากหลายของไทยได้ดีเพียงใด รวมถึงประสิทธิภาพเครื่องปรับอากาศว่ารับมือกับสภาพอากาศเขตร้อนได้ดีหรือไม่
Q&A ล่าสุด
Q
“Ford Everest จะเปิดตัวในปี 2025 ใช่หรือไม่?”
ขณะนี้ทาง Ford ประเทศไทยยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการนำเข้า Ford Everest รุ่นปี 2025 แต่ด้วยความนิยมของรุ่นนี้ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ Everest รุ่นปัจจุบันในไทย คาดว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการนำเข้ารุ่นใหม่ค่อนข้างสูง สำหรับ Everest 2025 คาดว่าจะยังคงตำแหน่ง SUV แข็งแกร่ง พร้อมอาจอัพเกรดเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะและระบบความบันเทิงที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งอัพเดตเหล่านี้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบในไทยและความต้องการเทคโนโลยีของผู้บริโภค แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Ford ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ทาง Everest Series ได้รับความนิยมจากสมรรถนะออฟโรดและพื้นที่กว้างขวางโดยเฉพาะในเขตภูเขาและชนบททางภาคเหนือของไทย ส่วนรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเช่น Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ควรทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน
Q
Ford กำลังจะออก SUV รุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่?
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน Ford มีแผนที่จะเปิดตัว SUV รุ่นใหม่ในปี 2025 โดยคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นไฟฟ้าหรือไฮบริด เพื่อตอบสนองเทรนด์ตลาดรถยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด สำหรับตลาดไทย Ford เองก็มีการนำเข้า SUV หลายรุ่นอย่าง Everest และ EcoSport ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด การเปิดตัว SUV รุ่นใหม่นี้จะช่วยเสริมสายผลิตภัณฑ์ของ Ford ในไทยให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในแง่ของพื้นที่ใช้งาน ประสิทธิภาพ และความรักษ์สิ่งแวดล้อม ไทยถือเป็นตลาดรถยนต์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความต้องการ SUV สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล SUV รุ่นใหม่ของ Ford อาจมีการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของคนไทย เช่น ระบบปรับอากาศที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนหรือช่วงล่างที่ทนทานมากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจทำให้รถรุ่นนี้มีความน่าสนใจในด้านราคามากขึ้น หากต้องการข้อมูลที่แน่นอน แนะนำให้ติดตามข่าวสารล่าสุดจากเว็บไซต์ฟอร์ดประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่
Q
รถยนต์รุ่นใดที่จะหยุดการผลิตในปี 2025?
จากสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์โลกและการปรับกลยุทธ์ของบางแบรนด์ในปัจจุบัน คาดว่าภายในปี 2025 จะมีรถบางรุ่นที่ทยอยหยุดผลิตเนื่องจากอัปเดตสายการผลิตหรือเปลี่ยนไปผลิตรถไฟฟ้า เช่น รุ่นดีเซลของ Toyota Land Cruiser Prado ในตลาดไทยอาจลดลงเนื่องจากกฎหมายเรื่องการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น ส่วน Mitsubishi Pajero ที่หยุดผลิตไปแล้วทั่วโลกตั้งแต่ปี 2021 อาจยังเหลือสต็อกขายในไทยไปจนถึงปี 2025 ผู้บริโภคไทยควรระวังว่าเมื่อรัฐบาลเพิ่มนโยบายสนับสนุนรถพลังงานสะอาด รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่อาจค่อยๆ หายไปจากตลาด เช่น Ford ประกาศแล้วว่าจะหยุดขายรถน้ำมันในยุโรปก่อนปี 2025 แต่สำหรับตลาดไทยยังต้องรอฟังประกาศจากตัวแทนจำหน่ายอีกที แนะนำให้เจ้าของรถไทยติดตามข่าวการหยุดผลิตจากช่องทางทางการ และลองศึกษารุ่นรถไฟฟ้าทดแทนล่วงหน้า เช่น รถพลังงานใหม่ของ BYD หรือ MG ที่เปิดตัวในไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับเทรนด์ในอนาคต นอกจากนี้ไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจจะมีรถไฮบริดและรถไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถน้ำมันแบบเดิม ผู้บริโภคควรพิจารณาค่าใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์จากนโยบายต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อรถคันต่อไป
Q
Ford Everest 2025 ราคาเท่าไหร่?
คาดว่าราคาของ Ford Everest รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1.8 ถึง 2.5 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องแต่งตัว เช่น รุ่นพื้นฐาน XL และรุ่นสูงสุด Platinum ที่มีราคาห่างกันค่อนข้างมาก แนะนำให้ผู้ซื้อติดตามราคาอัปเดตล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น รุ่นนี้ยังคงดีไซน์แนว SUV ทรหด พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาและระบบจัดการการขับขี่บนพื้นผิวต่างๆ เหมาะสมกับสภาพเส้นทางภูเขาและฤดูฝนของไทยเป็นอย่างยิ่ง จุดเด่นของรุ่นปี 2025 คือการอัปเกรดหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้วและหน้าจอกลางขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่ชัดเจนในส่วนของเทคโนโลยี ในตลาดไทย Everest มีคู่แข่งหลักอย่าง Toyota Fortuner และ Isuzu MU-X ผู้บริโภคควรเปรียบเทียบนโยบายหลังการขายที่แต่ละแบรนด์เสนอ เช่น Ford ไทยปัจจุบันให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร และบางตัวแทนยังมีโปรโมชั่นบริการฟรีให้อีกด้วย เนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รุ่นดีเซลของ Everest จึงได้เปรียบด้านภาษีมากกว่ารุ่นเบนซิน นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยนิยม SUV ระบบดีเซล
Q
รถ SUV รุ่นไหนดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2025?
หากคุณกำลังมองหา SUV ที่มีประสิทธิภาพครบวงจรสำหรับตลาดไทยในปี 2025 มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ เช่น โตโยต้า RAV4 Hybrid, ฮอนด้า CR-V e:HEV และ MG ZS EV ซึ่งแต่ละคันต่างโดดเด่นในเรื่องประหยัดน้ำมัน ความสะดวกสบายของพื้นที่ภายใน และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้นและถนนในเมืองของไทย โตโยต้า RAV4 Hybrid เป็นตัวท็อปสำหรับครอบครัวด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ ส่วนฮอนด้า CR-V e:HEV จะเหนือชั้นในด้านความรู้สึกขณะขับขี่และความหรูหราของห้องโดยสาร แต่ถ้าชอบรถไฟฟ้า 100% MG ZS EV ก็เป็นตัวเลือกน่าจับตามองด้วยระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมในไทย แถมรัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาด ทำให้ราคาซื้อรถไฟฟ้าและไฮบริดถูกกว่าในระยะยาวยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้อีกด้วย ก่อนตัดสินใจแนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบตามความต้องการส่วนตัว และตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่ของคุณเพื่อความมั่นใจในระยะยาว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

กำลังจะซื้อ Volvo EX30? รอสักครู่... รุ่นรถที่อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน Zeekr X คุ้มค่ากว่าที่คุณควรพิจารณา
ณัฐวุฒิDec 24, 2024

ZEEKR Xตลาดในประเทศไทย โถ่ว่ามีการลบออปชั่นออกไปมากมายในรถยนต์ชนิดนี้ไหม มาดูรถคันนี้กัน!
AshleyJul 11, 2024

งานแสดงรถกรุงเทพ: ZEEKR X และ ZEEKR 009 รุ่นขับขวาเริ่มรับจองล่วงหน้า
Kevin WongMar 26, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: ZEEKR X มาแล้ว รถยนต์ SUV ไฟฟ้าสำหรับ 5.8 วินาทีที่จะทำให้ศูนย์
Kevin WongMar 25, 2024

Zeekr 001 รุ่นใหม่ปี 2026 เตรียมเปิดตัวตุลาคมนี้! มาพร้อมแพลตฟอร์ม 900V และห้องโดยสาร “Starry Sky Concert Hall” สุดล้ำ
Kevin WongOct 9, 2025
ดูเพิ่มเติม


รุ่นรถ
ข้อดี
ข้อเสีย