Q

ความกว้างของ Toyota Camry คือเท่าไร

โตโยต้า คัมรี่ (Toyota Camry) มีความกว้างตัวถังแตกต่างกันเล็กน้อยตามปีและรุ่นรถ แต่รุ่นเจนเนอเรชันที่ 8 ซึ่งวางจำหน่ายในตลาดไทยตั้งแต่ปี 2018 ถึงปัจจุบัน มีความกว้างประมาณ 1840 มิลลิเมตร ขนาดนี้ถือว่าอยู่ในระดับกว้างปานกลางถึงกว้าง เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว แต่ในบางพื้นที่ที่ถนนแคบหรือที่จอดรถขนาดเล็ก เช่น ในกรุงเทพฯ อาจพบความลำบากบ้าง การออกแบบความกว้างของคัมรี่คำนึงถึงความสะดวกสบายภายในรถและความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่นั่งได้สามคนอย่างสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในไทยที่มองหารถขนาดกลาง ในสภาพอากาศร้อนของไทย ตัวถังที่กว้างขึ้นยังช่วยกระจายความร้อนจากแสงแดดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ สำหรับรถรุ่นในระดับเดียวกัน ฮอนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord) มีความกว้างประมาณ 1862 มิลลิเมตร ส่วน นิสสัน เทียน่า (Nissan Teana) กว้างประมาณ 1795 มิลลิเมตร ทำให้คัมรี่มีขนาดอยู่กึ่งกลาง ผู้ซื้อรถในไทยควรพิจารณาความกว้างของรถให้เหมาะสมกับโรงจอดรถหรือที่จอดรถที่ใช้บ่อย เช่น ที่จอดรถในห้างสรรพสินค้ามักจำกัดความกว้างไม่เกิน 1.9 เมตร ซึ่งคัมรี่สามารถจอดได้โดยไม่มีปัญหา แต่อย่างไรก็ตามควรวัดขนาดพื้นที่จอดรถที่ใช้เป็นประจำเพื่อความมั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย แต่ก็ยังมีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณา ประการแรกคือด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศ อาจให้กำลังที่ไม่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดและอากาศร้อนของประเทศไทย การเร่งแซงหรือออกตัวอาจรู้สึกอืดเล็กน้อย ประการต่อมา ช่วงล่างของ Camry เน้นความนุ่มนวลเพื่อความสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน จึงสามารถซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีบนถนนในเมือง แต่ในถนนต่างจังหวัดที่มีพื้นผิวไม่เรียบหรือขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง อาจรู้สึกถึงการโคลงของตัวถังมากกว่ารถบางรุ่นในระดับเดียวกัน อีกทั้งการออกแบบภายในแม้จะใช้งานง่ายแต่ในรุ่นกลางและรุ่นล่าง หน้าจออินโฟเทนเมนต์ยังมีขนาดเล็กและฟังก์ชันไม่หลากหลาย ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการความล้ำสมัยด้านเทคโนโลยี สำหรับรุ่นไฮบริดแม้จะประหยัดน้ำมันได้ดีแต่มีราคาสูงกว่าและค่าดูแลรักษาแพงกว่าเครื่องยนต์ปกติจึงทำให้บางกลุ่มลังเล อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของ Camry อยู่ที่ความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าขายต่อที่ดี จึงยังเหมาะกับผู้ใช้ชาวไทยที่เน้นการใช้งานระยะยาว แต่หากให้ความสำคัญกับสมรรถนะหรือเทคโนโลยีล้ำสมัย อาจต้องพิจารณารุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นอีกทางเลือก
Q
Toyota Camry อยู่ใน Segment ไหน
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับ D-Segment ซึ่งในไทยมักเรียกกันว่า Executive Sedan โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใช้ในครอบครัวระดับกลางถึงสูงและกลุ่มนักธุรกิจ คู่แข่งหลักในตลาดได้แก่ Honda Accord และ Mazda6 Camry มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 แบบ ได้แก่ เบนซิน 2.0 ลิตร 2.5 ลิตร และไฮบริด 2.5 ลิตร ซึ่งรุ่นไฮบริดได้รับความนิยมเป็นพิเศษเนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีให้กับรถยนต์ประหยัดพลังงาน ภายใต้สภาพอากาศร้อนของไทย Camry มาพร้อมระบบแอร์ที่เย็นเร็วและฟังก์ชันระบายอากาศที่เบาะนั่งซึ่งตอบโจทย์การใช้งานจริง อีกทั้งพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางเหมาะกับครอบครัวไทยที่นิยมเดินทางพร้อมกันหลายคน อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Camry ที่วางจำหน่ายในไทยเป็นรุ่นประกอบในประเทศจึงมีราคาที่สามารถแข่งขันได้มากกว่ารุ่นนำเข้าและเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Camry ได้รับความนิยมในกลุ่มรถราชการหรือรถสำหรับองค์กร
Q
มูลค่าการขายต่อของ Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry ในตลาดรถมือสองของประเทศไทยมีอัตราการคงมูลค่าที่ดีมาก โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดและรุ่นกลางถึงสูงที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากแบรนด์ Toyota มีความน่าเชื่อถือและเครือข่ายการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม โดยทั่วไปรถ Camry อายุ 3 ปี สามารถรักษามูลค่าได้ประมาณ 60-70% และอายุ 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 50% โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ กิโลเมตร และอุปกรณ์เสริม ผู้บริโภคไทยนิยมรถที่ประหยัดน้ำมันและทนทาน จึงทำให้รุ่นไฮบริดได้รับความนิยมมากกว่า มีมูลค่าคงเหลือสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 5-10% ตลาดรถมือสองในไทยให้ความสำคัญกับประวัติการบำรุงรักษา การมีประวัติซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ 4S อย่างครบถ้วนช่วยเพิ่มมูลค่าขายต่อได้อย่างมาก นอกจากนี้ Camry ที่ผลิตในไทยมีอะไหล่เพียงพอและราคาสมเหตุสมผลซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่า หากต้องการถือครองระยะยาวหรือขายต่อ ควรเลือกสีที่ได้รับความนิยมเช่นสีขาวหรือสีเงิน และเก็บรักษาใบเสร็จการซ่อมบำรุงไว้ให้ครบถ้วน รายละเอียดเหล่านี้มีผลต่อราคาประเมินในตลาดมือสองอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Honda Accord หรือ Mazda6 ในระดับเดียวกัน Camry มีความต้องการและความคล่องตัวในการขายต่อที่สูงกว่าโดยเฉพาะในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ แต่ในพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ที่มีความชื้นสูง อาจมีปัญหาเรื่องสนิมซึ่งอาจลดมูลค่ารถลงบ้างเล็กน้อย
Q
Toyota Camry มีกี่ซีซี
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันตามรุ่นและปีผลิต โดยรุ่นที่พบได้บ่อยจะใช้เครื่องยนต์แบบดูดอากาศธรรมชาติขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ซึ่งมีปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 1987CC และ 2494 CC ตามลำดับ ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ในประเทศไทย เนื่องจากนโยบายภาษีที่สนับสนุนรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดเล็ก รุ่น 2.0 ลิตรจึงได้รับความนิยมมากกว่า แต่รุ่น 2.5 ลิตรให้พละกำลังที่สูงกว่า เหมาะสำหรับผู้ขับที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์ของ Camry เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล ปริมาตรกระบอกสูบ (CC) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดขนาดเครื่องยนต์ แต่ประสิทธิภาพจริงขึ้นอยู่กับกำลังแรงม้าและแรงบิดด้วย ผู้บริโภคในไทยยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะของ Toyota ซึ่งมีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
Q
เครื่องยนต์ใน Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลักสองรุ่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ รหัส M20A-FKS และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ รหัส A25A-FKS ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี Dynamic Force ล่าสุดของ Toyota เน้นการประหยัดน้ำมันและสมดุลของพละกำลัง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรมีแรงม้าสูงสุดประมาณ 173 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้แรงม้าประมาณ 207 แรงม้า โดยจับคู่กับเกียร์ CVT สำหรับรุ่น 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สำหรับรุ่น 2.5 ลิตร ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล นอกจากนี้ Camry ยังมีรุ่นไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ผสมผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน ระบบระบายความร้อนของ Camry ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Toyota มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย ทำให้การบำรุงรักษาและซ่อมแซมสะดวกสบาย สำหรับผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอ รุ่นไฮบริดถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทยและช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว
Q
ประเภทเกียร์ของ Toyota Camry คืออะไร
ประเภทเกียร์ที่ Toyota Camry มีจำหน่ายในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน รุ่นเครื่องยนต์เบนซินมักจะติดตั้งเกียร์ CVT ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่มีการหยุดและเคลื่อนที่บ่อย ๆ ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้ระบบเกียร์ E-CVT แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ Toyota ได้พัฒนามาอย่างครบถ้วน ช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันอย่างมาก เกียร์ทั้งสองแบบนี้ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ทั้งในเรื่องการระบายความร้อนและความทนทาน ที่น่าสนใจคือ ผู้บริโภคในไทยให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาของรถยนต์เป็นพิเศษ การออกแบบเกียร์ของ Camry จึงคำนึงถึงจุดนี้ โดยมีระยะเวลาการบำรุงรักษาที่เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศ และมีเครือข่ายการจัดหาชิ้นส่วนที่ครอบคลุม นอกจากนี้ ด้วยความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้นในตลาดไทย รุ่นที่ใช้ระบบ E-CVT จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากเหมาะกับสภาพการจราจรที่แออัด แนะนำให้เลือกประเภทเกียร์ตามเส้นทางการขับขี่ประจำวันของคุณเพื่อให้เหมาะสมที่สุด
Q
PCD ของ Toyota Camry คืออะไร
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Toyota Camry โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่าล้อแม็กมีรูน็อต 5 รู โดยรูเหล่านี้จะกระจายอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะกับรถ Camry ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในตลาดไทย ในประเทศไทย เจ้าของรถหลายคนชอบแต่งล้อแม็กเพื่อเพิ่มความสวยงามหรือสมรรถนะของรถ ดังนั้นการตรวจสอบขนาด PCD ให้ตรงกับล้อแม็กใหม่จึงสำคัญมาก หากไม่ตรงกันอาจทำให้ติดตั้งไม่มั่นคงหรือมีปัญหาด้านความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ เนื่องจากภูมิอากาศในไทยที่ร้อนและชื้น แนะนำให้เลือกวัสดุล้อแม็กลักษณะน้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เช่น อะลูมิเนียมอัลลอย เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมดังกล่าว หากไม่แน่ใจขนาด PCD ของ Camry รุ่นของตัวเอง สามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถ หรือวัดจากรูน็อตล้อโดยตรง หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในพื้นที่ หรือร้านแต่งรถมืออาชีพที่จะให้คำแนะนำและบริการที่ถูกต้อง การรู้ขนาด PCD จะช่วยให้การเปลี่ยนล้อแม็กและเลือกยางเป็นไปอย่างเหมาะสม ปลอดภัย และนั่งสบายยิ่งขึ้นค่ะ
Q
Toyota Camry มี Apple Carplay หรือไม่
ใช่ครับ โตโยต้า คัมรี่ บางรุ่นที่จำหน่ายในตลาดไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งขึ้นอยู่กับปีและรุ่นของรถยนต์ เช่น รุ่นท็อปตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมามักจะติดตั้ง Apple CarPlay เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานฟีเจอร์นำทาง เพลง และโทรศัพท์ผ่านหน้าจอรถได้อย่างสะดวก แต่บางรุ่นล่างหรือปีเก่ากว่าอาจไม่มีฟังก์ชันนี้ จึงแนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในไทยก่อนซื้อ ฟังก์ชัน Apple CarPlay เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่และรับสายโทรศัพท์ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีฟังก์ชันเชื่อมต่ออื่น ๆ เช่น Android Auto และระบบนำทางที่รองรับการใช้งานในไทย รวมถึงบริการ T-Connect ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในรถ เหมาะสำหรับผู้ใช้ในไทยที่ต้องการความสะดวกทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลครับ
Q
ยางรถยนต์ของ Toyota Camry คือยี่ห้ออะไร
โตโยต้า คัมรี่ ในตลาดไทยมักติดตั้งยางจากหลายแบรนด์ ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีผลิต แบรนด์ที่พบบ่อยได้แก่ บริดจ์สโตน (Bridgestone) ดันลอป (Dunlop) และมิชลิน (Michelin) ซึ่งแบรนด์เหล่านี้มีความน่าเชื่อถือสูงและเครือข่ายบริการหลังการขายดี เช่น บริดจ์สโตนรุ่น Turanza เน้นความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวน เหมาะกับรถยนต์ระดับกลางถึงสูงอย่างคัมรี่ ขณะที่มิชลินรุ่น Primacy โดดเด่นเรื่องความทนทานและสมรรถนะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยในไทย นอกจากนี้ ผู้ใช้ในไทยควรพิจารณาสภาพถนนในท้องถิ่น หากขับขี่ในเมืองบ่อยควรเลือกยางที่เน้นความสบาย แต่หากเดินทางไกลหรือต่างจังหวัดบ่อย ควรเลือกยางที่ทนทานต่อการสึกหรอ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและแรงดันลมยางเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน และที่ร้านยางหลายแห่งในไทยมักมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางฟรี ทำให้สะดวกต่อการดูแลรักษารถยนต์มากขึ้น
Q
โตโยต้า แคมรี่ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
โตโยต้า คัมรี่ เป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย มีจุดเด่นคือคุณภาพที่น่าเชื่อถือ ความสบายในการขับขี่ และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนที่ซับซ้อนในไทย ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันดี โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพฯ ภายในกว้างขวาง เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว อีกทั้งโตโยต้ามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม อะไหล่มีพร้อม และการซ่อมบำรุงสะดวก อย่างไรก็ตาม คัมรี่มีดีไซน์ที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ขาดความทันสมัยที่วัยรุ่นบางกลุ่มชื่นชอบ และราคาสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน แม้จะมีอัตราการเก็บมูลค่าที่ดีในตลาดรถมือสอง แต่ส่วนลดสำหรับรถใหม่ค่อนข้างน้อย สำหรับผู้บริโภคในไทยที่เน้นความมั่นคงและต้นทุนการใช้ระยะยาว คัมรี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการความทันสมัยหรืองบประมาณจำกัด อาจพิจารณาฮอนด้า แอคคอร์ด หรือมาสด้า 6 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับดีในตลาดไทย โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดของแอคคอร์ดที่ประหยัดน้ำมัน และมาสด้า 6 ที่เน้นการขับขี่สนุกและดีไซน์สวย แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเพื่อให้ตรงกับความต้องการส่วนตัวมากที่สุด

ข้อดี

ภายในรถกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้และประหยัดน้ำมันมี 3 รุ่นของเครื่องยนต์ที่สามารถเลือก ตามราคา รุ่นเริ่มต้นคือเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 สูบ 2.0 ลิตร ด้านกลางคือเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 สูบ 2.5 ลิตร และฉบับเต็มรูปแบบคือ 2.5 ลิตร Dynamic Force Hybrid THS II ระบบกำลังผสมผสาน
รถรุ่นท็อปมีการกำหนดค่าความปลอดภัยที่อุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีถุงลมนิรภัย 9 อันและมีระบบความปลอดภัยมากมาย เช่น LDA ที่ช่วยสนับสนุนการเลี้ยวที่อัตโนมัติ มันเป็นผู้นำในระดับเดียวกัน
ค่าซากเลิกสูง ง่ายต่อการซื้อและขาย ราคามือสองเสถียร ยังคงมีความต้องการ

ข้อเสีย

การออกแบบภายในเริ่มดูเก่าแก่
เครื่องยนต์น้ำมันเบนซินขาดแสงไฟการออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับเริ่มต้นมีการสระ น้ำเช่น จำหน่ายล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว, ไม่มีกีบเปลี่ยนเกียร์บนวงเวียน, ขาดระบบกรองอากาศ, ไม่มีหลังคาสไลด์ทั้งหมด, ไม่มีระบบที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้การออกแบบภายนอกอาจไม่พอใจกับกลุ่มคนง่อนสาว การออกแบบอาจควรสะดุดตากว่าให้กับกลุ่มสาว แต่ในที่สุดคนที่ชอบลุคหรูหราอย่างง่ายอาจมองหา Honda Accord ที่มีลักษณะภายในและภายนอกที่ทันสมัยและมีความรู้สึกที่สูงขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
ค่าเบี้ยประกันของ Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าเบี้ยประกันของ Honda Accord จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปีรถ ขนาดเครื่องยนต์ ประเภทประกันภัย รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับขี่ เช่น อายุและประวัติการขับขี่ โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมี จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างคงที่ อยู่ที่ประมาณ 1,500–3,000 บาทต่อปี ส่วนประกันภัยชั้นหนึ่ง (Comprehensive Insurance) ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า เช่น ความเสียหายต่อตัวรถ การโจรกรรม และภัยธรรมชาติ จะมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่า โดยอยู่ที่ประมาณ 15,000–30,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับมูลค่ารถและบริษัทประกันที่เลือก หากมีการเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น คุ้มครองผู้โดยสาร หรือการเปลี่ยนอะไหล่แท้ ค่าเบี้ยก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แนะนำให้เจ้าของรถเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดความคุ้มครองจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และควรตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) และขอบเขตความคุ้มครองให้ละเอียด เพื่อให้ได้แผนประกันที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ บริษัทประกันบางแห่งในไทยยังมีส่วนลดสำหรับผู้ที่ไม่มีประวัติการเคลม (No Claim Bonus) ดังนั้น การขับขี่อย่างปลอดภัยและไม่เกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปได้อีกด้วย
Q
ความยาวของ Honda Accord คือเท่าไหร่?
ความยาวของ Honda Accord แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยรุ่นปี 2023 มีความยาวอยู่ที่ 4,962 มิลลิเมตร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ (D-Segment) ความยาวระดับนี้ช่วยให้ห้องโดยสารภายในกว้างขวางขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลัง สำหรับรุ่นก่อนหน้า เช่น ปี 2021 และ 2020 บางรุ่นจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 4,894 มิลลิเมตร โดยความยาวของรถวัดจากปลายสุดด้านหน้าไปจนถึงปลายสุดด้านหลังในแนวตรง ซึ่งรถที่มีความยาวมากมักให้พื้นที่ภายในที่โปร่งโล่งกว่า ในการเลือกซื้อรถยนต์ ความยาวของตัวรถถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทั้งการออกแบบภายนอก ความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และสมรรถนะในการควบคุมรถด้วยเช่นกัน
Q
แบตเตอรี่ของ Honda Accord มีความจุเท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda Accord ในตลาดไทย แบตเตอรี่ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 12V 60Ah ซึ่งเหมาะกับรุ่นปีใหม่ๆ โดยเฉพาะรุ่นไฮบริด (เช่น Accord Hybrid) มักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปมักใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรด สภาพอากาศร้อนของไทยส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก แนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อที่ทนความร้อนได้ดี เช่น Boliden หรือ Panasonic และควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่น (สำหรับแบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำ) หรือแรงดันไฟฟ้าเป็นประจำ ข้อควรระวังคือตำแหน่งแบตเตอรี่ของแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่น อาจอยู่ในห้องเครื่องหรือท้ายรถ เวลาเปลี่ยนต้องเช็คขั้วบวก-ลบให้ดี นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ทุก 2 ปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนต้องระวังความชื้นเพราะจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่สึกกร่อนเร็ว ถ้าใช้รถเฉพาะระยะสั้นบ่อยๆ อาจเสริมด้วยโซลาร์ชาร์จเจอร์เพื่อรักษาระดับไฟในแบตเตอรี่ จะช่วยยืดอายุการใช้งานไม่ให้เสื่อมเร็วจากการสตาร์ทรถบ่อย ส่วนรุ่นไฮบริดแนะนำให้ซ่อมบำรุงแบตเตอรี่ผ่านช่องทางของฮอนด้าโดยตรงเพราะเกี่ยวข้องกับระบบแรงดันสูง อาจเสี่ยงอันตรายหากแก้ไขเอง
Q
ค่าบำรุงรักษา Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าบำรุงรักษารถฮอนด้าแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิต ประเภทเครื่องยนต์ และบริการที่เลือกใช้ โดยทั่วไป ค่าบำรุงรักษาแบบพื้นฐาน เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ จะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ที่รวมการเปลี่ยนน้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000-10,000 บาท แต่ราคาที่แน่นอนควรตรวจสอบกับทางศูนย์บริการฮอนด้าในพื้นที่อีกที ศูนย์บริการฮอนด้าในไทยมักมีแพ็กเกจบำรุงรักษาหลายแบบให้เลือก ให้เหมาะกับความต้องการของเจ้าของรถ และควรบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาสภาพรถให้ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ ด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบระบบแอร์และน้ำหล่อเย็นเป็นพิเศษในช่วงบำรุงรักษาด้วย ถ้าเลือกใช้บริการอู่นอกอาจจ่ายถูกกว่า แต่ต้องดูเรื่องคุณภาพอะไหล่และความชำนาญของช่างให้ดี เพื่อความปลอดภัยของรถ เมื่อทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว เจ้าของรถจะสามารถวางแผนงบประมาณและเลือกบริการที่เหมาะสมได้ และควรเก็บเอกสารการบำรุงรักษาไว้ด้วย เพราะมีประโยชน์เวลาขายรถมือสองในอนาคต
Q
ค่าบำรุงรักษา Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าบำรุงรักษารถฮอนด้าแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิต ประเภทเครื่องยนต์ และนิสัยการขับขี่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลสำหรับรถเก๋งขนาดกลาง ถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4L ที่นิยมใช้กัน ค่าบำรุงรักษาพื้นฐาน (เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง และตรวจเช็ครอบรถ) ที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของฮอนด้าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,500 บาท แนะนำให้ทำทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ (รวมน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ฯลฯ) จะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท มักจะทำทุก 40,000 กิโลเมตร สภาพอากาศร้อนของประเทศไทยอาจทำให้สารหล่อเย็นและแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบส่วนเหล่านี้เป็นประจำ โดยค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้จะอยู่ที่ประมาณ 4,000-6,000 บาท สิ่งที่น่าสนใจคือฮอนด้าไทยมีแพ็กเกจบำรุงรักษาหลายแบบให้เลือก หากใช้บริการแพ็กเกจในระยะยาวจะช่วยประหยัดได้ 15%-20% สำหรับรุ่นไฮบริด แบตเตอรี่ของแอคคอร์ดมักมีอายุการใช้งาน 8-10 ปี แต่ค่าบำรุงรักษาจะสูงกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อยเนื่องจากระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนกว่า หากซ่อมบำรุงนอกศูนย์บริการในประเทศไทย ต้องมั่นใจว่าใช้อะไหล่แท้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ นอกจากนี้ กรมการขนส่งไทยแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SN หรือสูงกว่าเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศ การวางแผนรอบการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมและการเก็บรักษาประวัติการบริการไว้อย่างครบถ้วน ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของรถแต่ยังช่วยรักษามูลค่าเมื่อต้องการขายต่อในอนาคตอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม