Q

Honda Accord G9 ออกปีไหน

รถยนต์ Honda Accord G9 (รุ่นที่ 9) เปิดตัวครั้งแรกในตลาดโลกเมื่อปี 2012 ส่วนตลาดไทยเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2013 รุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแอคคอร์ดซีรีส์ โดยได้รับการปรับปรุงระบบแอร์และประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย พร้อมเครื่องยนต์ 2.0L และ 2.4L แบบดูดธรรมชาติตอบโจทย์ทั้งการประหยัดน้ำมันในเมืองและพลังบนทางหลวง แอคคอร์ดรุ่นที่ 9 ในไทยได้รับความนิยมจากระบบช่วงล่างนุ่มสบายและโครงสร้างตัวถังทนทาน เหมาะสำหรับการเดินทางไกลและสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ปรับแต่งสำหรับตลาดไทย เช่น กระจกกันยูวีและสารเคลือบป้องกันสนิม พิเศษกว่ารุ่นก่อนด้วยระบบ Honda LaneWatch สำหรับตรวจสอบจุดบอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยังเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารแถวหลังเพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวชาวไทย แอคคอร์ดครองความนิยมในตลาดรถยนต์ระดับกลางถึงสูงของไทยมาอย่างยาวนาน โดยรุ่น G9 ยังคงมีมูลค่าซื้อขายต่อสูงแม้จะผ่านมาแล้วหลายปี ส่วนรุ่นที่ 10 (2017) ได้พัฒนาในส่วนของระบบไฮบริดมากขึ้น แต่แอคคอร์ด G9 ยังคงเป็นรุ่นคลาสสิกที่พบเห็นได้ทั่วไปบนท้องถนนไทย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความหนาของกันชนหลังของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร
2023 Honda Accord มีความหนาของกันชนหน้า-หลังที่แตกต่างกันไปตามการออกแบบและมาตรฐานความปลอดภัย โดยทั่วไปจะใช้โครงสร้างแบบหลายชั้น ชั้นนอกเป็นพลาสติกเพื่อลดการบาดเจ็บของผู้ถูกชน ภายในอาจติดตั้งโฟมดูดซับพลังงานหรือคานเหล็กเสริมเพื่อปรับปรุงการป้องกันการชนที่ความเร็วต่ำ รุ่นที่ขายในไทยก็ทำตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกเหมือนกัน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก วัสดุกันชนต้องทนต่อการเสื่อมสภาพจากแสง UV และป้องกันการกัดเกาะด้วย นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รถญี่ปุ่นขายดีในไทย แต่ต้องเข้าใจว่าความหนากันชนไม่ใช่ตัววัดความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว รถสมัยใหม่เน้นการออกแบบโครงสร้างดูดซับพลังงานแบบองค์รวม อย่างเทคโนโลยีตัวถัง ACE ของ Honda ที่ช่วยกระจายพลังงานจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาซื้อรถในไทย ลองดูคะแนน ASEAN NCAP ที่ออกแบบทดสอบมาเฉพาะสำหรับสภาพถนนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรุ่น 2023 Accord ทำผลงานได้ดีมาก นอกจากนี้ กฎหมายไทยยังมีข้อกำหนดเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของผู้เดินถนน ซึ่งส่งผลต่อการออกแบบกันชนด้วย แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพตัวยึดกันชนเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังฤดูฝน เพื่อให้มั่นใจว่ายังทำงานได้ปกติ
Q
ค่าใช้จ่ายในการประกันภัยสำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ปี 2023 คือเท่าไหร่?
เบี้ยประกันรถยนต์ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย โดยทั่วไปเบี้ยประกันปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 3%-5% ของราคารถ ซึ่ง Accord ในไทยมีราคาประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ดังนั้นเบี้ยประกันเต็มรูปแบบต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 45,000-100,000 บาท ตัวเลขที่แน่นอนขึ้นอยู่กับอายุผู้ขับขี่ ประวัติการขับรถ ความครอบคลุมของกรมธรรม์ (เช่น ประกันชั้น 1 ที่รวมความเสี่ยงไฟไหม้และโจรกรรม) และโปรโมชั่นจากบริษัทประกัน เช่น คนขับวัยหนุ่มสาวหรือคนที่อาศัยในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อาจต้องจ่ายเบี้ยสูงกว่า ประกันรถยนต์ที่นิยมในไทยมีทั้งประกันภาคบังคับ (พรบ.) และประกันภาคสมัครใจ ซึ่งประกันภาคสมัครใจยังแบ่งเป็นประกันรถชนและประกันครอบคลุม แนะนำให้ผู้สนใจเช็คเบี้ยประกันที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันชั้นนำในไทยเช่นไทยเจเนอรัลหรือวิริยะ นอกจากนี้ควรรู้ว่าบริษัทประกันบางแห่งในไทยมีโปรโมชั่น "ไม่เคลมลดเบี้ย" ถ้าขับรถปลอดภัยติดต่อกันหลายปีก็จะได้ส่วนลดเพิ่ม ส่วนรุ่น Hybrid อาจมีเบี้ยประกันสูงกว่านิดหน่อยเนื่องจากค่าซ่อมที่แพงกว่า ก่อนตัดสินใจซื้อควรเปรียบเทียบบริการเสริมอย่างบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและประสิทธิภาพในการเคลมของแต่ละบริษัทประกันด้วย
Q
รัศมีวงเลี้ยวของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถ Honda Accord 2023 มีรัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปในรุ่นรถซีดานขนาดกลางด้วยกัน ทำให้ขับเคลื่อนในสภาพถนนเมืองและซอยแคบๆ แบบไทยได้สะดวก รัศมีวงเลี้ยวเป็นตัวชี้วัดความคล่องตัวของรถ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ยิ่งเลี้ยวกลับรถหรือจอดในที่จำกัดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ สำหรับตลาดไทย Accord ตอบโจทย์ด้วยระบบช่วงล่างนุ่มสบายและพวงมาลัยแม่นยำ ที่ช่วยให้รับมือกับสภาพถนนหลากหลาย ทั้งถนนเมืองที่วุ่นวายหรือทางโค้งในเขตท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ นอกจากเรื่องวงเลี้ยวแล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับทางไกลหรือบนทางด่วนของไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถซีดานขนาดกลาง แอคคอร์ดถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและความสะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองและการเดินทางพร้อมครอบครัวที่ทำได้ดีเยี่ยม
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบรีโมทสตาร์ทหรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยมีฟีเจอร์ Remote Start หรือระบบสตาร์ทรถจากระยะไกลให้ใช้จริง โดยเฉพาะในรุ่นท็อปๆ จะสามารถสั่งงานผ่านรีโมตคีย์หรือแอปพลิเคชัน Honda Connect ได้ ให้เจ้าของรถเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าเพื่อคลายร้อนในอากาศร้อน ซึ่งตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทยมากๆ ข้อควรรู้ก็คือ ระบบนี้จะทำงานในระยะประมาณ 30-50 เมตร และเครื่องยนต์จะหยุดทำงานอัตโนมัติภายใน 10 นาทีเพื่อความปลอดภัย สำหรับคนไทยที่สนใจ ฟังก์ชันนี้มักจะมาพร้อมกับระบบระบบกุญแจอัจฉริยะ แอร์อัตโนมัติ และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ แนะนำให้ถามพนักงานขายให้แน่ใจว่ารุ่นที่ซื้อมีระบบนี้ด้วยนะ นอกจากนี้ Remote Start ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Honda Connect เท่านั้น เพราะยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อีกเช่น ล็อครถจากระยะไกล ตรวจสอบตำแหน่งรถ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย รับรองว่าช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
Q
“Honda Accord ปี 2023 มีสมรรถนะในการทดสอบการชนเป็นอย่างไรบ้าง?”
รถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ทำผลงานได้ดีมากในการทดสอบความปลอดภัย โดยได้รับรางวัล "Top Safety Pick+" จาก IIHS ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านความปลอดภัย และยังได้คะแนนเต็ม 5 ดาวจาก NHTSA อีกด้วย ความปลอดภัยระดับนี้มาจากโครงสร้างตัวรถ ACE ที่อัพเกรดแล้วและระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน ทั้งระบบเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงการชน และระบบช่วยรักษาเลน สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถยนต์ปลอดภัย รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะแอคคอร์ดที่ขายในประเทศไทยมักใช้มาตรฐานความปลอดภัยเดียวกันกับเวอร์ชันทั่วโลก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย ทั้งรถติดหนักในกรุงเทพและการแบ่งถนนกับรถมอเตอร์ไซค์ ฟีเจอร์ความปลอดภัยเหล่านี้จะช่วยป้องกันคุณได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นที่ขายในไทยอาจมีการปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับกฎหมายและสภาพถนนท้องถิ่น ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษารายละเอียดสเปคให้ดี พร้อมทั้งอย่าลืมว่าปัจจุบันรัฐบาลไทยก็กำลังเข้มงวดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์มากขึ้น การเลือกรถที่มีเรตติ้งความปลอดภัยสูงแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้บริโภคไทย
Q
ตารางการบำรุงรักษาสำหรับ Honda Accord ปี 2023 คืออะไร?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทย แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) โดยบริการปกติจะรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง พร้อมกับการตรวจเช็คสภาพยาง ระบบเบรก ไฟรถ และส่วนสำคัญอื่นๆ เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและชื้น ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองแอร์และน้ำยาคูลแลนท์เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนรุ่น Hybrid ต้องตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำด้วย แนะนำให้ใช้บริการที่ Honda 4S ที่ได้รับการรับรองเท่านั้นและใช้อะไหล่แท้จาก Honda เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน ช่วงหน้าฝนของไทยควรเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและป้องกันสนิมใต้ท้องรถ ส่วนการขับขี่ในเมืองที่ติดขัดบ่อยๆ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนกำหนดได้ สามารถจองบริการบำรุงรักษาผ่านแอป MyHonda ในเว็บไซต์ Hondaไทยได้เลย ซึ่งบริการแบบดิจิทัลนี้สะดวกมากในไทย อีกเรื่องที่สำคัญคือ น้ำมันในไทยส่วนใหญ่เป็นแบบเอทานอล ควรใช้น้ำมันตามเลข octane ที่คู่มือระบุไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคาร์บอนสะสมในเครื่องยนต์ นอกจากนี้ อู่ Honda ในไทยยังมีบริการตรวจเช็คฟรี 21 จุดที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพรถได้อย่างละเอียดอีกด้วย
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบเสียง Bose หรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose ซึ่งระบบนี้มักมาพร้อมกับลำโพง 12 ตัว และใช้เทคโนโลยี Centerpoint พิเศษร่วมกับเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัล SurroundStage ของ Bose ที่มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงให้กับผู้โดยสารในรถยนต์ เหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงป็อปและเพลงไทยที่คนไทยชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบเสียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่าย Honda ในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบเสียง Bose ผ่านการออกแบบพิเศษให้ทนทานต่อความร้อนและความชื้นสูง เพื่อความเสถียรในการใช้งานระยะยาว นอกจาก Honda Accord 2023 ยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย Honda SENSING ล่าสุดและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านเทคโนโลยีและความสบายของตลาดไทย แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองฟังเสียงจริงก่อนซื้อ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น เพื่อเลือกรุ่นที่ตรงความต้องการมากที่สุด
Q
มูลค่าขายต่อของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถยนต์มือสอง Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าที่ค่อนข้างดี สืบเนื่องมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Honda ในตลาดไทย รวมถึงภาพลักษณ์ความทนทานและประโยชน์ใช้สอยของ Accord ที่สั่งสมมายาวนาน ตามหลักการทั่วไปของตลาดรถไทย รถใหม่จะเสียมูลค่าไปประมาณ 15-20% ในปีแรก จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สำหรับ Accord ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถเก๋งขนาดกลาง มักจะมีอัตราการรักษามูลค่าสูกว่าค่าเฉลี่ยของรถระดับเดียวกัน คาดว่าหลังจาก 3 ปียังสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ประมาณ 60% คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่ง Honda Accord 2023 ตอบโจทย์ได้ดีด้วยระบบเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศและมีอะไหล่พร้อมให้บริการเสมอ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยเสริมมูลค่ารถมือสองได้ไม่น้อย เคล็ดลับอีกอย่างคือสีรถก็มีผลต่อราคาขายต่อด้วย สีขาวและสีเงินจะขายได้ราคาดีกว่าสีสันแปลกๆ นอกจากนี้การมีประวัติการบริการที่ครบถ้วนและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจะช่วยรักษาราคารถได้มาก แนะนำให้บริการตามศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ การจอดรถในที่ร่มและตรวจสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์กับยางเป็นประจำจะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของรถ ทำให้ขายต่อได้ราคาดีขึ้น
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่
แน่นอนว่า Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ติดตั้งระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือ LKAS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย Honda Sensing ระบบนี้ใช้กล้องหน้าจับภาพเส้นแบ่งช่องทางรถ เมื่อความเร็วเกิน 65 กม./ชม. จะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่กลางช่องทางเดินรถโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกลในไทย ที่สำคัญระบบ LKAS ของ Honda ยังมีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ถ้ารถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะสั่นพวงมาลัยพร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าปัด ซึ่งช่วยได้มากในเส้นทางชนบทที่เส้นแบ่งช่องทางไม่ชัดเจน หรือกรณีผู้ขับเหนื่อยล้า นอกจาก LKAS แล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า ระบบช่วยเบรกป้องกันการชน ซึ่งทำให้คันนี้แข่งขันได้ดีในระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ แนะนำให้ลองขับจริงเพื่อทดสอบการทำงานของระบบเหล่านี้ โดยเฉพาะความแม่นยำของ LKAS ในสภาพการจราจรที่ต้องแบ่งช่องทางกับรถมอเตอร์ไซค์แบบไทยๆ รวมถึงความนุ่มนวลเวลาระบบทำงานว่าจะเข้ากับสไตล์การขับของแต่ละคนหรือไม่ ทุกวันนี้กรมการขนส่งไทยได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ ทำให้ระบบช่วยขับขี่แบบนี้กลายเป็นสิ่งที่รถระดับกลางถึงสูงต้องมีกันแล้ว
Q
คุณภาพการขับขี่ของ Honda Accord 2023 เป็นอย่างไร
รถ Honda Accord 2023 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องความสบายในการนั่ง ซึ่งมาจากระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างดีและห้องโดยสารที่กว้างขวาง ระบบช่วงล่างใช้แบบแมคเฟอร์สันด้านหน้าและมัลติลิงค์ด้านหลัง ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระและสะพานชะลอความเร็วที่พบได้บ่อยในไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเบาะนั่งก็มีความนุ่มที่พอดี ให้การรองรับที่ดีแม้ในการเดินทางไกล เหมาะสมทั้งสำหรับการขับในเมืองกรุงเทพฯที่รถติดและทริปท่องเที่ยวทางไกลในไทย แถมยังมีเทคโนโลยี Active Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงลมและเสียงถนนเวลาขับความเร็วสูง ทำให้ภายในรถเงียบขึ้นมาก ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์อัตโนมัติแบบสองโซนและช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็ช่วยเพิ่มความสบายได้ไม่น้อย ที่น่าสนใจคือความสูงของช่วงล่างที่ทำงานได้ดีกับสภาพถนนไทย ทั้งในเมืองและบนทางด่วนที่ความเร็วสูง ก็ไม่รู้สึกเหินเลย ส่วนเรื่องการใช้งานพื้นที่ในรถนั้น Accord ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับขาที่ด้านหลังซึ่งกว้างขวางใกล้เคียงรถหรูบางรุ่น สำหรับคนไทยที่เน้นการใช้รถครอบครัว นี่ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ นอกจากนี้รุ่น 2023 ยังปรับปรุงระบบพวงมาลัยให้คงความสบายแต่เพิ่มความมั่นคงเวลาเข้าโค้ง เหมาะมากกับถนนคดเคี้ยวในเขาหรือทางด่วนของไทย

ข้อดี

เครื่องยนต์ที่หลากหลาย 1.5 ลิตร เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ในขณะที่ 2.0 ลิตร ระบบไฮบริดจะร่วมมือกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุด 215 แรงม้า
ฉนวนเสียงในประตูดี การฉีดฟองเสียงที่หลายแห่งครั้งแรก และติดตั้งระบบลดเสียงที่ใช้งาน
การออกแบบภายในสบาย ความรู้สึกในการจับเวลเป็นเลิศ การออกแบบเบาะดีและสบาย ที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง
ขันธ์ที่ดี ยังมีความสนุกในการขับขี่ในเมืองและชานเมือง การขับขี่ช้าๆเป็นความสบาย แข็งแรงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย มีระบบช่วยขับขี่และความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น พวงมาลัยหลายฟังก์ชัน จอสัมผัสหรูหรา

ข้อเสีย

ส่วนภายในของรถบางส่วนไม่มีคุณภาพสูงพอ การใช้พลาสติกบางส่วนทำให้รู้สึกถึงคุณภาพ
รถรุ่นพื้นฐานไม่มีพอร์ท USB ที่ด้านหลัง หากต้องการ 4 พอร์ทคุณต้องซื้อรุ่น Hybrid
การปรับหมอนรองคอที่นั่งด้านหลังยาก ไม่มีการล็อคปรับภายในรถ
รถไม่กันแดด ราคาเกินหนึ่งล้านแต่มีกระจกข้างที่ปรับด้วยมือและไม่มีกระจกกันแดด ราคาคุ้มค่าน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
Navara มีค่าบำรุงรักษาสูงไหม?
สำหรับรถปิคอัพ Nissan Navara ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจัดอยู่ในระดับกลางๆ ของกลุ่มปิคอัพขนาดกลาง ค่าบำรุงรักษาประจำวันถูกกว่า Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX นิดหน่อยแต่ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะ Nissan มีเครือข่ายซัพพลายชิ้นส่วนภายในประเทศและศูนย์บริการที่ครอบคลุม การบริการพื้นฐาน (ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน) เช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองอากาศ จะเสียเงินประมาณ 2,500-3,500 บาท ส่วนการบริการใหญ่ (40,000 กม.) ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ฯลฯ จะใช้งบประมาณประมาณ 8,000-12,000 บาท ต้องระวังตรงที่เครื่องยนต์ดีเซลของ Navara ใช้เทคโนโลยีคอมมอนเรล ควรใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API CJ-4 เพื่อการทำงานที่ยาวนานของเครื่องยนต์ และด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบระบบแอร์และกันสนิมใต้ท้องรถเป็นประจำ ส่วนใครที่ใช้งานหนักหรือชอบขับออฟโรด แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลและน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์บ่อยกว่าปกติ โปรแกรมบริการจากศูนย์ Nissan ในไทยช่วยประหยัดได้ 15%-20% และยังมีบริการตรวจเช็คฟรีบ่อยๆ ซึ่งช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ดี เลี่ยงการใช้อะไหล่ไม่ใช่ของแท้เพราะอาจลดอายุการใช้งานและค่าขายต่อ โดยเฉพาะ Navara รุ่นที่มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Navara 2024 คืออะไร?
รถกระบะ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องดีเซล YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ และเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร โดยรุ่นดีเซลให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดพีค 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 7 สปีด ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับพื้นที่ภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย แถมยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเทคโนโลยีล่าสุดจาก Nissan ที่สามารถรับมือกับถนนลื่นช่วงฝนหรือทางออฟโรดในชนบทได้สบายๆ สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญในรถกระบะคือความทนทานและโอกาสในการแต่ง ซึ่ง Navara ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างแบบแชสซีคานรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและความสามารถในการบรรทุกสูงถึง 1 ตัน เหมาะมากสำหรับการทำเกษตรหรือใช้งานเชิงพาณิชย์ ในตลาดคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Isuzu D-MAX ก็มีเครื่องดีเซลคล้ายๆ กัน แต่จุดเด่นของ Navara อยู่ที่ระบบช่วงล่างที่เน้นความนุ่มสบายเวลาขับบนถนนทางหลวง เหมาะกับคนที่ต้องวิ่งระหว่างเมืองและชานเมืองเป็นประจำ สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและกรองน้ำมันดีเซลตามกำหนด จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
"Nissan Navara รุ่น 2024 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับใด?"
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ให้ประสบการณ์ด้านประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร คู่กับเกียร์ออโต้ 7 สปีด ตามข้อมูลทางการระบุว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและบนทางไกลแบบที่คนไทยใช้งานกันจริงๆ โดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนๆ และถนนหลากหลายแบบในไทย ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและการตั้งค่าเครื่องยนต์ยังช่วยรักษาอัตราการกินน้ำมันให้คงที่แม้ในสภาวะเหล่านี้ แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ Start-Stop ที่ช่วยประหยัดน้ำมันเวลาเจอรถติด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยเพราะราคานํ้ามันค่อนข้างสูงและปิคอัพมักถูกใช้ทั้งขับทำงานและขนของประจำวัน ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้ดูแลรักษารถตามกำหนดและขับขี่อย่างถูกวิธี เช่น ไม่เร่งกระชากและตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ เทคนิคง่ายๆ แบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีก
Q
Nissan Navara ปี 2024 มีเครื่องยนต์อะไร
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทย ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบที่ผ่านการปรับแต่งใหม่ให้มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดและประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลและเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ของ Nissan ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย สำหรับคนไทยแล้ว จุดแข็งของ Navara คือความทนทานและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายยังมีบริการแพ็กเกจดูแลพิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบระบายความร้อนแบบเสริมกำลังและการป้องกันสนิม เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Mitsubishi Triton ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใกล้เคียงกัน แต่ Navara ให้แรงบิดในรอบต่ำได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ รุ่นท็อปในตลาดไทยยังมาพร้อมระบบช่วยบนทางลาดชันและล็อกดิฟเฟอเรนเชียลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใช้งานได้จริงบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือในสวนผลไม้และฟาร์ม
Q
อัตราประหยัดน้ำมันของ Nissan Navara 2024 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยข้อมูลจำเพาะจะแตกต่างกันไปตามประเภทเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกลก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดี ผู้บริโภคไทยเมื่อเลือกซื้อรถปิกอัพมักให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน ซึ่ง Navara ถือว่ามีจุดแข็งที่สมดุลในด้านนี้ นอกจากนี้ลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำยังเหมาะกับการใช้งานบรรทุกของหรือขับเคลื่อนแบบออฟโรดเบาๆ ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ควรระลึกไว้เสมอว่าสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ในประเทศไทยสามารถส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจริงได้ จึงแนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หลีกเลี่ยงการเร่งกระชากหรือบรรทุกหนักเกินไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง Navara ยังมีความสามารถในการแข่งขันด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถปิกอัพในระดับเดียวกัน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานไทยที่ต้องการรถสำหรับทั้งการทำงานและครอบครัว
ดูเพิ่มเติม