Q

ความดันลมยางสำหรับ Suzuki Swift 2024 คือเท่าไร?

สำหรับรถ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 32-35 PSI (ประมาณ 2.2-2.4 บาร์) แต่ค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับขนาดยาง (เช่น 165/80 R14 หรือ 185/65 R15) และการจัดแต่งรถ (เช่น รุ่นมาตรฐานหรือรุ่นสปอร์ต) แนะนำให้ตรวจสอบป้ายที่กรอบประตูด้านคนขับหรือคู่มือการใช้งานเพื่อดูค่าที่กำหนดสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แรงดันลมยางจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น ดังนั้นควรวัดลมยางตอนยางเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำที่สุด และควรหลีกเลี่ยงการเติมลมยางตอนกลางวันที่อากาศร้อนจัด นอกจากนี้การขับขี่เป็นเวลานานในสภาพอากาศร้อนอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จึงควรตรวจสอบเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ลมยางเกินกำหนด ในชีวิตประจำวัน การที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเสื่อมสภาพเร็ว ส่วนลมยางแข็งเกินไปจะลดแรงยึดเกาะและความนุ่มนวลของรถ แนะนำให้ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการระบายน้ำของยาง การรักษาค่าแรงดันลมยางให้ได้มาตรฐานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนพื้นผิวเปียกลื่น หากเปลี่ยนยางที่ไม่ได้เป็นขนาดเดิมจากโรงงาน ควรปรับค่าแรงดันลมยางตามที่ผู้ผลิตยางใหม่แนะนำ เพราะยางแต่ละยี่ห้ออาจมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับแรงดันลมยางที่แตกต่างกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 มีความจุเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบดูดธรรมดาขนาด 1.2 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องรุ่น K12M ที่ใช้เทคโนโลยี DualJet ระบบฉีดดับเบิ้ล มีกำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ให้เลือกได้ทั้งเกียร์ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ประจำวันของคนไทย เพราะประหยัดน้ำมันมาก สิ่งที่คนไทยควรรู้คือเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เวลาขับนานๆ ในอากาศร้อนๆ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์รถยนต์ขนาดไม่เกิน 1,600 ซีซี ทำให้สวิฟท์คุ้มค่ามากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ก็จะมีอย่าง Toyota Yaris ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตร หรือ Honda Brio ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตรแบบ i-VTEC แต่แต่ละคันก็มีการตั้งค่าและเทคโนโลยีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ความต้องการของผู้ซื้อ แม้ว่าเครื่อง 1.2 ลิตรอาจจะรู้สึกหนักเวลาแซงบนทางด่วนโดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขา แต่ด้วยการออกแบบตัวถังที่เบา ทำให้การควบคุมการขับขี่คล่องตัวมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นเท่าไร?"
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่อง 1.2 ลิตร แบบแอทโมสเฟียร์ ทดสอบในไทยแล้ววิ่งได้ประมาณ 4.8 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด (HEV) ประหยัดยิ่งกว่าแค่ 4.2 ลิตร/100 กม. เหมาะกับทั้งขับเมืองที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยและขับทางไกล จุดเด่นอยู่ที่ตัวรถน้ำหนักเบาและการตั้งค่าเครื่องยนต์ที่ประสิทธิภาพสูง แถมยังใช้น้ำมัน E20 ในไทยได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เช็คฟิลเตอร์อากาศและลมยางสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการกินน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Honda Brio หรือ Toyota Yaris Ativ Swift อาจประหยัดพอๆ กันแต่จุดแข็งคือตัวรถกะทัดรัดกว่า ขับในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ได้คล่องกว่า อย่างไรก็ตามอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริงอาจต่างไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ เปิดแอร์บ่อยแค่ไหนและสภาพการจราจร แนะนำให้ลองขับทดสอบทั้งในเมืองและทางหลวงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
ใน Swift 2022 มีถุงลมนิรภัยกี่ลูก?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยเน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยรวม 6 ถุง ครอบคลุมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านกันกระแทกด้านข้าง ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถคอมแพคต์ในไทยเป็นอย่างดี ด้วยสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อน รถอย่าง Swift ที่มาพร้อมถุงลมนิรภัยหลายจุดแบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่เมืองและการเดินทางไกล โดยเฉพาะสภาพถนนในกรุงเทพฯ ที่มีการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว คนซื้อรถควรดูด้วยว่ารถมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ESP ABS หรือเปล่า เพราะระบบพวกนี้สำคัญมากเวลาเจอถนนลื่นช่วงหน้าฝนของไทย โครงการ Thai NCAP ก็แนะนำว่าควรเลือกรถที่มีถุงลมนิรภัยอย่างน้อย 4 ถุงขึ้นไป ซึ่งสวิฟท์ทำได้เกินมาตรฐานนี้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนถุงลมนิรภัยแม้จะสำคัญ แต่การคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกวิธีและการขับขี่อย่างปลอดภัยต่างหากที่เป็นพื้นฐานของความปลอดภัยจริงๆ ซึ่งกฎหมายไทยก็บังคับไว้ชัดเจนว่าต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับรถ
Q
ความยาวของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
Swift 2022 รุ่นที่วางขายในประเทศไทยมีความยาวตัวถัง 3,840 มิลลิเมอร์ ถือเป็นรถฮัทช์แบคคอมแพคต์ที่โด่งดังในตลาดเมืองไทยเพราะขับเคลื่อนคล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาหรือระบบไฮบริดเบา 1.4 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่นย่อยที่ไทยนำเข้า) คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนนุ่มๆ แต่ยังประหยัดน้ำมันเหมือนเดิม จุดเด่นที่คนไทยชอบคือการออกแบบช่วงล่างที่สั้น ทำให้เลี้ยวติดซอยแคบๆ หรือจอดในลานจอดรถชั้นแคบได้สบาย ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 4.8 เมตร แถมตัวถังยังใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบามีความแข็งแรงสูงทั้งประหยัดน้ำมันและปลอดภัยด้วย สำหรับคนที่อยากได้ความสปอร์ตมากขึ้น ทางไทยยังมีรุ่น Swift Sport ให้เลือก แถมด้วยช่วงล่างปรับสปอร์ตและชุดแต่งภายนอกดุดันยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังนิดนึงว่าขนาดตัวรถอาจต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาดโลกเพราะมีการปรับแต่งพิเศษสำหรับไทย เช่น กันชนหน้า-หลัง แนะนำให้ไปตรวจสอบข้อมูลที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อจะดีที่สุด
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 มีความจุถังน้ำมันเท่าไร"
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ที่ขายในประเทศไทยมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 37 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กทั่วไป ถังน้ำมันขนาดนี้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการขับขี่ในเมือง สำหรับคนไทย การเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง (ราคาประมาณลิตรละ 32-35 บาท) จะสามารถวิ่งได้ประมาณ 500-600 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและสไตล์การขับของแต่ละคน พูดถึงสวิฟท์แล้วต้องบอกว่าเป็นรถประหยัดที่ขายดีในไทย ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาและการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ทำให้ในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ยังสามารถทำระยะทางได้ถึง 18-20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับคนไทยที่ต้องเผชิญรถติดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ยางส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงที่ได้มาตรฐาน TISI ของไทยเพื่อช่วยบำรุงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีตลอดการใช้งาน
Q
รุ่น Swift ปี 2022 มีระยะทางการใช้งานเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ เวอร์ชั่นเครื่อง 1.2L แบบธรรมดาทดสอบขับจริงบนถนนได้ประมาณ 20-22 กม./ลิตร (หรือประมาณ 4.5-4.8 ลิตร/100 กม.) แต่ตัวเลขอาจแกว่งบ้างถ้าติดรถติดในกรุงเทพหรือขับบนทางด่วนแบบเหยียบๆ เบาๆ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่น้ำหนักเบา พร้อมระบบเริ่มต้นและหยุดเดินเบาที่ช่วยประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย สิ่งที่น่าสังเกตว่าการรับรองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Swift เวอร์ชั่นประเทศไทยใช้มาตรฐานภายในประเทศ (กฟผ.) มีความแตกต่างจากค่าทดสอบ NEDC หรือ WLTP ของยุโรป แนะนำให้เจ้าของรถยนต์ชาวไทยหมั่นตรวจเช็คไส้กรองอากาศเป็นประจำ ซึ่งส่งผลต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริง นอกจากนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91/95 ที่สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแตกต่างจากน้ำมันเบนซินทั่วไปประมาณ 3-5% การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้เป็นอย่างดี
Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 คืออะไร?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบให้ลูกค้าได้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกคือเครื่อง 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดารหัส K12M ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์ 5 สปีดมือถือหรือ CVT ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะสุดๆ สำหรับขับในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ส่วนอีกตัวคือเครื่อง 1.4 ลิตร Boosterjet เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 129 แรงม้า คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตและความแรงเป็นพิเศษ Swift ที่ผลิตในไทยนี้ยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน พร้อมทั้งใช้งานกับน้ำมัน E20 ได้ไม่มีปัญหา ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดกระทัดรัด ทำให้จอดในซอยแคบของไทยได้ง่าย เป็นรถที่ขายดีมาอย่างยาวนานในตลาดรถขนาดเล็กของไทย เพราะความน่าเชื่อถือและราคาที่จับต้องได้ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นความแรงหรือประหยัดน้ำมันตามความต้องการของตัวเอง
Q
ความคิดเห็นของ Suzuki Swift 2022 ในตลาดไทย
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีในตลาดไทย รถขนาดเล็กคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดและการขับขี่ที่คล่องตัว จนเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดรวมถึงความประหยัดน้ำมันที่เฉลี่ยประมาณ 20-22 กม./ลิตร ทำให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมาก Swift 2022 ยังอัพเกรดในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีระบบพื้นฐานอย่างถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และ EBD เป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่นท็อปบางรุ่นยังเพิ่มกล้องถอยหลังและระบบ ESP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย ด้านภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่การประกอบงานเรียบร้อยสมกับระดับราคา สำหรับเครื่องยนต์ ตลาดไทยเน้นไปที่รุ่น 1.2 ลิตร แบบเครื่องยนต์สูบธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้กำลังส่งเรียบเนียน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก นอกจากนี้ Swift ยังมีอัตราการรองรับมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันในตลาดมือสอง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน Swift 2022 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่แนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Brio เพื่อดูว่าคันไหนตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณของคุณได้ดีที่สุด
Q
ความเร็วสูงสุดของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม. โดยอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ Swift เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดพลังงาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมดาหรือ 1.0 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น) ให้ความรู้สึกขับขี่ที่คล่องตัวทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ สภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี แต่ Swift ออกแบบระบบหล่อเย็นมาเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดน้ำมันซึ่งตอบโจทย์คนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่คล่องตัว ทำให้ Swift เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้นก็มีรุ่น Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้ความแรงกว่าเดิม ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 210 กม./ชม. ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ควรเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุดตลอดเวลา
Q
Suzuki Swift 2022 เป็นรถที่ดีหรือเปล่า?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็นรถขนาดเล็กที่คุ้มค่าเงินมาก เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานประจำวัน ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมชาติที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆ และที่จอดรถคับขัน ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี มีหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วและบลูทูธให้แบบมาตรฐาน แม้ว่าจะใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลัก แต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา สมกับราคา ในด้านความปลอดภัย รุ่นไทยมีถุงลมนิรภัย 2 ใบ พร้อมระบบ ABS และ EBD ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าอยากได้ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมก็สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมได้ Swift ยังมีจุดเด่นที่ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่ายในไทย ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนไทยหลายคนเลือกมัน ส่วนระบบแอร์ที่ไทยต้องใช้สู้ร้อนนั้น Swift ก็ทำได้ดีเยี่ยม เย็นเร็วทันใจ ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้จริง Swift ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการพื้นที่กว้างขวางหรืออุปกรณ์มากกว่านี้ อาจต้องมองรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Chevrolet Colorado ปี 2020 คืออะไร?
รถกระบะ Chevrolet Colorado ปี 2020 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย โดยการกำหนดค่าเฉพาะจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและความต้องการของตลาด ในตลาดท้องถิ่น เครื่องยนต์ที่พบได้บ่อยที่สุดคือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตร เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้กำลังประมาณ 200 แรงม้า เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการขนส่งสินค้าเบา ในขณะที่เครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตร ให้กำลังถึง 308 แรงม้า เหมาะสำหรับการลากจูงหรือการใช้งานหนัก นอกจากนี้ ในบางตลาดต่างประเทศยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.8 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูงกว่าอีกด้วย ในฐานะรถกระบะขนาดกลาง การออกแบบเครื่องยนต์ของ Colorado จึงสร้างสมดุลระหว่างความประหยัดน้ำมันและความทนทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น V6 ใช้เทคโนโลยีการฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง ทำให้รักษาประสิทธิภาพการทำงานที่เสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อน ระบบเกียร์โดยทั่วไปจะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือ 8 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับตามสภาพถนน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ซับซ้อนบ่อยครั้ง คู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น โตโยต้า ไฮลักซ์ และฟอร์ด เรนเจอร์ ก็มีเครื่องยนต์ขนาดความจุใกล้เคียงกัน แต่การปรับแต่งแชสซีของโคโลราโดนั้นเน้นไปทางสไตล์อเมริกันมากกว่า ส่งผลให้มีเสถียรภาพที่ดีกว่าที่ความเร็วสูง
Q
รถ Chevy Colorado ปี 2020 มีเทอร์โบหรือไม่?
รถกระบะ Chevrolet Colorado ปี 2020 มีตัวเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จในบางตลาด แต่การกำหนดค่าเฉพาะจะขึ้นอยู่กับรุ่นในแต่ละภูมิภาค ในบางตลาด อาจติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ Duramax 2.8 ลิตร ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องแรงบิดสูงที่รอบต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องบรรทุกหรือขนส่งสิ่งของบ่อยครั้ง เช่น ในพื้นที่ชนบทที่มักขนส่งสินค้าเกษตรหรือวัสดุก่อสร้าง ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมักมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบดูดอากาศธรรมชาติ เช่น เครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตร ให้กำลังที่ราบรื่นและค่าบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการขับขี่ในเมืองทุกวันหรือการเดินทางไกลเป็นครั้งคราว เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จได้รับความนิยมมากขึ้นในรถกระบะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ให้สมรรถนะกำลังที่แข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนและชื้น เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จจะสูญเสียกำลังน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ซับซ้อนบ่อยครั้ง หากคุณสนใจ Colorado รุ่นเทอร์โบชาร์จ ขอแนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณโดยตรงเพื่อรับข้อมูลการกำหนดค่าที่ถูกต้องที่สุด คุณยังสามารถเปรียบเทียบกับรถกระบะเทอร์โบชาร์จรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันได้ เช่น คู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร หรือ 2.3 ลิตร แต่ละยี่ห้อจะมีสไตล์การปรับแต่งเทอร์โบที่แตกต่างกันเล็กน้อย บางยี่ห้อเน้นการส่งกำลังในรอบต่ำ ในขณะที่บางยี่ห้อเน้นการส่งกำลังอย่างต่อเนื่องในรอบสูง การทดลองขับจะช่วยให้คุณหารถรุ่นที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่ของคุณมากที่สุด
Q
ในรถ Chevy Colorado ปี 2020 ใช้ระบบเกียร์แบบใด?
รถปิกอัพเชฟโรเลต Colorado รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมีตัวเลือกเกียร์ให้เลือก 2 แบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดยขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 3.6 ลิตร V6 จะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ทันสมัยกว่า ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพการขับขี่ในเมืองที่ต้องเร่งและหยุดบ่อยๆ หรือการเดินทางไกล เกียร์ 8 สปีดช่วยปรับสมดุลระหว่างพลังขับเคลื่อนและการกินน้ำมันได้ดี Colorado ถูกตั้งค่าเกียร์มาให้ทนทาน เหมาะกับหลากหลายสภาพถนน ทั้งถนนชนบทหรือการขับออฟโรดเล็กน้อย สำหรับคนที่เน้นใช้งานจริงจัง ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และบำรุงรักษาสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ตรวจสอบสภาพเกียร์ทุก 60,000 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Ford Ranger และ Toyota Hilux ที่มีเกียร์คล้ายๆ กัน แต่เกียร์ 8 สปีดของ Colorado ทำได้ดีในเรื่องความเงียบขณะขับทางไกล
Q
รถ Chevy Colorado ปี 2020 มีน้ำหนักเท่าไร?
น้ำหนักของ Chevrolet Colorado ปี 2020 แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย รุ่นขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐานมีน้ำหนักประมาณ 1900 กิโลกรัม ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อระดับสูงมีน้ำหนักประมาณ 2100 กิโลกรัม รถกระบะคันนี้ใช้โครงเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงและส่วนประกอบอลูมิเนียมอัลลอยด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายน้ำหนัก ทำให้สมดุลระหว่างความจุในการบรรทุกและการประหยัดน้ำมัน สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องรับมือกับสภาพถนนในชนบทที่ซับซ้อนหรือสภาพแวดล้อมในเมืองที่แออัดบ่อยครั้ง การปรับแต่งแชสซีของ Colorado เน้นความทนทาน ระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบรรทุกของหนัก แต่ขอแนะนำให้ตรวจสอบการสึกหรอของยางเป็นประจำ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในท้องถิ่นอาจเร่งการเสื่อมสภาพของยางได้ ในรถยนต์ประเภทเดียวกัน รถกระบะขนาดใกล้เคียงกันโดยทั่วไปมีน้ำหนักตั้งแต่ 1.8 ถึง 2.2 ตัน เมื่อเลือกซื้อ ควรพิจารณาประเภทเครื่องยนต์ด้วย ตัวอย่างเช่น รุ่นดีเซลมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย แต่เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกลมากกว่า ในขณะที่รุ่นเบนซินอาจมีข้อได้เปรียบในด้านค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ น้ำหนักตัวรถมีผลโดยตรงต่อค่าตรวจสภาพประจำปีและค่าประกันภัย ดังนั้นจึงควรปรึกษาตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณเพื่อขอข้อมูลที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับ Chevy Colorado 2020 มีอะไรบ้าง?
รถกระบะ Chevrolet Colorado ปี 2020 มีปัญหาที่พบได้ทั่วไปหลายประการจากความคิดเห็นของผู้ใช้ รวมถึงอาการกระตุกเป็นบางครั้งในระบบเกียร์ขณะเปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วต่ำ การตอบสนองช้าของระบบความบันเทิง (รายงานโดยเจ้าของบางราย) และความสบายของเบาะหลังอยู่ในระดับปานกลางสำหรับการเดินทางไกล แม้ว่าเครื่องยนต์ดีเซล Duramax 2.8 ลิตรในรถกระบะคันนี้จะประหยัดน้ำมันได้ดี แต่ตัวกรองอนุภาค DPF จำเป็นต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการอุดตันในสภาพอากาศร้อนและชื้น โครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-frame และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เป็นตัวเลือกทำให้ Colorado มีความน่าเชื่อถือบนถนนชนบทและในสภาพออฟโรดเบาๆ แต่ขอแนะนำให้ตรวจสอบความแน่นของสลักเกลียวแชสซีเป็นประจำ เนื่องจากสภาพอากาศฝนตกในท้องถิ่นอาจทำให้เกิดสนิมได้ กระบะบรรทุกมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งวัสดุก่อสร้างหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร แต่ขอแนะนำให้เคลือบสารกันรอยขีดข่วนเพื่อปกป้องพื้นกระบะ เมื่อบำรุงรักษารถ ควรให้ความสำคัญกับการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้มาตรฐาน API CK-4 เนื่องจากมีความสำคัญต่อการยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ โดยรวมแล้ว รถกระบะคันนี้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความสมดุลระหว่างการใช้งานประจำวันและความต้องการในการขนส่งสินค้า แนะนำให้ทดลองขับอย่างละเอียดก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์การขับขี่ตรงตามความคาดหวัง
ดูเพิ่มเติม