Q
Honda Accord เปิดตัวครั้งแรกเมื่อไหร่?
Honda Accord เปิดตัวครั้งแรกในปี 1976 และได้รับการอัพเดทหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดไทย ก็มีการเปิดตัวรุ่นต่างๆ ของแอคคอร์ดอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2023 นี้ ก็มีรุ่น 2023 ฮอนด้า แอคคอร์ด 2.0L e:HEV E, EL และ RS ออกมาให้เลือกกัน รุ่นปี 2023 ทุกแบบมาพร้อมระบบไฮบริด 2.0 ลิตร เต็มไปด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นนำ เช่น ระบบถุงลมนิรภัยหลายจุด และยังมีห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย แม้ว่าแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องขนาดล้อ แต่ทุกรุ่นยังคงรักษามาตรฐานความละเอียดและสมรรถนะสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของแอคคอร์ดไว้อย่างครบถ้วน ฮอนด้ามักจะนำเทคโนโลยีล่าสุดมาปรับใช้ในรุ่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและพัฒนาประสบการณ์การใช้งานโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Honda Accord มีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Honda Accord จะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อด้อยที่ผู้ใช้บางรายได้ให้ข้อสังเกตไว้ เช่น การออกตัวที่ค่อนข้างอืด การตอบสนองของเครื่องยนต์ไม่ดุดัน และรู้สึกหน่วงเวลาต้องการเร่งความเร็ว ช่วงล่างมีการเซ็ตอัพที่แข็ง เมื่อขับผ่านถนนที่ไม่เรียบจะรู้สึกถึงแรงสะเทือนชัดเจน ส่งผลต่อความสบายในการโดยสาร อีกทั้งความสูงจากพื้นค่อนข้างต่ำ เมื่อบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันหรือสัมภาระจำนวนมาก ตัวรถจะยิ่งเตี้ยลง ทำให้การผ่านเส้นทางขรุขระมีโอกาสชนใต้ท้องรถได้ง่าย
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถยังล้าหลังกว่ารถแบรนด์จีนบางรุ่น อัปเดตแผนที่ล่าช้า ระบบมีอาการหน่วง และไม่สามารถดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมได้ การออกแบบภายในยังดูอนุรักษ์นิยม ไม่ให้ความรู้สึกทันสมัยหรือล้ำเทคโนโลยี ตำแหน่งของปุ่มและหน้าจอบนแดชบอร์ดยังไม่สะดวกต่อการใช้งาน วัสดุและงานประกอบอยู่ในระดับปานกลาง การเก็บเสียงไม่ดีนัก เมื่อขับด้วยความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมและเสียงยางเข้ามาชัดเจน ทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารไม่เงียบสงบเท่าที่ควร
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว Accord มีระดับอุปกรณ์มาตรฐานที่ไม่โดดเด่นเท่าไรนัก ขาดออปชันไฮเทคหรือฟีเจอร์หรูหรา ราคาอยู่ในระดับค่อนข้างสูง และราคาขายต่อในตลาดมือสองอาจไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงพบปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนมีปัญหา หรือระบบเครื่องเสียงรวนในบางครั้ง
Q
Honda Accord อยู่ในเซกเมนต์ไหน?
ในตลาดประเทศไทย ฮอนด้า แอคคอร์ด ถือเป็นรถยนต์ในกลุ่ม D-Segment หรือที่เรียกกันว่าเซดานระดับกลาง โดยตลาดรถกลุ่มนี้ในไทยมักถูกเรียกว่า "Executive Sedan" หรือ "รถครอบครัวขนาดใหญ่" โดยคู่แข่งหลักๆ ก็จะมีโตโยต้า แคมรี มาเซดา 6 และอื่นๆ แอคคอร์ดเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้ครอบครัวและธุรกิจระดับกลางถึงสูงของไทย ด้วยความกว้างขวางของห้องโดยสาร ความสบายในการนั่ง และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะเหมาะกับการเดินทางระยะไกลในเมืองอย่างกรุงเทพฯ หรือการเดินทางแบบครอบครัว สำหรับตลาดไทย แอคคอร์ดมักมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือ 1.5T เทอร์โบและ 2.0L ไฮบริด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและสมรรถนะตรงกับความต้องการของคนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง นอกจากนี้รถในกลุ่ม D-Segment ในไทยมักมาพร้อมกับเทคโนโลยีครบครัน อย่างระบบความปลอดภัย Honda SENSING ฟังก์ชั่นเชื่อมต่ออัจฉริยะ ซึ่งก็เป็นจุดขายสำคัญของแอคคอร์ดเช่นกัน ที่น่าสนใจคือความนิยมรถเซดานในไทยเริ่มเปลี่ยนไปสู่ SUV มากขึ้น แต่แอคคอร์ดยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดได้ดีด้วยดีไซน์คลาสสิกและภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกในการขับขี่และความสบายเป็นหลัก
Q
ค่าขายต่อของ Honda Accord คือเท่าไหร่?
Honda Accord มือสองในประเทศไทยมีมูลค่าการขายต่อที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะคันที่สภาพดีและมีประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการครบถ้วน โดยทั่วไปแล้ว หากใช้ไปประมาณ 3 ปี มูลค่าคงเหลือจะอยู่ที่ราว ๆ 60% และเมื่อใช้งานประมาณ 5 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 50% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย ระยะทางที่ใช้งาน และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น
ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในรถญี่ปุ่นสูง ซึ่ง Accord เองก็เป็นที่นิยมในตลาดรถมือสอง ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม จึงยิ่งมีมูลค่าการขายต่อที่น่าสนใจมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา
ประเทศไทยมีสภาพอากาศและสภาพถนนที่อาจก่อให้เกิดความสึกหรอของรถได้ง่าย จึงควรดูแลรถอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงประวัติน้ำท่วม เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อมูลค่าขายต่ออย่างมาก หากต้องการเพิ่มความน่าสนใจให้รถมือสอง ควรเก็บประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการไว้ให้ครบ และหลีกเลี่ยงการปรับแต่งหรือดัดแปลงรถ เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่นิยมรถที่ยังคงสภาพเดิมจากโรงงาน
ควรติดตามข่าวสารด้านนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับการนำเข้ารถมือสองหรือกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายรถมือสองภายในประเทศในบางช่วงเวลา
Q
เครื่องยนต์ของ Honda Accord มีความจุกี่ซีซี (CC)?
Honda Accordมีหลายรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดความจุต่างกัน บางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1498 มิลลิลิตร หรือก็คือ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เช่น รุ่น 2021 Honda Accord 1.5 Turbo EL ส่วนบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1993 มิลลิลิตร หรือ 2.0 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เช่น รุ่น 2023 Honda Accord 2.0L e:HEV E และรุ่นผสมอื่นๆ ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ความจุเครื่องยนต์เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่บอกขนาดและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งกำลังเครื่องและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ความจุต่างกันตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้ โดยเครื่องยนต์ขนาดเล็กมักจะประหยัดน้ำมันกว่า ในขณะที่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่จะให้กำลังสูงกว่า พลักดันแรงกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความแรง
Q
Honda Accord ใช้เครื่องยนต์แบบไหนเหรอ?
รถฮอนด้าแอคคอร์ดมีให้เลือกหลายรุ่นด้วยเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน บางรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ Earth Dream ที่มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC และ i-VTEC สำหรับควบคุมเวลาการเปิดปิดวาล์วและระยะยกวาล์วได้อย่างแม่นยำตามสภาพการขับขี่ แถมยังมีเทคโนโลยี Double Overhead Camshaft ที่เหมาะกับการใช้งานรอบสูง รวมถึงระบบฉีดน้ำมันตรงแบบหลายรูที่ช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องยนต์รุ่นพาวเวอร์สูงสุดแรงม้าได้ถึง 194 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในประมาณ 7.95 วินาที ส่วนรุ่นพาวเวอร์ต่ำสุดแรงม้าอยู่ที่ 143 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร
บางรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบแบบธรรมดา แรงม้าสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตร ให้กำลังส่งที่เน้นความนุ่มนวลและความเสถียร แถมยังมีความน่าเชื่อถือสูง นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า กำลังรวมระบบสูงถึง 207 แรงม้า ช่วงออกตัวมอเตอร์ตอบสนองเร็ว ส่วนช่วงกลางและสูงเครื่องยนต์ส่งกำลังอย่างสม่ำเสมอ ทำให้การขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
Q
PCD Size ของ Honda Accord คือเท่าไหร่
PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Accord โดยทั่วไปจะอยู่ที่ขนาด 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นสเปกมาตรฐานที่ใช้ใน Accord ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในประเทศไทย ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด โดยขนาดนี้สามารถใช้งานร่วมกับรถญี่ปุ่นหลายรุ่น รวมถึงบางรุ่นของแบรนด์ในประเทศได้ ทำให้การเปลี่ยนล้อแม็กหรืออัปเกรดยางทำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนเปลี่ยนล้อ ควรตรวจสอบค่า Offset (ET) และขนาดดุมล้อ (Center Bore) ให้แน่ชัด เพื่อความพอดีและปลอดภัย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุก การเลือกแม็กจึงควรคำนึงถึงคุณสมบัติในการระบายความร้อนและการรีดน้ำเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TISI เพื่อความมั่นใจ
หากต้องการข้อมูล PCD ที่ตรงกับปีผลิตหรือรุ่นย่อยของรถ ควรตรวจสอบจากเว็บไซต์ Honda ประเทศไทย หรือสอบถามที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน นอกจากนี้ ร้านแต่งรถบางแห่งในไทยก็มีบริการตรวจสอบความเข้ากันของล้อแม็กแบบมืออาชีพ เพื่อช่วยให้เจ้าของรถเลือกได้อย่างเหมาะสมที่สุด
Q
รถ Honda Accord รับรอง Apple Carplay ไหม?
Honda Accord ที่จำหน่ายในประเทศไทยบางรุ่นมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay โดยเฉพาะรุ่นย่อยที่เป็นรุ่นสูงตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง การฟังเพลง หรือการโทรศัพท์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ หรือการขับขี่ทางไกล
หาก Accord ของคุณไม่มีระบบ CarPlay ติดตั้งมาจากโรงงาน ก็สามารถสอบถามตัวแทนจำหน่าย Honda ในไทยเกี่ยวกับการอัปเกรดหรือการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่รองรับ CarPlay ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณหลักพันถึงหมื่นบาท ทั้งนี้ Accord รุ่นที่จำหน่ายในไทยบางรุ่นยังรองรับ Android Auto ด้วย สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เลือกใช้อุปกรณ์ CarPlay ที่ได้รับการรับรองจากโรงงาน เพื่อความเสถียรในการใช้งาน และควรอัปเดตซอฟต์แวร์ของระบบอยู่เสมอเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยโชว์รูม Honda หลายแห่งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น Siam Paragon หรือ Central World มักมีรถรุ่นที่ติดตั้ง CarPlay ให้ทดลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบจราจรอัจฉริยะในไทย CarPlay กำลังกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถระดับกลางถึงพรีเมียม และในอนาคตอาจรองรับบริการที่เหมาะกับการใช้งานในไทยมากขึ้น เช่น การแจ้งเตือนสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ หรือผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย
Q
ยางติดรถของ Honda Accord ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางรถยนต์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับฮอนด้าแอคคอร์ดในตลาดไทย จะแตกต่างกันไปตามรุ่นปีและระดับการแต่งรถ โดยส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง มิชลิน (Michelin), บริดจสโตน (Bridgestone) และดันลอป (Dunlop) ซึ่งยางเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีแรงยึดเกาะที่ดีและทนทานต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อย่างเช่น ยางมิชลิน Primacy ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเงียบและนุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมือง ส่วนบริดจสโตน Turanza จะเน้นการเกาะถนนเมื่อ路面เปียก ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง คนไทยยังนิยมเลือกยางท้องถิ่นอย่างดีสโตน (Deestone) ที่ราคาจับต้องได้และเหมาะกับสภาพถนนไทย แต่ต้องระวังเรื่องขนาดยางที่อาจส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและดอกยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
Q
Honda Accord เป็นรถดีไหม? มาดูกันว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
Honda Accord ถือเป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย จุดเด่นของรุ่นนี้คือระบบขับเคลื่อนที่เชื่อถือได้ การขับขี่ที่นุ่มนวล และความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น และการขับขี่ระยะไกล โดยเครื่องยนต์ 1.5T เทอร์โบ หรือรุ่นไฮบริด 2.0L ก็สามารถทำงานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย พร้อมทั้งช่วยประหยัดค่าน้ำมันอีกด้วย
ห้องโดยสารของ Accord ออกแบบได้อย่างหรูหรา มีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับใช้งานในครอบครัว อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่าง Honda Sensing ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ Accord คือราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรุ่นไฮบริด และค่าบำรุงรักษาอาจแพงกว่ารถแบรนด์ท้องถิ่นบางรุ่น อีกทั้งด้วยตัวถังที่ค่อนข้างยาว อาจไม่คล่องตัวนักเมื่อต้องขับบนถนนแคบหรือในสภาพการจราจรที่ติดขัด
หากคุณกำลังพิจารณาซื้อ Honda Accord อาจลองเปรียบเทียบกับรุ่นที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เช่น Toyota Camry ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน หรือ Mazda6 ที่เน้นเรื่องความสนุกในการขับขี่ ทั้งนี้ควรเลือกตามงบประมาณและความต้องการของคุณ และอย่าลืมว่าด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทย การดูแลระบบแอร์ ยางรถ และการเข้ารับบริการตามระยะ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้มากขึ้น
Q
ความกว้างของ Honda Accord คือเท่าไหร่?
ความกว้างของ Honda Accord แต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1,862 มิลลิเมตร แต่ขนาดของตัวรถอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามแต่ละเจเนอเรชัน เช่น รุ่นเจเนอเรชันที่ 10 มีความยาวตัวถังถึง 4,893 มิลลิเมตร ขณะที่รุ่นเจเนอเรชันที่ 7 มีความกว้างอยู่ที่ 1,821 มิลลิเมตร
โดยคำว่า “ความกว้างตัวรถ” หมายถึงระยะห่างระหว่างจุดที่ยื่นออกมามากที่สุดทั้งสองฝั่งของตัวรถในแนวขวาง โดยไม่นับรวมกระจกมองข้าง ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐที่ระบุว่า ความกว้างรวมของรถไม่ควรเกิน 2.5 เมตร เพื่อให้สามารถใช้งานบนถนนสาธารณะได้อย่างปลอดภัย และรองรับการแซงในเลนข้างเคียงได้อย่างมีระยะปลอดภัยเพียงพอ
Q&A ล่าสุด
Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร
ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

4.0 ลิตร/100 กม. การใช้น้ำมันที่ต่ำกว่าเดิม! Honda Accord มีราคาเริ่มต้นที่ THB 1,529,000!
สุรเดชOct 18, 2024

Honda Accord: เสน่ห์ของรถรุ่นคลาสสิก เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในบ้านและธุรกิจ
พงศธรSep 9, 2024

Honda Accord รุ่นไฮบริดน่าสนใจไหม? อัตราการใช้เชื้อเพลิง 4.46 ลิตร/100 กม. รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี
LienSep 9, 2024

เริ่มต้นที่ 187,400 ริงกิต ! Honda Accord ที่มีพื้นที่จัดเก็บด้านหลังเพียงพอ พิจารณาจะซื้อหรือไม่?
AshleyJul 19, 2024

2023 Honda Accord e:HEV มีราคาตั้งแต่ THB 1,599,000 ครบครันด้วยฮอนด้า SENSING
LienJun 11, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย