Q
Nissan X-Trail ควรใช้ยางอะไรดี
สำหรับรถ Nissan X-Trail ที่เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย แนะนำให้ใช้ยางรถยนต์แบบ All-Season ที่เน้นทั้งความนุ่มสบายและทนทาน เช่น Bridgestone Dueler H/T 684 II หรือ Michelin Primacy 4 SUV เพราะยางสองรุ่นนี้เก่งทั้งถนนเปียกและขับขี่ในเมือง ช่วยรับมือกับฝนที่ตกแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงฤดูฝนของไทยได้ดี แต่ถ้าชอบขับออกต่างจังหวัดหรือต้องเจอถนนลูกรังบ่อยๆ ลองมองหายางแบบ All-Terrain อย่าง Toyo Open Country A/T III ดูครับ แต่อย่างไรก็ตามยางแบบนี้เวลาขับบนถนนปกติอาจจะมีเสียงดังกว่ายางทั่วไปนิดหน่อย
ด้วยอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา เวลาเลือกยางต้องเน้นเรื่องทนความร้อนและความแข็งของดอกยางเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกยางที่มีค่า TREADWEAR 300 ขึ้นไปและมีระบบระบายความร้อนในตัว นอกจากนี้ควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อยเดือนละครั้ง) ซึ่งอาจทำให้ความดันลมยางสูงขึ้นจากความร้อนในประเทศไทย ควรปรับให้อยู่ที่ 32-35 PSI ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ จะช่วยให้ปลอดภัยและยางใช้งานได้นานขึ้น
อีกเรื่องที่อยาลืม กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนควรตรวจเช็คและเปลี่ยนยางใหม่หากจำเป็น เพื่อให้ยางยังรีดน้ำได้ดีเวลาฝนตกหนัก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Honda CR-V และ Nissan X-Trail อันไหนดีกว่า
Honda CR-V และ Nissan X-Trail เป็น SUV ยอดนิยมในตลาดไทยที่ต่างก็มีจุดแข็งของตัวเอง CR-V ได้ชื่อเรื่องระบบขับเคลื่อนที่เสถียรและประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองของไทย แถมยังดีไซน์ภายในโมเดิร์นและใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับครอบครัว ส่วน X-Trail เน้นความสะดวกสบายและอเนกประสงค์,เบาะนั่งได้รับการออกแบบให้กว้างขึ้น เก้าอี้กว้างขวางกว่า ขับทางไกลแล้วสบายตัว แถมบางรุ่นยังมีแบบ 7 ที่นั่ง สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่บรรทุกผู้โดยสารมากขึ้น ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์ของทั้งสองคันทำงานได้ดีเทียบเท่ากัน แต่รุ่นไฮบริดของ CR-V อาจจะประหยัดพลังงานกว่าเล็กน้อย ในด้านความปลอดภัย ทั้งคู่ก็ติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครัน เช่น ระบบเตือนการชน รักษาช่องทางเดินรถ ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้ดี ถ้าชอบความประหยัดน้ำมันและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ CR-V คือตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการที่นั่งเพิ่มและความสบาย X-Trail อาจจะเหมาะกว่า เวลาซื้อคนไทยยังควรคำนึงถึงบริการหลังการขายและค่าซ่อมบำรุงด้วย ซึ่งทั้ง Honda และ Nissan ในไทยมีเครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุม ความสะดวกในการเข้าศูนย์บริการก็ไม่ต่างกันมาก
Q
Nissan X-Trail วิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตร
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Nissan X-Trail ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการขับขี่ โดยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบปกติในเมืองจะกินน้ำมันประมาณ 12-14 กม./ลิตร ส่วนบนทางหลวงจะประหยัดขึ้นอยู่ที่ 15-17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นประหยัดกว่า โดยในเมืองจะวิ่งได้ถึง 18-20 กม./ลิตร สภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดบ่อยๆ ในไทยอาจส่งผลให้ค่าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นบ้าง แนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช็คลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ในตลาดไทย X-Trail เป็นที่นิยมในกลุ่มครอบครัวด้วยความสบายและความน่าเชื่อถือ เวลาจะเลือกซื้อ SUV นอกจากเรื่องน้ำมันแล้ว ควรดูความต้องการเรื่องพื้นที่ ความปลอดภัย และบริการหลังการขายด้วย จะได้ตัดสินใจเลือกรถที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
ความสูงของ Nissan X-Trail คือเท่าไหร่
ความสูงของตัวถัง Nissan X-Trail ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและสเปค โดยรุ่นมาตรฐานจะมีความสูงประมาณ 1,710-1,725 มิลลิเมตร ซึ่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับขนาดล้อและการตั้งค่าตัวถัง SUV รุ่นนี้ได้รับความนิยมในไทยพอสมควร เพราะความสูงที่ออกแบบมาได้อย่างพอเหมาะ ทำให้ขับขี่ในเมืองได้คล่องตัว แถมยังสามารถลุยทางออฟโรดแบบเบาๆ ได้ด้วย เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของไทย ที่น่าสนใจคือความสูงตัวถังมีผลต่อความมั่นคงและค่าความต้านทานลมของรถ โดย X-Trail มีความสูงช่วงล่างประมาณ 200 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้ขับผ่านถนนที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝนของไทยได้ดี แถมยังออกแบบราวบนหลังคามาเพื่ออำนวยความสะดวกเวลาไปเที่ยวกับครอบครัว ส่วนใครที่กำลังมองหารถอยู่ ควรดูระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ที่ออกแบบมาเพื่อสภาพพื้นที่เป็นภูเขาในไทยโดยเฉพาะ จุดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แสดงให้เห็นว่า Nissan ได้ปรับแต่งรถให้เหมาะกับการใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จริงๆ
Q
Nissan X-Trail มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่าไหร่
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Nissan X-Trail จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการขับขี่ โดยรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0L หรือ 2.5L แบบปกติ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 10-12 กม./ลิตร (หรือประมาณ 14-17 ไมล์/แกลลอน) เมื่อขับในเมือง แต่ถ้าเป็นทางหลวงจะประหยัดขึ้นอยู่ที่ 14-16 กม./ลิตร (20-23 ไมล์/แกลลอน) ส่วนรุ่น e-POWER ที่เป็นระบบไฮบริดจะยิ่งประหยัดมากขึ้นไปอีก คือประมาณ 18-20 กม./ลิตร (26-29 ไมล์/แกลลอน) ทั้งนี้ค่าจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศร้อนของไทย การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคน ควรดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช็คลมยางให้เหมาะสม และไม่เร่งเครื่องกระชาก เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ในตลาดไทย X-Trail ได้รับความนิยมจากระบบช่วงล่างที่นุ่มสบายและความสูงของตัวถังที่เหมาะกับสภาพถนน ทำให้ขับทั้งทางไกลและในเมืองได้ดี แถมยังมีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ลดความเหนื่อยล้าเมื่อเจอถนนซับซ้อน ส่วนรุ่นคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V ก็มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน เลือกซื้อได้ตามความต้องการของแต่ละคนและบริการหลังการขายในพื้นที่
Q
Nissan X-Trail กว้างเท่าไหร่
รถยนต์ Nissan X-Trail มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,820 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดนี้ถือว่าเหมาะกับสภาพถนนและที่จอดรถในเมืองไทยมาก เพราะไม่กว้างเกินไปจนขับลำบากในซอยแคบๆ แถมยังให้ความรู้สึกสบายๆ ในห้องโดยสารด้วย สำหรับคนไทยแล้ว การออกแบบความกว้างของ X-Trail นั้นคำนึงถึงสภาพการจราจรท้องถิ่นเป็นหลัก ตัวอย่างชัดเจนก็คือสามารถขับผ่านทางเข้าลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ได้สบายๆ ซึ่งส่วนใหญ่กำหนดให้รถกว้างไม่เกิน 2 เมตร อีกจุดเด่นคือ X-Trail ใช้แพลตฟอร์ม CMF-CD ของ Nissan ที่ออกแบบมาให้มีขนาดตัวถังพอดีๆ แต่ยังคงพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าเพื่อนในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ได้ประโยชน์จากตัวถังกว้างนี้เช่นกัน เพราะช่วยให้มีพื้นที่กระจกข้างใหญ่ขึ้น ช่วยบังแดดและเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับตอนฝนตกหนัก ถ้าคุณต้องพาครอบครัวหรือขนของบ่อยๆ ความกว้างระดับนี้บวกกับการปรับเบาะหลังได้หลายระดับก็ตอบโจทย์ได้หลากหลาย แนะนำให้ไปทดลองนั่งจริงๆ ที่โชว์รูม Nissan ในไทยจะได้รู้สึกถึงพื้นที่ว่างข้างในด้วยตัวเอง
Q
Nissan X Trail มีที่นั่งกี่ที่
ในตลาดไทย Nissan X Trail มีรุ่น 5 ที่นั่งซึ่งได้รับความนิยมจากครอบครัวไทย ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวางและการออกแบบที่ใช้งานได้จริง รุ่น 5 ที่นั่งเหมาะสำหรับครอบครัวเล็กหรือการเดินทางประจำวัน พร้อมยังมีพื้นที่กระโปรงหลังที่ใหญ่กว่า ช่วยตอบโจทย์การขนของเวลาไปเที่ยวหรือช้อปปิ้งในช่วงวันหยุด สภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของไทยก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะระบบแอร์และกระจกกันยูวีช่วยเพิ่มความสบายให้กับการเดินทาง ส่วนระยะความสูงจากพื้นที่มากขึ้นก็เหมาะกับถนนลูกรังบางพื้นที่ในไทย ที่สำคัญรุ่น 5 ที่นั่งราคาจับต้องง่ายกว่ารุ่น 7 ที่นั่ง แถมยังประหยัดน้ำมันกว่า ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับคนไทยที่เน้นความประหยัด ในตลาดไทยยังมีรถแข่งขันอย่าง Honda CR-V และ Toyota RAV4 ที่มาพร้อมรุ่น 5 ที่นั่งเหมือนกัน ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบตามความต้องการและงบประมาณได้ ด้วยความที่เมืองไทยกำลังเติบโต รถ SUV 5 ที่นั่งแบบนี้กำลังมาแรงเพราะใช้งานสะดวกและคล่องตัว ทุกแบรนด์จึงแข่งกันอัปเดตโมเดลใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าไทย
Q
รถยนต์ Nissan X Trail
Nissan X-Trail เป็น SUV ระดับกลางที่ตลาดไทยนิยมมาก รุ่นล่าสุดมาพร้อมระบบ e-POWER ไฮบริดที่ทำงานด้วยหลักการ "ใช้เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้า แล้วขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า" ทำให้ในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 20 กม./ลิตร ซึ่งตอบโจทย์ค่าขนมรถในไทยที่น้ำมันราคาสูงมาก ตัวรถใช้แพลตฟอร์ม CMF-CD ล่าสุดของ Nissan ที่ทั้งแข็งแรงขึ้นและยังตั้งเซสติ้งชการปรับแขวนได้สมดุล ทั้งวิ่งบนถนนลูกรังแถบพัทยาและถนนในเมืองก็ไม่สะเทือนเกินไป ด้านเทคโนโลยีมีระบบ ProPILOT ช่วยขับขี่ลดความเหนื่อยล้าเวลาเดินทางไกล ส่วนเสียง BOSE และเบาะ Zero Gravity ก็เพิ่มความสบายให้ทริปเที่ยวพักผ่อนของครอบครัวที่ภูเก็ต ที่น่าสนใจคือระยะกะะพื้น 182 มม. ของ X-Trail สูงกว่า SUV เมืองทั่วไป ทำให้วิ่งผ่านถนนน้ำท่วมในฤดูฝนได้คล่องกว่า คันนี้มาพร้อมประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กม. และยังมีศูนย์บริการครบครันทั่วไทย จากเชียงใหม่ถึงหาดใหญ่ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหลังการขาย จุดเด่นอีกอย่างคือการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า โดยสามารถปรับเบาะแถวสองเลื่อนไปมาได้ และพื้นที่เก็บของด้านหลังขยายได้จาก 575 ลิตรไปจนถึง 2,100 ลิตร ซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบขับรถเที่ยวต่างจังหวัดสุดสัปดาห์
Q
Nissan X-Trail ใช้น้ำมันเท่าใดต่อร้อยกิโลเมตร
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Nissan X-Trail นั้นแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน โดยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบดูดอากาศปกติ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 8.5-9.5 ลิตร/100 กม. เมื่อขับในเมือง แต่ถ้าเป็นทางหลวงจะลดลงเหลือ 6.5-7.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด (e-POWER) จะประหยัดกว่าคืออยู่ที่ประมาณ 4.5-5.5 ลิตร/100 กม. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนน และน้ำหนักบรรทุกด้วย ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดแบบบ้านเรา แนะนำให้ดูแลรถอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจสอบลมยางให้เหมาะสม ใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดถูกต้อง จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ X-Trail ในฐานะ SUV แล้วถือว่ามีอัตราสิ้นเปลืองที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ สามารถดูป้าย ECO Sticker ที่ออกโดยทางราชการ ซึ่งทดสอบตามมาตรฐานกรมการขนส่งทางบก จะช่วยให้เห็นภาพการประหยัดน้ำมันของรถในสภาพการใช้งานจริงของประเทศไทยได้ชัดเจนขึ้น
Q
หมายเลขตัวถัง Nissan X Trail อยู่ที่ใด
สำหรับรถ Nissan X-Trail ที่จำหน่ายในตลาดไทย คุณสามารถหาหมายเลขตัวถัง (VIN) ได้จากจุดต่อไปนี้ จุดที่พบบ่อยที่สุดคือมุมแผงหน้าปัดด้านหน้าของผู้ขับขี่ ใต้กระจกหน้ารถ ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนผ่านกระจก นอกจากนี้ยังสามารถเปิดประตูด้านคนขับแล้วดูที่สติกเกอร์บริเวณขอบประตู หรือตรวจสอบจากเอกสารทะเบียนรถและกรมธรรม์ประกันภัยก็ได้ VIN เป็นรหัสเฉพาะความยาว 17 หลัก ที่ระบุข้อมูลการผลิต รุ่นรถ และหมายเลขซีเรียล สำหรับเจ้าของรถในไทย การทราบตำแหน่งของ VIN เป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่เพียงใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์หรือทำประกันเท่านั้น แต่ยังช่วยตรวจสอบสเปครถและประวัติการซ่อมบำรุงได้อีกด้วย ในไทย อู่ซ่อมและศูนย์บริการหลายแห่งจะใช้ VIN ในการค้นหาข้อมูลอะไหล่มาตรฐานจากโรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการซ่อมบำรุงใช้ชิ้นส่วนที่ถูกต้อง ดังนั้นควรเก็บรักษาข้อมูล VIN อย่างดี หลีกเลี่ยงการเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
Q
Nissan X-Trail 2.0 v 4wd มือสอง ดีไหม
รถมือสอง Nissan X-Trail 2.0 V 4WD เป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากในตลาดไทย เพราะเป็นรถที่นิยมขายดี แถมยังเหมาะกับสภาพบ้านเรา ทั้งช่วงหน้าฝนถนนลื่นหรือทางต่างจังหวัด เครื่องยนต์ 2.0 แบบธรรมดาแต่อึดทน คู่กับระบบขับเคลื่อน 4WD ที่ให้ความรู้สึกมั่นคง ส่วนค่าซ่อมบำรุงก็ไม่แรงเกินไป อีกจุดเด่นคือการออกแบบภายในที่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะเบาะหลังที่พับลงได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของเหมาะมากสำหรับครอบครัว แต่ต้องระวังรุ่นปี 2015-2018 ที่อาจมีปัญหาเกียร์ CVT ควรเช็คประวัติการเซอร์วิสให้ดี เวลาซื้อรถมือสองในไทย แนะนำให้เลือกรถที่เคยเข้าศูนย์ Nissan ตามระยะจะดีที่สุด และต้องตรวจสอบเรื่องสนิมที่ใต้ท้องรถให้ละเอียด เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยทำให้เกิดสนิมได้ง่าย ถ้าเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Fortuner แล้ว X-Trail ราคาจะถูกกว่าแต่ค่าการขายต่ออาจจะสู้ไม่ได้ ส่วนถ้ามีงบมากขึ้นอาจมองทางเลือกอื่นอย่าง Honda CR-V รุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันกว่าเหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกรถรุ่นไหน ต้องตรวจสภาพเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมืออาชีพ และควรเลือกรถที่ตัวแทนรับประกัน 3-6 เดือนจะดีที่สุด
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว
จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

NISSAN X-Trail e-POWER จะเปิดตัวในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2025
วิรุฬห์Jun 6, 2025

Nissan Kicks e-POWER ผ่อนครั้งแรก 25% ขั้นต่ำ 9,xxx บาทต่องวด
ณัฐวุฒิNov 20, 2025

มันเคยแข็งแกร่งพอ ๆ กับ Hilux แต่ว่าตอนนี้ต้องหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับ Hilux
พงศธรNov 18, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด Nissan Almera ขั้นต่ำ 6, xxx บาท ต่องวด
พงศธรNov 17, 2025

2025 รถมือสอง 10 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในการซื้อ
พงศธรNov 10, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย