Lamborghini Huracan รุ่นใหม่ “Temerario” เปิดตัวแล้ว ราคา 23.76 ล้านบาท
Kevin WongJun 26, 2025, 12:32 PM
【PCauto】ตัวแทนจำหน่าย Lamborghini ในไทยอย่าง Renazzo Motor ได้เปิดตัวและวางจำหน่าย Lamborghini Temerario อย่างเป็นทางการ เคาะราคาที่ 23,760,000 บาท โดยรุ่นนี้เป็นทายาทของ Huracan และยังเป็นรถรุ่นที่ 3 ในไลน์อัพ HPEV (High Performance Electrified Vehicle) ของแบรนด์ Lamborghini อีกด้วย
ระบบขับเคลื่อนคือไฮไลต์หลักของ Temerario
Lamborghini Temerario มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร รหัส L411 ให้พละกำลังสูงสุด 800 แรงม้า โดยทำงานร่วมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด มอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกวางอยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ในตำแหน่ง P1 ให้กำลัง 150 แรงม้า ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัวอยู่ที่เพลาหน้า (e-Axle) ช่วยขับเคลื่อนล้อหน้า เพิ่มอีก 300 แรงม้า เมื่อระบบทั้งหมดทำงานพร้อมกัน จะให้กำลังรวมสูงสุดถึง 920 แรงม้า
Temerario มาพร้อมเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดที่พัฒนาขึ้นใหม่ น้ำหนักเบากว่าและเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วกว่ารุ่น Huracán ที่ใช้เกียร์ 7 สปีด ระบบไฮบริดติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 3.8kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่กำลังไฟ 7kW ผู้ขับสามารถเลือกโหมดไฮบริดได้ 3 แบบผ่านปุ่มบนพวงมาลัย ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance พร้อมกับโหมดการขับขี่อีก 4 แบบ คือ Città, Strada, Sport และ Corsa ซึ่งสามารถผสมกันได้ทั้งหมดถึง 13 รูปแบบ ช่วยให้การขับขี่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามสไตล์และสถานการณ์
ในด้านตัวเลขสมรรถนะ Temerario แสดงให้เห็นถึงความแรงที่เหนือกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.7 วินาที เร็วกว่ารุ่น Huracán Tecnica ถึง 0.5 วินาที และความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 343 กม./ชม. ระบบเบรกใช้จานเบรกคาร์บอนเซรามิกแบบ CCB Plus ด้านหน้าขนาด 410 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 10 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังใช้จานเบรกขนาด 390 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ จับคู่กับยาง Bridgestone Potenza Sport ช่วยให้สามารถหยุดรถจาก 100-0 กม./ชม. ได้ภายในระยะทางเพียง 32 เมตรเท่านั้น
การออกแบบอากาศพลศาสตร์คือจุดก้าวกระโดดสำคัญของทีมวิศวกร
ดีไซน์ภายนอกของ Temerario ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยองค์ประกอบหกเหลี่ยม ตั้งแต่เส้นไฟส่องกลางวันไปจนถึงปลายท่อไอเสีย ซึ่งล้วนสะท้อนภาษาการออกแบบเดียวกัน Mitja Borkert ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบเน้นว่า องค์ประกอบเฉพาะตัวเหล่านี้ช่วยเสริมความโดดเด่นและการจดจำของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ไฟ DRL แบบหกเหลี่ยมที่ด้านหน้ารถถูกรวมไว้กับช่องดักอากาศและแผงนำลม ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผงควบคุมอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้าช่วยลดการปั่นป่วนของลม ส่วนการออกแบบกระจกด้านข้างก็ได้รับการปรับให้สอดรับกับทิศทางลมเช่นกัน ด้านท้ายรถ มาพร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่มีพื้นที่ผิวมากกว่า Huracán EVO ถึง 70% และเพิ่มองศาความลาดเอียงอีก 4 องศา ส่งผลให้แรงกดบนตัวรถเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ชุดแต่ง Alleggerita แบบน้ำหนักเบาที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายจุด ทำให้เฉพาะตัวถังอย่างเดียวสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 12.65 กิโลกรัม และถ้าลูกค้าเลือกติดตั้งล้อคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมชิ้นส่วนตกแต่งภายในแบบคาร์บอนด้วย จะช่วยลดน้ำหนักรวมได้มากกว่า 25 กิโลกรัมเลยทีเดียว
โครงสร้างตัวถังใช้เฟรมอะลูมิเนียมแบบ Space Frame ทั้งคัน ผสานวัสดุโลหะผสมกำลังสูงรุ่นใหม่กับเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูปแรงดันสูง เมื่อเทียบกับ Huracán แล้ว โครงสร้างใหม่นี้ลดความยาวของแนวเชื่อมลงได้มากกว่า 80% และเพิ่มความกว้างของแชสซี ส่งผลให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้นอย่างชัดเจน — พื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้น 34 มม. และพื้นที่ช่วงขาเพิ่มขึ้น 46 มม. รองรับผู้ขับขี่ที่สูงถึง 200 ซม. พร้อมใส่หมวกกันน็อกได้สบาย ๆ
ห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Feel Like a Pilot” หรือ “ให้ความรู้สึกเหมือนนักบิน” มาพร้อมระบบหน้าจอแบบ 3 จอ ได้แก่ หน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางควบคุมระบบต่าง ๆ ขนาด 8.4 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 9.1 นิ้ว ฟังก์ชันเลื่อนหน้าจอด้วยสองนิ้วแบบใหม่ช่วยให้ผู้ขับสามารถย้ายข้อมูลหรือเมนูระหว่างหน้าจอได้อย่างอิสระ พร้อมปุ่มลัดสำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชันที่ใช้บ่อยได้อย่างรวดเร็ว พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Squadra Corse พร้อมปุ่มควบคุมระบบไดนามิกรถครบครัน ส่วนหน้าจอฝั่งผู้โดยสารสามารถแสดงข้อมูลการขับขี่แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกมีส่วนร่วมระหว่างเดินทาง
Temerario มีราคาวางจำหน่ายในตลาดไทยสูงกว่า Huracan ที่มีราคา 18,900,000 บาทอย่างชัดเจน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้สามารถแข่งขันกับซูเปอร์คาร์ไฮบริดอย่าง Ferrari 296 GTB ได้โดยตรง
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน