LEAPMOTOR C10 เป็นรถที่คุณควรจะสนใจที่สุดใน Motor EXPO
ธนวัฒน์Dec 10, 2024, 03:39 PM
ต่างจากแบรนด์รถยนต์เกิดใหม่อื่น ๆ LEAPMOTOR มีเส้นทางการพัฒนาที่เปรียบเสมือนตัวละครเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาอย่างมั่นคงด้วยความพยายามของตนเอง จนกระทั่งได้รับการมองเห็นศักยภาพโดยยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม จนกลายมาเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร เรื่องราวแบบนี้มักเต็มไปด้วยเสน่ห์และแรงบันดาลใจ

LEAPMOTOR ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2015 โดยยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตนเอง และหลังจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดก็ถูกเข้าซื้อกิจการโดย Stellantis Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีแบรนด์ชั้นนำอย่าง Jeep, Peugeot, Maserati, Citroën, Opel, RAM และ Alfa Romeo รวมอยู่ด้วย

ปัจจุบัน LEAPMOTOR ได้นำรถยนต์รุ่นยอดนิยมเข้าสู่ตลาดไทย คือ LEAPMOTOR C10 ซึ่งเป็นรถยนต์ SUV ที่อยู่ในระดับเดียวกับ Deepal S07 Kia EV5 BYD Sealion 7 และ AION V


LEAPMOTOR C10 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 218 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร สามารถเร่งสปีดจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.5 วินาที และมีสปีดสูงสุดที่ 170 กม./ชม. ตัวรถติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 69.9 kWh ซึ่งเมื่อชาร์จเต็มสามารถวิ่งได้ระยะทาง 477 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ระบบชาร์จ AC รองรับกำลังสูงสุด 6.6 kW ส่วนการชาร์จเร็วแบบ DC รองรับกำลังสูงสุด 84 kW สามารถเพิ่มระดับแบตเตอรี่จาก 30% เป็น 80% ได้ภายในเวลา 30 นาที

จุดเด่นที่สุดของ LEAPMOTOR C10 อยู่ที่ห้องโดยสารซึ่งมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางและยืดหยุ่นสูง เมื่อเบาะนั่งทั้งหมดตั้งตรง ความจุของพื้นที่เก็บของด้านท้ายอยู่ที่ 581 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะที่นั่งแถวที่สองลง ความลึกของพื้นที่เก็บสัมภาระจะเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1820 มม. และความกว้างสูงสุด 1110 มม. พร้อมความจุที่มากถึง 1410 ลิตร



อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ LEAPMOTOR C10 คือความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ระบบควบคุมกลางใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8295P และยังรองรับการอัปเกรด OTA ในอนาคตอีกด้วย

LEAPMOTOR C10 ยังมีความสามารถในการช่วยขับขี่ขั้นสูง โดยใช้ชิป Orin-X และ LiDAR แบบ 128 เส้นเป็นฮาร์ดแวร์พื้นฐานสำหรับระบบขับขี่อัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ความแม่นยำสูงถึง 30 ชิ้น รองรับฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะถึง 25 รายการ เช่น NAP ระบบนำทางอัจฉริยะบนทางหลวง และ NAC ระบบนำทางช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

LEAPMOTOR C10 คาดว่าจะมีราคาประมาณ 1 ล้านบาทในตลาดไทย นอกจากรุ่นไฟฟ้าล้วนแล้ว ยังมีรุ่นที่ใช้ระบบขยายระยะทาง (Range Extender) อีกด้วย ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางและระดับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย LEAPMOTOR C10 จึงเป็นรถยนต์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Jeacoo J7 เปิดตัวรุ่น PHEV ใน Motor Expo 2024 สามารถขับขี่โดยใช้แบตเตอรี่ได้ 80 กิโลเมตร
หลังจาก Jaecoo J7 วางจำหน่ายในประเทศแถบเซียนใต้ Chery ที่พึงพอใจกับผลการขายดังนั้นในงานรถยนต์ที่ประเทศไทยที่จะมาถึงนี้ แพลนที่จะวางจำหน่าย Jaecoo J7 เวอร์ชัน PHEV ที่ประเทศไทยที่เหมาะกับ Jaecoo J7 PHEV สำหรับมาเลเซียครั้งนี้ Chery ที่เตรียมวางจำหน่าย Jaecoo J7 PHEV ที่ประเทศไทยสนับสนุนระยะทางการเดินทางด้วยแบตเตอรี่เต็ม 80 กม. (WLTP) นั่นหมายความว่าถ้าคุณขับ J7 ไป-กลับที่ทำงานราคาน้ำมันจะต่ำมากJaecoo J7 PHEV ที่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5T มีแรงม้า 156Ps และมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงม้า 204Ps แรงม้ารวม 360Ps แรง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

