"Mazda BT-50 รับการปรับปรุงใหญ่ที่สุดใน 4 ปี! การเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในเป็นอย่างมาก
ธนวัฒน์Nov 29, 2024, 03:52 PM
Mazda BT-50 รุ่นปี 2025 ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor EXPO ซึ่งเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ที่สุดของ BT-50 ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

BT-50 ใหม่มาพร้อมการออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด กระจังหน้าใหม่และชุดไฟหน้าทรงเดียวกับ CX-5 เพิ่มความโดดเด่น ส่วนใต้กันชนหน้ามีการเพิ่มช่องระบายอากาศ (Air dam) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน

BT-50 ใหม่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากการออกแบบล้ออัลลอยชุดใหม่ ส่วนที่เปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดที่ด้านหลังของรถคือการออกแบบไฟท้ายชุดใหม่

BT-50 รุ่นใหม่มีขนาดถึง 9.0 นิ้ว (รุ่นท็อป) และเพิ่มฟังก์ชัน Android Auto แบบไร้สาย (ก่อนหน้านี้รองรับแค่ Apple CarPlay) นอกจากนี้ หน้าจอกลางของ BT-50 รุ่นใหม่ยังสามารถแสดงมุมเอียงและมุมพวงมาลัย ความดันลมยาง สถานะล็อกดิฟเฟอเรนเชียล และโหมดภูมิประเทศปัจจุบัน

นอกจากนี้ BT-50 ใหม่มีการพัฒนาความปลอดภัยอย่างมาก โดยกล้องหน้ามีมุมมองที่กว้างขึ้น และมีฟิล์มกันน้ำที่เคลือบบนผิวเลนส์ ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในสภาพอากาศฝนตกหรือชื้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าฟิล์มกันน้ำนี้จะค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามเวลาไหม
ในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ BT-50 ใหม่มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยคงเลนและเตือนการออกนอกเลน (LDW/LKA) การเตือนการจราจรด้านหลังและเบรกอัตโนมัติ (RCTB) และระบบเตือนเมื่อขับขี่อ่อนล้า (Driver Alert Assist)

ด้านความปลอดภัยของตัวรถ มาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเบรก ABS+EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) และอุปกรณ์พื้นฐานด้านความปลอดภัยอื่น ๆ รวมถึงยังเพิ่มระบบเบรกป้องกันการชนจากด้านหลังและระบบเบรกหลายครั้งในกรณีที่เกิดการชน (MCB)

ในส่วนของราคา BT-50 ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ Freestyle Cab (สองประตู) และ Double Cab (สี่ประตู) โดยมีการตั้งค่าหลักสามแบบคือ XS XT และ XTR

Freestyle Cab รุ่นสองประตู
- Hi-Racer 2.2 XS 6MT:ราคา 762,000 บาท

Double Cab รุ่นสี่ประตู
- Hi-Racer 2.2 XT 6AT:ราคา 992,000 บาท
- Hi-Racer 3.0 XTR 6AT:ราคา 1,242,000 บาท
- 3.0 XTR 6AT 4×4:ราคา 1,352,000 บาท

BT-50 ใหม่มีสองรุ่นเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- กำลังสูงสุด:163Ps/3,600rpm
- แรงบิดสูงสุด:400N·m/1,600–2,600rpm
- ระบบส่งกำลัง:มีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD)

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตร รุ่น 4JJ3-TCX มีรายละเอียดดังนี้:
- กำลังสูงสุด:190Ps/3,600 rpm
- แรงบิดสูงสุด:450N·m/1,600–2,600 rpm
- ระบบส่งกำลัง:เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมตัวเลือกขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)

ด้วยการออกแบบใหม่และการอัปเกรดอุปกรณ์ต่างๆ Mazda BT-50 จะสามารถแข่งขันกับ Toyota Hilux และ Ford Ranger ได้หรือไม่? คงต้องรอดูกันต่อไป
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

