Rolls Royce Spectre Black Badge รุ่นทางการเผยภาพแล้ว มีกำลังสูงสุด 659 แรงม้า
วิรุฬห์Feb 19, 2025, 11:33 AM
【PCauto】Rolls Royce ได้เปิดตัวรุ่น Spectre Black Badge อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเวอร์ชันประสิทธิภาพสูงของ Spectre โดยมีการปรับแต่งพิเศษทั้งในด้านพละกำลังและการเซ็ตอัพช่วงล่าง เพื่อมอบทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่มองหาประสบการณ์สุดยอด รุ่น Spectre Black Badge ที่โดดเด่นที่สุดคือสีตัวถัง "ม่วงหมอก" ใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมคลับนีออนในช่วงยุค 80-90 และสามารถเปลี่ยนแปลงโทนสีได้ตามแสงในมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกลึกลับและลึกซึ้ง
สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดในรุ่น Spectre Black Badge คือสีตัวถัง "ม่วงหมอก" ใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมคลับนีออนในช่วงยุค 80-90 และสามารถเปลี่ยนแปลงโทนสีได้ตามแสงในมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกลึกลับและลึกซึ้ง กรอบกระจังหน้าที่เปล่งแสงไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ยังมีการออกแบบพื้นหลังเพิ่มเติม ซึ่งสามารถเลือกสีได้จากห้าตัวเลือก ได้แก่ สีม่วงที่กำหนดเอง ชาร์ลส์บลู ชาร์ตตัวไวน์ เหลืองกลึง และสีมรกต โดยสีเหล่านี้จะผสมผสานอย่างลงตัวกับตัวถังม่วงหมอกเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ทางสายตาที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ แสงที่เปล่งออกมายังขยายไปถึงบันไดต้อนรับที่เปล่งแสงอีกด้วย
รถคันใหม่ใช้ดีไซน์สีเข้มในรายละเอียดหลายจุด กรอบกระจังหน้ารูปพาร์เธนอน รูปปั้นเทพธิดาแห่งการเฉลิมฉลอง และตราเกียรติยศ "R" คู่ถูกตกแต่งด้วยพื้นผิวสีเข้มพิเศษ ส่วนมือจับประตู กรอบหน้าต่างข้างที่กว้างขวาง และกันชนก็ออกแบบให้มีสีเข้มเช่นกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทั้งสปอร์ตและลึกลับ ตัวเลือกเส้นขอบ "ล่องลอย" ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเสริมสร้างเส้นสายที่โดดเด่นให้กับด้านข้างของตัวรถ ล้ออัลลอยฟorged ขนาด 23 นิ้วใหม่ ที่มีลายห้าก้าน มีให้เลือกทั้งแบบเงาบางส่วนและแบบสีดำทั้งหมด พร้อมรูปทรงทางเรขาคณิตที่ซับซ้อน และสามารถเลือกติดตั้งยางฤดูหนาว ซึ่งทั้งช่วยในเรื่องสมรรถนะและเหมาะสมกับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในรถ แผงไฟเรืองแสงที่มี "แสงดาว" จำนวน 5500 ดวงฝังอยู่บนพื้นผิวสีดำเปียโน สร้างสรรค์การตีความแบบนามธรรมของเทพธิดาแห่งการเฉลิมฉลองและสัญลักษณ์อินฟินิตี้อย่างเป็นเอกลักษณ์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทั้งโรแมนติกและเต็มไปด้วยความรู้สึกทางเทคโนโลยี แผงหน้าปัดกลางใช้เทคนิคการทอคาร์บอนไฟเบอร์และเส้นโลหะผสมผสานกัน โดยเคลือบบนพื้นผิวไม้โบลิวาร์สีดำ หลังจากการขัดมือแล้วให้ความรู้สึกลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างอนาคตและความคลาสสิค
หน้าจอแสดงผลดิจิทัลทั้งหมดมีให้เลือกห้าธีมสี ได้แก่ เทา-เหลืองสดใส, คืนแห่งนีออน, ฟ้าเปลวไฟ, ม่วงยูวี และคลื่นสังเคราะห์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อและซิงค์กับทุกส่วนของรถผ่านโครงสร้างดิจิทัล SPIRIT ตั้งแต่แผงหน้าปัดไปจนถึงแสงบรรยากาศ เพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ดื่มด่ำภายในรถ ภายในรถมีการใช้สัญลักษณ์อินฟินิตี้ในหลายจุด เช่น บริเวณขอบประตู, การปักบนหนังที่กลางเบาะนั่งด้านหลังในรูปแบบ "น้ำตก" เพื่อเน้นย้ำเอกลักษณ์ที่เป็นพิเศษของรุ่น Black Badge
ในด้านพละกำลัง รุ่น Spectre Black Badge มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าและหลัง ซึ่งมีพละกำลังรวมสูงสุดที่ 485kW (รุ่นมาตรฐาน 430kW) หรือประมาณ 659 แรงม้า และมีแรงบิดรวมสูงสุดที่ 1075 นิวตัน-เมตร (รุ่นมาตรฐาน 900 นิวตัน-เมตร) เวลาเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ลดลงเหลือ 4.3 วิ (รุ่นมาตรฐาน 4.5 วิ)
รถคันใหม่มีโหมด Infinity Mode และ Spirited Mode ให้เลือก เมื่อกดปุ่มสัญลักษณ์ Infinity "∞" บนพวงมาลัย จะเข้าสู่โหมด Infinity Mode โดยทันที ซึ่งจะปลดปล่อยพลัง 659 แรงม้าทั้งหมดจากรถ ทำให้การตอบสนองของปีกผีเสื้อไวขึ้นและตรงตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน แผงหน้าปัดก็จะเปลี่ยนไปเป็นอินเตอร์เฟซที่ดุดันขึ้น โหมด Spirited Mode มีวิธีการเปิดใช้งานที่พิเศษ ผู้ขับขี่ต้องเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกันจนสุด เมื่อรถแสดงสัญญาณการตอบสนองทั้งทางสัมผัสและทางสายตา ผู้ขับขี่จึงสามารถปล่อยเบรกออก ซึ่งในขณะนั้นรถจะสามารถเพิ่มแรงบิดได้ถึง 1075 นิวตัน-เมตรภายในระยะเวลาอันสั้น
ในการปรับจูนช่วงล่าง รุ่น Spectre Black Badge เพิ่มการปรับความหนืดของพวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความชัดเจนของพื้นผิวถนนและการควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น พร้อมทั้งปรับตั้งการควบคุมการโคลงตัวของตัวรถ เพื่อป้องกันการโคลงตัวของตัวรถในขณะเข้าโค้ง ทำให้ท่าทางของตัวรถมีความมั่นคงมากขึ้น ฟังก์ชัน Magic Carpet ก็ได้รับการอัปเกรดด้วยเช่นกัน โดยการปรับแต่งการหนืดของโช้คอัพเพื่อลดการกระตุกจากการยกตัวขึ้นและตกลงของตัวรถในขณะขับขี่ ทำให้สามารถรักษาสมรรถนะการควบคุมได้ดี ในขณะที่ยังคงความสะดวกสบายในการนั่ง ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของ Rolls Royce ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับพละกำลังที่แข็งแกร่งไปพร้อมกับการขับขี่ที่ราบรื่นและสบาย
Rolls Royce Spectre Black Badge รุ่นนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ ภายในที่หรูหราและเต็มไปด้วยความรู้สึกทางเทคโนโลยี พละกำลังที่แข็งแกร่ง และการปรับจูนช่วงล่างอย่างพิถีพิถัน ซึ่งแสดงถึงสไตล์และสมรรถนะที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าหรูหราสมรรถนะสูงที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งยกระดับตำแหน่งของ Rolls Royce ในวงการรถยนต์หรูระดับโลก
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก

โตโยต้าวางแผนจะเปิดตัว Land Cruiser FJ (500D) โดยประเทศไทยจะเป็นสถานที่ผลิตหลัก
【PCauto】Toyota เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ Land Cruiser FJ รหัสโครงการ 500D ได้แรงบันดาลใจจากรุ่นคลาสสิก FJ40 พร้อมผสมผสานดีไซน์ของ Land Rover Defender และ Suzuki JIMNY คาดเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในงาน Japan Mobility Show วันที่ 29 ถึง 30 ตุลาคม 2025 โดยเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเวอร์ชันญี่ปุ่น ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรุ่นนี้ คาดผู้บริโภคชาวไทยจะได้เห็นในงาน Motor Expo ช่วงปลายปี 2025 และเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน