ราคา Haval อยู่ที่เท่าไร? H6 กับ Jolion รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

ณัฐวุฒิMar 11, 2025, 10:42 AM

【PCauto】จุดเด่นที่สุดของรถยนต์ Haval คือความคุ้มค่าที่โดดเด่น ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟีเจอร์ที่ครบครันโดยไม่ต้องจ่ายในราคาที่สูงเกินไป นอกจากนี้ เทคโนโลยีไฮบริดของ Haval ยังเป็นไพ่ตายที่สำคัญ ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์แนวโน้มการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน แต่ยังช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ดีขึ้นอีกด้วย

เมื่อพูดถึงสองรุ่นยอดนิยมของ Haval หนึ่งในนั้นคือ Haval H6 ซึ่งเป็น SUV ไฮบริดขนาดกลางในกลุ่ม C-Segment ถูกออกแบบมาโดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้ในครอบครัวเป็นหลัก มันมาพร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน หรือการบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก ก็สามารถรองรับได้อย่างสบาย ๆ เช่น หากเป็นทริปท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ของทั้งครอบครัว ผู้สูงอายุสามารถนั่งเบาะหลังได้อย่างสะดวกสบาย เด็ก ๆ ที่นั่งด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหว ทำให้ H6 มอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่อึดอัดเลย


ส่วน Haval Jolion ซึ่งเป็นรถ SUV ไฮบริดแบบ B-Segment ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะ ตัวรถเต็มไปด้วยบรรยากาศสดใสและความมีชีวิตชีวา พร้อมด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยโดดเด่น หากขับไปบนถนน รับรองว่าคุณจะโดดเด่นและสะท้อนความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน

ส่วนราคากับแผนการซื้อ Haval H6 HEV ULTRA มีราคาเริ่มต้นที่ 1,349,000 บาท โดยในช่วงวันที่ 1 มีนาคม 2025 ถึงวันที่ 6 เมษายน 2025 มีการเสนอราคาพิเศษอยู่ที่ 1,039,000 บาท

มาดู Haval Jolion รุ่น SPORT กันบ้าง มีราคา 799,000 บาท ซึ่งราคาที่คุ้มค่ามากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีงบประมาณจำกัด รุ่น Ultra ราคาอยู่ที่ 999,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่น SPORT แล้ว รุ่น Ultra ได้รับการปรับปรุงด้านสมรรถนะและการควบคุมอย่างชัดเจน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความเร้าใจในการขับขี่ของคนรุ่นใหม่

แน่นอนว่า รถแต่ละรุ่นย่อมมีข้อดีข้อเสีย Haval Jolion มีจุดเด่นที่ชัดเจนคือ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งในสภาวะที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเช่นปัจจุบัน สามารถช่วยผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก และด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความทนทานและความน่าเชื่อถือของรถรุ่นนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง เช่น วัสดุภายในห้องโดยสารที่ดูธรรมดาและขาดความหรูหรา พื้นที่ด้านหลังที่ค่อนข้างแคบ อาจทำให้ผู้โดยสารที่มีรูปร่างสูงใหญ่รู้สึกอึดอัดเมื่อนั่งในระยะเวลานาน และความจุของกระโปรงหลังที่น้อยกว่ารุ่นอื่น ทำให้การบรรทุกของขนาดใหญ่เป็นเรื่องที่ยากกว่า

โดยรวมแล้ว รถทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นและเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ที่ต่างกัน หากคุณเป็นผู้ใช้ในครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งมีความต้องการสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และต้องการการขับขี่ที่มั่นคงและทรงพลังในระยะทางไกล Haval H6 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วยอุปกรณ์และฟีเจอร์ที่ครบครัน จะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

ในทางตรงกันข้าม หากคุณมีงบประมาณจำกัด และให้ความสำคัญกับความประหยัดเชื้อเพลิงเป็นพิเศษ อีกทั้งใช้รถส่วนใหญ่ในเมืองเป็นประจำ Haval Jolion จะเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดมากกว่า รถรุ่นนี้มีขนาดเล็กและคล่องตัว ทำให้การหาที่จอดในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งเป็นเรื่องง่ายดาย อีกทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำมันบ่อยๆ และด้วยความคุ้มค่าที่โดดเด่น Haval Jolion จึงเป็นรถที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถเป็นเจ้าของรถคันแรกได้ง่ายขึ้น

สรุปแล้ว การเลือก Haval H6 หรือ Jolion ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการใช้งานของคุณ หากคุณมีงบประมาณมากพอและต้องการประสบการณ์ที่ครบครัน H6 คือตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณเน้นความคุ้มค่าและต้องการรถสำหรับขับในเมืองเป็นหลัก Jolion คือคำตอบที่ดีที่สุด

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ธนวัฒน์Sep 12, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์