ซื้อยางรถยนต์มือสองควรระวังอะไร
ธนวัฒน์Mar 03, 2025, 03:03 PM
【PCauto】การซื้อยางมือสองมักเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ขับขี่ แต่คุณต้องระมัดระวังและมีความรู้เพียงพอในการเลือกยางมือสองที่ปลอดภัยและทนทาน
ที่หนึ่ง ยางรถยนต์มือสองเส้นละกี่บาท
ราคายางมือสองจะขึ้นอยู่กับขนาดและแบรนด์ โดยทั่วไปยางขนาด 15 นิ้วรวมค่าแรงติดตั้งจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 800 - 1200 บาท ยางขนาด 16 นิ้วมีราคาอยู่ในช่วง 1000 - 1500 บาท ยางขนาด 17 นิ้วมักจะมีราคาอยู่ที่ 1200 - 2000 บาท ขณะที่ยางขนาด 18 นิ้วเมื่อรวมค่าแรงติดตั้งแล้วอาจต้องจ่ายประมาณ 1500 - 2500 บาท โปรดทราบว่าราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพยาง เช่น ความแตกต่างของแบรนด์ ระดับการสึกหรอของดอกยาง และอายุการใช้งานของยาง
ที่สอง ยางรถยนต์มือสองใช้ได้กี่ปี
โดยทั่วไปแล้วหากยางมือสองได้รับการดูแลอย่างดีและดอกยางเหลืออยู่ในระดับที่เหมาะสม ยางเหล่านี้ยังสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยต่อไปอีก 2 - 3 ปี แต่สิ่งนี้ไม่ได้เป็นกฎตายตัว สภาพแวดล้อมและความถี่ในการใช้งานมีบทบาทสำคัญ หากขับขี่ในเส้นทางที่มีสภาพถนนแย่ เช่น ถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อหรือถนนที่มีหินและทราย ยางจะสึกหรอเร็วขึ้นและอายุการใช้งานจะลดลง แต่หากขับขี่บนถนนในเมืองที่เรียบ ยางจะมีการสึกหรอน้อยกว่าและอายุการใช้งานอาจใกล้เคียงกับขีดจำกัดที่คาดหวัง
สาม วิธีการตรวจสอบยางมือสองสามารถใช้งานได้หรือไม่
1. ตรวจสอบความลึกของดอกยาง: นี่เป็นตัวชี้วัดสำคัญ สามารถวัดได้โดยใช้เครื่องวัดความลึกของดอกยาง โดยทั่วไปแล้วยางรถยนต์ที่ใช้ในบ้านควรมีความลึกของดอกยางเหลือไม่น้อยกว่า 1.6 มม. หากขับขี่บ่อยบนทางหลวง ควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 2 มม. หากดอกยางตื้นเกินไป จะมีการยึดเกาะถนนไม่ดี เมื่อเจอพื้นผิวเปียกหรือตอนเบรกอาจทำให้ลื่นได้ง่าย ความเสี่ยงอันตรายจะสูงขึ้น
2. ตรวจสอบด้านข้างของยาง: สังเกตให้ดีว่ามีรอยโป่งหรือรอยแตกหรือไม่ หากพบว่ามีรอยโป่ง แสดงว่าโครงสร้างภายในของยางได้รับความเสียหาย อาจเกิดการระเบิดได้ตลอดเวลา หากรอยแตกลึกเกินไป นอกจากจะทำให้ลมยางรั่วแล้ว ยังอาจทำให้รอยแตกขยายออกไปขณะขับขี่ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรง
3. ทราบถึงการซ่อมแซม: ถามผู้ขายว่ายางได้รับการซ่อมแซมมาแล้วหรือไม่ และจำนวนครั้งในการซ่อมแซม หากซ่อมแซมในจุดเดียวกันหลายครั้ง ความแข็งแรงของจุดนั้นจะลดลง และเมื่อเกิดความเสียหายอีกครั้ง ความเสี่ยงในการระเบิดจะสูงมาก
สี่ เคล็ดลับในการเลือกซื้อยางรถกระบะมือสอง
1. การจับคู่ดัชนีรับน้ำหนัก: รถกระบะมักใช้สำหรับขนส่งของ ดังนั้นดัชนีรับน้ำหนักของยางต้องตรงกับข้อกำหนดของรถยนต์ ตรวจสอบสัญลักษณ์ด้านข้างยางเพื่อให้มั่นใจว่ายางที่เลือกสามารถรับน้ำหนักได้เมื่อรถกระบะบรรทุกเต็ม หากไม่ตรงกับข้อกำหนด อาจเกิดปัญหายางระเบิดหรือยางเสียรูป ซึ่งจะกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่
2. การพิจารณาความทนทานต่อการสึกหรอ: รถกระบะต้องเผชิญกับสภาพถนนที่หลากหลาย รวมถึงถนนในไซต์งานหรือถนนที่ไม่ค่อยมีการลาดยาง ดังนั้นยางต้องทนทานต่อการสึกหรอ เมื่อเลือกยาง ควรให้ความสำคัญกับวัสดุยางที่ใช้บนพื้นผิว โดยยางที่มีเนื้อยางแข็งและมีการออกแบบเสริมความทนทานจะสามารถทนต่อการใช้งานและช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนยางบ่อย
3. การเลือกประเภทลายดอกยางที่เหมาะสม: ลายดอกยางต้องเหมาะกับสภาพถนน หากขับขี่ในเส้นทางที่เป็นโคลนหรือทราย ควรเลือกยางที่มีลายดอกแบบบล็อกและช่องว่างระหว่างดอกยางกว้างเพื่อเพิ่มการยึดเกาะและการระบายน้ำหรือทรายที่ดี แต่หากส่วนใหญ่ขับขี่ในเมือง ควรเลือกยางที่มีลายดอกละเอียด เพราะช่วยลดเสียงรบกวน เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ และมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า
การเลือกยางมือสองต้องใส่ใจหลายด้าน คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ไม่ควรเน้นแค่ความถูกต้อง เพราะความปลอดภัยในการขับขี่เกี่ยวข้องกับชีวิต การเลือกอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมั่นใจและปลอดภัยบนท้องถนน
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

Jaecoo J7 PHEV จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมในประเทศไทย, SUV นี้เป็นอัศจรรย์ของยอดขายในมาเลเซีย
【PCauto】Jaecoo J7 PHEV จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ประเทศไทย และจะเป็นรถรุ่นที่สามที่ Chery Automobile นำเสนอในตลาดไทย ก่อนหน้านี้ Omada C5 EV และ Jaecoo J6 EV ประสบปัญหาที่ยากลำบากในตลาดไทย เนื่องจากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวมที่หดตัวและความต้องการซื้อรถที่ลดลง อีกทั้งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) BYD ครองส่วนแบ่งการตลาดเกือบทั้งหมด จึงเหลือพื้นที่ตลาดน้อยสำหรับ Omada C5 EV และ Jaecoo J6 EV ท่ามกลางความยากลำบาก Chery Automobile หวังว่าจะพึ่งพา Jaecoo J7 PHEV ซึ่งเป็น SUV รุ่นสำคัญในการพลิกสถานการณ์

กลยุทธ์ใหม่ของ BYD ในการเพิ่มยอดขายในปี 2025 คือติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ DiPilot ในรถยนต์ทุกรุ่น
【PCauto】BYD สามารถทำยอดขายทั่วโลกในปี 2024 ได้อย่างก้าวกระโดด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 4.27 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 41.26% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของยอดขายนอกประเทศจีน BYD มียอดขาย 417,000 คัน เพิ่มขึ้น 71.9% ในประเทศไทย BYD สามารถทำยอดขายได้ 27,005 คัน ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แม้ว่าในปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์รถยนต์ในประเทศจะลดลงทั้งหมด แต่ BYD สามารถลดการหดตัวได้เพียง 11.3% (เทียบกับ Toyota ที่ลดลง 17.1%) ซึ่งทำให้ตำแหน่งของตนสูงขึ้นเป็นอันดับที่ 5 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการลดราคาบ่อยครั้งของ BYD

Mitsubishi Xforce HEV กำลังจะวางจำหน่ายในประเทศไทย และเริ่มการแข่งขันกับ Yaris Cross
【PCauto】Toyota Yaris Cross HEV ผลิตและเปิดตัวในประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ในปี 2024 Yaris Cross ครองอันดับหนึ่งในยอดขาย SUV กลุ่ม C-Segment ด้วยยอดขาย 35,500 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.1% ในเดือนเมษายน 2024 ยังคงนำเป็นอันดับหนึ่งด้วยยอดขาย 3,004 คัน และส่วนแบ่งตลาด 40.7% ไม่เพียงแค่ในกลุ่ม SUV เท่านั้น แต่ในเดือนมิถุนายน 2024 Yaris Cross ยังขึ้นสู่อันดับที่ 4 ในยอดขายรถยนต์ใหม่โดยรวมของประเทศไทย

การวิเคราะห์เครื่องยนต์ Honda L15B ซีรีส์: จาก Fit ถึง Accord การพัฒนาของเครื่องยนต์
【PCauto】หากคุณต้องการรู้จัก Honda อย่างแท้จริง งั้นต้องเริ่มจากเครื่องยนต์รุ่น L15B ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขายทั่วโลกของ Honda ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะมันไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนรถยนต์ของ Honda แต่ยังขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท Honda เอง

Toyota ได้เปิดตัว SUV ไฟฟ้าสุดท้าทายในประเทศจีน ราคาถูกกว่า BYD
【PCauto】Toyota bZ3X เปิดตัวในตลาดจีน โดยมีราคาจำหน่ายระหว่าง 10.98 หมื่นถึง 15.98 หมื่นหยวน หรือประมาณ 511,100 - 743,800 บาท มาในรูปแบบ SUV ขนาด C-Segment โดยมีระยะฐานล้อ 2765 มม. ความยาว 4600 มม. ความกว้าง 1850 มม. และความสูง 1645 มม. ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ เช่น BYD Song Plus, GWM HAVAL H6 และ iCar 03 โดยราคาของ Toyota bZ3X ยังใกล้เคียงกับรุ่นเหล่านี้หรือบางครั้งอาจต่ำกว่า
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน