Zeekr 007 GT เปิดตัวในจีน ด้วยรูปทรง Shooting Brake ใหม่ ราคาถูกลง
วิรุฬห์Apr 16, 2025, 02:14 PM

【PCauto】Zeekr 007 GT เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 เมษายน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 936,100 บาท โดยมีการเปิดตัวรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่:
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง 75kWh ระยะทาง 585 กิโลเมตร ราคา 928,792 บาท
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังแบบระยะไกล 100kWh ระยะทาง 650 กิโลเมตร ราคา 1,029,463 บาท
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 75kWh ระยะทาง 730 กิโลเมตร ราคา 1,060,701 บาท
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบระยะไกล 100kWh ระยะทาง 825 กิโลเมตร ราคา 1,167,028 บาท
เมื่อเปรียบเทียบกับ Zeekr 007 ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 968,400 บาท Zeekr 007 GT ซึ่งเป็นรถแบบ Shooting Brake กลับมีราคาที่ต่ำกว่า

แม้ว่า Zeekr 007 GT จะยังคงสืบทอดองค์ประกอบการออกแบบบางส่วนของ Zeekr 007 เช่น ฝากระโปรงหน้าแบบฝาหอย แต่ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่อย่างช่องระบายอากาศด้านข้าง และปรับดีไซน์กันชนล่างให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ทำให้รถดูมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Zeekr 007 GT ยังมาพร้อมกับกระจังหน้าแบบปรับการเปิด-ปิดได้ตามเงื่อนไขการขับขี่ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระแสลม ลดแรงต้านลม และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพถนนและสภาพอากาศที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เส้นสายด้านข้างของ Zeekr 007 GT แตกต่างจาก Zeekr 007 อย่างชัดเจน ตั้งแต่เสา C ไปจนถึงด้านหลัง Zeekr 007 GT มีลักษณะทรง Shooting Brake แบบชัดเจน อย่างไรก็ตาม การออกแบบหลังคาแบบลอยตัวกลับมีวิธีการที่แตกต่างออกไป ส่วนโค้งของหลังคาที่ทอดยาวนั้นมีความหนาขึ้น ซึ่งคล้ายกับการจัดการด้านท้ายของ Zeekr 001 ทำให้มุมมองด้านข้างดูสมดุลยิ่งขึ้น
สำหรับส่วนสเกิร์ตด้านข้างถูกออกแบบให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ และมีการเพิ่มเส้นตกแต่งสีดำที่ทอดยาวตั้งแต่หน้ารถจนถึงท้ายรถ เส้นสายนี้มีลักษณะขนานกับราวหลังคา ซึ่งช่วยลดความสูงในภาพลักษณ์ของตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในทางกลับกัน Zeekr 007 รุ่นซีดานนั้นใช้เส้นสายด้านข้างแบบรถยนต์นั่งทั่วไปที่คุ้นเคยมากกว่า แต่สำหรับ Zeekr 007 GT ซึ่งเป็นทรง Shooting Brake ถือเป็นดีไซน์ที่แปลกใหม่กว่าในตลาดรถยนต์ โดยการออกแบบที่โดดเด่นของ Zeekr 007 GT คาดว่าจะดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาความแตกต่างและการใช้งานที่ครบครัน

การออกแบบส่วนท้ายของ Zeekr 007 GT มีความคล้ายคลึงกับ Zeekr 001 แต่เส้นสายมีความโค้งมนและให้ความรู้สึกที่ทรงพลังมากขึ้น หลังคาของรถติดตั้งสปอยเลอร์สองตอนขนาดใหญ่กว่าเดิม โดยไฟท้ายแบบพาดยาวใช้เทคโนโลยี Super Red ที่ให้แสงสีแดงเด่นชัดและมีประสิทธิภาพในการส่องสว่างสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการออกแบบสปอยเลอร์ท้ายเล็กสีดำบริเวณด้านบน ทำให้เกิดดีไซน์แบบปีกคู่ที่ช่วยเสริมลุคให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Zeekr 007 GT ยังมีตัวเลือกขนาดล้อ 19 นิ้วและ 20 นิ้ว โดยล้อแต่ละขนาดมาพร้อมกับยางที่มีสเปกแตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในด้านรูปลักษณ์และสมรรถนะ
สำหรับภายในห้องโดยสาร Zeekr 007 GT ก็มีความแตกต่างจาก Zeekr 007 เช่นกัน โดย Zeekr 007 GT เลือกใช้พวงมาลัยแบบใหม่ที่ให้บรรยากาศความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

บริเวณใต้คอนโซลกลางของ Zeekr 007 GT มีพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นการใช้พื้นที่ภายในรถอย่างมีประสิทธิภาพ

Zeekr 007 GT ใช้การตกแต่งภายในแบบสองสี พร้อมพวงมาลัยสามก้านแบบก้นแบนด้านบนและล่าง โดยมาพร้อมหน้าจอกลางขนาด 15.05 นิ้ว OLED ความละเอียด 2.5K ที่สามารถหมุนได้สามทิศทาง เพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดดิจิทัลแบบโค้งเต็มรูปแบบ และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าแบบ AR-HUD ที่ช่วยเสริมบรรยากาศการขับขี่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี

ห้องโดยสารอัจฉริยะของ Zeekr 007 GT ได้รับการอัปเกรดเป็นระบบ ZEEKR OS AI ที่ผสานรวมโมเดล AI ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถจดจำคำสั่งควบคุมรถยนต์ได้กว่า 150,000 รายการ พร้อมทั้งให้บริการอัจฉริยะเชิงรุกกว่า 30 รูปแบบ เช่น การแจ้งเตือนจุดบอดด้านข้างในขณะออกตัว และการแจ้งเตือนตำแหน่งอันตรายของรถบรรทุกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ด้านสมรรถนะ Zeekr 007 GT ใช้แพลตฟอร์ม 800V โดยมีทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง และรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ รุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 310kW ขณะที่รุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อมีพลังงานรวม 475kW
ในส่วนของแบตเตอรี่ มีตัวเลือกทั้งแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตและแบตเตอรี่ลิเธียมสามส่วน ซึ่งมีความจุ 75kWh และ 100kWh ตามลำดับ ระยะทางวิ่ง CLTC ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก โดยมีตัวเลือกตั้งแต่ 585km, 650km, 730km จนถึง 825km

ในส่วนของโครงรถ Zeekr 007 GT ใช้ระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่ด้านหน้าและแบบมัลติลิงค์ด้านหลัง พร้อมติดตั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่รองรับการปรับความสูงตัวรถได้ถึง 5 ระดับ และยังมีฟังก์ชันช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าออกจากรถ

Zeekr 007 GT ทุกรุ่นมาพร้อม LiDAR และชิปประมวลผล NVIDIA Orin-X คู่ ที่มีกำลังการประมวลผลรวม 508 TOPS พร้อมกับใช้ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ Haohan 2.0 รุ่นล่าสุด ทำให้รถสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น ZAP (ฟังก์ชันช่วยนำทางอัจฉริยะ) สำหรับการขับขี่ความเร็วสูงและในเมืองโดยไม่ต้องพึ่งแผนที่ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ AVP การหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ และโหมด Sentinel ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

Zeekr 007 ก็มีการติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะเช่นกัน แต่ในด้านการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับระบบขับขี่อัจฉริยะ Zeekr 007 GT มีความครบครันมากกว่า ในสถานการณ์ที่มีการจราจรคับคั่งหรือสภาพถนนที่ซับซ้อน ฟีเจอร์ขับขี่อัจฉริยะอันทรงพลังของ Zeekr 007 GT สามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้า-เย็น ระบบช่วยนำทางอัจฉริยะสามารถช่วยให้รถขับตามรถคันหน้าได้เองและรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม

Zeekr 007 GT ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นของตระกูล Zeekr ได้แสดงความแตกต่างจาก Zeekr 007 อย่างชัดเจนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ Shooting Brake ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบภายในที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต หรือสมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ครบครัน ทั้งยังมีราคาที่ถูกลง ถือเป็นรุ่นที่คุ้มค่ากว่า Zeekr 007
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

