BMW M5 Sedan 2024

รถ BMW X1 รุ่นปี 2023 นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ มีหลายเวอร์ชั่นให้เลือก ราคาอยู่ระหว่าง 2,399,000 บาท ถึง 2,709,000 บาท ในส่วนของสมรรถนะ เวอร์ชั่น sDrive 20i M Sport และ sDrive 20i x Line ใช้เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 9 วินาที ส่วนรุ่น xDrive 30e เป็นแบบปลั๊กอินไฮบริด กำลังรวมระบบสูงถึง 326 แรงม้า เร่งแซงเพียง 5.6 วินาทีเท่านั้น ด้านความจุภายในรถมีความยาว 4,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,696 มม. หรือ 2,692 มม. พอใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆ โบ๊ทหลังก็จุของได้เยอะ แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้ง ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัยหลายจุด ส่วนฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายก็มีทั้ง HUD แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า แอร์หลังให้ความเย็นชื่นใจ ที่สำคัญดีไซน์ภายนอกดูทันสมัย ขับขี่ได้คล่องตัวแบบเซียน BMW เรียกว่าทั้งสเปคและราคาคุ้มค่า น่าจับตามองจริง

รุ่น BMW X1 ปี 2023 มีหลายรุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น รุ่นพื้นฐานมักติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ รหัส B38A15C ความจุจริง 1499 ซีซี แบบเรียงลำดับสูบ (L) พร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ มีวาล์ว 4 ตัวต่อสูบ ใช้ระบบ DOHC ให้กำลังสูงสุดที่ 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมาถึงที่ 4200 รอบ/นาที แนะนำใช้น้ำมันเบนซิน 95 แกนสูบและหัวสูบทำจากอลูมิเนียมทั้งหมด ส่วนอีกรุ่นจะใช้เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ รหัส B48A20C ความจุ 1998 ซีซี แบบเรียงสูบเหมือนกัน พร้อมเทอร์โบชาร์จ 4 วาล์วต่อสูบ ระบบ DOHC เช่นกัน กำลังสูงสุดอยู่ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสุดที่ 4600 รอบ/นาที แนะนำน้ำมัน 95 เช่นกัน แกนและหัวสูบอลูมิเนียมช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยการตั้งค่าเทคโนโลยีเฉพาะของ BMW ทำให้แต่ละรุ่นให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย

รถ BMW X1 รุ่นปี 2023 โดยรวมแล้วมีความน่าเชื่อถือระดับดี เพราะเป็นรถจากแบรนด์ดังอย่าง BMW ที่มีเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงและระบบควบคุมคุณภาพเข้มข้น ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานก็ครบถ้วนด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ถุงลมนิรภัยหลายจุด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของรถในระดับหนึ่ง แต่จากการใช้งานจริง มีเจ้าของรถบางส่วนรายงานปัญหาบ้าง เช่น มีเสียงรบกวนจากกระแสไฟฟ้าที่สูงและรุนแรง ปัญหาการทำงานผิดปกติของเครื่องหลัก หรือปัญหาการเชื่อมต่อของ QQ Music และพบคราบเขม่าที่ล้อหลัง นอกจากนี้ยางของ X1 รุ่นปี 2023 ไม่ใช่ยางระเบิดและไม่มีชุดซ่อมยางฉุกเฉิน ทำให้การจัดการเมื่อยางมีปัญหาค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ไม่ควรตัดสินความน่าเชื่อถือโดยรวมจากปัญหาเฉพาะบางจุด เพราะในการผลิตรถจำนวนมาก ย่อมมีความแตกต่างในแต่ละคันเป็นเรื่องปกติ โดยสรุปแล้ว BMW X1 รุ่น 2023 ภายใต้การใช้งานและการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจและน่าเชื่อถือได้ดี

รถ BMW X1 รุ่น 2023 มีหลายรุ่นย่อยและราคาก็แตกต่างกัน โดย BMW X1 sDrive 20i M Sport 2023 ราคา THB 2,399,000 BMW X1 sDrive 20i x Line 2023 ราคา THB 2,409,000 และ BMW X1 xDrive 30e 2023 ราคา THB 2,709,000 รุ่นรถเหล่านี้มีความแตกต่างในด้านอุปกรณ์มาตรฐานและสมรรถนะ ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่าและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า อาจเหมาะกับ BMW X1 xDrive 30e 2023 ส่วนผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและไม่ต้องการสมรรถนะสูงนัก อาจพิจารณา BMW X1 sDrive 20i M Sport 2023 หรือ BMW X1 sDrive 20i x Line 2023

BMW M4 เป็นคูเป้สมรรถนะสูงที่ตอนนี้ในตลาดไทยมีเวอร์ชันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบชาร์จคู่ ซึ่งกำลังส่งออกแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นมาตรฐานอย่าง M4 Competition Coupe ให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า ส่วนรุ่นสเปกสูงอย่าง M4 CSL จะพุ่งไปถึง 550 แรงม้า ด้วยสมรรถนะแบบนี้ทำให้มันโชว์ความแรงทั้งบนทางด่วนและถนนเมืองในไทยได้อย่างดี สำหรับคนไทยแล้ว M4 ไม่เพียงขับสบายในชีวิตประจำวัน แต่ยังปล่อยฟันเต็มสูบในวันลงสนามแข่ง โดยเฉพาะที่สนามระดับโปรเหมือนบุรีรัมย์อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ที่การตั้งเซ็ตช่วงล่างและกำลังเครื่องของ M4 จะให้ความรู้สึกขับที่มันส์สุดๆ แถมยังมาพร้อมระบบช่วยขับและห้องโดยสารหรู ที่ทั้งแรงและคุ้มค่าในตัวเดียว เหมาะกับคนไทยที่อยากได้ทั้งความสปอร์ตและความใช้งานได้จริง ถ้าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่าย BMW ในไทยดูครับ จะได้สัมผัสความแสบด้วยตัวเอง

BMW M4 เป็นคูเป้สปอร์ตสมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับการจัดวางแบบ 2+2 ที่นั่งมาตรฐาน ด้านหน้าติดตั้งเบาะสปอร์ตที่ให้การรองรับชั้นเยี่ยม ส่วนบริเวณหลังเหมาะสำหรับการนั่งระยะสั้นๆ หรือเด็กเล็ก ในสภาพอากาศร้อนของไทยยังสามารถเลือกเพิ่มฟังก์ชันระบายอากาศบนเบาะเพื่อความสบายยิ่งขึ้น รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ S58 เทอร์โบชาร์จ 6 สูบตรง ที่ให้กำลังสูงถึง 510 แรงม้าเมื่อใช้เบนซิน 95 ในไทย ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือ M xDrive ระบบสี่ล้อ ที่ช่วยให้ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองกรุงเทพและเส้นทางเขาชานเมือง สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่นปี 2023 ในตลาดไทยยังมีเบาะคาร์บอนไฟเบอร์แบบถังแข่งให้เลือกเสริม แม้จะลดความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพบนสนามแข่งได้อย่างมาก ซึ่งการจัดแต่งแบบนี้หาได้ยากในรถสปอร์ตระดับเดียวกันจากญี่ปุ่น เนื่องจากไทยมีการเก็บภาษีนำเข้ารถในอัตราที่ค่อนข้างสูง ทำให้ M4 มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 7 ล้านบาท แต่ด้วยสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมและภาพลักษณ์แบรนด์ระดับพรีเมียม ก็ยังคงดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคไฮเอนด์ได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันแล้ว M4 ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างความสนุกในการขับขี่และความรู้สึกหรูหราเป็นพิเศษ

ราคา BMW M4 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 5,990,000 บาท ส่วนรุ่นสูงอย่าง Competition อาจพุ่งไปถึง 6,500,000 บาทขึ้นไป แนะนำให้ตรวจสอบราคาล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในพื้นที่ BMW M4 เป็นคูเป้สปอร์ตประสิทธิภาพสูง ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ Twin Turbo ให้กำลังสูงสุด 510 แรงม้า คู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที แสดงความแรงระดับตำนาน ในไทยรถคันนี้โด่งดังในหมู่คนรักสปอร์ตด้วยสมรรถนะการขับขี่ชั้นเยี่ยมและอุปกรณ์หรูหรา พร้อมทั้ง BMW ประเทศไทยยังมีบริการจัดไฟแนนซ์และแพ็คเกจดูแลรักษารถให้เลือกหลากหลาย ต้องบอกว่าตลาดรถสปอร์ตระดับพรีเมียมในไทยแข่งขันสูง โดย M4 มีคู่แข่งสำคัญอย่าง Mercedes-AMG C63 และ Audi RS5 ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบส่วนตัว แต่ควรรู้ไว้ว่ารถนำเข้าในไทยต้องเผชิญกับอัตราภาษีที่ค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลต่อราคา M4 โดยตรง แนะนำให้ศึกษาข้อมูลภาษีให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

BMW M3 และ M4 แม้จะใช้ระบบขับเคลื่อนและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเดียวกัน แต่จุดต่างหลักอยู่ที่การออกแบบตัวถังและกลุ่มเป้าหมาย โดย M3 เป็นรถซีดาน 4 ประตู ที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัวหรือชีวิตประจำวัน ส่วน M4 เป็นคูเป้ 2 ประตู ที่เน้นความสปอร์ตและสไตล์เฉพาะตัว สำหรับประเทศไทยในสภาพอากาศร้อนแบบนี้ ทั้งสองรุ่นขับขี่ในเมืองหรือวิ่งทางไกลได้ดีเหมือนกัน แต่ประตูแบบไร้กรอบและตัวถังที่เตี้ยกว่าของ M4 อาจทำให้ต้องระวังเรื่องความร้อนภายในรถเมื่อจอดตากแดดนานๆ นอกจากนี้คนไทยควรรู้ว่า M3 มีพื้นที่หลังที่นั่งสะดวกกว่า เหมาะสำหรับการพาครอบครัวหรือเพื่อนร่วมทาง ในขณะที่ M4 พื้นที่หลังค่อนข้างจำกัด更适合การนั่งระยะสั้นหรือวางของ ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ Twin Turbo ให้กำลังเท่ากัน แต่เนื่องจาก M4 ตัวถังเบากว่า จึงอาจให้ความรู้สึกคล่องตัวกว่าเล็กน้อยในทางทฤษฎี สำหรับเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขาหรือการขับขี่ในเมืองที่รถติดของไทย ทั้งคู่ให้ประสบการณ์การขับที่ยอดเยี่ยม แค่สไตล์ต่างกันเท่านั้น แนะนำให้ผู้ซื้อเลือกตามความต้องการจริงๆ ถ้าอยากได้รถใช้งานครอบคลุมก็เลือก M3 แต่ถ้าอยากได้รถสปอร์ตสไตล์โดดเด่น M4 น่าจะตอบโจทย์มากกว่า

เครื่องยนต์ของ BMW M4 ที่นี่เป็นเครื่องยนต์แบบ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง Twin-Turbo (รหัส S58) ที่ผ่านการปรับแต่งพิเศษสำหรับสมรรถนะสูง โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องกำลังส่งที่เยี่ยมยอดและการตอบสนองที่รวดเร็ว แม้ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยก็ยังคงทำงานได้อย่างเสถียร ให้กำลังสูงสุดถึง 480 แรงม้า (เวอร์ชั่น Competition จะเพิ่มเป็น 510 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ทั่วไปและบนสนามแข่ง พิเศษไปกว่านั้น เครื่องยนต์ S58 ยังติดตั้งระบบระบายความร้อนและเทคโนโลยี Water Injection ที่ช่วยลดผลกระทบจากอุณหภูมิสูงต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทย นอกจากนี้ เครื่องยนต์ตระกูล M ของ BMW ยังมีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถในการหมุนสูง เมื่อผสานกับ Differential แบบ M และระบบช่วงล่างปรับได้ จะให้ความรู้สึกในการควบคุมที่แม่นยำแม้บนถนนคดเคี้ยวแถบภูเขาหรือในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับแฟนรถไทยแล้ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ไม่เพียงเป็นตัวแทนของวิศวกรรมความแม่นยำแบบเยอรมัน แต่ยังผ่านการทดสอบความทนทานบนสนามแข่งสุดโหดอย่างนูร์บูร์กริง อีกทั้งศูนย์บริการ BMW ในประเทศไทยยังมีบริการดูแลรักษามืออาชีพที่จะช่วยให้รถของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดในระยะยาว

ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก BMW เกี่ยวกับเวลาที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ M4 (G82) โดยรุ่นปัจจุบันเปิดตัวไปเมื่อปี 2020 และตามวงจรการอัพเดทรถของ BMW ที่ประมาณ 7 ปี คาดว่ารุ่นใหม่น่าจะออกมาประมาณปี 2027 แต่ยังไงก็ต้องรอประกาศจาก BMW อีกที สำหรับตลาดไทย M4 รุ่นปัจจุบันติดใจคอรถสปอร์ตด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ Twin Turbo (รุ่น Competition 510 แรงม้า) และระบบขับเคลื่อนที่แม่นยำ มักเห็นโชว์ตัวในงาน Track Day รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนการอัพเกรดในรุ่นใหม่คาดกันว่า BMW จะปรับเครื่อง S58 ให้ผ่านมาตรฐานการระบายก๊าซมากขึ้น พร้อมอาจเพิ่มระบบ Hybrid แบบ 48V เพื่อประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ด้านเทคโนโลยีก็อาจได้ระบบ iDrive เวอร์ชั่นล่าสุดและฟังก์ชั่นช่วยขับขี่อัจฉริยะ สำหรับคนไทยที่สนใจต้องรู้ว่ารุ่นปัจจุบันที่เป็นพวงมาลัยขวาเหมาะกับกฎหมายไทย แถมศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ BMW Thailand ก็มีบริการดูแลครบวงจร รวมถึงการตรวจสอบระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาสำหรับอากาศร้อนแบบไทยด้วย แต่ถ้าจะนำเข้านอกต้องเช็คให้ดีว่าผ่านการรับรอง TISI จากกรมการขนส่งทางบกแล้วหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาการจดทะเบียนและประกันในภายหลัง