MG ZS 100th Anniversary 1.5 CVT

ราคาของ BYD Dolphin ในตลาดไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 799,999 บาท แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับระดับอุปกรณ์ แคมเปญโปรโมชัน หรือพื้นที่ต่าง ๆ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบขนาดกะทัดรัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ดึงดูดผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะคนเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่มองหารุ่นนี้สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน Dolphin ติดตั้งเทคโนโลยีใบมีดแบตเตอรี่ของ BYD ที่ให้ระยะทางสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และรองรับระบบชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จจาก 30% เป็น 80% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางลงได้ สำหรับตลาดไทย คู่แข่งหลักของ Dolphin ก็คือ MG EP และ Ora Good Cat แต่ Dolphin มีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบที่ใช้พื้นที่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น ระบบ DiLink ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย สะดวกต่อการใช้งานสำหรับคนไทย นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยผู้ซื้อ Dolphin จะได้รับสิทธิ์ลดภาษีสูงสุด 150,000 บาท และบางตัวแทนจำหน่ายยังมีบริการติดตั้งที่ชาร์จฟรีให้อีกด้วย สิ่งที่ควรทราบคือ สภาพอากาศร้อนของไทยส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่น้อย เพราะระบบจัดการแบตเตอรี่ของ BYD ได้รับการออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมแบบนี้โดยเฉพาะ ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายสถานีชาร์จล่าสุดจากช่องทางทางการเพื่อความมั่นใจ

หากคุณต้องการชาร์จไฟให้กับ BYD Dolphin ในประเทศไทย สามารถทำได้ผ่าน 3 ช่องทางหลักๆ คือการใช้ไฟบ้าน ตู้ชาร์จสาธารณะ หรือสถานีชาร์จเร็ว การชาร์จด้วยไฟบ้านให้ใช้สายชาร์จที่มากับรถต่อกับปลั๊กบ้านทั่วไป 220V แต่จะชาร์จช้าหน่อย เหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืน ตอนนี้ตู้ชาร์จสาธารณะในไทยเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นตามห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และปั๊มน้ำมัน ซึ่งชาร์จเร็วกว่า ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม ส่วนสถานีชาร์จเร็วจะชาร์จได้เร็วมาก แค่ 30-40 นาทีก็ถึง 80% แล้ว เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องเดินทางไกล รัฐบาลไทยกำลังผลักดันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถ EV อย่างจริงจัง ทำให้หลายที่อย่างห้างหรือออฟฟิศมีบริการชาร์จฟรีด้วยนะ แนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันแผนที่ชาร์จรถในไทยเช่น PlugShare หรือ EV Station Thailand ไว้ช่วยหาจุดชาร์จใกล้ๆ ตัว BYD Dolphin รองรับการชาร์จเร็วแบบ CCS2 ที่เข้ากับตู้ชาร์จส่วนใหญ่ในไทยได้ แต่ก่อนชาร์จก็อย่าลืมเช็คหัวชาร์จให้ตรงกันด้วยนะ การใช้รถ EV ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยอาจส่งผลต่อแบตเตอรี่บ้าง แนะนำให้เลือกชาร์จในที่ร่มและเลี่ยงการชาร์จเร็วตอนแดดจัดๆ จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ ตอนนี้ตลาด EV ของไทยกำลังโตเร็วมาก ระบบชาร์จก็พัฒนาต่อเนื่อง เรื่อยๆ ในอนาคตการชาร์จรถจะสะดวกขึ้นอีกแน่นอน

ตามข้อมูลตลาดไทยในปัจจุบัน คาดว่าการเปิดรับจอง BYD Dolphin จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 โดยเวลาที่แน่นอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศล่าสุดจาก BYD ประเทศไทย แนะนำให้ติดตามข้อมูลอัปเดตผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ BYD ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ รถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจจากดีไซน์ที่ทันสมัยและประสิทธิภาพการขับขี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองไทย พร้อมด้วยเทคโนโลยีใบมีดแบตเตอรี่ที่โดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยและความทนทาน เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย รัฐบาลไทยในปัจจุบันให้การสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดยมีมาตรการลดภาษีและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Dolphin น่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟในประเทศไทยกำลังได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งในเขตเมืองและตามทางหลวงต่างๆ ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน หากคุณสนใจรถยนต์ไฟฟ้า สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจุดชาร์จไฟและเงื่อนไขการติดตั้งที่บ้านล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการซื้อรถได้

BYD Dolphin เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตรถยนต์ชาวจีนอย่าง BYD ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีนที่โรงงานในเซินเจิ้นและซีอาน โรงงานเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เพื่อให้ได้มาตรฐานสากล รุ่นนี้เป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับตลาดโลก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์อัจฉริยะ ทำให้ได้รับความสนใจในหลายประเทศรวมถึงไทย สำหรับผู้บริโภคไทย รถรุ่นนี้น่าจะนำเข้าเข้ามาขายก่อน และในอนาคตหาก BYD ขยายฐานการผลิตในอาเซียนมากขึ้น ก็อาจมีการผลิตรถนี้ในไทยด้วย รัฐบาลไทยช่วงนี้ส่งเสริมอุตสาหกรรม EV อย่างหนัก มีมาตรการลดภาษีเพื่อดึงดูดแบรนด์รถไฟฟ้าระดับโลกอย่าง BYD ทำให้ตลาดไทยมีความน่าสนใจ BYD Dolphin สามารถวิ่งได้ประมาณ 400 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เหมาะกับการใช้ในเมือง แถมยังใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูงและเก็บพลังงานได้ดี ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับตามองสำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า

BYD Dolphin ในตลาดประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศช่วงเวลาเปิดจองอย่างเป็นทางการ แต่ตามแผนการขยายตลาดของ BYD ในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะเริ่มเปิดให้จองได้ประมาณปลายปีสองพันหกร้อยหกสิบหกถึงต้นปีสองพันหกร้อยหกสิบเจ็ด ผู้บริโภคชาวไทยสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์ทางการของ BYD Thailand หรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต Dolphin เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ออกแบบเพื่อจำหน่ายทั่วโลก โดดเด่นด้วยตัวถังขนาดกะทัดรัดและเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม e Platform 3.0 เหมาะกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC มากกว่า 400 กิโลเมตร และรองรับระบบชาร์จเร็วซึ่งตอบโจทย์โครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาในประเทศไทย ปัจจุบันรัฐบาลไทยส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ Dolphin และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นมีความสามารถในการแข่งขันด้านราคาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BYD ยังขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวาและพัฒนาเครือข่ายจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรในประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงรุ่นใหม่ได้รวดเร็วและได้รับบริการหลังการขายที่ครบถ้วน สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ควรติดตามรายละเอียดของนโยบายสนับสนุนรถ EV จากภาครัฐ รวมถึงขั้นตอนการติดตั้งเครื่องชาร์จภายในบ้าน เพื่อวางแผนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม

สำหรับราคาของ BYD Dolphin ในประเทศไทย จากข้อมูลล่าสุด รุ่นมาตรฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 999,000 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันตามความจัดแต่ง นโยบายโปรโมชัน หรือพื้นที่) รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ใบมีดขนาด 44.9kWh ให้ระยะทางสูงสุด 410 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับระบบชาร์จเร็ว (ชาร์จจาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 30 นาที) เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถ EV ทำให้ผู้ซื้อสามารถประหยัดได้ประมาณ 150,000 บาท ทำให้ราคาสุดท้ายคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ BYD Dolphin ยังถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดพวงมาลัยขวา โดยมีการปรับปรุงระบบปรับอากาศให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน และเพิ่มฟังก์ชันช่วยขับขี่ที่ตรงตามกฎหมายไทย ส่วนเรื่องสถานีชาร์จ ในเมืองใหญ่ของไทยมีจุดชาร์จกว่า 1,000 แห่ง และรถรุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐานการชาร์จทั่วไปด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียง เช่น Nissan Leaf หรือ MG EP จะเห็นว่า BYD Dolphin มีจุดเด่นในเรื่องพื้นที่ใช้งานภายใน (ระยะฐานล้อ 2,700 มม.) และระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (หน้าจอกลางแบบหมุนได้) แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมอย่างเป็นทางการของ BYD ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองใหญ่อื่นๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง

เวลาในการชาร์จ BYD Dolphin ขึ้นอยู่กับวิธีการชาร์จและความจุของแบตเตอรี่ ในประเทศไทย หากชาร์จที่บ้านด้วยเครื่องชาร์จ 7kW จะใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมงในการชาร์จจาก 0% ถึง 100% เหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืน แต่ถ้าใช้เครื่องชาร์จเร็ว 50kW ในสถานีชาร์จสาธารณะ จะชาร์จถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือกรณีฉุกเฉิน ส่วนเครื่องชาร์จเร็ว 150kW ที่มีความเร็วสูงกว่านั้น สามารถชาร์จถึง 80% ในเวลาเพียงประมาณ 30 นาทีเช่นกัน ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาสถานีชาร์จ โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าและปั๊มริมทางหลวงที่เริ่มติดตั้งเครื่องชาร์จเร็วมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม อากาศร้อนในไทยอาจส่งผลให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูง แนะนำให้ชาร์จในที่ร่มหรือเปิดระบบทำความเย็นล่วงหน้าเพื่อประสิทธิภาพการชาร์จที่ดีที่สุด BYD Dolphin ใช้เทคโนโลยี Blade Battery ที่มีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง เหมาะกับสภาพถนนและอากาศที่หลากหลายของไทย และเมื่อรัฐบาลไทยส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า สถานีชาร์จก็จะยิ่ง完善มากขึ้น ทำให้การใช้รถไฟฟ้าสะดวกสบายขึ้นเรื่อยๆ

BYD Dolphin เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ BYD (บีวายดี) ของจีน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น BYD เป็นบริษัทที่ทรงอิทธิพลในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก รุ่น Dolphin นี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย เทคโนโลยีล้ำสมัย และราคาที่จับต้องได้ จึงได้รับความสนใจในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนอย่างไทย ที่สำคัญ แบตเตอรี่แบบ Blade Battery ของ Dolphin มีความเสถียรสูงในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศของไทย รัฐบาลไทยเองก็กำลังส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ส่วน BYD ก็เดินหน้าขยายเครือข่ายบริการผ่านความร่วมมือในประเทศ ในอนาคตคนไทยน่าจะได้เห็นรถ BYD เพิ่มขึ้น รวมถึงรุ่น Dolphin ที่เป็นพวงมาลัยขวา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดท้องถิ่น แบรนด์รถไฟฟ้าจีนในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก้าวหน้าไปมากทั้งในด้านเทคโนโลยีและการขยายตลาด เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

BYD Dolphin (ไบวิด ดอลฟิน) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางในเมือง พ่วงมาตรฐานมากับการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวไทยในชีวิตประจำวันหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหารถสำหรับการเดินทางระยะสั้น ตัวรถพัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 ของไบวิด โดยมีขนาดตัวถังกะทัดรัดแต่ระยะฐานล้อยาวถึง 2,700 มม. ทำให้พื้นที่ขารองรับที่เบาะหลังกว้างขวางกว่ารถยนต์สันดาปในระดับเดียวกัน แถมยังขับเคลื่อนคล่องตัวในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ที่สำคัญคือรุ่นไทยยังคงความปลอดภัยระดับโลกด้วยเทคโนโลยีใบมีดแบตเตอรี่และถุงลมนิรภัย 6 จุด พร้อมระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญมากสำหรับบ้านเรา เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง MG EP หรือ NETA V ที่เน้นการออกแบบ 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ไบวิด ดอลฟิน ยังมีจุดขายด้วยหน้าจอสัมผัสกลางห้องโดยสารที่หมุนได้ตามต้องการ และฟังก์ชัน VTOL ที่สามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟสำรองสำหรับการกางเต็นท์หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ไทยที่ชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ หากต้องการรถที่มีที่นั่งมากกว่านี้ อาจต้องมองไปที่รุ่น ATTO 3 (ยูเนี่ยน พลัส ในตลาดโลก) ที่เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด แต่ทั้งขนาดตัวรถและราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

BYD Dolphin ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทางในเมือง ได้นำระบบกุญแจไร้สายมาใช้ในตลาดไทย ซึ่งทำงานคล้ายกับรถยนต์น้ำมันทั่วไป แค่เจ้าของรถถือกุญแจอัจฉริยะเข้าใกล้รถในระยะประมาณ 1 เมตร ก็สามารถกดปุ่มสีดำที่ด้ามจับประตูเพื่อปลดล็อครถได้ (บางรุ่นสูงอาจมีฟังก์ชันกุญแจ NFC ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสะดวกมากในอากาศร้อนของไทย ที่ไม่ต้องเสียเวลาค้นหากุญแจ) ข้อควรระวังคือ ปุ่มเปิดฝาชาร์จของ Dolphin อยู่บริเวณด้านหน้าของช่องเก็บของในประตูคนขับ ซึ่งแตกต่างจากตำแหน่งที่คุ้นเคยในรถยนต์ญี่ปุ่นที่นิยมในไทย ในสภาพอากาศที่มีฝนชุกของไทย แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางซีลรอบประตูเป็นประจำ เพราะรถไฟฟ้าที่เงียบมากอาจทำให้ไม่สังเกตปัญหาลมเสียงดังเมื่อยางซีลเสื่อมสภาพขณะขับความเร็วสูง นอกจากนี้ ฟังก์ชัน VTOL Mobile Station ที่มีมาในทุกรุ่นยังสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟภายนอกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กระหว่างการทำกิจกรรมกลางแจ้งในไทย แต่ก่อนใช้ต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในเกียร์ P และมีแบตเตอรี่เหลือมากกว่า 15% ซึ่งเป็นการออกแบบที่เพิ่มความปลอดภัยมากกว่าคู่แข่งบางรุ่น