Q
รถ BYD Shark 6 มีราคาเท่าไหร่?
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลราคาอย่างเป็นทางการของ BYD Shark 6 ในประเทศไทย แต่เราสามารถประมาณการคร่าวๆ จากราคาของรถกระบะรุ่นอื่นๆ ของ BYD และรถในตลาดไทยที่คล้ายกัน คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริม ความจุแบตเตอรี่ และนโยบายภาษีของไทย ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับรถพลังงานสะอาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลให้การสนับสนุนรถไฟฟ้าอย่างมาก เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสุดท้ายโดยตรง BYD Shark 6 เป็นรถกระบะแบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ผสมผสานระหว่างความประหยัดน้ำมันและประสบการณ์การขับขี่แบบไฟฟ้า จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ทั้งต้องเดินทางไกลและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลาดรถกระบะไทยมีการแข่งขันสูง คู่แข่งหลักคือ Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-MAX ที่ยังใช้เครื่องยนต์สันดาป ส่วนจุดเด่นของ Shark 6 คือค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยกว่า สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ BYD ประเทศไทยหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อสอบถามราคาที่แน่นอนและทดลองขับ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ระยะทางที่ BYD Shark 6 สามารถวิ่งได้คือเท่าไหร่?
BYD Shark 6 เป็นรถปิกอัพแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบ 100% ได้ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันในเมืองไทยแบบชิลๆ แต่ถ้าเปิดโหมดไฮบริดเมื่อไหร่ รับรองว่าระยะทางรวมพุ่งไปเกิน 800 กิโลเมตร แน่นอนว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางไกล แบบจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ก็ยังไหว เพราะรถคันนี้มาพร้อมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่ล้ำสมัยจาก BYD นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะทำงานได้อย่างเสถียรแม้อากาศเมืองไทยจะร้อนแค่ไหนก็ตาม สำหรับคนไทยแล้ว รูปแบบปลั๊กอินไฮบริดแบบนี้ได้เปรียบทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าของรถไฟฟ้า แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่เพียงพอในบางพื้นที่ ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงๆ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังสนับสนุนรถพลังงานสะอาดอย่างเต็มที่ ถ้าซื้อ BYD Shark 6 ก็จะได้ประโยชน์ด้านภาษีด้วย ใครที่สนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านดูเลย จะได้สัมผัสทั้งระยะทางและสมรรถนะการขับขี่แบบเต็มๆ
Q
ระบบขับเคลื่อนของ Shark 6 คืออะไร?
ระบบขับเคลื่อนของ Shark 6 นั้นส่วนใหญ่ออกแบบด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FF) ซึ่งการออกแบบนี้ตอบโจทย์การใช้งานบนถนนในเมืองและสภาพถนนลื่นในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งให้ความมั่นคงในการควบคุมและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ภายในรถ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ในรุ่นท็อปบางรุ่นยังอาจติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่บนถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือเส้นทางขรุขระ ซึ่งตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ในไทย พูดถึงตลาดไทยแล้ว ความสนใจเรื่องระบบขับเคลื่อนของรถปิกอัพและ SUV ค่อนข้างสูง เนื่องจากยานพาหนะประเภทนี้มักต้องรับมือกับพื้นผิวถนนที่ไม่ได้ปูทางในชนบทหรือภูมิประเทศที่เป็นภูเขา และการออกแบบระบบขับเคลื่อนของ Shark 6 บังเอิญทำให้เกิดความสมดุลระหว่างประหยัดเชื้อเพลิงและประโยชน์ใช้สอย การตรวจเช็กสถานะของเหลวในเพลาเกียร์ เฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบขับเคลื่อนสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่เน้นความทนทาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ การบำรุงรักษาอะไหล่เหล่านี้ยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
Q
สีใหม่ของ BYD Shark 6 คืออะไร?
BYD Shark 6 เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่จับตามากในตลาดไทย ด้วยการเสนอโทนสีใหม่ที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินทะเลลึก สีส้มทะเลทรายสดใส สีขาวขั้วโลกคลาสสิก และสีดำออบซิเดียนเรียบหรู โทนสีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์ความชอบของคนไทยที่ชอบความโดดเด่น แต่ยังเหมาะกับสภาพอากาศและถนนหลากแบบในไทย เช่น สีน้ำเงินและสีส้มที่เด่นมากใต้แสงแดดเมืองร้อน ส่วนสีขาวและสีดำนั้นดูแลง่ายและไม่แสดงคราบสกปรก นอกจากเรื่องสีแล้ว BYD Shark 6 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าล้ำสมัยและระบบช่วยขับอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ด้วยระยะล่างสูงและโครงสร้างแข็งแรงที่รับมือกับเส้นทางหลากหลายในไทยได้สบายๆ สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกสี ขอแนะนำว่าไม่ควรคิดแค่เรื่องความชอบส่วนตัว แต่ลองดูสภาพอากาศและสถานที่ใช้งานด้วย เช่น ในพื้นที่ร้อน สีอ่อนอาจช่วยลดความร้อนสะสม ในขณะที่สีเข้มเหมาะกับสายธุรกิจที่ต้องการความคลาสสิกดูน่าเชื่อถือ
Q
“BYD Shark 6 เป็นรถปลั๊กอินไฮบริดหรือไม่?”
BYD Shark 6 เป็นรถกระบะแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่รวมระบบขับเคลื่อนสองแบบทั้งเครื่องยนต์เชื้อเพลิงและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถขับเคลื่อนในโหมดไฟฟ้าล้วนสำหรับการเดินทางระยะสั้น หรือใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงสำหรับการเดินทางไกลได้ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนไทย ทั้งการเดินทางในเมืองและการขนส่งระยะไกล รุ่นนี้ยังประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมยานยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทย ในตลาดไทย รถปลั๊กอินไฮบริดกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะช่วยลดการใช้น้ำมันและแก้ปัญหาเรื่องระยะทางแบบรถไฟฟ้าล้วนได้ การมาของ BYD Shark 6 ทำให้ผู้บริโภคไทยมีตัวเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มองหารถกระบะที่ทั้งใช้งานได้จริงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และมีหลายแบรนด์ที่กำลังเปิดตัวรุ่นคล้ายๆ กัน ทำให้ในอนาคตตลาดไทยอาจจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีก
Q
ถังน้ำมันของ Shark 6 มีขนาดใหญ่เท่าไหร่?
จากข้อมูลที่ปรากฏ ถังน้ำมันของ Shark 6 มีความจุประมาณ 50 ลิตร ซึ่งการออกแบบนี้ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ระยะไกลได้เป็นอย่างดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบท่องเที่ยวแบบขับรถเอง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันระเหยหรือท่อน้ำมันอุดตันจากความร้อนสูง การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพดีก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทานให้เครื่องยนต์ได้เช่นกัน สำหรับตลาดไทยแล้ว การใช้งานรถปิกอัพต้องเน้นความประโยชน์ ถังน้ำมันขนาด 50 ลิตรของ Shark 6 นับว่าอยู่ในระดับกลางถึงค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ทำให้ได้ทั้งระยะทางและสมดุลน้ำหนักตัวรถ ที่สำคัญในไทยมีปั๊มน้ำมันกระจายอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ความจุถัง 50 ลิตรนี้จึงเพียงพอต่อการใช้งานส่วนใหญ่โดยไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ความจุจริงที่ใช้งานได้อาจน้อยกว่าที่ระบุเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการออกแบบเพื่อป้องกันการขยายตัวของน้ำมันและรักษาช่องว่างความปลอดภัย
Q
รถ BYD Shark 6 มาพร้อมกับชุดลากจูงหรือไม่?
สำหรับรถกระบะ BYD Shark 6 ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยในตลาดไทย นั้นมีตัวเลือกติดตั้ง tow bar หรือตะขอพ่วงรถให้เลือกใช้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานไทยที่ต้องการพ่วงเรือยอร์ช รถมอเตอร์ไซค์ หรืออุปกรณ์กางเต็นท์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชายทะเลหรือคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เวลาซื้อรถลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดในสเปคของแต่ละรุ่นหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายได้ว่า tow bar นี้มากับรถแบบมาตรฐานหรือต้องสั่งเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ก็ต้องคำนึงถึงกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับน้ำหนักที่พ่วงได้และระบบไฟสัญญาณด้วย ถ้าจะพูดเพิ่มเติม การใช้ tow bar ในไทยควรดูเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วย ระบบไฮบริดของ Shark 6 ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำเหมาะสำหรับการลากจูงของหนัก แต่แนะนำให้ผู้ใช้เลือกโหมดการพ่วงให้เหมาะสมกับงานและตรวจสอบความแน่นของ tow bar เป็นประจำเพื่อความปลอดภัย ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็อาจส่งผลต่อการเกิดสนิม ดังนั้นควรเลือกวัสดุที่ผ่านการป้องกันสนิมหรือบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
Q
BYD Shark 6 มีเครื่องยนต์อะไรบ้าง
BYD Shark 6 เป็นรถกระบะที่ออกแบบมาสำหรับตลาดโลก พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดล่าสุดจาก BYD โดยใช้เทคโนโลยี DM-o ที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5T กับมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบนี้ไม่เพียงให้กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง แต่ยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล ในตลาดไทย รถไฮบริดกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะช่วยลดทั้งค่าน้ำมันและการปล่อยมลพิษ สอดคล้องกับเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เทคโนโลยีไฮบริดของ BYD ยังได้รับการยอมรับในระดับโลก มีความน่าเชื่อถือและทนทานผ่านการทดสอบมานานปี สำหรับคนไทยนี่คือตัวเลือกที่น่าจับตามอง ถ้าสนใจเทคโนโลยีไฮบริด ลองศึกษาระบบอื่นๆ เช่น Hybrid ของ Toyota หรือ e-POWER ของ Nissan แต่จุดเด่นของ BYD Shark 6 คือระยะทางไฟฟ้าล้วนที่ไกลกว่าและประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในไทยที่ราคาน้ำมันค่อนข้างสูง
Q
BYD Shark 6 เป็นรถไฮบริดหรือไม่?
BYD Shark 6 เป็นรถปิกอัพแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่รวมพลังจากทั้งเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ทั้งต้องขับทางไกลและยังต้องการประหยัดน้ำมัน โหมดไฟฟ้าล้วนใช้ได้ในชีวิตประจำวันสำหรับการเดินทางใกล้ๆ ส่วนโหมดไฮบริดจะเพิ่มพลังและระยะทางให้มากขึ้น ตอนนี้ตลาดไทยกำลังนิยมรถไฮบริดมากขึ้น โดยเฉพาะรถปิกอัพที่เน้นใช้งานจริง เพราะคนไทยเริ่มหันมาสนใจรถที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แทนที่รถปิกอัพเดิมๆ ที่กินน้ำมันหนักๆ เทคโนโลยีไฮบริดของ BYD Shark 6 จึงตอบโจทย์เทรนด์นี้ได้ดี แถมรัฐบาลไทยยังสนับสนุนรถพลังงานสะอาดผ่านมาตรการลดภาษี ทำให้ต้นทุนการซื้อและใช้รถไฮบริดหรือไฟฟ้าคุ้มค่าขึ้น BYD ที่เป็นแบรนด์รถพลังงานสะอาดระดับโลก มีเทคโนโลยีไฮบริดที่ทั้งเสถียรและประสิทธิภาพสูง การมาของ Shark 6 จะเพิ่มทางเลือกให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการรถปิกอัพสำหรับทั้งงานและชีวิตประจำวัน
Q
“ถังน้ำมันของ BYD Shark 6 มีความจุเท่าไหร่?”
รถกระบะ BYD Shark 6 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดโลก มีความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ใช้งานหลากหลายสถานการณ์ ทั้งขับขี่ในเมืองหรือทริปข้ามจังหวัด แถมยังได้เปรียบจากนโยบายลดภาษีรถกระบะของไทย ทำให้ราคาจับต้องง่ายขึ้น แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดแข็งในสภาวะน้ำมันราคาแกว่งแบบบ้านเรา ส่วนเรื่องการใช้งาน รถกระบะในไทยนิยมใช้ทั้งขนของและพาครอบครัวเที่ยว ถังน้ำมัน 60 ลิตรนี้วิ่งได้ไกลพอสมควร ลดปัญหาหยุดเติมน้ำมันบ่อยๆ ถ้าอยากได้รถที่ประหยัดยิ่งขึ้น ลองดูระบบไฮบริดของ BYD ที่ช่วยจัดการการใช้น้ำมันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกขั้น
Q
วิธีชาร์จ BYD Shark 6 ที่บ้าน
การชาร์จ BYD Shark 6 ที่บ้านนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นคุณต้องตรวจสอบว่าบ้านของคุณมีเต้ารับไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานของไทย (220V) แนะนำให้ติดตั้ง Wallbox หรือเครื่องชาร์จแบบติดผนังที่ BYD จัดเตรียมไว้ให้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการชาร์จ ในประเทศไทยคอนโดหรือหมู่บ้านใหม่ๆ หลายแห่งมีจุดชาร์จรถ EV ให้อยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่มี คุณสามารถติดต่อช่างไฟฟ้าท้องถิ่นเพื่อจัดให้ได้ เวลาชาร์จก็แค่เสียบหัวชาร์จที่มากับรถเข้ากับพอร์ตชาร์จ จากนั้นตั้งเวลาได้ผ่านระบบในรถหรือแอปมือถือ (ค่าไฟไทยจะถูกกว่าในเวลาที่ไม่ใช่ช่วงพีค) นอกจากนี้ BYD Shark 6 ยังรองรับการชาร์จแบบเร็วและแบบช้า โดยการชาร์จที่บ้านส่วนใหญ่จะใช้แบบช้า ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงถึงจะเต็ม เหมาะกับการชาร์จตอนกลางคืน เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบอุปกรณ์ชาร์จเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่ร้อนจัดหรือชื้นเกินไป รัฐบาลไทยตอนนี้มีนโยบายสนับสนุนรถ EV หลายอย่าง เช่น ลดภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมจดทะเบียน รวมถึงอาจได้เงินสนับสนุนส่วนหนึ่งในการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน คุณสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณ
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Toyota Hilux BEV และ BYD Shark อันไหนใช้งานได้จริงมากกว่ากัน?
AshleyNov 17, 2025

ตำรวจเม็กซิโกจัดซื้อ BYD Shark เพื่อใช้เป็นรถลาดตระเวนในสถานการณ์ที่อาจเกิดความขัดแย้ง
สุรเดชJun 9, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด BYD M6 ชำระงวดละ 8,xxx บาท
ณัฐวุฒิNov 28, 2025

ด้านหนึ่งคือ Dolphin อีกด้านหนึ่งคือ Firefly ที่เหมือนกล้อง iPhone ควรเลือกใคร?
Kevin WongNov 26, 2025

เมื่อเปรียบเทียบ Honda City Hatchback กับ BYD Dolphin ควรเลือกอะไรสำหรับการเดินทางระยะสั้น?
ณัฐวุฒิNov 24, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย