2020 Toyota Hilux Revo Smart Cab Z Edition 2x4 2.4 Mid AT

รถยนต์ Toyota Yaris ATIV ในตลาดประเทศไทยมีให้เลือกถึง 6 สีตัวถังด้วยกัน ทั้งแบบสีสันสดใสและสีคลาสสิคเท่ๆ ประกอบด้วย URBAN METAL (สีเทาเมทัลลิกดูทันสมัย), SPICY SCARLET (สีแดงสดแรงๆ), PLATINUM WHITE PEARL (สีขาวมุกหรูหรา), ATTITUDE BLACK MICA (สีดำเมทัลลิกเข้มข้น), METAL STREAM (สีเงินเมทัลลิกล้ำยุค) และ RED MICA METALLIC (สีแดงเมทัลลิกเริ่ดๆ) ให้ลูกค้าได้เลือกตามสไตล์ความชอบส่วนตัว

Toyota Yaris ATIV เป็นรถยนต์ขนาด B-Segment ตัวรถมีขนาดความยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และระยะฐานล้อ 2,620 มม. ตัวรถมี 4 ประตู รองรับผู้โดยสารได้ 5 คน ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เครื่องยนต์มีขนาด 1,197 ซีซี (1.2 ลิตร) แบบธรรมดา (NA) ให้แรงม้าสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที กำลังเครื่อง 69 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง พร้อมเบรกมือไฟฟ้า ล้อหน้าหลังใช้ยางขนาด 195/60 R16 อุปกรณ์ความปลอดภัยมีทั้งระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ (VSC) ถุงลมนิรภัย 6 จุด และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ภายในรถติดตั้งหน้าจอกลางขนาด 9 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตัว เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางกับครอบครัว ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันครบ และประหยัดน้ำมัน จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนเมืองค่ะ

Toyota Yaris ATIV มีขนาดตัวถังยาว 4,425 มิลลิเมตร กว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,480 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร และความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 160 มิลลิเมตร พร้อมถังน้ำมันความจุ 40 ลิตร ขนาดที่ว่านี้ทำให้ขับเคลื่อนในเมืองได้คล่องตัวมาก ทั้งการเลี้ยวในซอยแคบๆ หรือหาที่จอดก็ทำได้ง่ายๆ ส่วนระยะฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร ก็ช่วยให้คนนั่งข้างในมีพื้นที่ขาเหลือเฟือ โดยเฉพาะผู้โดยสารหลังที่นั่งได้สบายๆ ไม่ต้องงอตัว ส่วนถังน้ำมัน 40 ลิตร ก็ช่วยให้วิ่งได้ไกลพอสมควร ไม่ต้องแวะเติมบ่อยๆ ทั้งการขับรถในชีวิตประจำวันหรือทริปสั้นๆ ก็สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องหาปั๊มบ่อยๆ ให้เสียเวลา

ราคาของ Toyota Yaris ATIV แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน โดยมีช่วงราคาอยู่ที่ 529,000 - 699,000 บาท นอกจากราคารถแล้ว ค่าใช้จ่ายในการใช้งานก็เป็นปัจจัยสำคัญ รถรุ่นนี้ใช้เชื้อเพลิงแบบเบนซิน มีความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร สำหรับรุ่น 1.2 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานอยู่ที่ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงค่านี้อาจขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่และสภาพถนนด้วย ส่วนค่าบำรุงรักษาตามระยะที่โตโยต้ากำหนด เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง จะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันในแต่ละระยะ ส่วนค่าเบี้ยประกันก็ขึ้นอยู่กับราคารถและประเภทความคุ้มครองที่เลือก นอกจากนี้เมื่อยางสึกหรอต้องเปลี่ยนใหม่ โดยขนาดยางหน้าและยางหลังคือ 195/60 R16 ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายอีกส่วนที่ต้องคำนึงถึง

เวลาเราจะขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถ Toyota Yaris ATIV ปัจจัยหลัก ๆ ที่ใช้คำนวณมีอยู่ 4 อย่าง คือ ราคารถ, เงินดาวน์, อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อนชำระ โดยปกติธนาคารและ Toyota Leasing จะเสนออัตราดอกเบี้ยต่อปีประมาณ 2.5% - 4.5% แล้วแต่เครดิตของลูกค้าและโปรโมชั่นช่วงนั้น สมมุติว่าจะซื้อรุ่น Yaris ATIV 1.2G ราคา 700,000 บาท ถ้าดาวน์ 30% (210,000 บาท) และขอสินเชื่อ 490,000 บาท ผ่อน 60 งวด (5 ปี) ด้วยอัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 8,900 บาท (คำนวณจากสูตรสินเชื่อมาตรฐาน) นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องเตรียมไว้ เช่น ค่าธรรมเนียมการขอสินเชื่อ 1-3% แล้วแต่ธนาคาร, ค่าประกันภัยภาคบังคับ และค่าจดทะเบียนรถ เป็นต้น แนะนำว่าก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเข้าไปลองใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อที่เว็บไซต์ Toyota หรือของแต่ละธนาคาร เพื่อเปรียบเทียบค่างวดและโปรโมชั่นที่มีอยู่ในช่วงนั้น บางครั้งอาจเจอโปรผ่อน 0% ด้วย ข้อควรระวังคือ กฎหมายไทยกำหนดให้ผ่อนได้นานสุด 7 ปี (84 งวด) แม้ผ่อนนานจะทำให้ค่างวดต่อเดือนถูกลง แต่รวมดอกเบี้ยจะสูงขึ้นมาก ควรเลือกตามกำลังจ่ายของตัวเองจะดีที่สุด

ยางรถยนต์ Toyota Yaris ATIV มีขนาดมาตรฐานที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นปี สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น ขนาดยางหน้าจะอยู่ที่ 185/60 R15 ส่วนรุ่นปี 2022-2024 จะใช้ยางขนาด 195/60 R16 ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ขนาดยางมีผลต่อสมรรถนะการขับขี่ ความมั่นคง และความสบายในการใช้งานของรถ โดยความกว้างของยางที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ ส่วนอัตราส่วนความสูงต่อความกว้างของยาง (60 ในที่นี้) จะส่งผลต่อความนุ่มสบายและความคล่องตัวในการควบคุมรถ ส่วนโครงสร้างยางแบบเรเดียล (ตัวอักษร R ในขนาดยาง) ให้ความทนทานที่ดี และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางล้อ (15 หรือ 16 นิ้ว) ต้องสัมพันธ์กับขนาดตัวรถเพื่อให้การรองรับน้ำหนักเหมาะสมที่สุด

Toyota Yaris ATIV เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเล็กจากค่าย Toyota ซึ่งถือเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของรุ่นนี้ พัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA (Daihatsu New Global Architecture) ที่ทันสมัย ตัวรถดีไซน์สไตล์สปอร์ต มาพร้อมกระจังหน้าทรงปากใหญ่แบบรมดำ ไฟหน้าเรียวเฉียบคม ด้านข้างเส้นสายดูโฉบเฉี่ยว ส่วนด้านท้ายมีสปอยเลอร์ทรงเป็ดเล็ก ๆ เพิ่มความสปอร์ตอีกระดับ ขนาดตัวถังยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,620 มม. ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีทูโทน ใช้วัสดุแบบนุ่มให้สัมผัสพรีเมียม มาพร้อมหน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับระบบช่วยขับ Toyota Safety Sense ที่มีทั้งระบบควบคุมความเร็วแปรผัน ระบบเตือนจุดอับสายตา ฯลฯ ในด้านขุมพลัง รุ่นมาตรฐานใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 69 กิโลวัตต์ (ประมาณ 94 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ส่วนรุ่นไฮบริดจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมระบบ Full Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 111 PS และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

Toyota Yaris ATIV ถือเป็นรถครอบครัวที่มีความน่าเชื่อถือสูงโดยรวม แต่จากเสียงสะท้อนของผู้ใช้บางส่วน ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ในบางจังหวะความเร็วต่ำ เกียร์ CVT อาจมีอาการกระตุกเล็กน้อย โดยเฉพาะเวลาขับในสภาพรถติดนานๆ และอากาศร้อนจัด ซึ่งเป็นผลจากน้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิสูงเกินไป แนะนำให้ตรวจเช็คและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามรอบการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อีกเรื่องคือ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร บางคนรู้สึกว่าเวลาเร่งแซงช่วงความเร็วกลางๆ (80–100 กม./ชม.) จะอืดเล็กน้อย แต่สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอ ในรถล็อตแรกๆ บางคันอาจมีเสียงดังเล็กน้อยจากแผงประตูหรือคอนโซลหน้า ซึ่งมักเกิดจากการขยายตัวของพลาสติกเมื่อเจอสภาพอากาศร้อนชื้น โดยสามารถแจ้งศูนย์บริการเพื่อปรับแก้ได้ฟรี นอกจากนี้ Yaris ATIV รุ่นที่ขายในไทยใช้ระบบเบรกหน้าดิสก์ หลังดรัม หากต้องขับลงเขาต่อเนื่อง (อย่างในเส้นทางเขาแถวเชียงใหม่) ควรใช้เกียร์ต่ำช่วยเบรก เพื่อลดภาระของระบบเบรก อย่างไรก็ตาม ด้วยเครือข่ายศูนย์บริการของโตโยต้าในไทยที่ครอบคลุมดี ทำให้ปัญหาเล็กๆ เหล่านี้สามารถดูแลได้ในการเข้าศูนย์ประจำ ไม่กระทบต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันค่ะ

Toyota Yaris ATIV ที่วางจำหน่ายในไทยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i โดยมีการจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ประมาณ 175 กม./ชม. แต่ในสภาพถนนจริง ความเร็วสูงสุดที่ทำได้จะอยู่ราวๆ 170 กม./ชม. ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าในประเทศไทย กฎหมายจำกัดความเร็วบนทางด่วนอยู่ที่ 120 กม./ชม. และในบางพื้นที่เช่นถนนภูเขาทางภาคเหนือจะมีการจำกัดความเร็วที่ต่ำกว่านี้ ดังนั้นการขับรถด้วยความเร็วสูงสุดจึงไม่แนะนำ ไม่เพียงแต่ผิดกฎหมาย ยังส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์และระบบเบรก โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัด รถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันในสภาพการขับขี่ในเมือง ระบบเกียร์ CVT ถูกปรับอัตราทดให้ขับที่ 80–100 กม./ชม. ได้ในรอบเครื่องต่ำประมาณ 2,000 รอบต่อนาที ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมาก หากคุณต้องเดินทางไกลเป็นประจำ อาจพิจารณารุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เพื่อการเร่งแซงที่มั่นใจกว่าในช่วงความเร็วสูง.

ค่างวดรายเดือนของ Toyota Yaris ATIV ในประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ จำนวนเงินดาวน์ ระยะเวลาผ่อน และอัตราดอกเบี้ย โดยรุ่นยอดนิยมอย่าง 1.2G CVT ซึ่งมีราคาประมาณ 579,000 บาท ถ้าผ่อนกับไฟแนนซ์ของโตโยต้า โดยวางเงินดาวน์ 20% ผ่อนนาน 5 ปี และคิดดอกเบี้ยปีละ 3.5% ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 9,500 บาทต่อเดือน ส่วนรุ่นท็อป 1.5S CVT ราคาประมาณ 699,000 บาท ถ้าใช้เงื่อนไขเดียวกัน ค่างวดจะเพิ่มเป็นประมาณ 11,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ช่วงโปรโมชั่น เช่น ปลายปีหรืองานมอเตอร์โชว์ บางธนาคารหรือดีลเลอร์อาจมีข้อเสนอพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ผ่อน 6 เดือนแรกฟรีดอกเบี้ย หรือดาวน์เริ่มต้นแค่ 15% ก็มี แนะนำให้ลองใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อรถยนต์จากเว็บไซต์ Toyota ประเทศไทย หรือเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารหลัก ๆ อย่างธนาคารกรุงเทพหรือกสิกรไทย เพื่อได้ตัวเลขที่ตรงกับงบประมาณจริง และก่อนเซ็นสัญญากู้ อย่าลืมตรวจสอบว่ามีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอื่น ๆ เช่น ค่าประกันภัยภาคบังคับ ค่าติดตั้ง GPS หรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของการมีรถเช่นกัน