Q

พลังของ Swift 2024 คืออะไร

รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือ เครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.2 ลิตร และเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร โดยรุ่น 1.2 ลิตรให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ CVT เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยความประหยัดน้ำมันที่ดี ส่วนรุ่น 1.0 ลิตรเทอร์โบให้กำลังสูงถึง 111 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ที่ให้พลังขับเคลื่อนสูงกว่า สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ต Swift เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมันที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น ตัวรถขนาดกะทัดรัดช่วยให้จอดง่าย แถมยังคงจุดแข็งของ Suzuki ในเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ตอบโจทย์เทรนด์รถรักษ์สิ่งแวดล้อมในไทย ระบบช่วงล่างของ Swift ถูกปรับให้เน้นความนุ่มสบาย เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ให้ความรู้สึกมั่นคงทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถนนในกรุงเทพฯ หรือทางลูกรังในชนบทก็ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 มีความจุเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบดูดธรรมดาขนาด 1.2 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องรุ่น K12M ที่ใช้เทคโนโลยี DualJet ระบบฉีดดับเบิ้ล มีกำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ให้เลือกได้ทั้งเกียร์ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ประจำวันของคนไทย เพราะประหยัดน้ำมันมาก สิ่งที่คนไทยควรรู้คือเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เวลาขับนานๆ ในอากาศร้อนๆ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์รถยนต์ขนาดไม่เกิน 1,600 ซีซี ทำให้สวิฟท์คุ้มค่ามากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ก็จะมีอย่าง Toyota Yaris ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตร หรือ Honda Brio ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตรแบบ i-VTEC แต่แต่ละคันก็มีการตั้งค่าและเทคโนโลยีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ความต้องการของผู้ซื้อ แม้ว่าเครื่อง 1.2 ลิตรอาจจะรู้สึกหนักเวลาแซงบนทางด่วนโดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขา แต่ด้วยการออกแบบตัวถังที่เบา ทำให้การควบคุมการขับขี่คล่องตัวมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นเท่าไร?"
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่อง 1.2 ลิตร แบบแอทโมสเฟียร์ ทดสอบในไทยแล้ววิ่งได้ประมาณ 4.8 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด (HEV) ประหยัดยิ่งกว่าแค่ 4.2 ลิตร/100 กม. เหมาะกับทั้งขับเมืองที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยและขับทางไกล จุดเด่นอยู่ที่ตัวรถน้ำหนักเบาและการตั้งค่าเครื่องยนต์ที่ประสิทธิภาพสูง แถมยังใช้น้ำมัน E20 ในไทยได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เช็คฟิลเตอร์อากาศและลมยางสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการกินน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Honda Brio หรือ Toyota Yaris Ativ Swift อาจประหยัดพอๆ กันแต่จุดแข็งคือตัวรถกะทัดรัดกว่า ขับในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ได้คล่องกว่า อย่างไรก็ตามอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริงอาจต่างไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ เปิดแอร์บ่อยแค่ไหนและสภาพการจราจร แนะนำให้ลองขับทดสอบทั้งในเมืองและทางหลวงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
ใน Swift 2022 มีถุงลมนิรภัยกี่ลูก?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยเน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยรวม 6 ถุง ครอบคลุมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านกันกระแทกด้านข้าง ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถคอมแพคต์ในไทยเป็นอย่างดี ด้วยสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อน รถอย่าง Swift ที่มาพร้อมถุงลมนิรภัยหลายจุดแบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่เมืองและการเดินทางไกล โดยเฉพาะสภาพถนนในกรุงเทพฯ ที่มีการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว คนซื้อรถควรดูด้วยว่ารถมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ESP ABS หรือเปล่า เพราะระบบพวกนี้สำคัญมากเวลาเจอถนนลื่นช่วงหน้าฝนของไทย โครงการ Thai NCAP ก็แนะนำว่าควรเลือกรถที่มีถุงลมนิรภัยอย่างน้อย 4 ถุงขึ้นไป ซึ่งสวิฟท์ทำได้เกินมาตรฐานนี้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนถุงลมนิรภัยแม้จะสำคัญ แต่การคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกวิธีและการขับขี่อย่างปลอดภัยต่างหากที่เป็นพื้นฐานของความปลอดภัยจริงๆ ซึ่งกฎหมายไทยก็บังคับไว้ชัดเจนว่าต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับรถ
Q
ความยาวของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
Swift 2022 รุ่นที่วางขายในประเทศไทยมีความยาวตัวถัง 3,840 มิลลิเมอร์ ถือเป็นรถฮัทช์แบคคอมแพคต์ที่โด่งดังในตลาดเมืองไทยเพราะขับเคลื่อนคล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาหรือระบบไฮบริดเบา 1.4 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่นย่อยที่ไทยนำเข้า) คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนนุ่มๆ แต่ยังประหยัดน้ำมันเหมือนเดิม จุดเด่นที่คนไทยชอบคือการออกแบบช่วงล่างที่สั้น ทำให้เลี้ยวติดซอยแคบๆ หรือจอดในลานจอดรถชั้นแคบได้สบาย ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 4.8 เมตร แถมตัวถังยังใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบามีความแข็งแรงสูงทั้งประหยัดน้ำมันและปลอดภัยด้วย สำหรับคนที่อยากได้ความสปอร์ตมากขึ้น ทางไทยยังมีรุ่น Swift Sport ให้เลือก แถมด้วยช่วงล่างปรับสปอร์ตและชุดแต่งภายนอกดุดันยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังนิดนึงว่าขนาดตัวรถอาจต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาดโลกเพราะมีการปรับแต่งพิเศษสำหรับไทย เช่น กันชนหน้า-หลัง แนะนำให้ไปตรวจสอบข้อมูลที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อจะดีที่สุด
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 มีความจุถังน้ำมันเท่าไร"
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ที่ขายในประเทศไทยมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 37 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กทั่วไป ถังน้ำมันขนาดนี้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการขับขี่ในเมือง สำหรับคนไทย การเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง (ราคาประมาณลิตรละ 32-35 บาท) จะสามารถวิ่งได้ประมาณ 500-600 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและสไตล์การขับของแต่ละคน พูดถึงสวิฟท์แล้วต้องบอกว่าเป็นรถประหยัดที่ขายดีในไทย ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาและการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ทำให้ในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ยังสามารถทำระยะทางได้ถึง 18-20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับคนไทยที่ต้องเผชิญรถติดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ยางส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงที่ได้มาตรฐาน TISI ของไทยเพื่อช่วยบำรุงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีตลอดการใช้งาน
Q
รุ่น Swift ปี 2022 มีระยะทางการใช้งานเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ เวอร์ชั่นเครื่อง 1.2L แบบธรรมดาทดสอบขับจริงบนถนนได้ประมาณ 20-22 กม./ลิตร (หรือประมาณ 4.5-4.8 ลิตร/100 กม.) แต่ตัวเลขอาจแกว่งบ้างถ้าติดรถติดในกรุงเทพหรือขับบนทางด่วนแบบเหยียบๆ เบาๆ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่น้ำหนักเบา พร้อมระบบเริ่มต้นและหยุดเดินเบาที่ช่วยประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย สิ่งที่น่าสังเกตว่าการรับรองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Swift เวอร์ชั่นประเทศไทยใช้มาตรฐานภายในประเทศ (กฟผ.) มีความแตกต่างจากค่าทดสอบ NEDC หรือ WLTP ของยุโรป แนะนำให้เจ้าของรถยนต์ชาวไทยหมั่นตรวจเช็คไส้กรองอากาศเป็นประจำ ซึ่งส่งผลต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริง นอกจากนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91/95 ที่สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแตกต่างจากน้ำมันเบนซินทั่วไปประมาณ 3-5% การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้เป็นอย่างดี
Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 คืออะไร?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบให้ลูกค้าได้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกคือเครื่อง 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดารหัส K12M ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์ 5 สปีดมือถือหรือ CVT ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะสุดๆ สำหรับขับในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ส่วนอีกตัวคือเครื่อง 1.4 ลิตร Boosterjet เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 129 แรงม้า คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตและความแรงเป็นพิเศษ Swift ที่ผลิตในไทยนี้ยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน พร้อมทั้งใช้งานกับน้ำมัน E20 ได้ไม่มีปัญหา ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดกระทัดรัด ทำให้จอดในซอยแคบของไทยได้ง่าย เป็นรถที่ขายดีมาอย่างยาวนานในตลาดรถขนาดเล็กของไทย เพราะความน่าเชื่อถือและราคาที่จับต้องได้ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นความแรงหรือประหยัดน้ำมันตามความต้องการของตัวเอง
Q
ความคิดเห็นของ Suzuki Swift 2022 ในตลาดไทย
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีในตลาดไทย รถขนาดเล็กคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดและการขับขี่ที่คล่องตัว จนเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดรวมถึงความประหยัดน้ำมันที่เฉลี่ยประมาณ 20-22 กม./ลิตร ทำให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมาก Swift 2022 ยังอัพเกรดในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีระบบพื้นฐานอย่างถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และ EBD เป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่นท็อปบางรุ่นยังเพิ่มกล้องถอยหลังและระบบ ESP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย ด้านภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่การประกอบงานเรียบร้อยสมกับระดับราคา สำหรับเครื่องยนต์ ตลาดไทยเน้นไปที่รุ่น 1.2 ลิตร แบบเครื่องยนต์สูบธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้กำลังส่งเรียบเนียน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก นอกจากนี้ Swift ยังมีอัตราการรองรับมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันในตลาดมือสอง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน Swift 2022 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่แนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Brio เพื่อดูว่าคันไหนตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณของคุณได้ดีที่สุด
Q
ความเร็วสูงสุดของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม. โดยอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ Swift เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดพลังงาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมดาหรือ 1.0 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น) ให้ความรู้สึกขับขี่ที่คล่องตัวทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ สภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี แต่ Swift ออกแบบระบบหล่อเย็นมาเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดน้ำมันซึ่งตอบโจทย์คนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่คล่องตัว ทำให้ Swift เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้นก็มีรุ่น Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้ความแรงกว่าเดิม ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 210 กม./ชม. ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ควรเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุดตลอดเวลา
Q
Suzuki Swift 2022 เป็นรถที่ดีหรือเปล่า?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็นรถขนาดเล็กที่คุ้มค่าเงินมาก เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานประจำวัน ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมชาติที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆ และที่จอดรถคับขัน ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี มีหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วและบลูทูธให้แบบมาตรฐาน แม้ว่าจะใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลัก แต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา สมกับราคา ในด้านความปลอดภัย รุ่นไทยมีถุงลมนิรภัย 2 ใบ พร้อมระบบ ABS และ EBD ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าอยากได้ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมก็สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมได้ Swift ยังมีจุดเด่นที่ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่ายในไทย ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนไทยหลายคนเลือกมัน ส่วนระบบแอร์ที่ไทยต้องใช้สู้ร้อนนั้น Swift ก็ทำได้ดีเยี่ยม เย็นเร็วทันใจ ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้จริง Swift ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการพื้นที่กว้างขวางหรืออุปกรณ์มากกว่านี้ อาจต้องมองรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
"รถที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในปี 2024 คืออะไร?"
ในปี 2024 รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้น Rolls-Royce Boat Tail รุ่นคัสตอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ราคาพุ่งไป 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเรือยอร์ชโบราณ ตัวถังทาสีเมทัลลิกที่ขัดมืออย่างประณีต ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยอุปกรณ์สุดหรูเช่น ตู้เย็นเก็บแฮมพาร์มาและชุดเครื่องเงินสำหรับคาเวียร์ ตามมาติดๆ คือ Bugatti La Voiture Noire รถซุปเปอร์คาร์สัญชาติฝรั่งเศสที่ราคา 18.5 ล้านดอลลาร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 420 กม./ชม. สำหรับในตลาดรถไทย เราอาจจะเคยเห็น Rolls-Royce Phantom หรือ Lamborghini รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันวิ่งอยู่แถวกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งรถระดับนี้มักจะมีระบบป้องกันฝุ่นพิเศษ สําหรับผู้ที่ชื่นชอบการสะสมรถยนต์ นอกจากการให้ความสําคัญกับราคาแล้ว ควรเข้าใจศักยภาพในการรักษามูลค่าของรถยนต์เหล่านี้มากขึ้น เช่น ราคาของ Ferrari 250 GTO ในการประมูลเพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านเป็น 70 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ความขาดแคลนนี้จึงเป็นคุณค่าหลักของรถยนต์หรูหราชั้นนํา
Q
อะไรทำให้ Revuelto มีราคาแพงขนาดนี้?
ราคาสูงลิ่วของ Lamborghini Revuelto เกิดจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบปลั๊กอินรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมด้วยคุณสมบัติการผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชัน ที่มาพร้อมระบบไฮบริดซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร V12 แบบดูดธรรมชาติและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังสูงถึง 1,015 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที สมรรถนะระดับนี้ต้องพึ่งพาวัสดุลดน้ำหนักจากคาร์บอนไฟเบอร์และระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาในระดับมาตรฐานการบิน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนระอุของประเทศไทย ระบบระบายความร้อนอัจฉริยะและจานเบรกเซรามิกจะช่วยรักษาความเสถียรระหว่างขับขี่แบบสุดเหวี่ยง ส่วนกรรมวิธีการผลิตแบบทำมือในอิตาลีทำให้ผลผลิตต่อเดือนไม่ถึง 100 คัน ความหายากนี้เองที่ดันราคาให้สูงขึ้น ซูเปอร์คาร์ระดับนี้ส่วนใหญ่จะผลิตแบบออร์เดอร์เมด (สั่งทำตามใบสั่ง) โดยบริการปรับแต่งพิเศษเช่นสีรถเฉพาะหรือหนังหุ้มเบาะภายในย่อมเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก ในขณะที่ระบบไฮบริดซึ่งซับซ้อนกว่าซูเปอร์คาร์ทั่วไปก็ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระยะยาวด้วย ที่น่าสนใจคือ ไฮเปอร์คาร์ในระดับราคานี้มักมาพร้อมเทคโนโลยีระดับสนามแข่ง อย่างระบบแอคทีฟแอโรไดนามิกส์หรือระบบกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) ซึ่งต้นทุนการวิจัยและพัฒนาที่สูงลิบเหล่านี้จะถูกเฉลี่ยเข้ากับแต่ละคันที่ผลิต ทำให้รถสมรรถนะขั้นสุดแบบนี้กลายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มโดยธรรมชาติ
Q
มียอดขายรถ Lamborghini ในปี 2024 จำนวนเท่าไร?
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini ในปี 2024 แต่จากผลงานในปีที่ผ่านมาของแบรนด์นี้ พบว่ายอดขายต่อปีมักจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ถึง 10,000 คัน โดยรุ่น Urus เป็นตัวหลักที่ทำยอดขายเกิน 60% ของทั้งหมด ในตลาดท้องถิ่น Lamborghini มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ครบทุกรุ่นทั้ง Huracán Aventador รุ่นต่อเนื่อง และ Urus ซึ่งรุ่น Urus นั้นได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะตอบโจทย์ทั้งความแรงและความประหยัดพื้นที่ ที่น่าสนใจคือแบรนด์ซูเปอร์คาร์ในยุคนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า Lamborghini เองก็ประกาศแล้วว่าจะเปิดตัว Revuelto รุ่นไฮบริดแรก ซึ่งนับเป็นการเริ่มปรับตัวตามเทรนด์พลังงานสะอาด แต่ยังคงรักษาลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ความจุสูงไว้ แนวทางนี้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่นที่อยากได้ทั้งสมรรถนะสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่สนใจซื้อ นอกจากจะดูตัวเลขยอดขายแล้ว ควรให้ความสำคัญกับระยะเวลารอคอยและการบริการปรับแต่งเฉพาะตัวของรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันเหล่านี้ ซึ่งปกติต้องติดต่อล่วงหน้ากับตัวแทนจำหน่ายอย่างน้อยหลายเดือนเพื่อกำหนดสเปค
Q
รถยนต์ที่ขายเร็วที่สุดในปี 2024 คือรุ่นใด
รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในปี 2024 คือ Toyota Hilux Revo ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่ครองใจผู้บริโภคด้วยความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพถนน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องขนของหรือเดินทางไกลบ่อยๆ Hilux Revo ไม่เพียงแต่มีโครงสร้างแข็งแรงและระบบเครื่องยนต์อันล้ำสมัย แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ นอกจากรถปิคอัพแล้ว รถไฟฟ้าอย่าง BYD ATTO 3 ก็มาแรงไม่แพ้กัน ด้วยราคาคุ้มค่าและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ ดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดขายรถไฮบริดและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดเริ่มยอมรับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิมหรือรถพลังงานใหม่ สิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเวลาซื้อรถคือความคุ้มค่า ความทนทาน และค่าบำรุงรักษา ขณะที่การบริการหลังการขายและการจัดหาอุปกรณ์เสริมที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
Q
รถที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2024 คืออะไร?
คาดว่าในปี 2024 รถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ Toyota bZ4X และ BYD ATTO 3 ที่ผสมผสานระหว่างความใช้งานได้จริงกับเทคโนโลยีรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากด้วยต้นทุนการประหยัดพลังงานและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนรถปิกอัพอย่าง Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-MAX ยังคงเป็นที่นิยมสูงเนื่องจากความทนทานและความหลากหลายในการใช้งานที่เหมาะกับสภาพถนนและไลฟ์สไตล์ของคนไทย นอกจากนี้รถหรูแบรนด์ดังอย่าง Mercedes-Benz EQ Series และ BMW iX ก็ยังครองใจกลุ่มตลาดบนด้วยภาพลักษณ์แบรนด์และเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟและการเพิ่มความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยานพาหนะเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมยังคงสามารถแข่งขันได้ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด แนะนำให้ทดลองขับรถและเปรียบเทียบค่าบำรุงรักษาและประสิทธิภาพความทนทานของพลังงานประเภทต่าง ๆ ก่อนที่จะซื้อรถเพื่อให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล
ดูเพิ่มเติม