Q

วิธีการชาร์จ BYD Dolphin

BYD Dolphin ในประเทศไทยรองรับการชาร์จหลายรูปแบบ หากใช้ไฟบ้านแบบกระแสสลับต้องมีอุปกรณ์ชาร์จเฉพาะและใช้เวลานานกว่าจะชาร์จเต็ม หากชาร์จที่สถานีสาธารณะสามารถเลือกได้ระหว่างชาร์จเร็วและชาร์จปกติ โดยชาร์จเร็วช่วยเติมพลังงานได้ในเวลาสั้น ส่วนชาร์จปกติใช้เวลานานกว่าแต่ช่วยถนอมแบตเตอรี่ ทั้งนี้ระยะเวลาและวิธีการชาร์จขึ้นอยู่กับกำลังไฟของสถานีชาร์จและสถานะของแบตเตอรี่รถยนต์
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin มีจุดด้อยบางประการด้านความสบาย ช่วงล่างใช้ระบบแม็คเฟอร์สันด้านหน้าและคานบิดด้านหลัง ซึ่งประสิทธิภาพการดูดซับแรงสั่นสะเทือนอยู่ในระดับทั่วไปให้ความรู้สึกแข็งเกินไปทำให้แรงสั่นสะเทือนและความขรุขระบนถนนส่งผ่านเข้าสู่ห้องโดยสารได้ง่ายระบบกันเสียงไม่ดีนักพร้อมกับยางที่มีเสียงรบกวนสูงเมื่อตัวรถวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะได้ยินเสียงยางและลมอย่างชัดเจนด้านพื้นที่เก็บสัมภาระในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดเล็ก พื้นที่ท้ายรถจำกัด โดยไม่สามารถพับเบาะหลังได้ ความจุเพียง 345 ลิตรจึงมีความจุไม่เพียงพอในส่วนของฟังก์ชัน เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าทุกรุ่นไม่มีระบบปรับไฟฟ้า สีรถบางและง่ายต่อการเป็นรอยส่วนวัสดุตกแต่งภายในสีอ่อนไม่ทนต่อความสกปรกและมีกลิ่นใหม่ของรถค่อนข้างแรงด้านระยะทางวิ่งในความเร็วสูงหรืออากาศหนาวเย็นจริงอาจลดลงอย่างมากนอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการออกแบบที่ควรปรับปรุง เช่น เสา A บางจุดบดบังทัศนวิสัย กล่องเก็บของตรงที่วางแขนใช้พื้นที่ด้านล่างได้ไม่เต็มที่ และไม่มีไฟส่องสว่างบนเพดานหลัง
Q
BYD Dolphin อยู่ในเซกเมนต์อะไร
BYD Dolphin จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment ซึ่งหมายถึงรถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดตัวถังกะทัดรัดและคล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง BYD Dolphin มีความยาว 4150 มิลลิเมตร กว้าง 1770 มิลลิเมตร สูง 1570 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตร ขนาดโดยรวมสอดคล้องกับลักษณะของรถยนต์ขนาดเล็ก มีประตู 5 บานและที่นั่ง 5 ที่ เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและครอบครัวขนาดเล็ก ในตลาดไทยรถยนต์ขนาดเล็กได้รับความนิยมสูงเนื่องจากจอดรถง่ายและใช้พลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้าน้อยกว่า Dolphin ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบจากพลังงานสะอาดที่ไม่มีมลพิษและต้นทุนการใช้รถที่ประหยัด จึงตอบโจทย์แนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่า จึงเป็นผู้นำยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ของไทยและเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่ม B-Segment ได้อย่างมั่นคง
Q
ค่า Resale Value ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin เป็นหนึ่งในรถยนต์พลังงานใหม่ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยราคามือสองได้รับผลกระทบจากอายุรถระยะทางใช้งานอุปกรณ์เสริมและสภาพการดูแลรักษาโดยทั่วไปรถมือสองที่มีอายุ 1-2 ปีและระยะทางต่ำประมาณ 20 000 ถึง 40 000 กิโลเมตร รุ่น Standard Range ราคาจะอยู่ระหว่าง 700 000 ถึง 900 000 บาทส่วนรุ่น Long Range จะอยู่ในช่วง 900 000 ถึง 1 100 000 บาทเนื่องจากแบรนด์ BYD ได้รับการยอมรับมากขึ้นในไทยและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีความทันสมัยราคามือสองจึงเสื่อมค่าช้ากว่ารถยนต์น้ำมันปกติแต่หากแบตเตอรี่ยังมีสุขภาพดีและมีประวัติการบริการครบถ้วนจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้แนะนำให้ผู้ซื้อใช้แพลตฟอร์มรถมือสองมืออาชีพหรือช่องทางรับรองจากทางการเช่นศูนย์ BYD 4S ในการตรวจสอบสภาพรถและรายงานสุขภาพแบตเตอรี่ SOC พร้อมทั้งติดตามนโยบายของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับรถพลังงานใหม่เช่นการปรับภาษีนำเข้าเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาซื้อขายรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง
Q
เกียร์ของ BYD Dolphin คือประเภทอะไร
BYD Dolphin ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบความเร็วเดียวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีตำแหน่งเกียร์เพียงหนึ่งตำแหน่งโครงสร้างเกียร์แบบนี้เรียบง่ายช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการส่งกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าและยืดระยะทางวิ่งของรถได้มากขึ้นนอกจากนี้เกียร์ความเร็วเดียวยังไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ที่ซับซ้อนทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยจึงควบคุมง่ายและช่วยให้มีสมาธิบนถนนได้ดีโดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองรวมถึงเกียร์ชนิดนี้ยังทำงานอย่างเสถียรส่งผลให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างนุ่มนวลลดอาการสะดุดและเพิ่มความสบายในการขับขี่และโดยสาร
Q
ขนาด PCD ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ใช้ขนาด PCD 5x114.3 โดยมีจำนวนรูน็อตล้อ 5 รูและขนาดรูศูนย์กลางล้อ CB อยู่ที่ 60.1 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาด PCD ที่นิยมใช้ในรถหลายรุ่นยอดนิยมในตลาดไทยเช่นโตโยต้าและฮอนด้าบางรุ่นช่วยให้เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดวงล้อได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อวงล้อแต่งในไทยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก TISI เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศนอกจากนี้ค่าความลึก ET และความกว้าง J ของวงล้อต้องตรงกับค่าที่โรงงานกำหนดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบช่วงล่างและความมั่นคงในการขับขี่หากเปลี่ยนล้อที่ไม่ใช่ของเดิมควรระวังการเลือกขนาดยางให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการผิดพลาดของมาตรวัดความเร็วและไม่กระทบต่อระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
BYD Dolphin มี Apple CarPlay ไหม
BYD Dolphin รุ่นที่จำหน่ายในตลาดติดตั้งฟังก์ชัน Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นมาตรฐานผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone ผ่านหน้าจอสัมผัสได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้งานนำทางเล่นเพลงและโทรศัพท์โดยไม่ต้องใช้สายข้อมูลระบบนี้รองรับการใช้งานร่วมกับ Android Auto และระบบอัจฉริยะ DiLink ของ BYD รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA ซึ่งอาจขยายฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนในอนาคตสำหรับผู้ใช้ iOS การมี CarPlay ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในชีวิตประจำวันอย่างมาก
Q
ยี่ห้อของยางรถยนต์ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมักใช้ยางแบรนด์ Giti Comfort 225 หรือ Hankook Kinergy GT ซึ่งเป็นยางคุณภาพสูงออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดมาตรฐานคือ 215 50 R17 ยางเหล่านี้เน้นประสิทธิภาพหลักที่สำคัญต่อรถยนต์ไฟฟ้าคือการยึดเกาะถนนเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยการลดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสารและการประหยัดพลังงานช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและรักษาระยะทางวิ่งจริงผู้ใช้ BYD Dolphin ในไทยหากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD หรือร้านยางแบรนด์ดังต่างๆแนะนำให้เลือกยางที่มีเทคโนโลยีแรงต้านการหมุนต่ำ Low Rolling Resistance LRR ซึ่งช่วยรักษาระยะทางวิ่งตามที่กำหนดนอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในเมืองและบนถนนชนบทในประเทศไทยควรตรวจสอบดัชนีรับน้ำหนัก Load index และระดับความเร็ว Speed rating ของยางที่เลือกตามคำแนะนำในคู่มือรถยนต์
Q
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่ดีไหม เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียได้ที่นี่
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจมีจุดเด่นหลายประการในด้านระยะทางวิ่งจริงทดสอบแล้วพบว่าระยะทางวิ่งคงที่แม้ในสภาพอากาศร้อนสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะสั้นแบตเตอรี่ใช้แบบใบมีดซึ่งมีความเสถียรสูงในสภาพอุณหภูมิสูงโดยหลังใช้งานหนึ่งปีแบตเตอรี่เสื่อมไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ด้านสมรรถนะการเร่งความเร็วทำได้ดีเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาประมาณ 7 วินาทีให้ความรู้สึกเร้าใจด้านพื้นที่ใช้สอยออกแบบได้อย่างเหมาะสมทั้งเบาะนั่งแถวหน้าแถวหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับการเดินทางของครอบครัวอุปกรณ์ติดตั้งมาอย่างครบครันรวมถึงระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถดีไซน์ภายนอกเรียบหรูทันสมัยตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการเช่นหน้าจอหลักมีขนาดใหญ่ทำให้บางครั้งอาจเผลอสัมผัสโดยไม่ตั้งใจและไปชนกับสิ่งของบนที่วางของระบบเครื่องเสียงหลังอัปเกรดเสียงจะออกแนวสดใสซึ่งบางคนโดยเฉพาะผู้ชายอาจไม่ชอบส่วนเบาะหลังค่อนข้างแข็งทำให้นั่งเดินทางไกลไม่ค่อยสบาย
Q
ความกว้างของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่
BYD Dolphin มีความกว้าง 1770 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาดที่ให้ความสมดุลระหว่างความคล่องตัวของตัวรถกับความกว้างภายในห้องโดยสารเมื่อนั่งภายในรถจะรู้สึกได้ถึงพื้นที่ช่วงไหล่ที่ไม่อึดอัดไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารสองคนแถวหน้าหรือผู้ใหญ่สองคนแถวหลังก็สามารถนั่งได้อย่างสบายนอกจากความกว้างแล้ว BYD Dolphin ยังมีสัดส่วนตัวถังที่ดีในด้านอื่นโดยมีความยาวอยู่ระหว่าง 4070 ถึง 4280 มิลลิเมตรความสูง 1570 มิลลิเมตรและระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตรซึ่งระยะฐานล้อที่ยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ช่วงยาวภายในรถส่งผลให้การโดยสารมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Q
ราคาภาษีถนนของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณ
การคำนวณภาษีถนนของ BYD Dolphin ในประเทศไทยใช้หลักการเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปโดยอ้างอิงจากกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดสูตรคือกำลังมอเตอร์สูงสุดหน่วยเป็นกิโลวัตต์คูณด้วยอัตรา 65 บาทต่อกิโลวัตต์เช่นรุ่น Standard ของ Dolphin มีกำลังมอเตอร์ 70 กิโลวัตต์จะต้องจ่ายภาษีถนนปีละ 70 คูณ 65 เท่ากับ 455 บาทรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานใหม่โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีถนนซึ่งถูกกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมอย่างมากทั้งนี้ภาษีถนนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นและปีของรถแนะนำให้สอบถามกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อยืนยันยอดเงินที่แน่นอนนอกจากภาษีถนนเจ้าของรถยังต้องชำระค่าเบี้ยประกันภัยภาคบังคับประมาณ 600 ถึง 1000 บาทต่อปีรัฐบาลไทยยังสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการอื่นๆเช่นการลดภาษีนำเข้าซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง

ข้อดี

ขนาดกะทัดรัด ขับง่ายและจอดสะดวกในเมือง
ดีไซน์ภายนอกสะดุดตา ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น หน้าจอสัมผัสและระบบช่วยขับขี่
ภายในนั่งสบาย ใช้วัสดุคุณภาพ พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ดี

ข้อเสีย

ระยะทางการเดินทางมีขีด จำกัด อาจไม่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล
ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าบางรถยนต์แบบดั้งเดิม
พื้นที่ตัวรถหลังเล็กกว่าไม่เหมาะสำหรับเก็บของขนาดใหญ่
สาธารณูปโภคการชาร์จอาจไม่สะดวกในบางพื้นที่
มูลค่าการขายคืนยังต้องได้รับการพิสูจน์ในตลาด

Q&A ล่าสุด

Q
哪一个更快, M5 หรือ M8
ในตลาดไทย รุ่นบีเอ็มดับเบิลยู M5 (F90) และ M8 (G15/G16) ที่พบบ่อย M8 มีสมรรถนะเร่งและความเร็วสูงกว่าบ้าง โดย M8 Competition ใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลัง 625 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที ส่วน M5 Competition มีกำลัง 617 แรงม้า เร่ง 0-100 ใน 3.3 วินาที ข้อดีนี้มาจากน้ำหนักตัวรถ M8 ที่เบากว่าและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น แต่ M5 ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและดีไซน์สี่ประตูที่ใช้งานได้จริงกว่า จึงได้รับความนิยมมากกว่าในสภาพอากาศฝนตกบ่อยและความต้องการของครอบครัว รถทั้งสองรุ่นมีราคาขายในไทยเกิน 10 ล้านบาท แต่การเซ็ตสมรรถนะเน้นคนละแบบ M8 มุ่งเน้นการขับขี่บนสนามแข่งและความเร็วสูง ส่วน M5 เหมาะกับการขับขี่ประจำวัน ควรระวังว่าอากาศร้อนในไทยมีผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์เทอร์โบ ควรเลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนเพิ่มและดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ รถสมรรถนะสูงเหล่านี้จะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ในสนามแข่งรอบกรุงเทพฯ เช่น Bira Circuit แต่ในการขับขี่บนถนนทั่วไปต้องระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัดในไทย
Q
M8 เป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือไม่
บีเอ็มดับเบิลยู M8 เป็นรถคูเป้หรูสมรรถนะสูง แม้จะมีพละกำลังแรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่จัดว่าเป็นซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์คาร์มักเน้นสมรรถนะสูงสุด น้ำหนักเบา และผลิตจำนวนจำกัด เช่น บางรุ่นของเฟอร์รารี่หรือแลมโบร์กินี ส่วน M8 ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถ GT หรู เหมาะกับการขับทางไกลและใช้งานประจำวัน ในประเทศเขตร้อนอย่างไทย M8 มีความสะดวกสบายและปรับตัวได้ดี ด้วยระบบช่วงล่างและแอร์ที่รองรับสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและโหมดขับขี่หลายรูปแบบของ M8 ช่วยให้ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมืองที่รถติดและเส้นทางภูเขา หากสนใจซูเปอร์คาร์จริงๆ สามารถพิจารณา Porsche 911 Turbo S หรือ McLaren GT ที่มีสมรรถนะและดีไซน์ใกล้เคียงกับคำนิยามซูเปอร์คาร์แบบดั้งเดิมมากกว่า
Q
M8 เป็น BMW ที่เร็วที่สุดหรือไม่
ในบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น M8 เป็นรถสมรรถนะสูงที่โดดเด่นแต่ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในสายการผลิต รุ่นที่เร็วที่สุดคือบีเอ็มดับเบิลยู M5 CS ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังปลดล็อกความเร็ว ส่วน M8 Competition เร่ง 0-100 ได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในการขับขี่บนสนามแข่ง M5 CS มีสมรรถนะดีกว่า ในไทยด้วยข้อจำกัดทางถนนและกฎหมายจราจร ความเร็วสูงสุดจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถ แต่ M8 ยังคงเป็นรถหรูสมรรถนะสูงที่เหมาะกับผู้บริโภคระดับพรีเมียม มีทั้งพลังแรงและความสะดวกสบายเหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ และทางด่วนของไทย หากสนใจรถสมรรถนะสูง สามารถศึกษารุ่น M อื่นๆ เช่น M3 M4 ที่มีความนิยมสูงในไทยและง่ายต่อการดูแลรักษา พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่
Q
ราคารถ BMW M8 อยู่ที่เท่าไหร่
ราคารถ BMW M8 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการปรับขึ้นลงบ้างจากอุปกรณ์เสริมที่เลือก ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย หรือโปรโมชั่นต่างๆ รถรุ่น M8 เป็นเรือธงสมรรถนะสูงจาก BMW ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความแรงและความมันส์ สำหรับในไทย รถหรั่งระดับนี้มักจะมีอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของเรา เช่น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกกันรังสียูวี ต้องบอกเลยว่าเมืองไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รถหรั่งอย่าง M8 มีราคาแพง นอกจาก M8 แล้ว ตลาดไทยยังมีรถสมรรถนะสูงหรูๆ ให้เลือกอีกเพียบ เช่น Mercedes-AMG GT หรือ Porsche 911 ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบตามความชอบและงบประมาณได้เลย ถ้าสนใจซื้อ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อขอราคาล่าสุดและรายละเอียดบริการหลังการขาย รวมถึงควรคำนึงถึงการดูแลรักษารถในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยด้วยนะ
Q
ยาริสดีสำหรับการเดินทางไกลหรือไม่
รถยนต์โตโยต้า ยาริส เป็นรุ่นที่เหมาะกับการขับขี่ระยะไกล โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย เครื่องยนต์ 1.2L หรือ 1.5L อาจจะไม่แรงมากแต่ประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับทั้งการขับในเมืองและบนทางหลวง เกียร์ CVT ทำงานลื่นๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับทางไกล ภายในรถสำหรับรุ่นเล็กแล้วถือว่ากว้างขวางพอสมควร เบาะนั่งก็รองรับร่างกายได้ดี แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงหน่อย เพราะรุ่นพื้นฐานบางแบบอาจไม่มีช่องแอร์ด้านหลัง เรื่องบริการหลังการขายในตลาดไทยก็ครบครัน ซ่อมบำรุงง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง ที่น่าสนใจคือระยะความสูงจากพื้นรถที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ทำให้เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในชนบทที่อาจไม่ค่อยดีนัก สำหรับคนไทยที่ต้องการรถประหยัดแต่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง แต่ถ้าต้องการพาครอบครัวหรือมีสัมภาระมากๆ อาจต้องมองหารถที่ใหญ่กว่านี้หน่อย
ดูเพิ่มเติม