Q

Porsche Cayenne หนักเท่าไหร่ ตรวจสอบที่นี่เพื่อรู้

พอร์เช่ คาเยนน์ ในฐานะรถ SUV หรู รุ่นนี้มีน้ำหนักที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นมาตรฐานจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1,985 ถึง 2,175 กิโลกรัม ส่วนรุ่นสปอร์ตอย่าง คาเยนน์ เทอร์โบ จีที อาจหนักถึง 2,355 กิโลกรัม ซึ่งสะท้อนถึงวัสดุที่แข็งแกร่งและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง สำหรับประเทศไทยที่อากาศร้อนและการจราจรติดขัด คาเยนน์ ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างตัวถังอลูมิเนียมน้ำหนักเบาและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบช่วงล่างแบบปรับอากาศที่ช่วยให้ขับขี่สบายแม้บนถนนสภาพไม่ดี นอกจากนี้ รุ่นไฮบริดของคาเยนน์ยังได้รับความนิยมในไทย เพราะนอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาล ส่วนเรื่องน้ำหนักรถก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ถนนลื่นหรือเวลาไปเที่ยวภูเขา คาเยนน์ตอบโจทย์ด้วยการกระจายน้ำหนักที่สมดุลและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้ควบคุมรถได้ดีและปลอดภัยในทุกสภาพถนน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Porsche Cayenne คืออะไร
พอร์เช่ คาเยนน์ ในฐานะรถ SUV ระดับหรู แม้จะโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและมูลค่าของแบรนด์ แต่ในตลาดไทยก็ยังมีข้อด้อยบางประการ เช่น ราคาที่ค่อนข้างสูงและค่าบำรุงรักษาหลังการขาย ซึ่งอาจเป็นภาระไม่น้อยสำหรับผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน นอกจากนี้ ขนาดตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ของคาเยนน์อาจทำให้การขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่นและถนนคับแคบไม่ค่อยคล่องตัวนัก รวมถึงการจอดรถที่ค่อนข้างยาก แม้เครื่องยนต์จะแรงแต่ในสภาพการจราจรทั่วไปของไทย ประสิทธิภาพนี้อาจไม่ได้ใช้เต็มที่และยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเมื่อเทียบกับรถ SUV ประหยัดน้ำมันที่คนไทยนิยมมากขึ้น ทำให้ความประหยัดใช้งานจริงอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไร ส่วนสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นก็ต้องการระบบแอร์และความแน่นหนาของรถที่ดี ซึ่งคาเยนน์ทำได้ดีอยู่แต่หลังจอดตากแดดนานๆ อุณหภูมิในรถขึ้นเร็ว ต้องใช้ระบบทำความเย็นที่ประสิทธิภาพสูงมาช่วย ทว่า ความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยีทันสมัยในคาเยนน์ก็ยังเป็นจุดขายดึงดูดผู้บริโภคไทยที่มองหาคุณภาพ เพียงแต่ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจซื้อให้ดี
Q
Porsche Cayenne อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
พอร์เช่ คาเยนน์ เป็น SUV ระดับหรูขนาดกลางที่อยู่ในเซกเมนต์ Luxury Mid-Size SUV Segment ซึ่งรุ่นนี้ได้รับความนิยมมากในตลาดไทย เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องสมรรถนะสูงและการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ และการขับขี่ในเส้นทางภูเขาทางภาคเหนือของไทย คาเยนน์ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จประสิทธิภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูง ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่พื้นที่ภายในอันกว้างขวางและอุปกรณ์หรูหราก็ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม SUV ระดับพรีเมียมในไทยได้เป็นอย่างดี ในตลาดไทย คาเยนน์ มีคู่แข่งสำคัญอย่าง BMW X5 และ Mercedes-Benz GLE แต่ด้วยดีเอ็นเอด้านสปอร์ตและการเป็นแบรนด์ระดับตำนานของพอร์เช่ ทำให้คาเยนน์ มีจุดยืนที่แข็งแกร่งในตลาด SUV หรู นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยยังต้องการระบบระบายความร้อนและแอร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคาเยนน์ ทำได้ดีเสมอมา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รุ่นนี้ขายดีต่อเนื่องในไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ระดับหรู คาเยนน์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว แต่ยังตอบโจทย์คนรักความสนุกในการขับขี่ได้อย่างลงตัว
Q
“Porsche Cayenne ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่”
รถโปโล่ Cayenne ในตลาดมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าสูงมาก สาเหตุหลักมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง คุณภาพที่น่าเชื่อถือ รวมถึงความต้องการที่ต่อเนื่องของตลาด SUV หรูในไทย จากข้อมูลตลาดพบว่า Cayenne ที่ใช้งานประมาณ 3 ปี มักจะรักษามูลค่าได้ถึง 60%-70% ของราคาเดิม ขึ้นอยู่กับรุ่น อุปกรณ์เสริม ประวัติการบริการและเลขไมล์ด้วย ในไทยนั้น รุ่นดีเซลของ Cayenne มักจะรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อยเพราะประหยัดน้ำมันมากกว่า แถมรถที่เข้าศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของโปโล่ยังเป็นที่ต้องการมากกว่าและได้ราคาดีกว่าเวลาขายต่ออีกต่างหาก อีกปัจจัยสำคัญคือนโยบายภาษีนำเข้ารถของไทยที่ส่งผลต่อราคามือสองของ Cayenne เพราะราคารถใหม่ที่สูงก็ช่วยพยุงราคาตลาดมือสองไปด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา Cayenne มือสอง การเลือกรถสภาพดีที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ตลาดรถหรูของไทยที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีมานี้ก็ทำให้ Cayenne มีแนวโน้มจะรักษามูลค่าได้ดีในอนาคต แต่ก่อนซื้อควรเช็กราคาตลาดท้องถิ่นและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินราคาที่แม่นยำจะดีที่สุดครับ
Q
Porsche Cayenne มีกี่ซีซี
พอร์เช่ คายenne ในฐานะรถ SUV หรู ขนาดความจุเครื่องยนต์จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต สำหรับในตลาดไทยรุ่นที่นิยมจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เช่น รุ่น 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ (ประมาณ 2,995 ซีซี), รุ่น 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ (ประมาณ 2,894 ซีซี) และรุ่น 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ (ประมาณ 3,996 ซีซี) ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น Cayenne E-Hybrid ที่ใช้เครื่อง 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ (ประมาณ 1,984 ซีซี) หรือรุ่น 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทั้งสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในไทยด้วยปัญหารถติดและราคาน้ำมันที่สูง ทำให้หลายคนเลือกใช้รุ่นไฮบริดเพื่อความประหยัด แถมยังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอีกด้วย ขนาดความจุเครื่องยนต์ (ซีซี) ส่งผลโดยตรงต่อกำลังและแรงบิด แต่ประสบการณ์การขับขี่ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การตั้งค่ากรอบเกียร์ น้ำหนักตัวรถ และการออกแบบอากาศพลศาสตร์ ดังนั้นแนะนำให้ลูกค้าไทยเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง เช่น การขับขี่ในเมืองอย่างในกรุงเทพฯ หรือการเดินทางไกล พร้อมทั้งควรเข้าศูนย์บริการพอร์เช่ตามกำหนดเพื่อรักษาสภาพรถให้สมบูรณ์ที่สุด
Q
Porsche Cayenne ใช้เครื่องยนต์อะไร
Porsche Cayenne ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายขุมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 2.9 ลิตร กำลังสูงสุด 440 แรงม้า, เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 549 แรงม้า รวมถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 455 แรงม้า เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องสมรรถนะและสิ่งแวดล้อม สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Cayenne มาพร้อมระบบระบายความร้อนขั้นสูงและวัสดุที่ทนต่อความร้อน ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจแม้ในสภาพการใช้งานหนักต่อเนื่อง ระบบเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S แบบ 8 สปีด ยังช่วยให้ตอบสนองการจราจรที่ติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ รถรุ่นไฮบริดยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากภาครัฐ ทำให้ Cayenne รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีความคุ้มค่ามากขึ้นในตลาดไทย และศูนย์บริการ Porsche ในประเทศก็มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษารถให้พร้อมใช้งานในสภาพอากาศชื้นและฝนตกบ่อยอย่างประเทศไทย เครื่องยนต์ของ Cayenne ยังถูกปรับจูนให้เหมาะกับทั้งการขับขี่บนทางเรียบและการลุยทางลาดชันหรือภูเขา ทำให้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถทางเทคนิคของ Porsche ในการออกแบบระบบขับเคลื่อนที่ยืดหยุ่นและทรงพลัง
Q
Porsche Cayenne ใช้เกียร์แบบไหน”
สำหรับรถปอร์เช่ คายีน (Porsche Cayenne) ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย จะใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 สปีด เป็นหลัก ซึ่งเกียร์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและตอบสนองเร็ว เหมาะสมกับสภาพการขับขี่แบบผสมผสานในไทย ทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและการขับทางไกลบนทางหลวง พร้อมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย ส่วนรุ่นที่เน้นสมรรถนะสูงอย่าง Cayenne Turbo GT จะใช้เกียร์รุ่นเดียวกันที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษให้เหมาะกับการขับสปอร์ตมากขึ้น ทั้งในเรื่องตรรกะการเปลี่ยนเกียร์และความทนทาน พิเศษไปกว่านั้น ระบบเกียร์ของคายีนยังออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทยโดยเฉพาะ ด้วยระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง ที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่แม้อยู่ในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน สำหรับคนที่ต้องการความสนุกในการขับขี่มากขึ้น ยังสามารถอัพเกรดด้วย Sport Chrono Package เพื่อเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ได้อีกด้วย ที่สำคัญ ปอร์เช่ประเทศไทยยังมีบริการหลังการขายสำหรับระบบเกียร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรืออัพเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้รถพร้อมใช้งานสมบูรณ์แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
Q
Porsche Cayenne ใช้เกียร์แบบไหน”
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) ของ Porsche Cayenne คือ 5×130 หมายความว่าล้อมีรูสลัก 5 รู ที่เรียงตัวเป็นวงกลม диаметром 130 มม. ซึ่งสเปคนี้ใช้ได้กับรุ่น Cayenne ส่วนใหญ่ รวมถึงรุ่นที่ขายในประเทศไทย สำหรับคนไทยที่อยากอัพเกรดล้อใหม่ ต้องเช็ค PCD ให้ตรงเป๊ะๆ นะครับ ถ้าไม่匹配อาจทำให้ล้อติดตั้งไม่แน่น หรือเกิดอันตรายขณะขับขี่ได้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงค่า offset (ET) และขนาดรูกลางล้อ (เช่น 71.6 มม.) ด้วย เพื่อให้ล้อใหม่เข้ากับรถได้พอดี พอพูดถึงสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางรถยนต์เกรดดีๆ เป็นยางฤดูร้อนหรือยางตลอด季節 จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนเวลาฝนตกได้เยอะ เลือกล้อแปลง时ต้องดูให้ชัวร์ว่าผ่านมาตรฐาน TISI และเป็นไปตามกฎหมายขนส่งไทยด้วยนะ ถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องสเปคล้อ สามารถเปิดคู่มือรถดูเพิ่มเติม หรือปรึกษาโชว์รูม Porsche ในไทยได้เลย เขามีบริการอัพเกรดล้อแบบ Original ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Cayenne โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าล้อจะทำงานได้สมบูรณ์แบบตามการออกแบบของรถ
Q
Porsche Cayenne รองรับ Apple CarPlay ไหม?
ใช่แล้วครับ Porsche Cayenne รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นมาตรฐานทุกคัน ช่วยให้คุณใช้งานแอปจาก iPhone เช่น แผนที่ navigation เพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณเช็กสภาพการจราจรผ่าน Google Maps หรือ Waze แบบเรียลไทม์ เพื่อเลือกเส้นทางที่โล่งที่สุด นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Cayenne ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ระบบมัลติมีเดียของโพร์เช่ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ดี และยังมีปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ที่น่าสนใจคือบางรุ่นระดับสูงในไทยยังมี Wireless CarPlay ให้ใช้งานแบบไร้สายโดยไม่ต้องเสียบสายเคเบิลอีกด้วย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จำหน่ายโพร์เช่ในประเทศไทยเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
Q
“Porsche Cayenne ใช้ยางยี่ห้ออะไร
ยางแท้ของ Porsche Cayenne จะมีแบรนด์แตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางระดับพรีเมียมเช่น Michelin, Pirelli หรือ Continental ตัวอย่างเช่น ยาง Michelin Latitude Sport 3 หรือ Pirelli Scorpion Verde ที่ออกแบบมาสำหรับ SUV ประสิทธิภาพสูง โดยให้ทั้งการยึดเกาะถนนทั้งสภาพแห้งและเปียก และความทนทาน สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เลือกยางที่มีสูตรป้องกันการเสื่อมสภาพจากความร้อนและมีดอกยางที่รีดน้ำได้ดี เพราะถนนไทยมีทางลาดชันค่อนข้างมาก การเลือกยางที่มีโครงสร้างแข็งแรงบริเวณแก้มยางจะช่วยรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายได้ดีขึ้น คุณสามารถตรวจสอบสเปกยางมาตรฐานได้ที่ศูนย์ Porsche หรือร้านยางที่ได้รับอนุญาตในไทย หรืออาจเลือกแบรนด์อื่นที่นิยมในท้องตลาดอย่าง Bridgestone Alenza แต่ต้องมั่นใจว่ายางนั้นตรงกับค่าดัชนีน้ำหนักและระดับความเร็วที่กำหนด ควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยที่ควรลดความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน 3-5% เพื่อชดเชยการขยายตัวจากความร้อน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้มากขึ้น
Q
รถ Porsche Cayenne เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
พอร์เช่ Cayenne คือ SUV ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหราและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทำให้เหมาะกับสภาพถนนและความต้องการในการขับขี่ที่หลากหลายของประเทศไทย จุดเด่นของ Cayenne อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง ที่มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบ รวมถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่เผชิญกับปัญหารถติดและการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับการขับขี่ นอกจากนี้ พอร์เช่ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย มอบความมั่นใจให้กับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า Cayenne มีราคาและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง และหากขับแบบสปอร์ตก็จะกินน้ำมันมากขึ้น นี่คือปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณาให้ดี สำหรับผู้บริโภคไทยที่มีงบประมาณเพียงพอและมองหารถที่รวมแบรนด์เนมกับสมรรถนะเข้าด้วยกัน Cayenne ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการรถหรูนำเข้าในตลาดไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Cayenne ยืนหนึ่งในฐานะ SUV ระดับไฮเอนด์ที่เต็มไปด้วยความสามารถ

ข้อดี

หน้าตายังคงทรงพลังและทันสมัยมากขึ้น ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ๆ สะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของแบรนด์
สินค้าที่ขายในราคาประมาณ 6 ล้าน ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่ารุ่นที่ขายขณะนี้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้
รุ่นพลังงานผสมมีพลังงานที่แรง ใช้งานประจำวันที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มพลัง ค่าประจุปกติประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าขpure ประมาณ 35 Killometer
เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันของครอบครัว ที่นั่งสามารถพับเก็บได้ มีจอห์นไฟฟ้าและหัวจับที่หลากหลาย 5 ที่นั่งสบาย
บริษัทให้ประกันทั้งคัน 9 ปีและประกันระบบพลังงานผสม 8 ปี

ข้อเสีย

ความปลอดภัยบางส่วนเช่นการรักษาทางที่ขับขี่และการควบคุมการท่องเที่ยวตามอัตราส่วนต้องการติดตั้งเพิ่มเติมด้วยการจ่ายเงิน
ปุ่มควบคุมกลางคือแบบสัมผัส ต้องย้ายสายตาเมื่อปรับโหมดและยืด
รุ่นเริ่มต้นที่สาขาระดับปรับอากาศไม่ได้อัตโนมัติ 3 สาขา พื้นที่ควบคุมมีช่องว่าง ไม่ได้ติดตั้งพอร์ต USB
วงจรมาตรฐานที่ไม่สวยงาม การติดตั้งงานที่ต้องการอาจทำให้ราคาของรถสูงกว่าราคาเริ่มต้นนี้พูล
ร่างกายต่างจากรุ่นก่อน ไม่ง่ายที่จะแยกความแตกต่างระหว่างรถยนต์รุ่นเก่าและรุ่นใหม่<br

Q&A ล่าสุด

Q
คะแนนความปลอดภัยของ Ciaz 2024 คืออะไร
ข้อมูลการประเมินความปลอดภัยของรถ Suzuki Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่หากอ้างอิงจากผลทดสอบของ Global NCAP หรือ ASEAN NCAP ในรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน มักจะได้คะแนน 4 ดาวขึ้นไป โดยเฉพาะในส่วนของการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ที่ทำได้ดีเสมอ สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบ ABS+EBD ถุงลมนิรภัยคู่ และระบบควบคุมเสถียรภาพรถที่มาสแตนดาร์ดใน Ciaz จะช่วยรับมือกับการจราจรติดขัดและถนนลื่นได้ดี โครงสร้างตัวรถแบบแข็งแรงพิเศษยังตอบโจทย์มาตรฐานการป้องกันการชนด้านข้างที่เข้มงวดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดความปลอดภัยเพิ่มเติม แนะนำให้ติดตามผลทดสอบตามมาตรฐาน TIS 2600-2563 ที่กรมการขนส่งทางบกจะเปิดเผยในเร็วๆ นี้ หรือไปทดลองสาธิตระบบความปลอดภัยด้วยตัวเองที่โชว์รูม Suzuki ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองใหญ่ๆ เวลาซื้อรถคนไทยมักจะเทียบกับ Toyota Yaris Ativ กับ Honda City ในเรื่องความปลอดภัย แต่ต้องระวังว่าอาจมีข้อแตกต่างในระบบความปลอดภัยอัจฉริยะระหว่างรุ่นย่อยๆ แนะนำให้ตรวจสอบสเปกจริงๆ ที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
Is Ciaz จะได้รับการปรับโฉมในปี 2024 หรือไม่
เกี่ยวกับการปรับโฉมของ Suzuki Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทย ขณะนี้ Suzuki Thailand ยังไม่ได้ประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพิจารณาจากรอบการอัปเดตที่ผ่านมา เช่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 และมีการไมเนอร์เชนจ์ในปี 2020 รวมถึงความต้องการรถซีดานประหยัดพลังงานในตลาดอาเซียนที่ยังคงสูง จึงมีความเป็นไปได้มากที่รุ่นนี้จะได้รับการปรับโฉม หากมีการอัปเดต คาดว่าจะเป็นการปรับดีไซน์ภายนอกเล็กน้อยตามความชอบของผู้บริโภคชาวไทย เช่น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่หรือไฟ LED และอาจมีการยกระดับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Toyota Yaris Ativ ตลาดไทยให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ เครื่องยนต์ 14 ลิตร 90 แรงม้าอาจยังคงเดิม แต่มีการปรับจูนเกียร์ CVT ให้เหมาะสมกับสภาพจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แนะนำให้จับตางานมอเตอร์โชว์ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ซึ่ง Suzuki มักใช้เวทีนี้เปิดตัวการปรับโฉมสำคัญ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อ หากเลือกซื้อก่อนการปรับโฉม มักจะได้โปรโมชั่นราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้เน้นเทคโนโลยีมากนัก แต่หากต้องการฟังก์ชันล้ำสมัยควรรอข้อมูลทางการเพิ่มเติม และไม่ว่าจะเลือกรุ่นปัจจุบันหรือรุ่นใหม่ ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเวอร์ชันที่มีเบาะนั่งระบายอากาศหรือช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพื่อความสบายในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
Q
คุณสมบัติของ Ciaz 2024 มีอะไรบ้าง
Ciaz รุ่นปี 2024 ในฐานะรถยนต์ซีดานเพื่อครอบครัวที่ประหยัดและใช้งานคุ้มค่า ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทย โดยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบ NA ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและความทนทาน จับคู่กับเกียร์ CVT ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ประมาณ 20 ถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดและการหยุดบ่อยในเมืองของไทย ด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว ภายในอัปเกรดด้วยหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังและเบาะรองรับส่วนเอวช่วยเพิ่มความสบาย ระบบความปลอดภัยมาตรฐานติดตั้งถุงลมคู่ ABS EBD และเซนเซอร์ถอยหลัง ในรุ่นท็อปเสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ จุดเด่นอีกอย่างคือเครือข่ายบริการหลังการขายของ Ciaz ในไทยที่ครอบคลุมกว้างขวาง ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ตัวถังยาว 4490 มิลลิเมตร ขับขี่คล่องตัวบนถนนแคบในกรุงเทพฯ ขณะที่ห้องเก็บสัมภาระจุได้ 430 ลิตร รองรับการเดินทางของครอบครัว นอกจากนี้ Ciaz ยังมีมูลค่าขายต่อที่ดีและสภาพคล่องในตลาดรถมือสองสูง จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่คำนึงถึงต้นทุนการใช้รถระยะยาว
Q
ซีอัลฟ่า 2024 มีกล้องถอยหลังหรือไม่
รุ่น Suzuki Ciaz 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีการติดตั้งกล้องถอยหลังมาให้เรียบร้อย ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาจอดรถหรือขับในซอยแคบๆ ได้มากเลย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ที่การจราจรคับคั่งและถนนหนทางก็ไม่ค่อยกว้างนัก กล้องถอยหลังมักจะเชื่อมกับหน้าจอแสดงผลในรถ บางรุ่นอาจมีเซนเซอร์จอดรถหรือเส้นแนะนำทิศทางช่วยด้วย ทำให้เรากะระยะห่างจากสิ่งกีดขวางด้านหลังได้ง่ายขึ้น ตอนนี้รถซีดานขนาดกลางในไทยส่วนใหญ่ก็มีกล้องถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่แล้ว เวลาซื้อรถอาจจะลองเช็คเพิ่มเติมเกี่ยวกับความละเอียดของกล้องหรือมุมกล้องด้วยนะ นอกจากนี้ แนะนำว่าควรหมั่นมองกระจกข้างและหันหน้ามองจุดบอดด้วยตัวเอง เพราะบางทีกล้องอาจมีภาพล้าในที่แสงน้อยหรือมีมุมอับ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนในฤดูฝนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าคิดจะติดตั้งกล้องถอยหลังเพิ่มเอง ควรเลือกร้านแต่งรถที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในรถ และไม่ให้ส่งผลต่อการรับประกันของรถด้วย
Q
ข้อเสียของ Ciaz 2024 มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Ciaz รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยยังมีจุดอ่อนที่ควรรู้ครับ เริ่มจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาที่แม้จะประหยัดน้ำมันแต่ให้กำลังไม่ค่อยแรงนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในสภาพอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขาบ่อยๆ ในไทย เวลาแซงบนทางด่วนหรือเมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันพร้อมเปิดแอร์อาจรู้สึกไม่ค่อยมีแรง ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารทำจากพลาสติกแข็งดูไม่หรูเท่ารถคู่แข่งในราคาใกล้เคียง และสำหรับคนสูงเกิน 175 ซม. อาจรู้สึกว่าที่นั่งหลังศีรษะค่อนข้างคับ นอกจากนี้ยังขาดฟีเจอร์ยอดนิยมของคนไทยอย่างหลังคาพาโนรามิกและการชาร์จไร้สายซึ่งไม่มาสแตนดาร์ดในทุกรุ่น ควรระวังเรื่องรอยต่อตัวรถในช่วงหน้าฝน แนะนำให้ตรวจสอบร่องระบายน้ำที่ประตูรถก่อนเข้าฤดูฝน ส่วนเรื่องความสูงตัวรถนั้นเหมาะกับถนนในเมือง แต่ถ้าต้องขับบนเส้นทางต่างจังหวัดโดยเฉพาะทางเหนือที่ถนนลูกรังบ่อยๆ ควรเสริมแผ่นป้องกันใต้ท้องรถ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ Ciaz คือศูนย์บริการซูซูกิในไทยที่มีเครือข่ายกว้างและค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่ายอื่น เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดในระยะยาว เวลาจะซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกันก่อน แล้วดูว่าคุณสมบัติกับราคาแบบไหนที่ตอบโจทย์ที่สุดครับ
ดูเพิ่มเติม