Q
Bentley Continental GT จะใช้งานได้นานเท่าไร
Bentley Continental GT เป็นรถสปอร์ตหรูระดับพรีเมียม อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าของ ความถี่ในการใช้งาน และสภาพแวดล้อม ตามข้อกำหนดทางเทคนิคและกรณีศึกษาการบำรุงรักษาจาก Bentley หากดูแลอย่างมืออาชีพและใช้รถอย่างเหมาะสม รถสามารถใช้งานได้มากกว่า 10 ปี เช่น รุ่นปี 2005 เคยวิ่งเกิน 800000 กิโลเมตรแล้วยังอยู่ในสภาพเครื่องยนต์ดี สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย สภาพอากาศร้อนชื้นอาจทำให้อายุวัสดุยางลดลงหรือแบตเตอรี่เสื่อม ควรตรวจสอบระบบระบายความร้อน สภาพยาง และแรงดันแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ และเลือกศูนย์บริการ Bentley ที่ได้รับอนุญาตเพื่อรับประกันอะไหล่แท้และมาตรฐานการซ่อมแซม ควรหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นบ่อยๆ หรือจอดรถนานเกินไปเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังให้ดีที่สุด นอกจากนี้ Continental GT ใช้เครื่องยนต์ W12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่และช่วงล่างที่ปรับแต่งอย่างแม่นยำ ให้สมรรถนะยอดเยี่ยม โครงสร้างตัวถังแข็งแรงสูงและวัสดุกันสนิมช่วยเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมซับซ้อน ร่วมกับเครือข่ายบริการหลังการขายรถหรูที่ครบวงจรในไทย เจ้าของรถสามารถยืดอายุการใช้งานรถได้มากที่สุดด้วยการปฏิบัติตามคู่มือบำรุงรักษา ใช้น้ำมันและน้ำหล่อเย็นคุณภาพสูง และเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอทันท่วงที
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ราคาของรุ่นท็อปของ Continental GT คืออะไร
รุ่นสูงสุดของ Bentley Continental GT ในไทยปัจจุบันคือ Continental GT Speed ราคาประมาณสี่สิบห้าถึงห้าสิบล้านบาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนการตกแต่งและอุปกรณ์เสริม รุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ดับเบิลยูสิบสองเทอร์โบคู่ขนาดหกลิตรให้กำลังสูงสุดหกร้อยห้าสิบแรงม้าเร่งจากศูนย์ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในสามจุดหกวินาที มาพร้อมระบบเบรกเซรามิกคาร์บอนช่วงล่างแบบสปอร์ตและชุดตกแต่งภายนอกแบบ Speed หากลูกค้าเลือกออปชันระดับสูงเช่นการตกแต่งแบบ Mulliner วัสดุภายในพรีเมียมเช่นหนังแท้ไม้จริงหรือคาร์บอนไฟเบอร์รวมถึงระบบเสียง Naim for Bentley ราคาจะสูงขึ้นอีก เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Rolls Royce Wraith หรือ Aston Martin DBS Superleggera Continental GT Speed ยังคงโดดเด่นในฐานะรถจีทีสมรรถนะสูงระดับหรู แนะนำให้ผู้สนใจติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Bentley ในไทยเช่น Bentley Bangkok เพื่อสอบถามราคาล่าสุดและตัวเลือกการปรับแต่งเฉพาะบุคคล
Q
Continental GT มีกี่ประเภท
Bentley Continental GT ปัจจุบันมีสองแบบคือรุ่นหลังคาแข็งสองประตูและรุ่นเปิดประทุนสองประตู ระบบขับเคลื่อนมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์มีทั้ง V8 เทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตร กำลัง 549 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร และ W12 เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตร กำลัง 635 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ใช้เกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด ที่ผสมผสานสมรรถนะและความนุ่มนวล รุ่น Continental GT Speed เจนเนอเรชันที่ 4 เป็นรุ่นพิเศษที่เพิ่มระบบปลั๊กอินไฮบริดด้วยมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงและเครื่องยนต์ที่ปรับปรุงใหม่ กลายเป็นรุ่นแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ Bentley พร้อมตอบรับเทรนด์รักษ์โลก สำหรับตลาดไทย รุ่นเปิดประทุนได้รับความนิยมเพราะเหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อน ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยการปล่อยมลพิษต่ำและประหยัดน้ำมัน Bentley ยังมีบริการปรับแต่งพิเศษสำหรับลูกค้าไทยให้เลือกสีตัวถัง วัสดุตกแต่งภายใน และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ไฟหน้า LED แบบแมทริกซ์ที่มีไฟแยกอิสระ 120 ดวงเพื่อความปลอดภัยขณะขับกลางคืน โครงสร้างช่วงล่างใช้หน้าปีกนกคู่และหลังมัลติลิงก์อิสระ ทำให้ขับขี่นุ่มนวลแม้บนถนนที่ซับซ้อนของกรุงเทพฯ
Q
Bentley Continental เป็นรถหรูหราหรือไม่
Bentley Continental GT คือรถสปอร์ตหรูระดับสูงที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นชนชั้นสูงอังกฤษกับสมรรถนะขั้นสูงได้อย่างลงตัว ไม่เพียงแต่สืบทอดความหรูหราของแบรนด์ Bentley มายาวนานกว่า 100 ปี ยังแสดงศักยภาพด้านสมรรถนะที่โดดเด่นในฐานะรถคูเป้สองประตู ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สง่างามและทรงพลัง กระจังหน้าแบบครอบครัวพร้อมโป่งล้ออะลูมิเนียมสามมิติและตัวถังลู่ลมช่วยลดแรงต้านอากาศและเสริมความสปอร์ต ส่วนภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ Nappa ที่เย็บด้วยมือ ไม้วอลนัทลายเส้นตรง และวัสดุ Dinamica ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รายละเอียดทุกจุดสะท้อนถึงงานฝีมือและความหรูหรา ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ W12 เทอร์โบคู่กำลัง 635 แรงม้า เร่ง 0-60 ไมล์ใน 4.7 วินาที พร้อมระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่ผสานความแรงกับความยั่งยืน แผงหลังแบบปรับได้และช่วงล้อหลังที่กว้างขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ความเร็วสูง สำหรับผู้บริโภคในไทย รถรุ่นนี้เหมาะทั้งการเดินทางในเมืองและทริประยะไกล เบาะนั่งระบายอากาศได้ดีและระบบปรับอากาศที่ละเอียดอ่อนตอบโจทย์สภาพอากาศเขตร้อน จึงเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่แสวงหาความหรูหราพร้อมความสนุกในการขับขี่
Q
Bentley Continental GT อยู่ในคลาสอะไร
Bentley Continental GT เป็นรถสปอร์ตหรูระดับสูงที่เน้นทั้งสมรรถนะและความหรูหราในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับโลก รุ่นปี 2024 มีทั้งรุ่นหลังคาแข็งและรุ่นเปิดประทุน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ 4.0 ลิตร หรือระบบไฮบริดสมรรถนะสูง เช่นรุ่นไฮบริด V8 ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยงานตกแต่งภายในที่ทำด้วยมือ เทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการปรับแต่งเฉพาะบุคคลสูงสุด เช่น หน้าจอแสดงผลสามด้าน ระบบเสียง Bang & Olufsen และระบบปรับอากาศอัจฉริยะที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้ พร้อมระบบช่วยขับขี่ในเมืองและระบบครูสคอนโทรลอัจฉริยะสำหรับการเดินทางไกล เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและบนถนนกว้างของไทย Bentley ยังมีบริการปรับแต่งพิเศษจากแผนก Mulliner สำหรับลูกค้าที่ต้องการความหรูหราสูงสุด เช่น กระจังหน้าแบบลายสี่เหลี่ยมลูกฟูก ไฟต้อนรับแบบไดนามิก และล้อขนาด 22 นิ้วที่ออกแบบเฉพาะตัว ปัจจุบันรุ่น Continental GT มีราคาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ 2.925 ล้านถึง 3.670 ล้านบาท เป็นรถยนต์ที่ผสานพลังขับเคลื่อน งานฝีมือชั้นเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำยุคไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
Q
Bentley Continental GT เป็นรถที่นั่ง 4 คนหรือไม่
Bentley Continental GT เป็นรถสปอร์ตหรูสี่ที่นั่งแบบสองประตูที่ผสมผสานสมรรถนะการขับขี่กับความสะดวกสบาย เหมาะกับความต้องการหลากหลายของผู้บริโภคระดับสูงในไทย ตัวรถมีความยาว 4850 มิลลิเมตร กว้าง 1954 มิลลิเมตร สูง 1405 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2851 มิลลิเมตร ให้พื้นที่ขากว้างขวางสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมเบาะหนังคุณภาพสูงเดินด้ายลายเพชรสองสีเพิ่มความหรูหรา รุ่นนี้มีเครื่องยนต์สองแบบคือ 6.0T W12 และ 4.0T V8 แบบเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 373 กิโลวัตต์ ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ช่วยควบคุมรถได้มั่นคงในสภาพถนนที่หลากหลายของไทย ระบบช่วงล่างแบบถุงลมช่วยกรองแรงสั่นสะเทือนเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ Bentley Continental GT ยังมีรุ่นพวงมาลัยขวาตรงตามกฎหมายไทย ส่วนรุ่นเปิดประทุนเหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อนของไทยตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความโดดเด่นในสไตล์ เป็นรถที่ผสมผสานความหรูหราสไตล์อังกฤษกับสมรรถนะสปอร์ต พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วและแผงหน้าปัดแบบสามด้านที่พลิกได้ ซึ่งผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นตัวเลือกชั้นนำในตลาดรถหรูระดับสูงของไทย
Q
Bentley Continental GT มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเป็นอย่างมากหรือไม่?
Bentley Continental GT ในฐานะรถสปอร์ต GT หรูระดับสูง มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาสูงในไทยเนื่องจากภาษีนำเข้าสินค้าชิ้นส่วนระดับพรีเมียม เครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน รวมถึงมาตรฐานการบริการศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ การบำรุงรักษาเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรอง ค่าใช้จ่ายประมาณ 50000 ถึง 80000 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเกียร์และตรวจสอบระบบเบรก อยู่ระหว่าง 150000 ถึง 250000 บาทหรือมากกว่า หากเปลี่ยนชิ้นส่วน เช่น จานเบรกหรือระบบช่วงล่างแบบถุงลม ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น ศูนย์ Bentley อย่างเป็นทางการในไทย เช่น Bentley Bangkok ใช้อะไหล่แท้และช่างมืออาชีพ แม้ราคาสูงแต่รับประกันคุณภาพและสิทธิ์การรับประกัน แนะนำซื้อแพ็กเกจรับประกันขยายหรือแผนบำรุงรักษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวและเข้ารับบริการตามระยะอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาสมรรถนะและมูลค่าขายต่อ เทียบกับรถหรูรุ่นอื่น เช่น Aston Martin DB12 หรือ Rolls Royce Wraith ค่าใช้จ่ายในการดูแล Bentley Continental GT ยังอยู่ในระดับคาดการณ์ได้แต่ควรวางแผนงบสำหรับการใช้งานประจำวันอย่างรอบคอบ
Q
2025 Continental GT ราคาเท่าไหร่
Bentley Continental GT รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศราคาทางการในประเทศไทยจนถึงปี 2024 แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่ราคาอยู่ระหว่าง 26 ถึง 40 ล้านบาทโดยอาจมีการปรับเล็กน้อยตามภาวะเงินเฟ้อโลก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายภาษีนำเข้าของไทยซึ่งมีอัตราสูงสำหรับรถยนต์หรู รุ่นใหม่อาจได้รับการอัปเกรดในด้านสมรรถนะหรือเทคโนโลยี เช่น ระบบป้องกันการเอียงแบบ 48 โวลต์ที่ทันสมัยขึ้นหรือรุ่นปลั๊กอินไฮบริด หากมีรุ่นไฮบริดสมรรถนะสูงหรือรุ่น Speed ราคาน่าจะเกิน 45 ล้านบาท เนื่องจากตลาดรถหรูได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าอย่างมาก จึงแนะนำให้ติดต่อผู้จำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการในไทย เช่น Bentley Bangkok หลังการเปิดตัวเพื่อรับข้อมูลราคาอย่างแม่นยำและสอบถามโปรโมชั่นหรือรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน นอกจากนี้ควรเปรียบเทียบกับรถสปอร์ตระดับเดียวกันอย่าง Porsche 911 Turbo S หรือ Aston Martin DB12 เพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด
Q
Bentley Continental GT รักษามูลค่าของมันได้หรือไม่
Bentley Continental GT มีอัตราการรักษามูลค่าปานกลางโดยแตกต่างกันตามรุ่นสภาพรถและระยะเวลาใช้งานโดยในช่วงห้าปีแรกจะอยู่ระหว่างร้อยละ 64.5 ถึง 37.6 และในปีที่เจ็ดประมาณร้อยละ 35 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของรถสปอร์ตหรู สำหรับผู้บริโภคในไทยเนื่องจากตลาดในประเทศชื่นชอบรถนำเข้าระดับพรีเมียมรุ่นที่มีออปชันสูง ประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาอย่างดีจึงเป็นที่นิยมเช่นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ W12 หากสภาพรถดีหลังใช้งานสี่ปียังสามารถรักษามูลค่าได้ประมาณร้อยละ 73 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรักษามูลค่าคือการบำรุงรักษาตามระยะ ไม่มีประวัติอุบัติเหตุและดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นโดยเฉพาะรถที่ดูแลภายในอย่างดีแม้ใช้งานไปแล้วหกหมื่นกิโลเมตรราคาขายต่อยังสูงกว่าร้อยละ 30 ของราคาป้ายใหม่แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเลือกใช้บริการดูแลรักษาผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการและเก็บบันทึกครบถ้วนพร้อมหลีกเลี่ยงการขับขี่รุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุเพื่อชะลอการลดลงของมูลค่านอกจากนี้ความหายากและภาพลักษณ์พิเศษของแบรนด์ Bentley ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าเมื่อต้องการขายต่อได้อีกด้วย
Q
รุ่นไหนของ Continental GT ดีที่สุด
สำหรับผู้บริโภคไทย Bentley Continental GT รุ่นปลั๊กอินไฮบริดปี 2024 เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบด้วยระบบไฮบริด 4.0T V8 กำลังสูงสุด 782 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 25.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกล 81 กิโลเมตร ตอบโจทย์ความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งานจริงโดยเฉพาะการเดินทางระยะสั้นในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ รถรุ่นนี้ติดตั้งระบบกระจายแรงบิดเพลาล้อหลังแบบใหม่เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุม ออกแบบตัวถังให้เตี้ยลงล้อขนาด 22 นิ้วพร้อมคาลิเปอร์เบรกหน้า 10 พอตสะท้อนความสปอร์ต ภายในยังคงความหรูหราด้วยปุ่มควบคุมจริงและอัปเกรดระบบอินเทอร์เฟซอัจฉริยะ หากต้องการความเป็นเอกลักษณ์สูงสุดรุ่น Continental GT Mulliner เปิดประทุนมีบริการตกแต่งสั่งทำแต่ราคาจะสูงขึ้นอย่างมาก ควรพิจารณาภาษีนำเข้าและอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดไทยพร้อมติดต่อผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเพื่อรับข้อมูลราคาล่าสุดและตัวเลือกเฉพาะรุ่น Bentley ในภูมิภาคนี้มีบริการปรับแต่งและดูแลหลังการขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมได้อย่างครบถ้วน
Q
Bentley Continental Speed และ GT มีความแตกต่างอย่างไร
ในตลาดไทยราคาของ Bentley Continental GT ขึ้นอยู่กับรุ่นและตัวเลือกเสริม รุ่นมาตรฐานมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเริ่มต้นประมาณ 26 ล้านบาทยังไม่รวมออปชั่นเสริมหรือภาษี หากเลือก Continental GT Speed ที่มีกำลังสูงขึ้นหรือบริการปรับแต่งพิเศษเช่น Mulliner ราคาจะสูงขึ้นเป็นประมาณ 35 ถึง 40 ล้านบาทหรือมากกว่า ประเทศไทยมีการเก็บภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้าสูงทำให้ราคาสูงกว่าตลาดยุโรปและอเมริกา รุ่นมาตรฐานติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตรมีกำลัง 550 แรงม้า ส่วนรุ่น W12 มีกำลัง 650 แรงม้าและรุ่น Speed มีกำลังสูงสุดถึง 659 แรงม้า ออปชั่นเสริมเช่นระบบเสียงคุณภาพสูง วัสดุหุ้มภายในที่หายาก และระบบเบรกเซรามิกคาร์บอนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากสนใจแนะนำติดต่อผู้แทนจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานครบนถนนสุขุมวิทเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและตรวจสอบสถานะรถพร้อมส่งหรือระยะเวลารอคอย
Q&A ล่าสุด
Q
ปัญหาของ Honda Jazz มีอะไรบ้าง เรียนรู้ก่อนซื้อ
Honda Jazz หรือที่ในประเทศไทยรู้จักกันในชื่อ Honda City Hatchback เป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก่อนการซื้อควรทราบถึงปัญหาที่พบบ่อยบางประการ เช่น ผู้ใช้งานบางรายพบว่าเกียร์ CVT อาจมีอาการกระตุกเล็กน้อยในช่วงความเร็วต่ำซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเกียร์แบบนี้ โดยการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยบรรเทาได้ นอกจากนี้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยควรใส่ใจเรื่องอายุแบตเตอรี่และควรตรวจสอบทุก 2 ปี ในช่วงฤดูฝนควรทำความสะอาดช่องระบายน้ำของหลังคาซันรูฟเพื่อป้องกันการอุดตัน ช่วงล่างของรถถูกเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวลเหมาะกับสภาพถนนในเมืองไทย แต่ขณะเลี้ยวควรลดความเร็วเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยเป็นจุดเด่นของ Jazz ด้วยระบบเบาะนั่งแบบ Magic Seat ที่ตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระหลายรูปแบบ เหมาะกับการใช้งานของครอบครัวในไทย เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC คู่กับเกียร์ CVT ให้ความประหยัดน้ำมันที่ดีประมาณ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่จำหน่ายในไทยมาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตและระบบความปลอดภัย Honda SENSING ซึ่งเป็นอ็อปชันที่มีประโยชน์ แนะนำให้ทดลองขับที่ศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายเพื่อทดสอบระบบปรับอากาศว่าตอบโจทย์กับสภาพอากาศร้อนได้ดีหรือไม่ โดยรวมแล้วหากดูแลรักษาตามระยะเวลาและคำแนะนำจากผู้ผลิต Honda Jazz ถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ขับขี่ในไทย
Q
ขนาดยางของ Honda Jazz คืออะไร ตรวจสอบมาตรฐานได้ที่นี่
สำหรับรถฮอนด้าแจ๊สในตลาดไทย ขนาดยางมาตรฐานที่นิยมใช้คือ 185/55 R16 ซึ่งขนาดนี้ช่วยให้ได้ทั้งความนุ่มสบายและความคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองและการขับทางไกลเป็นครั้งคราว อัตราส่วนยางแบบ 55 ให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำและยึดเกาะถนนเปียกได้ดีในช่วงฤดูฝนของไทย ส่วนล้อขนาด 16 นิ้วก็ได้ความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัว อย่างไรก็ตาม รุ่นและปีที่ต่างกันอาจมีขนาดยางแตกต่างกัน เช่น รุ่นพื้นฐานอาจใช้ยางขนาด 175/65 R15 ในขณะที่รุ่นสปอร์ตหรือรุ่นพิเศษอาจใช้ยางกว้างขึ้นที่ 195/50 R16 สำหรับคนไทยเวลาจะเลือกยางรถ นอกจากจะดูขนาดตามที่ผู้ผลิตแนะนำแล้ว ควรคำนึงถึงสภาพอากาศของประเทศเราด้วย เลือกยางที่มีสัญลักษณ์สำหรับถนนเปียกหรือทนความร้อนสูงได้ ในฤดูฝนอาจเพิ่มลมยางอีก 2-3 psi เพื่อช่วยการรีดน้ำ แต่ไม่ควรเกินค่าสูงสุดที่กำหนดไว้ที่กรอบประตูรถ ถ้าอยากอัพเกรดขนาดยาง ควรเปลี่ยนในระยะ ±3% ของเส้นผ่านศูนย์กลางเดิม เช่น อัพเป็น 195/50 R16 ที่นิยมทำกันและปลอดภัย แค่ต้องระวังกฎหมายไทยเกี่ยวกับการโมดิฟายด์ยางรถด้วยนะ
Q
ฮอนด้า แจ๊ซ คืออะไร นี่คือคำแนะนำแบบเต็มๆ สำหรับคุณ
Honda Jazz เป็นรถแฮทช์แบ็กรุ่นคลาสสิกของฮอนด้าที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นด้านความคุ้มค่าและการใช้งานที่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง รถรุ่นนี้ในไทยมีชื่อเรียกว่า Honda Fit ใช้เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ห้องโดยสารมีการออกแบบที่ยืดหยุ่น เบาะนั่งแบบ Magic Seat สามารถพับเก็บได้ง่าย ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว ระบบความปลอดภัยติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSA และถุงลมนิรภัยหลายจุด ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยของตลาดไทย Honda Jazz ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวขนาดเล็ก มีความทนทานและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันยังมีอัตราการเก็บมูลค่าค่อนข้างดีและตลาดรถมือสองมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ผู้บริโภคในไทยยังสามารถเลือกใช้รุ่นไฮบริดซึ่งช่วยลดอัตราการใช้น้ำมันและสอดคล้องกับแนวโน้มรักษ์โลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Honda ได้อัปเกรดเทคโนโลยีใน Jazz อย่างต่อเนื่อง เช่นการติดตั้งระบบช่วยขับ Honda SENSING ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศของรถมีประสิทธิภาพสูงช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทาง ในฐานะรถยนต์ระดับโลก Honda Jazz ยังได้รับการสนับสนุนด้วยเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในประเทศไทย ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกสบาย เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานประจำวัน
Q
วิธีคำนวณเงินกู้ Honda Jazz เข้าใจแนวทางที่นี่
การคำนวณเงินกู้สำหรับรถ Honda Jazz ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เริ่มจากราคารถก่อน เพราะแต่ละรุ่นราคาต่างกัน เช่น Honda Jazz 1.5 S MT ปี 2020 ราคา 555,000 บาท ส่วนรุ่น 1.5 S CVT ราคา 594,000 บาท เป็นต้น ต่อมาคือเงินดาวน์ ถ้าเลือกโปรแกรมดาวน์ศูนย์ก็ไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าจ่ายตามปกติ เช่น 20% หรือ 30% สมมติว่าราคารถ 600,000 บาท จ่ายดาวน์ 20% ก็คือ 120,000 บาท เงินกู้ที่เหลือจะอยู่ที่ 480,000 บาท แล้วก็ดูจำนวนงวดที่ต้องการผ่อน มีทั้ง 12, 18, 24 หรือ 36 งวด ส่วนเรื่องดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินและโปรแกรมกู้ แต่ละที่คำนวณไม่เหมือนกัน แถมยังซับซ้อนเพราะต้องดูอัตราดอกเบี้ยตลาด ระยะเวลากู้ และเครดิตส่วนตัวด้วย ถ้าดอกเบี้ยตลาดต่ำและเครดิตดี ก็อาจได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ สูตรคำนวณค่างวดต่อเดือนคือ [เงินต้นกู้ x อัตราดอกเบี้ยรายเดือน x (1 + อัตราดอกเบี้ยรายเดือน)^จำนวนงวด] ÷ [(1 + อัตราดอกเบี้ยรายเดือน)^จำนวนงวด - 1] พอรู้ค่างวดต่อเดือนแล้วก็จะวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น
Q
ความเร็วสูงสุดของ Honda Jazz คือเท่าไร มาเรียนรู้ความเร็วสูงสุดของมันกัน
ความเร็วสูงสุดของฮอนด้าแจ๊ซในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตั้งค่าการขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมชาติ (เช่นรุ่น RS) จะมีความเร็วสูงสุดประมาณ 190 กม./ชม. ส่วนรุ่น e:HEV แบบไฮบริดที่ใช้การทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์และเครื่องยนต์จะมีความเร็วสูงสุดน้อยกว่าเล็กน้อยแต่มีการตอบสนองการเร่งที่คล่องตัวกว่า เหมาะสมกับทั้งสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯและเส้นทางในเขตชานเมือง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนของไทยมีผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ จึงแนะนำให้เจ้าของรถดูแลระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้ควรระวังเกี่ยวกับข้อจำกัดความเร็วบนทางหลวงไทยซึ่งส่วนมากกำหนดไว้ที่ 120 กม./ชม. การขับขี่เกินความเร็วกำหนดไม่เพียงแต่ผิดกฎหมายแต่ยังเพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันและความเสี่ยงต่อความปลอดภัยอีกด้วย ฮอนด้าแจ๊ซเป็นรถขนาดเล็กที่ขายดีในไทยด้วยความประหยัดและการควบคุมที่คล่องตัวซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้ในเมือง หากต้องการพลังมากขึ้นสามารถพิจารณาตัวเลือกอัพเกรดประสิทธิภาพจากทางผู้ผลิต แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นไปตามกฎหมายดัดแปลงรถของกรมการขนส่งทางบกไทย
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย