Q
MG Cyberster วิ่งได้กี่กิโล
จากข้อมูลทางการของ MG Cyberster รถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แต่ในสภาพการขับขี่จริงของไทยที่อุณหภูมิสูงและมีการสตาร์ท-หยุดบ่อย อาจทำให้ระยะทางลดลงเหลือประมาณ 500 กิโลเมตร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและวิธีการใช้แอร์ด้วย เวลาชาวไทยเลือกซื้อรถไฟฟ้า นอกจากเรื่องระยะทางแล้ว ควรดูความสะดวกของสถานีชาร์จด้วย ตอนนี้ในเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพ เชียงใหม่ เริ่มมีเครือข่ายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ MG เองก็ติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในศูนย์บริการและห้างสรรพสินค้าบางแห่ง โดยชาร์จ 30 นาทีได้ 80% ของแบตเตอรี่ ต้องบอกก่อนว่ารถไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลที่สุดเมื่อขับในเมืองด้วยความเร็วปานกลาง แต่ถ้าขับทางไกลด้วยความเร็วสูงจะกินแบตเตอรี่มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยใช้แอปพลิเคชันช่วยวางแผนเส้นทางและหาสถานีชาร์จระหว่างทาง ระบบนำทางอัจฉริยะใน MG Cyberster ยังสามารถคำนวณจุดชาร์จให้อัตโนมัติได้ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการท่องเที่ยวแบบขับรถในเส้นทางยอดนิยมอย่างกรุงเทพไปหัวหิน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG Cyberster มีอะไรบ้าง?
MG Cyberster อาจไม่ถึงกับมี “ข้อเสีย” แบบชัดเจน แต่จากเสียงของผู้ใช้และปัจจัยโดยรวม พบว่ามีบางประเด็นที่ควรพิจารณา เช่น บางคนรู้สึกว่าชั้นสีของตัวถังค่อนข้างบาง ขูดขีดได้ง่าย จึงต้องระมัดระวังในการใช้งานประจำวัน นอกจากนี้เรื่องบริการหลังการขาย อะไหล่บางชิ้นอาจใช้เวลาสั่งนาน ทำให้การซ่อมแซมล่าช้า อีกทั้งศูนย์บริการบางแห่งอาจยังมีประสบการณ์ไม่มากกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แบบนี้ จึงอาจจัดการปัญหาได้ไม่คล่องตัวนัก อีกจุดที่หลายคนมองคือเรื่องราคา ที่อาจสูงกว่าคู่แข่งบางรุ่น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีงบจำกัด อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตเหล่านี้ไม่ได้ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรง และในด้านดีไซน์กับสมรรถนะ MG Cyberster ก็มีจุดเด่นชัดเจน ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของผู้ซื้อแต่ละคนในการตัดสินใจ.
Q
MG Cyberster อยู่ใน Segment ไหน?
MG Cyberster เป็นรถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าที่เน้นสมรรถนะสูง เจาะกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นที่ชื่นชอบความสนุกในการขับขี่และความล้ำสมัยของเทคโนโลยี ในตลาดประเทศไทย รถรุ่นนี้สามารถดึงดูดผู้ใช้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชอบความทันสมัย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้ากำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถประเภทนี้ใช้งานได้จริงมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
MG Cyberster มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูง มีจุดเด่นด้านอัตราเร่งและระยะทางขับขี่ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและทริปสั้น ๆ ดีไซน์ที่เป็นรถสปอร์ตผสานกับฟีเจอร์อัจฉริยะ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจบนท้องถนน ตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการความโดดเด่นและทันสมัย รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตยังถือว่าเป็นตลาดใหม่ในไทย แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐและการรับรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ MG Cyberster มีศักยภาพสูงในการเติบโต และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ชาวไทย.
Q
มูลค่ามือสองของ MG Cyberster คือเท่าไหร่?
มูลค่ามือสองของ MG Cyberster ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย จึงไม่สามารถระบุราคาแน่นอนได้อย่างชัดเจน โดยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 2,499,000 บาท ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าที่มีสมรรถนะโดดเด่น มีกำลังสูงสุด 400kW (544 แรงม้า) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และวิ่งได้ระยะทางถึง 503 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบครบครัน
ถ้ารถยังใหม่ ใช้งานน้อย สภาพดี และตลาดยังมีความต้องการสูง ราคามือสองก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่หากรถมีสภาพสึกหรอหรือความต้องการในตลาดลดลง ก็อาจส่งผลให้ราคาตกลงได้ นอกจากนี้ การเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ หรือเทคโนโลยีที่พัฒนาเร็วก็มีผลต่อมูลค่ามือสองเช่นกัน แนะนำให้เช็กข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสอง หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายเพื่อประเมินราคาคร่าว ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น.
Q
MG Cyberster มีขนาดรูน็อตล้อ (PCD) เท่าไหร่?
MG Cyberster มีขนาดรูน็อตล้อ (PCD) อยู่ที่ 5x112 หมายถึง ล้อของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และรูน็อตทั้งหมดกระจายตัวอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยุโรปหลายรุ่น เช่น Volkswagen หรือ Mercedes-Benz จึงทำให้การหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กในตลาดไทยทำได้ง่ายขึ้น เพราะมีของที่ใช้ร่วมกันได้มาก
อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดระบบเบรก ยังต้องคำนึงถึงขนาดของรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset หรือ ET ให้ตรงกับสเปกรถด้วย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ล้อไม่แน่นพอ หรือมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ สำหรับประเทศไทยที่อากาศร้อนและฝนตกบ่อย แนะนำให้เลือกแม็กที่น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เพื่อช่วยให้รถขับนิ่งและปลอดภัยมากขึ้นในสภาพอากาศแบบนี้ ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี สามารถปรึกษาศูนย์บริการ MG หรือร้านแม็กมืออาชีพในไทยได้เลย พวกเขาจะช่วยแนะนำรุ่นที่เหมาะกับถนนและอากาศบ้านเราได้ตรงจุดที่สุดค่ะ.
Q
MG Cyberster มี Apple Carplay หรือไม่
MG Cyberster เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในไทยได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยให้เชื่อมต่อ iPhone ได้สะดวก ทั้งระบบนำทาง เล่นเพลง หรือแม้แต่โทรศัพท์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ สำหรับตลาดไทยแล้ว ความเข้ากันได้ของ Apple CarPlay ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้ใช้งานที่นี่มักพึ่งพาสมาร์ทโฟนในการวางแผนเดินทาง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ระบบนำทางแบบเรียลไทม์และการควบคุมด้วยเสียงจะช่วยลดความเครียดในการขับรถได้มาก นอกจากนี้ MG Cyberster ยังรองรับ Android Auto อีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่หลากหลาย เมื่อคนไทยเลือกซื้อรถไฟฟ้า นอกจากจะสนใจเรื่องสมรรถนะและระยะทางแล้ว ความสะดวกของระบบสมาร์ทในรถก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน ซึ่ง MG Cyberster ก็ทำได้ดีในจุดนี้ และเมื่อโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าในไทยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ฟังก์ชันอัจฉริยะเหล่านี้จะยิ่งช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้น แนะนำให้ผู้ที่สนใจไปทดลองขับด้วยตัวเองที่โชว์รูม MG ในพื้นที่
Q
ยางที่ติดมากับ MG Cyberster ใช้ยี่ห้ออะไร?
MG Cyberster ในฐานะที่เป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจมาก รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยอาจมาพร้อมยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Michelin หรือ Pirelli ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสเปกที่นำเข้า ซึ่งยางทั้งสองแบรนด์นี้มีจำหน่ายและศูนย์บริการครอบคลุมในประเทศไทย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของไทย
ยางเป็นส่วนสำคัญที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง มีผลต่อการควบคุมรถ ความนุ่มนวล และความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ยางที่รีดน้ำดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นไถล สำหรับ MG Cyberster ที่เป็นรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ยางที่เลือกใช้ต้องบาลานซ์ระหว่างแรงต้านทานการหมุนต่ำ เพื่อยืดระยะทางขับขี่ และแรงยึดเกาะที่ดีเพื่อรองรับแรงบิดทันทีจากมอเตอร์ไฟฟ้า
ผู้ใช้ในไทยเวลาจะเปลี่ยนยาง ควรดูไม่แค่ยี่ห้อ แต่รวมถึงขนาด ดัชนีน้ำหนัก และระดับความเร็วที่เหมาะสมกับสเปกจากโรงงาน พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพยางและแรงดันลมเป็นประจำ เพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยและเต็มประสิทธิภาพ.
Q
MG Cyberster เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีและข้อสังเกตกันที่นี่!
MG Cyberster เป็นรถที่มีจุดเด่นหลายด้านอย่างชัดเจน ด้านดีไซน์ภายนอก มาพร้อมหลังคาผ้าใบเปิดประทุนและประตูปีกนกสุดเท่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมไฟท้ายทรงลูกศร และสีตัวถังที่มีให้เลือกหลายเฉดสี สะท้อนความทันสมัยและความเป็นเอกลักษณ์อย่างเต็มที่
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง ทั้งเบาะหนัง Nappa และวัสดุ Alcantara แผงคอนโซลแบบ 3 หน้าจอ มาพร้อมไฟสร้างบรรยากาศ 64 สี และลำโพง Bose 8 ตัว ให้ความรู้สึกหรูหราและล้ำสมัย
ด้านสมรรถนะก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยมอเตอร์คู่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 77kWh ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิด 725 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. วิ่งได้ไกลถึง 503 กม. ต่อการชาร์จ พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็ยังมีข้อจำกัดบ้าง เช่น เป็นรถแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแบบครอบครัว และราคาที่ตั้งไว้ประมาณ 2,499,000 บาท อาจสูงสำหรับบางกลุ่มผู้บริโภค
โดยรวมแล้ว ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความโดดเด่น สมรรถนะแรง และประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร MG Cyberster ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก.
Q
ความกว้างของ MG Cyberster คือเท่าไร?
MG Cyberster มีความกว้าง 1,913 มม. โดยขนาดตัวรถทั้งหมดคือ 4,535 × 1,913 × 1,329 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,690 มม. การที่ตัวรถกว้างกว่าปกติให้ข้อดีหลายอย่าง อย่างแรกเวลาขับรถ รถที่กว้างกว่าจะช่วยให้ทรงตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะตอนขับเร็วหรือเข้าโค้ง ตัวรถที่กว้างจะช่วยให้รถอยู่ในท่าที่มั่นคง ลดโอกาสเกิดการโคลงด้านข้าง อีกอย่างตัวรถที่กว้างยังส่งผลดีต่อการจัดวางพื้นที่ภายในด้วย แม้ MG Cyberster จะเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่ง แต่ความกว้างที่มากขึ้นช่วยให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารมีพื้นที่ด้านข้างที่เหลือเฟือ นั่งแล้วสบายไม่รู้สึกอึดอัด
Q
รถสปอร์ตไฟฟ้า MG Cyberster ต้องเสียภาษีถนนเท่าไหร่? แล้วคิดคำนวณยังไง?
MG Cyberster ในฐานะที่เป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า จะมีวิธีการคำนวณภาษีถนนประจำปี (Road Tax) ที่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปแบบทั่วไป โดยภาษีถนนของรถยนต์ไฟฟ้าจะคิดจากกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า (หน่วยเป็นกิโลวัตต์) ตามสูตร: ภาษีถนน = กำลังมอเตอร์ (kW) × 6 บาท
ยกตัวอย่าง MG Cyberster รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีกำลังมอเตอร์ 231 กิโลวัตต์ จะต้องเสียภาษีถนนปีละประมาณ 1,386 บาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ซึ่งใช้มอเตอร์คู่มีกำลังรวม 400 กิโลวัตต์ จะเสียภาษีประมาณ 2,400 บาทต่อปี
รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากกว่ารถใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม ซึ่งเก็บภาษีตามขนาดความจุของเครื่องยนต์ (ซีซี) ที่ยิ่งมากก็ยิ่งแพง ดังนั้นรถไฟฟ้าอย่าง MG Cyberster จึงจ่ายภาษีถนนถูกกว่าชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อ MG Cyberster ยังมีสิทธิได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิตตามนโยบายส่งเสริมรถ EV อีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ MG Cyberster มีความคุ้มค่ามากขึ้นในตลาดไทย อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่าย MG หรือกรมการขนส่งทางบก (DLT) เพราะมาตรการสนับสนุนอาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายรัฐบาล.
Q
MG Cyberster ต้องเติมน้ำมันเครื่อง (ถ้ามี) ปริมาณเท่าไหร่?
MG Cyberster เป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า จึงไม่มีเครื่องยนต์สันดาปแบบรถทั่วไป และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนรถใช้น้ำมันที่เราคุ้นเคยในไทย อย่างไรก็ตาม ระบบเกียร์ทดรอบ (Reduction Gearbox) ที่ใช้ในรถไฟฟ้า อาจต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นตามระยะ โดยปริมาณและประเภทน้ำมันควรอ้างอิงจากคู่มือผู้ใช้หรือสอบถามจากศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรง
ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย การดูแลระบบระบายความร้อนและแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับทางไกลหรือใช้การชาร์จเร็วบ่อย ๆ เพราะระบบจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพการใช้งาน
เจ้าของรถในไทยควรใส่ใจการดูแลเพิ่มเติมในช่วงฤดูฝน เช่น หลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำลึก แม้ว่าแบตเตอรี่ของ MG Cyberster จะมีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ก็ตาม แต่การหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศร้อน เช่น การดูแลแบตเตอรี่หรือการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน แนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่าย MG ในไทย พวกเขาจะให้คำแนะนำที่เหมาะกับสภาพการใช้งานในท้องถิ่นได้ดีที่สุด.
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
"งบประมาณสำหรับ EV 2025 คือเท่าไหร่?"
ตามการคาดการณ์ของวงการและทิศทางนโยบายรัฐบาล ภายในปี 2025 งบประมาณสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับระดับรุ่นและเทคโนโลยีที่ติดตั้ง โดยรถไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 700,000-900,000 บาท พร้อมแบตเตอรี่มาตรฐาน (ระยะทางประมาณ 300-400 กิโลเมตร) และฟังก์ชันอัจฉริยะพื้นฐาน ส่วนรุ่นกลางถึงสูงอาจพุ่งไปที่ 1.2-1.8 ล้านบาท ด้วยแบตเตอรี่ระยะยาว (เกิน 500 กิโลเมตร) และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ขณะที่รถปลั๊กอินไฮบริดจะมีราคาสูกว่ารุ่นไฟฟ้าแท้ในระดับเดียวกันประมาณ 10-15% เนื่องจากใช้ระบบขับเคลื่อนสองแบบ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้นและเทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนาต่อไป ต้นทุนแบตเตอรี่ลิเธียมในปี 2025 อาจลดลง 20-30% จากปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลตรงต่อราคาขายปลีก นอกจากนี้ผู้บริโภคควรติดตามนโยบายสนับสนุนของรัฐที่อาจมีการปรับเปลี่ยน เช่น มาตรการลดภาษีนำเข้าและเงินอุดหนุนการซื้อรถไฟฟ้าที่อาจจะไม่ต่อเนื่อง
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าจำนวนสถานีชาร์จเร็วจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปัจจุบัน โดยกระจายตัวรอบกรุงเทพและเมืองท่องเที่ยวหลัก ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรถูกกว่ารถน้ำมันประมาณ 40-60% แต่ต้องคำนวณค่าติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านซึ่งอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท
สำหรับการรับประกัน ส่วนใหญ่จะครอบคลุมแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร โดยกำหนดเกณฑ์การเสื่อมสภาพที่ความจุเหลือ 70%
Q
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นในปี 2025 หรือไม่?
จากแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกและการสนับสนุนนโยบายในประเทศ คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง หลักๆแล้วมาจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ทั้งส่วนลดค่าซื้อรถ ลดหย่อนภาษี และแผนขยายสถานีชาร์จที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แถมรุ่นใหม่ๆจากแบรนด์ดังๆก็ออกมาด้วยระยะทางที่ยาวขึ้น ราคาก็จับต้องได้ ส่งผลให้ความต้องการในตลาดพุ่งแรง โดยเฉพาะในสภาพอากาศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จุดแข็งของแบตเตอรี่และค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าชัดเจน แค่ใช้ขับในเมืองก็ประหยัดค่าน้ำมันแล้ว แถมยังเงียบ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวน เลยถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือตอนนี้ตลาดรถมือสองเริ่มโตแล้ว เทคโนโลยีชาร์จเร็วก็พัฒนาขึ้น เลยทำให้คนกังวลเรื่องอายุแบตเตอรี่และความสะดวกในการชาร์จน้อยลง อนาคตอาจเห็นรถไฮบริดขายคู่ไปกับรถไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ ส่วนการผลิตรถภายในประเทศมากขึ้นก็ช่วยดันราคาให้ถูกลงด้วย แนะนำให้จับตาดูรถรุ่นใหม่ในงาน motor show สิ้นปีนี้ รวมถึงโปรโมชั่นสินเชื่อสีเขียวจากธนาคารที่จะส่งผลต่อความนิยมซื้อรถปีหน้าโดยตรง
Q
ประเทศใดมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในปี 2025?
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกและแรงสนับสนุนจากนโยบายของแต่ละประเทศ คาดว่าภายในปี 2025 นอร์เวย์ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% เนื่องมาจากมาตรการส่งเสริมต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีทางหลวงสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จที่ครอบคลุม ส่วนจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเกิน 40% ในปี 2025 เช่นกัน ขณะที่ประเทศในยุโรปอย่างเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ก็จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากกฎหมายควบคุมการปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวด แม้ว่าปัจจุบันสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดท้องถิ่นยังต่ำกว่า 10% แต่มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลทั้งการอุดหนุนค่าซื้อรถ การลดภาษีนำเข้า และแผนขยายสถานีชาร์จกำลังเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น การเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเพียง 0-20% (เทียบกับรถยนต์น้ำมันที่สูงถึง 80%) พร้อมทั้งบริษัทท้องถิ่นก็กำลังเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอย่างรุ่น Ora Good Cat ผู้บริโภคที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าควรให้ความสนใจกับปัญหาการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้เลือกรถที่ติดตั้งระบบจัดการแบตเตอรี่แบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและมีระยะเวลารับประกันที่ยาวนาน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นใดจะขายดีที่สุดในยุโรปในปี 2025
คาดการณ์ว่าในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในตลาดยุโรปจะยังคงเป็น Tesla Model Y ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็ว และเครือข่ายสถานีชาร์จ Supercharger ที่ครอบคลุม ทำให้ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนรุ่นยอดนิยมอย่าง Volkswagen ID.4 และ ID.3 ก็ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดได้ดีด้วยสมรรถนะที่ครบครันและราคาที่จับต้องได้ สำหรับผู้ที่สนใจรถไฟฟ้า นอกจากจะดูยอดขายแล้ว ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานจริง เช่น ความสะดวกของโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในพื้นที่ ความทนทานของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน รวมถึงบริการหลังการขาย ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน แนวโน้มรถไฟฟ้าในยุโรปยังเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก โดยหลายแบรนด์เริ่มเปิดตัวรถไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับใช้ในเมือง หรือรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ตอบโจทย์ทั้งระยะทางและเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ในอนาคตเมื่อแบตเตอรี่พัฒนาขึ้นและเครือข่ายสถานีชาร์จขยายตัว รถไฟฟ้าจะใช้งานได้จริงและคุ้มค่ามากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น
Q
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนที่มีระยะทางวิ่งไกลที่สุดในปี 2025?
ภายในปี 2025 คาดว่ารถไฟฟ้าที่มีระยะทางไกลที่สุดจะเป็น Lucid Air Grand Touring ด้วยระยะทางสูงสุด 516 ไมล์ (ประมาณ 830 กิโลเมตร) ตามมาตรฐาน EPA รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 113kWh และระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางไกล ส่วน Tesla Model S Plaid และ Mercedes-Benz EQS 580 ก็ติดโผด้วยระยะทาง 405 ไมล์ (ประมาณ 652 กิโลเมตร) และ 350 ไมล์ (ประมาณ 563 กิโลเมตร) ตามลำดับ โดยรถทั้งสองแบบใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาร่วมกับการออกแบบลดแรงต้านอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน สำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหารรถไฟฟ้าระยะไกล ควรให้ความสนใจกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ (เช่น ความก้าวหน้าของแบตเตอรี่โซลิดสเตต) ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ (เช่น มาตรฐานการชาร์จในประเทศ) และประสิทธิภาพการใช้งานจริง (เช่น ผลกระทบของสภาพอากาศร้อนต่อแบตเตอรี่) ปัจจุบันเทคโนโลยีชาร์จเร็วสามารถเติมไฟได้ 80% ใน 30 นาที ขณะที่เครือข่ายสถานีชาร์จในท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสะดวกในการใช้งาน
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG Cyber X เปิดตัวในงานแสดงรถยนต์เซี่ยงไฮ้ โดยชูจุดเด่นว่าเป็น "รถกล่องคันแรกของโลกสำหรับคนรุ่นใหม่
LienApr 24, 2025

MG Cyberster ใหม่ปรากฏตัวใน Motor EXPO 2024, ลักษณะภายนอกที่ไม่ธรรมดายังคงเป็นที่สนใจของผู้คน
สุรเดชDec 2, 2024

MG เข้าสู่งานแสดงรถยนต์กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าของจีน เปิดออก Cyberster ในสถานที่ตั้ง!
AshleyJun 6, 2024

บางกอกมอเตอร์โชว์: เปิดตัว MG Cyberster ในงานออโต้โชว์ ราคา 2499000 บาท
Kevin WongMar 25, 2024

MG 5 ขายดีในตลาดไทย โดยรุ่น 1.5L CVT ผ่อนเพียงเดือนละ 6,xxx บาท
พงศธรNov 21, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย