MG Cyberster

ปัจจุบัน MG ได้เปิดตัวรถตู้ไฟฟ้า 100% ในตลาดประเทศไทยอย่าง MG Maxus 9 โดยราคาประจำทางเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการเลือกอุปกรณ์เสริมหรือโปรโมชั่นต่างๆ รถรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 72kWh ที่ให้ระยะทางสูงสุดถึง 350 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 40 นาที เหมาะสมทั้งสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์หรือการเดินทางพร้อมครอบครัวในประเทศไทย ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแข็งขัน ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต รวมถึงให้สิทธิประโยชน์ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท ทำให้ต้นทุนการซื้อจริงถูกลงอีก สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถตู้ไฟฟ้า นอกจากเรื่องระยะทางและราคาแล้ว ควรตรวจสอบการกระจายตัวของสถานีชาร์จในพื้นที่ด้วย เพราะแม้ปัจจุบันในกรุงเทพฯและเมืองหลักจะมีสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในพื้นที่ห่างไกลยังจำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า MG ถือเป็นแบรนด์ที่เข้ามาลงทุนในตลาดรถไฟฟ้าของประเทศไทยค่อนข้างเร็ว ทำให้มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ค่อนข้างครอบคลุม ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ผู้ซื้อควรพิจารณาเมื่อตัดสินใจเลือกซื้อรถตู้ไฟฟ้าสักคัน

MG Cyberster รถสปอร์ตไฟฟ้าเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงในตลาดไทย ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-2.5 ล้านบาท แล้วแต่แบบและอุปกรณ์เสริมที่เลือก รวมถึงโปรโมชันช่วงนั้นๆ ด้วย รุ่นนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้ำสมัย เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3 วินาที แถมวิ่งได้ไกลถึง 580 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) ที่เด็ดกว่านั้นคือดีไซน์ประตูแบบกรรไกรและห้องโดยสารสุดไฮเทคที่ดึงดูดวัยรุ่นสายลุยเป็นพิเศษ ตอนนี้ MG ในไทยขยับตัวหนักมาก ทั้งการผลิตในประเทศและขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย พร้อมให้บริการหลังการขายครบวงจร โดยเฉพาะประกันแบตเตอรี่ยาวๆ 8 ปีหรือ 16กม. ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับรถไฟฟ้า แถมรัฐบาลไทยยังสนับสนุนรถ EV ผ่านมาตรการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ Cyberster ราคาจับต้องได้เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตนำเข้าทั่วไป ที่สำคัญตอนนี้สถานีชาร์จในไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในเมืองใหญ่และตามทางด่วน แถม MG ยังจับมือกับบริษัทพลังงานในไทยเพื่อพัฒนาระบบชาร์จที่สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้การใช้งานรถสปอร์ตไฟฟ้าในไทยวันนี้ไม่มีอะไรให้กังวลอีกแล้ว!

สวัสดีค่ะ สำหรับเรื่องวันวางจำหน่าย MG Cyberster ในประเทศไทย ตอนนี้ทาง MG Thailand ยังไม่ได้ประกาศวันที่อย่างเป็นทางการนะ แต่ถ้าดูจากรอบการเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ คาดว่ารถคันนี้น่าจะเข้ามาไทยภายในปี 2024 แน่นอน MG Cyberster เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาในรูปแบบรถสปอร์ตไฟฟ้า 2 ประตู พ่วงด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนล้ำยุค คาดว่าจะมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและแบบสี่ล้อ พร้อมระยะขับขี่ถึง 500 กิโลเมตร แถมยังมาพร้อมดีไซน์ประตูแบบกรรไกรและหน้าตาสปอร์ตๆ ที่ดูโดดเด่นมากๆ ในตลาดไทย รถรุ่นนี้อาจจะเจอคู่แข่งอย่างรถสปอร์ตไฮบริดจากญี่ปุ่น แต่จุดขายที่เป็นรถไฟฟ้าล้วนนี่แหละที่จะดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แถมรัฐบาลไทยยังส่งเสริมรถไฟฟ้าเต็มที่ ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้ส่วนลดเวลาซื้อ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับ MG Cyberster ส่วนใครที่สนใจ แนะนำให้ติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของ MG Thailand นะคะ จะได้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญ หรือจะไปสอบถามและจองทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่าย MG ใกล้บ้านก็ได้นะ ส่วนเรื่องสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนทั้งฝน อาจทำให้บางคนกังวลเรื่องรถเปิดประทุน แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีกันน้ำและกันความร้อนพัฒนาขึ้นมากแล้วค่ะ วัสดุหลังคาของ Cyberster ก็ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพอากาศแบบไทยๆ ได้สบายๆ

จากข้อมูลทางการของ MG Cyberster รถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แต่ในสภาพการขับขี่จริงของไทยที่อุณหภูมิสูงและมีการสตาร์ท-หยุดบ่อย อาจทำให้ระยะทางลดลงเหลือประมาณ 500 กิโลเมตร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและวิธีการใช้แอร์ด้วย เวลาชาวไทยเลือกซื้อรถไฟฟ้า นอกจากเรื่องระยะทางแล้ว ควรดูความสะดวกของสถานีชาร์จด้วย ตอนนี้ในเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพ เชียงใหม่ เริ่มมีเครือข่ายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ MG เองก็ติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในศูนย์บริการและห้างสรรพสินค้าบางแห่ง โดยชาร์จ 30 นาทีได้ 80% ของแบตเตอรี่ ต้องบอกก่อนว่ารถไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลที่สุดเมื่อขับในเมืองด้วยความเร็วปานกลาง แต่ถ้าขับทางไกลด้วยความเร็วสูงจะกินแบตเตอรี่มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยใช้แอปพลิเคชันช่วยวางแผนเส้นทางและหาสถานีชาร์จระหว่างทาง ระบบนำทางอัจฉริยะใน MG Cyberster ยังสามารถคำนวณจุดชาร์จให้อัตโนมัติได้ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการท่องเที่ยวแบบขับรถในเส้นทางยอดนิยมอย่างกรุงเทพไปหัวหิน

ขณะนี้ MG ประเทศไทยยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการส่งมอบ MG Cyberster รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากตลาดอื่นๆ ปกติแล้วช่วงเปิดตัวแรกๆ จะมีจำนวนประมาณ 100-300 คัน ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปจัดแสดงในโชว์รูมและส่งมอบให้ลูกค้ารุ่นแรกก่อน สำหรับรถสปอร์ตไฟฟ้าแบบเปิดประทุนรุ่นนี้ถือเป็นโมเดลสำคัญของ MG ในตลาดอาเซียน เพราะมาพร้อมกับหลังคาแบบพับได้ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ ที่เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้เร็วเพียง 3.2 วินาที ด้วยระยะทางสูงสุดถึง 580 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเหมาะมากกับการขับขี่ตามเส้นทางชายฝั่งของไทย สำหรับลูกค้าไทยที่สนใจ เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตแบบพิเศษ แนะนำให้จองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ MG Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทยด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ส่วนเรื่องสถานีชาร์จนั้น ขณะนี้ประเทศไทยกำลังขยายโครงข่ายอย่างรวดเร็ว โดยมีสถานีชาร์จเร็วครอบคลุมทั้งในเมืองหลักและเขตท่องเที่ยว รวมถึง MG ยังมีบริการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านให้อีกด้วย