Q

ฮอนด้าซิตี้ 2003 มีกี่รุ่น

Honda City 2003 รุ่นทั่วไปจะมีหลายเวอร์ชันที่พบได้บ่อย เช่น รุ่นพื้นฐาน รุ่นคอมฟอร์ต และรุ่นหรูหราเป็นต้น แต่จำนวนรุ่นที่เฉพาะเจาะจงอาจแตกต่างกันไปตามความต้องการในตลาดและความแตกต่างของการตั้งค่าท้องถิ่น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda City คืออะไร
Honda City แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง ผู้ใช้บางส่วนให้ความเห็นว่าการออกแบบภายในดูธรรมดา ขาดความแปลกใหม่และความหรูหราในด้านวัสดุและรายละเอียดการผลิต ระบบเครื่องเสียงและเชื่อมต่อต่าง ๆ ยังขาดความเสถียร โดยในบางครั้งเกิดปัญหาสัญญาณหลุดหรือค้าง โดยเฉพาะเมื่อชาร์จมือถือในช่วงฤดูร้อนที่มีความร้อนสูง ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นเพลงและฟังก์ชันอื่น ๆ ระบบช่วงล่างทำงานได้ตามมาตรฐานทั่วไป เมื่อผ่านถนนขรุขระหรือทางลดความเร็ว รถจะมีอาการโยกคลอนชัดเจน ส่งผลต่อความสบายในการขับขี่และโดยสาร อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและความต้องการของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อควรพิจารณาตามความชอบและความสำคัญส่วนตัวในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ
Q
ฮอนด้า ซิตี้ อยู่ในเซกเมนต์ไหน
Honda City จัดอยู่ในกลุ่มตลาด C-Segment รุ่นนี้มีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัดโดยมีความยาว 4580 หรือ 4589 มิลลิเมตร ความกว้าง 1748 มิลลิเมตร ความสูง 1467 หรือ 1480 มิลลิเมตร และฐานล้อยาว 2589 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่และความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มีตัวเลือกขุมพลังหลายแบบทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีระบบความปลอดภัยอย่าง ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ บางรุ่นยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายระดับสูง ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวทั่วไปและผู้ที่ต้องการรถใช้งานประจำวันในเมืองอย่างคุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City คืออะไร
Honda City ในฐานะรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูง มักมีอัตราการรักษามูลค่ารถมือสองที่ดี ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2020 Honda City RS เมื่อใช้งานปกติและระยะทางไม่เกิน 5 หมื่นกิโลเมตร หลังผ่านไป 3 ปี มีอัตรามูลค่าคงเหลือประมาณ 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ารถที่มีราคาต้นทางราว 8 แสนบาท ยังสามารถขายต่อได้ในราคา 5 ถึง 5.6 แสนบาท มูลค่าคงเหลือขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ระยะทางการใช้งาน ประวัติการดูแลรักษา และสภาพรถ รุ่นไฮบริด (e HEV) มักรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลจากสมาคมประเมินราคายานยนต์ไทยหรือ TAVA ระบุว่า รถ Honda City ที่มีอายุ 5 ปี ยังรักษามูลค่าได้ประมาณ 50 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่ารถในกลุ่มเดียวกันรุ่นอื่น ๆ
Q
Honda City มีกี่ซีซี
Honda City รุ่นต่างๆ มีขนาดความจุกระบอกสูบแตกต่างกันไปบางรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีความจุ 988 มิลลิลิตร และบางรุ่นไฮบริด eHEV มีความจุ 1498 มิลลิลิตรโดยทั่วไปขนาดความจุกระบอกสูบจะส่งผลต่อสมรรถนะและอัตราการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าเช่น 988 มิลลิลิตรจะเน้นความประหยัดน้ำมันเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1498 มิลลิลิตรให้กำลังที่มากกว่าเหมาะกับการขับขี่ที่ต้องการแรงบิดสูงเช่นการเร่งแซงหรือขึ้นทางชันผู้บริโภคจึงควรเลือกขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันของตน
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City คืออะไร
Honda City มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่นบางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 10 ลิตร VTEC Turbo แบบ 3 สูบพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ที่ 5500 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาทีอีกรุ่นคือ eHEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศหรือเครื่องอัดอากาศแบบตามธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้ากำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ที่ 6400 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้สมรรถนะโดยรวมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเครื่องยนต์เหล่านี้มีเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีโดยบางรุ่นยังผสานนวัตกรรมที่เน้นทั้งสมรรถนะและการประหยัดพลังงานควบคู่กับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Q
เกียร์ของ Honda City เป็นแบบไหน
Honda City ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบตามประเภทของขุมพลังรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรเช่นรุ่น SV และ RS มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่พัฒนาโดย Honda ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลในการเร่งความเร็วและประหยัดน้ำมันเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯส่วนรุ่นไฮบริด eHEV ใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ ECVT ที่ทำงานต่างจาก CVT ทั่วไปโดยอาศัยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและเครื่องยนต์เพื่อควบคุมการจ่ายกำลังซึ่งเป็นจุดแข็งของเทคโนโลยีไฮบริดจาก Honda ผู้บริโภคในไทยควรทราบว่าไม่ว่าจะเป็นเกียร์ CVT หรือ ECVT ทาง Honda แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปีตามสภาพอากาศร้อนในไทยและในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบการซีลของระบบเกียร์เป็นพิเศษเพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเกียร์และมูลค่าขายต่อของรถในอนาคตโดยตรง
Q
PCD Size ของ Honda City คืออะไร
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริดใช้ล้อแม็กที่มีค่า PCD หรือระยะรูน็อตเป็น 4x1143 หมายถึงมีรูน็อต 4 รูเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1143 มิลลิเมตรซึ่งเป็นสเปกเดียวกับรถญี่ปุ่นรุ่นนิยมในไทยอย่าง Nissan Almera และ Mitsubishi Attrage ทำให้สะดวกในการเลือกเปลี่ยนล้อหรือยางอะไหล่สำหรับเจ้าของรถในประเทศไทยนอกจากค่า PCD แล้วควรตรวจสอบค่าหลักอื่นๆ ได้แก่รูดุมล้อหรือ Center Bore ขนาด 641 มิลลิเมตรเกลียวน็อตขนาด M12x15 และค่า Offset ที่แนะนำให้อยู่ในช่วงบวก 40 ถึง 50 เนื่องจากถนนในหลายจังหวัดของไทยมีสภาพไม่ราบเรียบแนะนำให้เลือกล้อแม็กขนาด 15 ถึง 16 นิ้ว J6 ถึง J7 แบบน้ำหนักเบาหรือฟอร์จเพื่อให้เหมาะสมกับระบบช่วงล่างและรองรับถนนในฤดูฝนได้ดียิ่งขึ้นหากต้องการเปลี่ยนแม็กในไทยควรซื้อจากร้านค้าที่จำหน่ายล้อที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ TISI เช่นแบรนด์ Racing Star หรือ RS Wheels เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการตรวจสภาพรถประจำปี
Q
รถ Honda City มี Apple Carplay ไหม
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด eHEV ในรุ่นกลางถึงรุ่นท็อปเช่นรุ่น RS มาพร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยสามารถเชื่อมต่อ iPhone แบบไร้สายผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่เพลงและโทรศัพท์ได้สะดวกมากขึ้นในสภาพการจราจรที่หนาแน่นของประเทศไทยCarPlay ต้องใช้ iPhone ที่มีระบบปฏิบัติการ iOS 90 ขึ้นไประบบรถยนต์ในเวอร์ชันไทยยังรองรับเมนูภาษาไทยและมีตัวเลือกแผนที่ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในประเทศสำหรับรุ่นล่างอย่าง SV ที่ไม่มี CarPlay จากโรงงานสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่ร้านอัปเกรดรถยนต์เฉพาะทางในเมืองใหญ่เช่นศูนย์เครื่องเสียงใน Fortune Town กรุงเทพหรือร้านประดับยนต์ในเชียงใหม่เนื่องจากอากาศร้อนในไทยอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ใช้ที่ยึดโทรศัพท์กับช่องแอร์เพื่อช่วยระบายความร้อนและตรวจสอบความเสถียรของพอร์ต USB ที่ศูนย์บริการฮอนด้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ใช้งาน CarPlay ได้อย่างราบรื่นหากต้องขับในพื้นที่ห่างไกลเป็นเวลานานควรดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ล่วงหน้าเนื่องจากบางพื้นที่ชนบทอาจไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ครอบคลุมเพียงพอ
Q
รถ Honda City เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Honda City เป็นรถที่น่าสนใจและมีจุดเด่นหลายด้านด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะรุ่น City Hatchback ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Honey Comb กันชนหน้าใหม่และแถบตกแต่ง Honda Solid Wing สีดำแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงไฟท้ายแบบสามมิติรมดำพร้อมสปอยเลอร์ดีไซน์สปอร์ตและล้อสีดำทั้งชุดให้ความรู้สึกดุดันภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มรายละเอียดการตัดเย็บบริเวณแผงประตูพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรุ่นย่อยบางรุ่นรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายพร้อมแท่นชาร์จไร้สายอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเต็มทุกรุ่นด้วยระบบ Honda Sensing ที่มีฟังก์ชันช่วยขับขี่เช่นกล้องมองหลังและระบบเตือนรถออกนอกเลนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแต่อาจมีข้อจำกัดบางประการเช่นพื้นที่ภายในไม่ได้กว้างขวางเท่ารุ่นที่เน้นเรื่องความจุเป็นหลักและระบบเกียร์ CVT บางรุ่นอาจตอบสนองได้ไม่ทันใจในจังหวะขับขี่แบบเร่งเร้าโดยรวมแล้ว Honda City เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าพิจารณา
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Honda City คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณอย่างไร
การคำนวณภาษีรถยนต์สำหรับ Honda City ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบและอายุการใช้งานตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะคิดภาษีโดย 1000cc แรกคิดที่ 2 บาทต่อ cc และส่วนที่เกิน 1000cc ถึง 1500cc คิดที่ 3 บาทต่อ cc ดังนั้นรุ่นเครื่องยนต์ 15 ลิตรหรือ 1497cc จะเสียภาษีปีละ 1000 คูณ 2 เท่ากับ 2000 บวก 497 คูณ 3 เท่ากับ 1491 รวมเป็น 3491 บาทสำหรับรุ่นไฮบริด eHEV ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 15 ลิตรเช่นกันจะได้รับส่วนลดภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานใหม่ทำให้จ่ายจริงเพียง 2792 บาทภาษีรถยนต์ต้องชำระก่อนวันครบอายุทะเบียนในแต่ละปีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หากล่าช้าจะมีค่าปรับวันละ 1 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมาไทยมีนโยบายเพิ่มภาษีตามอายุรถกรณีรถมีอายุมากกว่า 10 ปีอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได 5 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ผู้ใช้รถในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM25 สูงเช่นกรุงเทพฯควรเก็บเอกสารผลตรวจไอเสียผ่านมาตรฐานไว้เพื่อแสดงเมื่อมีการตรวจสอบแม้อัตราภาษีจะเท่ากันทั่วประเทศแต่การจดทะเบียนในชื่อบริษัทสามารถใช้เป็นเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มได้บางส่วน

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
รถ MG Maxus 9 เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG Maxus 9 เป็นรถ MPV ที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและธุรกิจ มีความสามารถแข่งขันในตลาดไทยด้วยจุดเด่นคือพื้นที่ภายในกว้างขวางและเบาะนั่งที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่หรือการรับรองธุรกิจ เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบให้ความสมดุลระหว่างความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะ เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและทางไกล ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะและฟังก์ชันความปลอดภัย เช่น กล้องมองหลังและระบบเตือนออกนอกเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ระบบช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล อาจรู้สึกนิ่มไปบ้างในถนนบางจุดของไทย และเบาะแถวสามเมื่อเต็มที่อาจมีพื้นที่วางขาที่จำกัด สำหรับผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่และการใช้งาน MG Maxus 9 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ดีควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและความสบายให้ตรงกับความต้องการจริง ความต้องการรถ MPV ในไทยยังสูง MG Maxus 9 ด้วยความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครันจึงตอบสนองผู้ใช้บางกลุ่มได้ดี แต่การตัดสินใจควรพิจารณางบประมาณและการใช้งานควบคู่กันไป
Q
ความกว้างของ MG Maxus 9 คือเท่าไร
MG Maxus 9 มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 2,000 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ากว้างกว่ามาตรฐานในตลาดรถยนต์ MPV ขนาดใหญ่ในประเทศไทย การออกแบบขนาดนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้กว้างขวาง เหมาะสมทั้งสำหรับการเดินทางกับครอบครัวและการรับรองทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนในเมืองที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย โดยทั่วไปแล้วครอบครัวไทยมักนิยมเลือกรถ MPV ที่มีขนาดใหญ่เพราะไม่เพียงตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวัน แต่ยังเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวระยะไกลในช่วงวันหยุด ซึ่งความกว้างของ MG Maxus 9 ก็ตรงกับความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตัวถังที่กว้างยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีฝนบ่อยของไทย รถที่มีระยะฐานล้อกว้างจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและความปลอดภัยให้มากขึ้น ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ ลองดูจุดเด่นอื่นๆ เช่น ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสุดหรู ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
Q
ความดันลมยางของ MG Maxus 9 คืออะไร
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการของ MG Maxus 9 ความดันลมยางมาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ถึง 2.4 บาร์ (ประมาณ 32 ถึง 35 psi) แต่ค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถ น้ำหนักบรรทุก หรือขนาดยาง แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือป้ายที่กรอบประตูรถเพื่อดูข้อมูลที่ถูกต้อง ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ความดันลมยางอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอุณหภูมิสูง ดังนั้นควรตรวจสอบและปรับลมยางในช่วงเช้าหรือในที่ร่มเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ นอกจากนี้ การตรวจสอบความดันลมยางเป็นประจำไม่เพียงช่วยยืดอายุยางแต่ยังเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยที่ความดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการลื่นไถลได้ หากคุณขับทางไกลหรือบรรทุกน้ำหนักบ่อยครั้ง อาจปรับความดันลมยางให้อยู่ในระดับสูงของค่าที่แนะนำ แต่ห้ามเกินค่าความดันสูงสุดที่ระบุบนยางเด็ดขาด
Q
ขนาดล้อของ MG Maxus 9 คืออะไร
MG Maxus 9 ในฐานะรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย ใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ขนาดนี้ช่วยให้การยึดเกาะถนนดีพร้อมกับความนุ่มนวล เหมาะกับถนนหลากหลายทั้งในเมืองและทางหลวงระหว่างเมืองในไทย ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย แนะนำให้เลือกใช้ยางที่ระบายน้ำได้ดีและตรวจสอบการสึกหรอยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ผู้บริโภคไทยควรพิจารณาระยะห่างจากพื้นและการเซ็ตระบบช่วงล่าง เพราะส่งผลต่อการขับขี่ในถนนที่ซับซ้อน สำหรับผู้ที่ขับทางไกลหรือเดินทางเป็นครอบครัว ล้อและโครงสร้างใต้ท้องรถของ MG Maxus 9 ช่วยให้การขับขี่มั่นคง ตอบโจทย์ทั้งพื้นที่ใช้สอยและความสบายในการขับขี่ของผู้ใช้ในไทย
Q
MG Maxus 9 คุ้มค่าที่จะซื้อไหม มาดูสมรรถนะของมันกันเถอะ
MG Maxus 9 มีจุดเด่นหลายอย่างที่ควรพิจารณาเป็นเจ้าของ เป็นรถ MPV ไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง ติดตั้งแบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันและเดินทางระยะกลางถึงสั้น ภายในมีเบาะ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวด ระบบความร้อนและระบายอากาศ ประตูท้ายไฟฟ้าและประตูสไลด์ พร้อมหลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหรา ขนาดตัวถัง 5,270x2,000x1,840 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,200 มิลลิเมตร ให้พื้นที่กว้างขวาง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 6.4 เมตร ควรระวังเมื่อต้องขับในเมือง หน้าปัดจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้วตามรุ่น และหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ชาร์จเร็วสูงสุด 80 kW ชาร์จจาก 20% ถึง 80% ใช้เวลาเพียง 36 นาที ราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท ถูกกว่ารถโตโยต้า Alphard ที่ราคา 3.889 ล้านบาท คุ้มค่าและเหมาะกับครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่มองหารถไฟฟ้าราคาคุ้มค่า
ดูเพิ่มเติม