Q
Mitsubishi Xpander มีกี่ที่นั่ง?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรุ่น MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย ด้วยการจัดเรียงเบาะแบบ 2+3+2 ที่ออกแบบมาอย่างคล่องตัว เบาะแถวกลางสามารถเลื่อนปรับระยะหน้า-หลังได้ ส่วนเบาะแถวหลังพับเก็บแบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เหมาะกับทั้งการใช้งานในครอบครัวและธุรกิจ รถคันนี้โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. ที่ตอบโจทย์การขับขี่บนสภาพถนนหลากหลายในไทย จนกลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับครอบครัวไทย เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Avanza และ Honda BR-V ที่ก็มีระบบ 7 ที่นั่งเช่นกัน แต่ Xpander ยังคงได้เปรียบในเรื่องราคาที่เหมาะสมและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม แนะนำให้ผู้สนใจไปทดลองนั่งและเปรียบเทียบด้วยตัวเองตามความต้องการการใช้งานจริง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
หมวดหมู่ของ Xpander คืออะไร?
รถ Mitsubishi Xpander ในตลาดไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและผู้ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัดพื้นที่ ข้อเด่นของรุ่นนี้คือการออกแบบภายในที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย พร้อมกับระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. และระบบช่วงล่างที่ถูกปรับให้เหมาะกับสภาพถนนในไทย Xpander เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบาะแถวที่สามที่พับเก็บได้ ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทั้งขนของหรือนั่งคนเต็มคัน ส่วนระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 1.5L MIVEC คู่กับเกียร์ 4AT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาง่าย ที่น่าสนใจคือในไทยยังมีรุ่น Xpander Cross ที่เพิ่มสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งภายนอกที่สปอร์ตและอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาด MPV ไทยนอกจาก Xpander แล้วยังมีคู่แข่งอย่าง Toyota Avanza และ Suzuki Ertiga ที่เน้นความคุ้มค่าในด้านพื้นที่ใช้สัยเหมือนกัน เวลาจะเลือกซื้อจริงๆ ลูกค้ามักจะดูจากความชอบในแบรนด์ ศูนย์บริการใกล้บ้าน และโปรโมชั่นเป็นหลัก
Q
Xpander เป็น SUV หรือ MPV?
Xpander เป็นรุ่นรถ 7 ที่นั่งจาก Mitsubishi Motors ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม MPV (รถยนต์อเนกประสงค์) ไม่ใช่ SUV เพราะเน้นการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารและพื้นที่ใช้สัยภายในมากกว่า โครงสร้างรถใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะความสูงจากพื้นปานกลาง ไม่ได้เน้นความสูงเหมือนรถ SUV ที่เหมาะสำหรับการขับลุย แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนสภาพซับซ้อนของไทย จุดเด่นของ Xpander อยู่ที่การจัดเรียงเบาะที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้และพื้นที่เก็บของกว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือต้องการรถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและท่องเที่ยวในวันหยุด ในตลาดไทยบางครั้งเส้นแบ่งระหว่าง MPV กับ SUV ค่อนข้างคลุมเครือ บางรุ่นอาจผสมผสานคุณสมบัติของทั้งสองประเภท แต่ Xpander ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบแบบ MPV อย่างชัดเจน ซึ่งสังเกตได้จากประตูสไลด์ข้างและความรู้สึกในการขับที่ใกล้เคียงรถเก๋ง สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกระหว่าง MPV กับ SUV ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าต้องการพื้นที่และความสะดวกสบาย Xpander ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการรถสำหรับเส้นทาง off-road หรือชอบท่าทางการขับขี่ที่สูงกว่า ก็อาจจะมองหา SUV ดีกว่า
Q
ข้อดีของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดประเทศไทย เนื่องมาจากความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยเป็นอย่างดี เริ่มจากห้องโดยสารที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทย โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันที่มีผู้โดยสารหลายคน นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะสมและระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้อย่างสบายๆ ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ที่ติดตั้งมานั้นให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ พร้อมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันและหน้าจอสัมผัสกลางห้องโดยสาร ที่สำคัญคือขนาดตัวรถที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนในซอยแคบๆของไทยได้อย่างคล่องตัว สำหรับการเลือกซื้อรถ MPV นั้น คนไทยไม่เพียงแต่คำนึงถึงความกว้างของห้องโดยสารและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น แต่ยังควรพิจารณาถึงเครือข่ายบริการหลังการขายซึ่งมีความสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว ซึ่ง Xpander ก็ทำได้ดีในจุดนี้ด้วยเครือข่ายบริการของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
Q
ปัญหาทั่วไปของ Xpander มีอะไรบ้าง?
รถ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่มักพบส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยในการใช้งานประจำวัน เช่น บางเจ้าของรถรายงานว่าการทำความเย็นของแอร์อาจลดลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ล้างคอนเดนเซอร์และตรวจสอบความดันน้ำยาแอร์เป็นประจำ เพราะอากาศร้อนๆของไทยถือเป็นการทดสอบระบบแอร์อย่างดี นอกจากนี้ระบบช่วงล่างอาจมีเสียงดังเล็กน้อยหลังจากขับบนถนนขรุขระมานาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพถนนบางพื้นที่ของไทย แค่ตรวจสอบบูชช่วงล่างและช็อคอัพเป็นครั้งคราวก็แก้ไขได้ ส่วนเกียร์ CVT อาจมีการกระตุกเบาๆบ้างในสภาพการจราจรติดขัด นี่เป็นลักษณะทั่วไปของเกียร์ประเภทนี้ แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดก็พอ สำหรับชิ้นส่วนพลาสติกภายในรถอาจมีเสียงดังจาการขยายตัวเนื่องจากความร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศเขตร้อน ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอควบคุมกลางอาจตอบสนองช้าเป็นครั้งคราว แต่การรีสตาร์ทระบบก็สามารถแก้ไขได้ ปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือโดยรวม จุดเด่นของ Xpander ยังคงเป็นพื้นที่ใช้งานสะดวกและประหยัดน้ำมัน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวไทย แค่ดูแลรักษารถตามกำหนดก็สามารถรักษาสภาพรถให้ดีได้ นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยยังสามารถติดตามโปรโมชั่นดูแลรักษารถตามฤดูกาลจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ซึ่งช่วยบำรุงรักษาสภาพรถได้ดีเลยทีเดียว
Q
Xpander เหมาะกับการขับทางไกลหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นการใช้งานสำหรับครอบครัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยเป็นอย่างมาก ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและความประหยัดที่ใช้งานได้จริง สำหรับการขับขี่ระยะไกลแล้ว Xpander ทำได้ดีมาก ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC ร่วมกับเกียร์ CVT ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งบนถนนเรียบและทางลาดชันเล็กน้อยในประเทศไทย อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็อยู่ในระดับประหยัด เหมาะกับงบประมาณของครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว ระบบช่วงล่างถูกปรับมาเพื่อความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงกระแทกจากถนนบางส่วนในชนบทของไทยได้ดี ที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนได้และแถวที่ 3 พับเก็บได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสัมภาระ แต่ควรระวังว่าถ้ามีผู้โดยสารครบ 7 คน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเหลือน้อย แนะนำให้จัดสรรสัมภาระให้เหมาะสม นอกจากนี้ Xpander ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่ค่อนข้างดี ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางในชนบทช่วงฤดูฝนของไทยได้สะดวก แต่ควรลดความเร็วเมื่อเข้าโค้งเพื่อความมั่นคง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้ว Xpander มีจุดเด่นในเรื่องค่าบำรุงรักษาและอะไหล่ที่หาง่ายในตลาดไทย อู่ซ่อมรถทั่วไปก็คุ้นเคยกับรุ่นนี้ดี ก่อนออกเดินทางไกลแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและระบบระบายความร้อน เพราะอากาศร้อนของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ประสิทธิภาพ สรุปแล้ว Xpander เป็นรถที่ปรับตัวเข้ากับสภาพการใช้รถในไทยได้ดี และเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางไกลของครอบครัวทั่วไป
Q
Innova หรือ Xpander อันไหนใหญ่กว่ากัน ?
เมื่อมองจากมิติตัวถัง Toyota Innova มักจะนำเสนอรุ่นที่ใหญ่กว่า Mitsubishi Xpander ในตลาดประเทศไทย โดย Innova มักมีความยาวตัวรถเกิน 4.7 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.75 เมตร และมาพร้อมกับแบบที่นั่ง 3 แถว เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ในขณะที่ Xpander มีความยาวตัวรถประมาณ 4.4 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.7 เมตร แม้จะมีที่นั่ง 3 แถวเช่นกัน แต่แถวที่ 3 จะเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้นกว่า ในถนนเมืองไทยอย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่เล็กกว่าของ Xpander ทำให้จอดและขับเคลื่อนได้สะดวกกว่า แต่หากต้องเดินทางไกลหรือรับส่งผู้โดยสารบ่อยๆ ความสบายของอินโนวาจะเหนือกว่า ทั้งสองรุ่นเป็นรถ MPV ที่นิยมในตลาดไทย การเลือกควรพิจารณาจากการใช้งานจริง นอกจากนี้คนไทยยังให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของ Xpander จะประหยัดน้ำมันกว่าในเมือง ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.4 ลิตรของ Innova ให้พลังที่แข็งแกร่งขึ้น
Q
Xpander รุ่นปี 2020 มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.5 ลิตร แบบประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (77 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 4 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวชาวไทยเป็นอย่างดี
Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่ง เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวไทย เพราะมีระยะยกตัวสูงถึง 205 มิลลิเมตร ที่สามารถขับผ่านเส้นทางต่างจังหวัดได้บ้าง แถมยังมีพื้นที่ภายในที่ปรับแต่งได้หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันใช้งานได้จริง เช่นช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก
สำหรับคนไทยแล้ว กำลังเครื่องขนาดนี้เพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันและพาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด แม้ว่ากำลัง 105 แรงม้าอาจจะไม่แรงมากเวลาจะแซงบนทางหลวง แต่เมื่อพิจารณาจากปัญหารถติดและราคาน้ำมันในประเทศไทยแล้ว การตั้งค่าเครื่องยนต์แบบนี้กลับเหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงมากกว่า รถ MPV สำหรับครอบครัวระดับเดียวกันอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ก็ใช้แนวทางเดียวกันในการออกแบบเครื่องยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า MPV ประเภทนี้เน้นความสมดุลในทุกด้านมากกว่าการเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเพียงอย่างเดียว
Q
จุดอ่อนของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยความประหยัดและความทนทานที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรรู้ไว้ เช่น พื้นที่เบาะหลังแถวที่สามอาจจะคับเกินไปสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อมีผู้โดยสารครบทุกที่นั่งก็จะเหลือน้อย ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเสียงลมที่ค่อนข้างดังเวลาขับความเร็วสูง ซึ่งส่งผลต่อความสบายในการนั่ง ส่วนด้านกำลังเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติแม้จะประหยัดน้ำมันและเชื่อถือได้ แต่เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันหรือเวลาขึ้นเนินอาจรู้สึกว่ากำลังไม่ค่อยพอ ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งเป็นหลัก ทำให้ความรู้สึกโดยรวมดูธรรมดาไปหน่อย อย่างไรก็ดี Xpander ก็มีจุดแข็งที่เหมาะกับสภาพถนนและอากาศร้อนชื้นของไทย เช่น รอบระยะล้อจากพื้นสูงและมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวในเมือง Xpander ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านความประหยัดและความคล่องตัว แต่ถ้าต้องการใช้งานหนักแบบเดินทางไกลบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารเต็มคันเป็นประจำ อาจต้องพิจารณารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่านี้หรือระบบกันเสียงที่ดีกว่านี้จะเหมาะสมกว่า
Q
ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร
Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
Q
วิธีปิดโหมด Eco บน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด Eco ของรถ Mitsubishi Xpander นั้น โดยปกติใช้งานผ่านปุ่มโหมด Eco ใกล้แผงหน้าปัดเครื่องมือ ซึ่งปุ่มนี้อาจจะอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือแถบกลางคอนโซลหน้า กดสลับโหมดได้เลย แต่ถ้าหาปุ่มไม่เจอแนะนำให้เปิดคู่มือผู้ใช้ดูตำแหน่งให้ชัดเจนอีกที ในสภาพอากาศร้อนของไทย การปิดโหมด Eco จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแต่จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แนะนำว่าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ ให้เปิดโหมด Eco ไว้จะช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลาเดินทางไกลหรือขับบนทางด่วนปิดโหมดนี้จะทำให้รถตอบสนองดีขึ้น โปรดทราบว่าวิธีการใช้งานของ Xpander แต่ละรุ่นในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ผ่านเมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางได้อีกด้วย การใช้โหมด Eco ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนของไทยได้ดี แต่ยังช่วยบาลานซ์ระหว่างประหยัดน้ำมันกับความรู้สึกในการขับได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ตามความต้องการจริงจะดีที่สุด
Q&A ล่าสุด
Q
"Audi RS 8 2025 มีกำลังเครื่องยนต์เท่าไหร่?"
Audi RS 8 รุ่นปี 2025 คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ Twin-Turbo ที่ได้รับการอัพเกรดแล้ว ซึ่งสามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 630 แรงม้า และแรงบิดประมาณ 850 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ Tiptronic 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro โดยสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที รถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ไม่เพียงแต่ทรงพลัง แต่ยังติดตั้งเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ช่วยให้มั่นใจในความมั่นคงขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง สำหรับในไทยแล้ว สเปคแบบนี้เหมาะมากสำหรับการขับบนทางด่วนหรือถนนเร็วในเมือง โดยเฉพาะทางยกระดับอย่างถนนรอบกรุงเทพฯ ที่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่แบบ Passion Driving ส่วนเรื่องความหรูหราและสมรรถนะนั้น RS 8 ก็ยังคงรักษามาตรฐานของซีรีส์ RS ไว้อย่างครบถ้วน โดยอาจเพิ่มเติมระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก ดิฟเฟอเรนเชียลสปอร์ต และระบบช่วงล่างปรับได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น ถ้าชอบรถสปอร์ตระดับนี้ ลองมองตัวเลือกอื่นอย่าง BMW M5 หรือ Mercedes-AMG E63 S ด้วยก็ได้ เพราะทั้งสองคันนี้ก็มีสเปคแรงไม่เบา แถมยังมีสไตล์การขับและฟีลลิ่งเฉพาะตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
Q
2025 RS Q8 เป็นรถไฮบริดหรือไม่?
ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากออดี้ว่า Audi RS Q8 รุ่นปี 2025 จะเป็นรถระบบไฮบริดหรือไม่ แต่ถ้าดูจากแผนการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าของออดี้ในช่วงหลังๆ รวมถึงแนวโน้มของซีรีส์ RS แล้ว โอกาสสูงที่ SUV ประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้น่าจะมาพร้อมกับระบบไฮบริดแบบ 48V หรือปลั๊กอินไฮบริด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและการตอบสนองกำลังขับ คล้ายกับเทคโนโลยีไฮบริดใน RS 6/7 รุ่นปัจจุบัน สำหรับตลาดไทย รถสปอร์ตไฮบริดแบบนี้ตอบโจทย์ทั้งความสนุกในการขับและกฎหมายการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องสตาร์ท-สต็อปบ่อย ระบบไฮบริดมักใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ลดอาการทอร์โบแล็กและเพิ่มแรงบิดตอนความเร็วต่ำ แม้การออกแบบแบตเตอรี่อาจทำให้พื้นที่กระโปรงหลังลดลงนิดหน่อยแต่ยังใช้งานได้ดีอยู่ ถ้าสนใจรถที่บาลานซ์ระหว่างสมรรถนะกับสิ่งแวดล้อม ลองติดตามรุ่นแข่งอย่าง Cayenne Turbo E-Hybrid หรือ BMW X5 M60i ที่กำลังจะเปิดตัว ซึ่งแต่ละค่ายมีแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดของเยอรมันที่แตกต่างกันออกไป
Q
RS Q8 เร็วกว่า Urus หรือไม่?
แม้ Audi RS Q8 และ Lamborghini Urus จะใช้แพลตฟอร์ม MLB Evo ร่วมกันและติดตั้งเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ แต่การตั้งค่าประสิทธิภาพนั้นแตกต่างกัน โดย RS Q8 สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. ส่วน Urus ด้วยกำลังส่งที่ดุดันกว่า (650 แรงม้า) และการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา ทำให้เร่งความเร็วได้เร็วเพียง 3.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. (รุ่น Performante สามารถทำได้ถึง 310 กม./ชม.) ในสภาพอากาศร้อนของไทย รถทั้งสองคันนี้ต่างติดตั้งระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ Urus จะได้เปรียบในวันแข่งบนสนามหรือการเข้าโค้งบนถนนภูเขาด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิกและระบบกันโคล้นแบบแอคทีฟ
สิ่งที่ควรสังเกตคือประสบการณ์การขับขี่ในชีวิตประจำวันของ SUV ประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเลือกโหมดการขับขี่มากกว่า โดยโหมดสบายๆ ของ RS Q8 เหมาะกับการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ในขณะที่ Urus แม้อยู่ในโหมดเมืองก็ยังให้ความรู้สึกแข็งกระด้างกว่า นอกจากนี้รถทั้งสองคันรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แต่แนะนำให้ใช้ 98 เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในท้องถิ่น
Q
Q8 ใหญ่กว่า Q7 ไหม?
แม้ Audi Q8 และ Q7 จะอยู่ในกลุ่ม SUV ขนาดกลาง-ใหญ่เหมือนกัน แต่การออกแบบและกลุ่มเป้าหมายต่างกันชัดเจน Q8 ในฐานะรถฟลักชิปคูเป้ SUV ของแบรนด์ มีความยาวตัวรถ (ประมาณ 5 เมตร) สั้นกว่า Q7 (ประมาณ 5.06 เมตร) เล็กน้อย แต่ด้วยดีไซน์ตัวถังที่กว้างกว่า (1995 มม.) และต่ำกว่า (1710 มม.) แบบสไตล์สโลปหลังคา ทำให้ดูกว้างและสปอร์ตกว่าส่วน Q7 ยังคงดีไซน์ SUV แบบดั้งเดิมที่มีส่วนหลังคาสูง (1741 มม.) ให้พื้นที่เหนือศีรษะในแถวที่สามมากกว่า ทั้งสองรุ่นมีทั้งเครื่องยนต์ 2.0T และ 3.0T ให้เลือก แต่ Q8 มาตรฐานมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro และระบบช่วงล่างปรับอากาศ ซึ่งตั้งค่าเน้นการขับขี่สมรรถนะสูง ในขณะที่ Q7 เน้นความสบายสำหรับครอบครัวมากกว่า ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ Q8 จะมีความคล่องตัวและการทำงานที่ลื่นไหลของระบบ Start-Stop ที่ดีกว่า แต่ Q7 มีระบบเก้าอี้ระบายอากาศและม่านบังแดดหลังซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนมากเป็นพิเศษ ควรระวังว่า SUV ประเภทนี้ในช่วงฤดูฝนหากต้องขับลุยน้ำ แนะนำให้เลือกชุดยกตัวรถจากศูนย์ และควรล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำบนหลังคากันน็อคเป็นประจำเพื่อป้องกันการอุดตัน โดยศูนย์บริการท้องถิ่นมักมีบริการตรวจเช็คฟรีให้ด้วย
Q
Audi กำลังจะหยุดการผลิต Q8 หรือไม่?
ปัจจุบัน Audi ยังไม่ได้ประกาศหยุดผลิตรุ่น Q8 อย่างเป็นทางการ SUV หรูหรารุ่นนี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของสายผลิตภัณฑ์เรือธงของแบรนด์ โดยที่ตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นยังสามารถสั่งซื้อรุ่นปีล่าสุดได้ จากแนวโน้มตลาดพบว่า SUV หรูขนาดใหญ่ได้รับความนิยมในภูมิอากาศเขตร้อน โดย Q8 ด้วยระบบช่วงล่างอากาศและเทคโนโลยี quattro ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวรที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศฝนตกและถนนที่หลากหลาย ควรสังเกตว่า Audi กำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจปรับสมดุลสายผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การเปิดตัวรุ่น SUV ไฟฟ้า Q8 e-tron เป็นทางเลือกเสริม สำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบ SUV หรูสไตล์เยอรมัน นอกจากจะสนใจ Q8 แล้ว ยังสามารถติดตามรุ่นพลังงานใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดได้ ซึ่งรถเหล่านี้มักติดตั้งระบบปรับอากาศและระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ทันสมัยกว่า เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับการใช้ในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ผู้ที่สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตโดยตรงเพื่อขอข้อมูลสต็อกและค่าประกอบล่าสุด โดยบางโชว์รูมยังมีบริการทดลองขับเพื่อสัมผัสสมรรถนะของรถด้วยตนเอง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mitsubishi Xpander ตารางผ่อนชำระล่าสุด
Kevin WongNov 10, 2025

การทดสอบ Mitsubishi Xpander: ความสวยงามและความสบายของพื้นที่ ปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่!
AshleyApr 9, 2025

"Mitsubishi Xpander เปรียบเทียบกับ Toyota Veloz, MPV ยอดนิยมคนไหนแรงกว่า?"
ธนวัฒน์Oct 21, 2024

Mitsubishi Xpander ผู้ช่วยที่ดีสำหรับการเดินทางกับครอบครัว มีราคาตั้งแต่ 799,000 บาท
LienMay 20, 2024

Mitsubishi พา Xpander และ Xpander Cross HEV มาร่วมงานที่นิทรรศการรถยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ 2024
AshleyMar 18, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย