Q

Zeekr 007 มีแรงม้าเท่าไหร่

Zeekr 007 มีตัวเลือกขุมพลังทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังแบบมอเตอร์เดี่ยวให้กำลังสูงสุด 422 แรงม้า กำลังรวม 310 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 54 วินาที ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ เช่นรุ่นขับเคลื่อนอัจฉริยะและรุ่นสมรรถนะสูง มีกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า กำลังระบบรวม 475 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 35 วินาที ให้พละกำลังที่ดุดันโดยเฉพาะช่วงเร่งแซง แม้ที่ความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ยังคงตอบสนองได้อย่างฉับไว การมีทางเลือกด้านสมรรถนะที่หลากหลายช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเอง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Zeekr 007 4WD ราคาเท่าไหร่
Zeekr 007 ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จึงยังไม่สามารถระบุราคาที่แน่ชัดได้ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง Zeekr 007 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดต่างประเทศ ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์คู่ ระยะทางขับขี่มากกว่า 700 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เมื่อเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Tesla Model 3 หรือ BMW i4 แล้ว Zeekr 007 มีความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านราคาและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้
Q
Zeeker 007 GT ราคาเท่าไหร่
Zeekr 007 GT เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 โดยมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการประมาณ 299900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1550000 บาท ทั้งนี้ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่งภายในประเทศ และค่าจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้ราคาจริงสูงกว่าราคาคำนวณเบื้องต้น Zeekr 007 GT ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นแรกของแบรนด์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 38 วินาที ระยะทางขับขี่ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 610 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งเลเซอร์เรดาร์และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างโดดเด่น
Q
ราคา Zeekr 007 คือเท่าไหร่
Zeekr 007 มีราคาเริ่มต้นในประเทศจีนประมาณ 209900 หยวนสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังระยะทางมาตรฐาน เมื่อคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1085000 บาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูงมีราคาประมาณ 1550000 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาจำหน่ายจริงในประเทศไทยอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากต้องรวมภาษีนำเข้าโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ภาษีสรรพสามิต 7 เปอร์เซ็นต์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงค่าขนส่งและค่าจดทะเบียนอื่นๆ หากในอนาคตรถรุ่นนี้มีการประกอบในประเทศหรือได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐ เช่น การลดหย่อนภาษีนำเข้าหรือภาษีสรรพสามิต ราคาขายอาจเข้าถึงได้มากขึ้น
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ห้องโดยสารหรูหรา
อุปกรณ์คุณภาพสูง
สงบสุข

ข้อเสีย

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือระยะยาว
ปัญหาเรื่องอะไหล่สำรอง
ขาดปุ่มกดทางกายภาพ

Q&A ล่าสุด

Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติม