Q
EX40 ราคาเท่าไหร่?
Volvo EX40 มีหลากหลายรุ่นย่อยและราคาจำหน่ายแตกต่างกัน โดย Volvo EX40 Ultra Single Motor 2024 มีราคา 1,990,000 บาท Volvo EX40 Ultra Twin Motor BLACK Edition 2024 ราคา 2,390,000 บาท และ Volvo EX40 Ultra Twin Motor 2024 มีราคา 2,690,000 บาท EX40 ในฐานะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างในด้านสมรรถนะและระยะทางขับขี่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีกำลังน้อยกว่า แต่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุดที่ประมาณ 565 กิโลเมตร ขณะที่รุ่นมอเตอร์คู่มีกำลังมากขึ้น อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ตามข้อมูลผู้ผลิตอยู่ที่เพียง 4.8 วินาที และมีระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 645 กิโลเมตร ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมตามงบประมาณและความต้องการด้านสมรรถนะของตนเอง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ชาร์จเจอร์ประเภทใดที่ Volvo EX40 ใช้?
Volvo EX40 รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบเร็วและแบบช้า ในส่วนของการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 0.55 ชั่วโมงสำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว และ 0.48 ชั่วโมงสำหรับรุ่นมอเตอร์คู่ สามารถเติมพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานรถทันทีหรือเดินทางระยะไกลเร่งด่วน สำหรับการชาร์จแบบช้าใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการชาร์จขณะจอดรถช่วงกลางคืนหรือจอดทิ้งไว้นานแบตเตอรี่ที่ใช้ใน EX40 เป็นแบบลิเธียมไอออนชนิด NMC ซึ่งมีความหนาแน่นพลังงานสูง ช่วยให้รถมีระยะทางขับขี่ที่ดีในการชาร์จหนึ่งครั้ง
Q
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการชาร์จ Volvo EX40?
Volvo EX40 มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จจะแตกต่างกันตามขนาดความจุของแบตเตอรี่และโหมดการชาร์จที่ใช้ ในการชาร์จแบบเร็ว หากใช้เครื่องชาร์จที่มีกำลังไฟเพียงพอ รถสามารถรองรับกำลังชาร์จได้สูงสุดถึง 205 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 28 นาที ในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% สำหรับการชาร์จแบบช้า หากใช้เครื่องชาร์จแบบกระแสสลับ 11 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม แต่ในกรณีทั่วไปที่ใช้เครื่องชาร์จติดผนังในบ้าน ซึ่งมักมีกำลังไฟ 7.4 กิโลวัตต์ ระยะเวลาการชาร์จจะนานกว่านั้น นอกจากนี้ ควรระวังอุณหภูมิขณะชาร์จ เพื่อให้แบตเตอรี่เย็นลงอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการชาร์จในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ในระยะยาว
Q
ต้องใช้กี่ kWh เพื่อชาร์จ Volvo EX40?
ปริมาณความจุแบตเตอรี่ของ Volvo EX40 แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้ในการชาร์จแตกต่างกันด้วย โดยรุ่น Single Motor มีความจุแบตเตอรี่ 69kWh ส่วนรุ่น Twin Motor BLACK Edition และ Twin Motor มีความจุแบตเตอรี่ 82kWh ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จนอกจากจะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่แล้ว ยังได้รับผลจากปริมาณพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ขณะเริ่มชาร์จ หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่จากระดับพลังงานต่ำจนเต็ม รุ่น Single Motor จะใช้พลังงานประมาณ 69kWh ขณะที่รุ่น Twin Motor BLACK Edition และ Twin Motor จะใช้ประมาณ 82kWh นอกจากนี้ เวลาที่ใช้ในการชาร์จยังแตกต่างกันไปตามวิธีการชาร์จ โดยการชาร์จแบบเร็วสามารถเติมพลังงานได้มากในระยะเวลาสั้น ส่วนการชาร์จแบบช้าจะใช้เวลานานกว่า
Q
EX40 มีขนาดเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ XC60?
Volvo EX40 จัดอยู่ในกลุ่มรถระดับ C โดยมีขนาดความยาว 4,440 มม. กว้าง 1,873 มม. สูง 1,647 มม. และระยะฐานล้อ 2,702 มม. ขณะที่ Volvo XC60 เป็นรถ SUV ขนาดกลาง โดยมีขนาดตัวถังยาว 4,708 มม. กว้าง 1,902 มม. สูง 1,658 มม. และมีระยะฐานล้อถึง 2,865 มม. เมื่อเปรียบเทียบกัน XC60 มีขนาดโดยรวมที่ใหญ่กว่า EX40 ทั้งในด้านความยาว ความกว้าง ความสูง และฐานล้อ ซึ่งหมายความว่า XC60 มีภาพลักษณ์ที่ดูภูมิฐานมากกว่า และภายในห้องโดยสาร—โดยเฉพาะเบาะหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระ—น่าจะกว้างขวางและสะดวกสบายมากกว่า รองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ดีขึ้น และสามารถบรรทุกสิ่งของได้มากกว่า ในทางกลับกัน EX40 มีขนาดที่กะทัดรัดกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมือง สามารถขับขี่และจอดรถในพื้นที่จำกัดได้ง่ายขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานในเขตเมืองเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและความสะดวกในการจอดรถ
Q
โวลโว EX40 มีมอเตอร์เดี่ยวหรือคู่?
Volvo EX40 มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ โดยรุ่น Volvo EX40 Ultra Single Motor 2024 เป็นรถยนต์มอเตอร์เดี่ยว โดยติดตั้งมอเตอร์ไว้ที่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า (PS) กำลังรวม 175 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ส่วนรุ่น Volvo EX40 Ultra Twin Motor BLACK Edition 2024 และ Volvo EX40 Ultra Twin Motor 2024 เป็นรถยนต์มอเตอร์คู่ โดยติดตั้งมอเตอร์ที่ล้อหน้าและล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) กำลังรวม 300 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ผู้บริโภคสามารถเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมตามความต้องการด้านสมรรถนะ ระยะทางการใช้งาน และประสบการณ์การขับขี่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังเหมาะสำหรับการประหยัดพลังงานและการใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังขับที่มากขึ้นและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าในทุกสภาพถนน
Q
EX40 มีแรงม้าเท่าไหร่
Volvo EX40 มีหลากหลายรุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นให้กำลังมอเตอร์ที่แตกต่างกัน รุ่น EX40 Ultra Single Motor 2024 ใช้มอเตอร์เดี่ยวที่ติดตั้งบริเวณล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า (PS) ส่วนรุ่น EX40 Ultra Twin Motor BLACK Edition 2024 และ EX40 Ultra Twin Motor 2024 มาพร้อมมอเตอร์คู่แบบติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) กำลังม้าที่มากกว่าย่อมหมายถึงแรงขับเคลื่อนและสมรรถนะการเร่งที่ดีกว่า รุ่นมอเตอร์เดี่ยวเหมาะสำหรับการขับขี่ที่นุ่มนวลในชีวิตประจำวัน ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ให้การเร่งที่ทรงพลัง เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานและการตอบสนองที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Q
Volvo EX40 มี V2L หรือไม่?
ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่ยืนยันว่า Volvo EX40 รองรับฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ โดยฟังก์ชันนี้มีความเหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์อย่างการตั้งแคมป์หรือทำงานกลางแจ้ง Volvo EX40 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยม มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและรุ่นมอเตอร์คู่ โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีกำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์ และระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 565 กิโลเมตร ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่มีกำลังรวม 300 กิโลวัตต์ พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 645 กิโลเมตร รถรุ่นนี้ติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงหลายรายการ เช่น ถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบเบรกอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ รวมถึงระบบเสียง Harman Kardon ที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน แม้ยังไม่สามารถยืนยันการรองรับฟังก์ชัน V2L ได้แน่ชัด แต่ Volvo EX40 ก็มีความโดดเด่นทั้งในด้านสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่ดี
Q
"Volvo XC40" มันเหมือนกับ "EX40" หรือไม่?
Volvo XC40 และ EX40 มีทั้งจุดที่คล้ายกันและจุดที่แตกต่างกัน โดยในด้านที่คล้ายกัน ทั้งสองรุ่นจัดอยู่ในกลุ่ม SUV ขนาดกะทัดรัด มีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,702 มิลลิเมตร และมีการจัดสรรพื้นที่ภายในที่ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและครอบครัวขนาดเล็ก อีกทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจตลอดการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย EX40 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ส่วน XC40 มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในและปลั๊กอินไฮบริด จึงมีทางเลือกด้านแหล่งพลังงานที่หลากหลายกว่า ในด้านดีไซน์ แม้ทั้งคู่จะใช้แนวทางการออกแบบตามแบบฉบับของ Volvo แต่ EX40 ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า อาจมีรายละเอียดที่เน้นความล้ำสมัยและภาพลักษณ์ด้านเทคโนโลยีมากกว่า สำหรับภายในห้องโดยสาร รายละเอียดด้านอุปกรณ์ก็มีความแตกต่าง เช่น ขนาดหน้าจอกลางในบางรุ่นของ EX40 อยู่ที่ 9 นิ้ว เป็นต้น โดยสรุป ทั้ง Volvo XC40 และ EX40 ต่างก็มีจุดเด่นในแบบของตน ผู้บริโภคสามารถเลือกตามความต้องการด้านการใช้งาน ความชอบส่วนตัว และรูปแบบพลังงานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
Q
EX40 ขยายระยะทางมีขนาดแบตเตอรี่เท่าไหร่?
Volvo EX40 มีหลายรุ่นย่อย โดยรุ่น Extended Range (ระยะทางวิ่งไกลพิเศษ) มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 82 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแบบ NMC (นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์) รุ่น EX40 Twin Motor BLACK Edition 2024 และ EX40 Ultra Twin Motor 2024 จัดอยู่ในกลุ่ม Extended Range ทั้งคู่ โดยมีระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 645 กิโลเมตร และมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 15.2 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร การชาร์จด้วยระบบเร็ว (DC) ใช้เวลาเพียง 0.48 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จด้วยระบบช้า (AC) กำลังไฟ 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ด้วยความจุแบตเตอรี่และระยะทางขับขี่ในระดับนี้ EX40 รุ่น Extended Range สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันในเมือง รวมถึงการเดินทางระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
EX40 มีโหมดประสิทธิภาพอย่างไร?
Volvo EX40 โดยทั่วไปมาพร้อมโหมดการขับขี่หลากหลายรูปแบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม โหมด Eco (ประหยัดพลังงาน) เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือสภาพการจราจรติดขัด โดยระบบจะปรับลดการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าให้ราบเรียบ ควบคุมระบบปรับอากาศและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและช่วยยืดระยะทางวิ่ง โหมด Comfort เน้นการขับขี่ที่ราบรื่นและผ่อนคลาย การตอบสนองของคันเร่งเป็นไปอย่างนุ่มนวล ช่วงล่างมีการปรับตั้งเพื่อดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน ทำให้การโดยสารสบายมากขึ้นทั้งสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร โหมด Dynamic ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและทรงพลังมากขึ้น มอเตอร์จะปล่อยกำลังออกมาเต็มที่ การเร่งความเร็วทำได้ฉับไว น้ำหนักพวงมาลัยหนักแน่นขึ้น เพื่อเสริมความมั่นใจและความเร้าใจในการขับขี่ โหมด Individual เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดลักษณะการตอบสนองของระบบต่าง ๆ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า พวงมาลัย หรือระบบส่งกำลัง ได้ตามความชอบส่วนตัว โหมดเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับสามารถเลือกการขับขี่ที่เหมาะสมกับสภาพถนนหรือความต้องการเฉพาะกิจในแต่ละวันได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
Q&A ล่าสุด
Q
ราคาบริการของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ Honda City Hatchback ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามบริการและตัวแทนจำหน่ายที่เป็นทางการ โดยบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท อย่างไรก็ตามเพื่อความแม่นยำแนะนำให้ติดต่อสอบถามราคากับทางอู่ Honda 4S ที่ใกล้ที่สุด ในไทยเรามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของรถสามารถรับบริการจากช่างมืออาชีพได้อย่างสะดวกสบาย แถมการเข้าศูนย์บริการเป็นประจำยังช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและยืดอายุการใช้งานอีกด้วย
พูดถึง Honda City Hatchback ในตลาดไทยต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ ทำให้ค่าบำรุงรักษาก็ถือว่าสมเหตุสมผล เหมาะกับการใช้งานประจำวันเป็นอย่างดี และถ้าเลือกใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์บริการอย่างถูก渠道 นอกจากจะได้ความมั่นใจแล้ว ยังช่วยรักษาสิทธิ์การรับประกันไม่ให้เสียหายอีกด้วย จริงๆ แล้วในระยะยาวนี่คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือที่สุดแล้วล่ะ
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูรายละเอียดที่นี่
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบคในไทยมีค่าใช้สอยเรื่องการดูแลรักษาที่สมเหตุสมผล เหมาะกับคนที่อยากประหยัด โดยการบริการครั้งแรกจะทำเมื่อขับถึง 1,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500-2,000 บาท รวมค่าถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ส่วนการบริการตามระยะจะทำทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ค่าบริการปกติประมาณ 2,500-3,000 บาท ส่วนการบริการใหญ่จะทำเมื่อขับถึงประมาณ 4 หมื่นกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 5,000-7,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้าง ในไทยฮอนด้ามีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ หาไม่ยาก แถมสะดวกด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบยางและเบรกเป็นประจำเพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมเร็วขึ้น ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ลองซื้อแพ็กเกจบริการของฮอนด้า ซึ่งมักจะมีส่วนลดให้ ที่สำคัญการดูแลรักษาตามคู่มือแนะนำไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุรถ แต่ยังช่วยรักษามูลค่าเวลาขายต่อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในตลาดรถมือสองของไทย
Q
ขนาดล้อของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่
สำหรับ Honda City Hatchback ในเรื่องของขนาดล้อ ยกเว้นรุ่นสูงสุด RS ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบเฉพาะแล้ว รุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นจะใช้ล้อขนาด 15 นิ้วตามมาตรฐาน การที่แต่ละรุ่นมีขนาดล้อแตกต่างกันนี่เป็นผลจากการออกแบบโดยคำนึงถึงสมรรถนะโดยรวมของรถเป็นหลัก ล้อขนาดใหญ่กว่าอย่างล้อ 16 นิ้วในรุ่น RS จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงให้กับรถ ทำให้การควบคุมรถดีขึ้น เหมาะกับสไตล์การขับแบบสปอร์ตที่รุ่น RS เน้นเป็นพิเศษ ส่วนล้อ 15 นิ้วนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในเมืองและการขับขี่ประจำวันของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นล้อขนาดไหนก็ผ่านการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบอื่นๆ ของรถ เพื่อให้ได้สมดุลระหว่างประสบการณ์การขับขี่และสมรรถนะของรถอย่างลงตัว
Q
รุ่นที่แตกต่างกันของ Honda City Hatchback มีอะไรบ้าง
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้หลักๆ แล้วจะมี 4 เวอร์ชันคือ S, V, SV และ RS รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมนิรภัย 2 ตัวและระบบเบรก ABS เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้รถในงบจำกัด ส่วนรุ่น V จะเพิ่มความสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยด้วยกุญแจอัจฉริยะและกล้องถอยหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่น SV จะอัพเกรดทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี เช่น จอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นและถุงลมนิรภัยเพิ่มเติม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาความคุ้มค่า สุดท้ายรุ่น RS ที่เป็นรุ่นสปอร์ตสุดพิเศษ มาพร้อมกับชุดแต่งเอกลักษณ์ เบาะสปอร์ตและระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบความสปอร์ต
ในตลาดไทย ซิตี้ แฮทช์แบ็กคันนี้ขายดีเพราะขับง่ายและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ แถมฮอนด้ายังมีสีรถให้เลือกหลายเฉดและโปรแกรมผ่อนชำระที่ตอบโจทย์คนไทยอีกด้วย ที่สำคัญคือรุ่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์ให้เย็นฉ่ำในอากาศร้อนแบบบ้านเรา และเพิ่มความสูงของช่วงล่างเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ นี่คือการออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทยที่แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าใส่ใจลูกค้าชาวไทยจริงๆ
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคหนักเท่าไหร่
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กรุ่นยอดนิยมในตลาดประเทศไทย มีน้ำหนักตัวรถแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยอยู่ในช่วงประมาณ 1,100 ถึง 1,200 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขุมพลังที่เลือกใช้ เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หลังคาซันรูฟ หรือระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพจราจรที่ติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ การกระจายน้ำหนักของตัวรถยังเป็นสิ่งที่วิศวกรฮอนด้าให้ความสำคัญ โดยมีการออกแบบแชสซีและเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม เพื่อให้รถมีความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง และให้ความนุ่มนวลขณะโดยสาร จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ City Hatchback มีสมรรถนะที่ดีบนถนนที่มีโค้งมากหรือพื้นถนนเปียกในเมืองไทย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกใช้รถที่มีน้ำหนักพอดี ไม่มากเกินไป ไม่เบาเกินไป ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัย ซึ่ง Honda City Hatchback คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Volvo ยอดขายทั่วโลกลดลง 12% ในเดือนมิถุนายน รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นสาเหตุหลักที่ฉุดรั้ง
สุรเดชJul 14, 2025

Volvo เรียกคืนรถ EV ประมาณ 12,000 คัน เนื่องจากฟังก์ชัน One Pedal Driving อาจเป็นอันตราย
สุรเดชJul 1, 2025

Volvo เปิดตัวตัวอย่าง EX60 พร้อมระบบไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลต์ ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร
สุรเดชJun 26, 2025

Volvo รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ใช้เทคโนโลยี 800V รถยนต์ที่วิ่งได้ไกลและเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Volvo
วิรุฬห์Mar 7, 2025

Volvo จะเปิดตัวรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า ES90 ใหม่ในวันที่ 5 มีนาคม
ณัฐวุฒิFeb 28, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย