Q

แรงบิดของ Triton ปี 2025 มีมากแค่ไหน?

สำหรับรุ่นปี 2025 มิตซูบิชิ ทริตอนในตลาดไทยมีให้เลือกสองเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นท็อป 2.4L MIVEC เทอร์โบดีเซล ส่งแรงบิดสูงถึง 430 นิวตัน-เมตร ซึ่งแรงบิดขนาดนี้เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่เชียงใหม่หรือการขนส่งรอบๆ กรุงเทพฯ ก็ทำได้อย่างสบายๆ ต้องบอกว่าแรงบิดเป็นตัววัดสำคัญทั้งเรื่องแรงดึงและแรงฉุดตอนรอบต่ำ ยิ่งตัวเลขสูงยิ่งปีนเขาและขนของหนักได้ดี ซึ่งสำคัญมากสำหรับ地形แบบภูเขาและอากาศร้อนที่ต้องเปิดแอร์ในไทย ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-II ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แรงบิดสูงนี้ยังช่วยให้ขับลุยได้มั่นใจทั้ง路面ลื่นช่วงฤดูฝนและถนนลูกรังชนบท ถ้าเทียบกับค่ายแข่งอย่างโตโยต้า ฮีลักซ์หรืออิซูซุ ดี-แม็กซ์ ที่มีแรงบิดประมาณ 400-450 นิวตัน-เมตร ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามสเปกและราคาที่ต้องการ ข้อแนะนำสำหรับคนไทยเวลาจะซื้อนอกจากดูตัวเลขแรงบิดแล้ว ควรลองขับดูการตอบสนองรอบต่ำด้วย และคิดว่าจำเป็นต้องอัพเกรดตัวล็อกดifferท้ายสำหรับ off-road หรือไม่ตามการใช้ชีวิตประจำวัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Mitsubishi Triton ปี 2023 คือเท่าไหร่
สำหรับรุ่นปี 2023 ของ Mitsubishi Triton ในประเทศไทย ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าเฉพาะและสภาวะการขับขี่ จากข้อมูลทางการ รุ่นดีเซลสามารถวิ่งได้ประมาณ 11-13 กิโลเมตรต่อลิตรในเมือง และ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตรบนทางหลวง ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ขนาดสัมภาระ และสภาพถนนด้วย Triton รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ผสมผสานเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันของมิตซูบิชิได้อย่างลงตัวระหว่างพลังและประสิทธิภาพ สำหรับคนไทยแล้ว Triton ถือว่าเหมาะกับการเดินทางไกลและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสภาพถนนแบบผสมผสานที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย นอกจากนี้ การดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานที่ถูกต้อง เช่น ตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการเหยียบกระชากหรือเบรกกระทันหัน ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น อาจเลือกรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันขั้นสูง หรือรอติดตามรุ่น Hybrid และ EV ที่มิตซูบิชิน่าจะนำมาเสนอในอนาคต
Q
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิงของ Triton ปี 2023 คือเท่าไร
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 มีความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรถกระบะในระดับเดียวกัน ถังน้ำมันขนาดนี้ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางไกลและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี สำหรับคนไทยแล้ว ถังน้ำมัน 75 ลิตรของ Triton ที่คู่กับการประหยัดน้ำมันของรถ ทำให้ขับเคลื่อนไปได้ทุกที่ทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมืองที่รถติดหรือเส้นทางลูกรังในชนบท ต้องบอกว่าตลาดรถกระบะในไทยให้ความสำคัญกับความจุถังน้ำมันมาก เพราะถังที่ใหญ่หมายถึงการเติมน้ำมันที่น้อยลง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ปั๊มน้ำมันมีไม่มาก นอกจากนี้ Triton ยังมาพร้อมระบบจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงอัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันและลดค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถได้อีกด้วย สำหรับคนไทยที่ต้องขับทางไกลหรือใช้รถขนของบ่อยๆ Triton ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวทั้งในแง่ความประหยัดและความจุถังน้ำมัน
Q
Triton ปี 2023 จะใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร MIVEC (รหัส 4N16) ที่ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.4 ลิตร MIVEC ที่ให้กำลังสูงถึง 204 แรงม้า แรงบิดสุดแรงถึง 470 นิวตันเมตร ทั้งคู่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ทั่วไปและการลุยออฟโรด จุดเด่นของ Triton ในไทยคือการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีแรงบิดต่ำที่รอบต่ำ เหมาะสมกับเส้นทางภูเขาและการบรรทุกของ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลที่ตรงตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมล่าสุดของไทย สำหรับคนไทยเวลาซื้อรถกระบะมักจะเน้นเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน ซึ่ง Triton ได้รับการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ทำงานเสถียรในสภาพอากาศร้อนชื้น พร้อมช่วงระยะการบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล เป็นจุดสำคัญสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องขับทางไกลหรือใช้เพื่อการค้า
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Triton ปี 2023 คือเท่าไร?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 มีความโดดเด่นในเรื่องความปลอดภัย โดยได้คะแนน 5 ดาวจากการทดสอบของ Global NCAP ซึ่งมาจากโครงสร้างตัวถังแบบแข็งแรง พร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุด รวมถึงถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าของคนขับ และระบบความปลอดภัยขั้นสูงต่างๆ เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKA) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) สำหรับตลาดไทย Triton ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายและการเดินทางไกล อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขาและระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนเส้นทางภูเขา อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากเรตติ้งความปลอดภัย เช่น ความทนทานของรถและเครือข่ายบริการหลังการขาย ซึ่ง Mitsubishi มีระบบตัวแทนจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมให้การสนับสนุนทางเทคนิคและบริการดูแลรักษาที่น่าเชื่อถือ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะที่รัฐบาลไทยกำหนดอย่างเข้มงวดขึ้นในปัจจุบัน รถกระบะอย่าง Triton ที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและประโยชน์ใช้สอยจึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่ทั้งผู้ใช้ครอบครัวและเชิงธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
Q
ความจุน้ำหนักบรรทุกของ Triton ปี 2023 คือเท่าไร
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีความสามารถในการบรรทุกที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและแบบที่เลือก โดยรุ่นมาตรฐานทั่วไปจะสามารถบรรทุกได้ประมาณ 1 ตัน ส่วนรุ่นที่ได้รับการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างช่วงล่างและระบบช่วงล่างแบบพิเศษจะสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นถึงประมาณ 1.2 ตัน ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร วัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าทางการค้า ด้วยสภาพพื้นที่ในประเทศไทยที่มีทั้งภูมิประเทศเป็นภูเขาและอากาศร้อนชื้น Triton ถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างแบบแชสซีแข็งแกร่งและระบบหลังแบบแข็ง (Rigid Axle) ที่ช่วยให้การขับขี่บนถนนขรุขระเป็นไปได้อย่างมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความดันลมยางและระบบช่วงล่างอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการบรรทุก นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงการกระจายน้ำหนักของสินค้าให้สมดุล เพราะการบรรทุกที่กระจุกตัวเกินไปอาจส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ และที่สำคัญ กฎหมายไทยยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับความสูงและการยึดเกาะของสินค้าบนกระบะด้วย การบรรทุกที่เหมาะสมจะช่วยให้ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงค่าปรับ รถคันนี้เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปทั้งในเขตชนบทและเขตเมืองของประเทศไทย ความทนทานที่เชื่อถือได้และพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใช้งานได้จริงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้รถใช้ถนนในท้องถิ่น ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเกษตรกรที่ต้องการขนส่งบ่อยครั้ง
Q
เครื่องยนต์ใน Triton 2023 คืออะไร
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร MIVEC (รหัส 4N16) และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร แบบอัตโนมัติ (รหัส 4G69) โดยรุ่นดีเซลมีให้เลือกทั้งแบบกำลังสูงและกำลังมาตรฐาน ให้กำลังส่งออกสูงสุดที่ 150 แรงม้าและ 181 แรงม้า ตามลำดับ แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 330 นิวตันเมตรและ 430 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ 6 สปีด manual หรือ automatic ที่ตอบโจทย์ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพทางภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-II ที่มาพร้อมโหมดขับขี่หลากหลาย เพื่อปรับใช้กับถนนหลากสภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางลื่นช่วงฝนตกหรือทางลูกรังในชนบท พิเศษสำหรับรุ่นดีเซลยังมีเทคโนโลยี Variable Geometry Turbo ที่ช่วยลดอาการ turbo lag และเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องบรรทุกของหรือลากจูงบ่อยๆ สำหรับตลาดไทยซึ่งเป็นตลาดสำคัญของ Triton ทางผู้ผลิตยังออกแบบเฉพาะโดยปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทย ถือเป็นการตอกย้ำความเข้าใจในความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง
Q
Triton ปี 2023 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณเท่าไร?
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบขับเคลื่อน โดยถ้าเป็นรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร MIVEC ถังน้ำมันมีความจุ 75 ลิตร จากข้อมูลทางการที่ระบุว่าปริมาณการใช้น้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 7.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (รุ่น 4x4 เกียร์อัตโนมัติ) ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 987 กิโลเมตรในทางทฤษฎี ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดหรือขนส่งในไทย อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจแตกต่างไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักบรรทุก การใช้แอร์ และสภาพอากาศร้อนของไทยที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถบำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิงและยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับรถกระบะรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota Hilux และ Ford Ranger ที่มีระยะวิ่งประมาณ 800-1,000 กิโลเมตร Triton ถือว่ามีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีดีเซลสะอาด (มาตรฐาน Euro 5 ของไทย) และแรงบิดสูงที่รอบเครื่องต่ำ ทำให้เหมาะกับสภาพถนนในไทยทั้งทางขึ้นเขาและการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุดบ่อยๆ ถ้าคุณวางแผนจะเดินทางไปภาคเหนือหรือภาคตะวันออกของไทย แนะนำให้ตรวจสอบตำแหน่งปั๊มน้ำมันผ่านแอป Mitsubishi Smart Connect โดยในไทยมีปั๊มน้ำมันของ PTT และเชลล์ที่มีสาขาครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ ช่วยลดความกังวลเรื่องน้ำมันหมดระหว่างทางได้ดี
Q
รถ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ราคาเท่าไหร่?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ในไทยมีราคาแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเปิดตัวประมาณ 7 แสนบาท ส่วนรุ่นท็อปซีรีส์อาจพุ่งเกิน 1.2 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาสุดท้ายขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายและอุปกรณ์เสริมที่เลือก ตอนนี้ Triton กำลังเป็นที่นิยมมากในตลาดไทย เพราะไม่เพียงแต่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เสถียรและสมรรถนะออฟโรดสุดแกร่ง แต่ยังมาพร้อมกับกระบะบรรทุกที่กว้างขวางและการออกแบบห้องโดยสารที่ให้ความสบาย เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบของประเทศไทย พิเศษกว่านั้น รุ่นปี 2023 ยังอัพเกรดเทคโนโลยีความปลอดภัยด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วรถกระบะในไทยได้รับความนิยมสูงเพราะความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องเผชิญกับเส้นทางยากลำบากหรือทำงานในภาคเกษตรกรรมและก่อสร้าง ถ้าคุณลูกค้ากำลังมองหารถกระบะสักคัน แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่าย Mitsubishi เพื่อสัมผัสสมรรถนะจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Mitsubishi Triton ปี 2023 ยาวเท่าไหร่?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 มีความยาวตัวรถ 5,325 มิลลิเมตร เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดยเฉพาะความเหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบและความต้องการใช้งานที่หลากหลายของคนไทย Triton ในฐานะรุ่นคลาสสิกของ Mitsubishi ไม่เพียงแต่มีความสามารถในการขนส่งสินค้าที่ดีเยี่ยม แต่ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อขั้นสูง ที่สามารถรับมือกับถนนลูกรังในชนบทหรือการเดินทางในเมืองได้อย่างสบายๆ นอกจากขนาดตัวรถแล้ว Triton ยังโดดเด่นด้วยระยะล่างตัวรถสูงและโครงสร้างช่วงล่างที่แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขับบ่อยบนเส้นทางขรุขระ ในประเทศไทย เจ้าของรถหลายคนนิยมใช้ Triton เพื่อการขนส่งสินค้าหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การไปตั้งแคมป์หรือขับออฟโรด นอกจากนี้ Triton รุ่นปี 2023 ยังได้รับการอัปเกรดในส่วนของห้องโดยสารและเทคโนโลยี เช่น จอแสดงผลขนาดใหญ่และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ สำหรับผู้บริโภคไทย รถคันนี้ไม่เพียงใช้งานได้จริง แต่ยังมีความคุ้มค่าในด้านราคา ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจของรถกระบะ Mitsubishi
Q
Are tritons 2025 made in Thailand?
ใช่แล้วครับ รุ่นปี 2025 ของ Mitsubishi Triton นี้ผลิตในประเทศไทยจริง ๆ โดยโรงงาน Mitsubishi ที่นี่ถือเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่ไม่เพียงแต่ผลิตเพื่อตลาดไทยเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปต่างประเทศด้วย รุ่นปีนี้ยังคงความแข็งแกร่งด้านสมรรถนะออฟโรดและความสามารถในการขนส่งสินค้าแบบเดิม แต่ได้อัปเกรดดีเทน的外观ให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบเซนเซอร์ถอยหลังที่แม่นยำขึ้นและฟังก์ชันรักษาช่องทางเดินรถ ที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพพื้นที่หลากหลายของไทย ที่น่าสนใจคือ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถปิคอัพที่สำคัญของโลก ด้วยซัพพลายเชนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจรและมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด ทำให้ Triton ที่ผลิตที่นี่มีคุณภาพเทียบเท่ารุ่นที่ผลิตในประเทศอื่น ๆ สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกซื้อรถที่ผลิตในประเทศยังได้เปรียบด้านบริการหลังการขายที่รวดเร็วและหาอะไหล่ได้ง่ายกว่า อีกทั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย Mitsubishi ในไทยยังมีโปรไฟแนนซ์ให้เลือกหลากหลายแผนตามความต้องการของผู้ซื้ออีกด้วย

ข้อดี

ลุคทันสมัยและไม่เก่าตา
ระบบอากาศภายในสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นนวัตกรรม
สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรยอดเยี่ยม มีกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อง่ายในการควบคุม คุณเพียงจำโหมดที่ตรงกับเส้นทางได้
พื้นที่ภายในรถสบาย ที่นั่งพอดีกับร่างกาย มีพื้นที่ใหญ่ทั้งหน้าและหลัง
ระบบความปลอดภัยดี เช่น การตรวจจับจุดบอด การเตือนการชนไกล้ไกล กล้อง 360 องศา เป็นต้น
มีความสบายในการตั้งค่าอย่างมาก เช่น ที่นั่งที่สามารถปรับไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ, บางคู่แข่งยังไม่มีอุปกรณ์

ข้อเสีย

การอัปเดตผลิตภัณฑ์ช้าลง การเปลี่ยนแปลงล่าสุดเกิดขึ้นในสิ้นปี 2018
การเลือกพลังงานเครื่องยนต์เป็นเดียว พึ่งพาเครื่องยนต์เดียว

Q&A ล่าสุด

Q
ฮอนด้า CR V มีที่นั่งกี่ที่
ฮอนด้า CR-V ในตลาดไทยมักเป็นรุ่น 5 ที่นั่งซึ่งเป็นการจัดมาตรฐานตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวส่วนใหญ่พื้นที่ด้านหลังกว้างและเบาะปรับได้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารเหมาะอย่างยิ่งกับการเดินทางครอบครัวหรือการสัญจรในเมืองที่พบได้บ่อยในไทยควรทราบว่า CR-V ในบางตลาดต่างประเทศมีรุ่น 7 ที่นั่งแต่รุ่นจำหน่ายในไทยเน้น 5 ที่นั่งเป็นหลักผู้บริโภคสามารถพิจารณาตามความต้องการเรื่องจำนวนผู้โดยสารนอกจากนี้เมื่อพับเบาะหลังแล้วพื้นที่เก็บสัมภาระขยายมากขึ้นเหมาะกับการเดินทางแบบขับเองหรือขนของจำนวนมากในไทยรถรุ่นนี้ยังมีความประหยัดน้ำมันและความน่าเชื่อถือสูงเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนในเมืองที่ซับซ้อน
Q
สิ่งที่ทำให้ฮอนด้า CR-V เด่นเด่นจาก SUV ขนาดกะทัดรัดอื่น ๆ
ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็น SUV คอมแพคที่โดดเด่นในตลาดไทย ด้วยจุดแข็งด้านความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน และพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า ซีอาร์-วี ให้พื้นที่เบาะหลังและกระโปรงท้ายที่กว้างขวางกว่าใครในรุ่นเดียวกัน เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยทั้งทริปยาวและใช้งานประจำวัน เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดนั้นให้กำลังสมบูรณ์แบบแต่ยังประหยัดน้ำมัน แม้จะเจอทั้งรถติดในกรุงเทพหรือขับทางไกลก็ไร้กังวล ที่สำคัญ ซีอาร์-วี ยังเป็นรถที่ทรงมูลค่ามากในตลาดมือสอง แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่บานปลาย ทำให้เป็นตัวเลือกน่าสนใจ อากาศร้อนชื้นของไทยก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะระบบแอร์เย็นฉ่ำและโครงสร้างป้องกันสนิมได้รับการออกแบบมาเฉพาะ อีกทั้งระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยครบครัน ช่วยให้ขับขี่มั่นใจในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างโหดของเมืองไทย พูดได้เต็มปากว่า ซีอาร์-วี คือ SUV อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ครอบครัวไทยได้ครบวงจร แม้คู่แข่งในระดับเดียวกันอาจโดดเด่นในบางจุด แต่ด้วยความสมดุลในทุกด้านทำให้ ซีอาร์-วี ยังคงเป็นตัวท็อปที่เอาชนะได้ยาก
Q
เมื่อฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่จะเปิดตัว
ฟอร์ดเอเวอเรสต์เจเนอเรชันใหม่คาดว่าจะเปิดตัวในตลาดไทยไตรมาสแรกของปี 2024 โดยวันเปิดตัวที่แน่นอนต้องรอการยืนยันจากฟอร์ดไทยรุ่นนี้ได้เผยโฉมแล้วในหลายตลาดทั่วโลกการปรับปรุงสำคัญรวมถึงดีไซน์ภายนอกที่แข็งแรงขึ้นติดตั้งระบบสาระบันเทิง SYNC 4 รุ่นล่าสุดและเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบที่ประหยัดขึ้นบางรุ่นอาจมีตัวเลือกปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบสนองความต้องการรถประหยัดพลังงานของผู้บริโภคไทยในฐานะตลาดกระบะและเอสยูวีสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คู่แข่งหลักของเอเวอเรสต์คือโตโยต้าโฟร์จูนเนอร์และอีซูซุ MU-X แต่ฟอร์ดมีโอกาสดึงดูดผู้ใช้ที่เน้นการใช้งานจริงและเทคโนโลยีด้วยสมรรถนะออฟโรดที่ดีและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะเช่นกล้องรอบคัน 360 องศาและระบบจัดการทุกสภาพถนนควรสังเกตว่าตลาดไทยกำหนดมาตรฐานการปล่อยไอเสียเข้มงวดขึ้นรุ่นใหม่อาจปรับให้รองรับมาตรฐานยูโร 6 ล่วงหน้าและการผลิตในประเทศจะช่วยให้มีราคาที่แข่งขันได้แนะนำให้ผู้สนใจติดตามเว็บไซต์ฟอร์ดไทยหรือตัวแทนจำหน่ายเพื่อรับข้อมูลทดลองขับและการพรีออเดอร์อย่างทันเวลา
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Ford Everest สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้รถดับสนิทและจอดอยู่บนพื้นเรียบ จากนั้นมองหาแถบดึงปลดล็อกฝากระโปรง (มักมีสัญลักษณ์รูปฝากระโปรง) ที่บริเวณเท้าด้านคนขับ ดึงเบาๆจนได้ยินเสียง"คลิก" ฝากระโปรงจะเปิดขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นให้มือเข้าไปที่ล็อกซิปรองตรงกลางส่วนหน้าของฝากระโปรง แล้วดันไปทางซ้ายหรือขวา (แล้วแต่รุ่นปี) พร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น ข้อควรระวังคืออากาศร้อนของไทยอาจทำให้ยางซีลฝากระโปรงเสื่อมเร็ว แนะนำให้ทายารักษายางเป็นประจำ ส่วนแกนไฮดรอลิกก็ต้องเช็คบ่อยๆ ถ้ายกไม่ค่อยอยู่ควรเปลี่ยนใหม่โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเพราะความชื้นจะทำให้ชิ้นส่วนโลหะขึ้นสนิมเร็ว สำหรับคนที่ขับรถในชนบทหรือแถบชายทะเลบ่อยๆ ควรตรวจสอบสภาพท่อและสายในกระโปรงรถทุกเดือน เพราะทั้งความร้อนและเกลือจะเร่งให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อีกอย่างฝากระโปรง Everest ทำจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก เวลาทำความสะอาดอย่าใช้สารเคมีแรงๆเพราะจะทำลายสารเคลือบผิวได้
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอฟเวอร์เรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ในตลาดไทย ฟอร์ด Everest และ โตโยต้า Fortuner เป็น SUV ระดับกลางที่ได้รับความนิยมสูงทั้งคู่ แต่ละรุ่นมีจุดแข็งต่างกัน ฟอร์ด Everest ได้รับการพูดถึงจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรที่ทรงพลังร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ชั้นเยี่ยม เหมาะกับคนที่ชอบความรู้สึกด้านการขับเคลื่อน นอกจากนี้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและระบบจัดการสภาพถนนยังทำงานได้ดีในเส้นทางหลากหลายประเภท ส่วนโตโยต้า Fortuner นั้นโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตรที่เชื่อถือได้คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยเน้นจุดขายเรื่องประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถใช้งานระยะยาว ในส่วนของห้องโดยสาร Everest ให้ความรู้สึกทันสมัยกว่า พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC 4 ขณะที่ Fortuner ออกแบบมาเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ถ้าชอบความแรงและเทคโนโลยีล้ำๆ Everest น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้รถที่ทนทานและมีมูลค่าซื้อขายต่อสูง Fortuner ก็ตอบโจทย์กว่า ทั้งสองรุ่นมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในไทย ทำให้สะดวกในการซ่อมบำรุงไม่ต่างกันมากนัก
ดูเพิ่มเติม