Q

วิธีการเปิดท้ายสุดสุซูกิสวิฟท์

ในตลาดไทย การเปิดฝากระโปรงหลังของ Suzuki Swift โดยทั่วไปมี 2 แบบ รุ่นสูงที่มาพร้อมกุญแจอัจฉริยะสามารถเปิดอัตโนมัติได้โดยกดปุ่มเปิดฝากระโปรงที่กุญแจค้างไว้ ส่วนรุ่นพื้นฐานต้องกดสวิตช์กลไกที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรงด้านนอก ดูตำแหน่งแน่นอนได้ในคู่มือเจ้าของรถ ควรระวังว่าสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นอาจทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ทาซิลิโคนลูบริคันทเป็นประจำเพื่อความคล่องตัว และควรหลีกเลี่ยงการเปิดฝากระโปรงบนทางลาดชันเพราะอาจปิดเองได้ บางคนอาจติดตั้งแกนไฮดรอลิกหรือชุดเปิดฝากระโปรงอัตโนมัติเพิ่มเพื่อความสะดวก แต่ต้องเลือกอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน TISI เพื่อความปลอดภัย และอาจส่งผลต่อการรับประกันจากศูนย์ นอกจากนี้หากฝากระโปรงเปิดไม่ติด ให้ลองตรวจสอบว่ากลอนกลางปลดแล้วหรือยัง หรือใช้กุญแจกลไกเปิดฉุกเฉิน วิธีเหล่านี้ใช้ได้กับรถญี่ปุ่นระดับเดียวกันในไทยอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Jazz ด้วยนะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 มีความจุเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบดูดธรรมดาขนาด 1.2 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องรุ่น K12M ที่ใช้เทคโนโลยี DualJet ระบบฉีดดับเบิ้ล มีกำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ให้เลือกได้ทั้งเกียร์ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ประจำวันของคนไทย เพราะประหยัดน้ำมันมาก สิ่งที่คนไทยควรรู้คือเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เวลาขับนานๆ ในอากาศร้อนๆ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์รถยนต์ขนาดไม่เกิน 1,600 ซีซี ทำให้สวิฟท์คุ้มค่ามากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ก็จะมีอย่าง Toyota Yaris ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตร หรือ Honda Brio ที่ใช้เครื่อง 1.2 ลิตรแบบ i-VTEC แต่แต่ละคันก็มีการตั้งค่าและเทคโนโลยีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ความต้องการของผู้ซื้อ แม้ว่าเครื่อง 1.2 ลิตรอาจจะรู้สึกหนักเวลาแซงบนทางด่วนโดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขา แต่ด้วยการออกแบบตัวถังที่เบา ทำให้การควบคุมการขับขี่คล่องตัวมาก เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นเท่าไร?"
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่อง 1.2 ลิตร แบบแอทโมสเฟียร์ ทดสอบในไทยแล้ววิ่งได้ประมาณ 4.8 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด (HEV) ประหยัดยิ่งกว่าแค่ 4.2 ลิตร/100 กม. เหมาะกับทั้งขับเมืองที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยและขับทางไกล จุดเด่นอยู่ที่ตัวรถน้ำหนักเบาและการตั้งค่าเครื่องยนต์ที่ประสิทธิภาพสูง แถมยังใช้น้ำมัน E20 ในไทยได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เช็คฟิลเตอร์อากาศและลมยางสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการกินน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Honda Brio หรือ Toyota Yaris Ativ Swift อาจประหยัดพอๆ กันแต่จุดแข็งคือตัวรถกะทัดรัดกว่า ขับในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ได้คล่องกว่า อย่างไรก็ตามอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริงอาจต่างไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ เปิดแอร์บ่อยแค่ไหนและสภาพการจราจร แนะนำให้ลองขับทดสอบทั้งในเมืองและทางหลวงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
ใน Swift 2022 มีถุงลมนิรภัยกี่ลูก?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยเน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยรวม 6 ถุง ครอบคลุมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านกันกระแทกด้านข้าง ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถคอมแพคต์ในไทยเป็นอย่างดี ด้วยสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อน รถอย่าง Swift ที่มาพร้อมถุงลมนิรภัยหลายจุดแบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่เมืองและการเดินทางไกล โดยเฉพาะสภาพถนนในกรุงเทพฯ ที่มีการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว คนซื้อรถควรดูด้วยว่ารถมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ESP ABS หรือเปล่า เพราะระบบพวกนี้สำคัญมากเวลาเจอถนนลื่นช่วงหน้าฝนของไทย โครงการ Thai NCAP ก็แนะนำว่าควรเลือกรถที่มีถุงลมนิรภัยอย่างน้อย 4 ถุงขึ้นไป ซึ่งสวิฟท์ทำได้เกินมาตรฐานนี้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนถุงลมนิรภัยแม้จะสำคัญ แต่การคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกวิธีและการขับขี่อย่างปลอดภัยต่างหากที่เป็นพื้นฐานของความปลอดภัยจริงๆ ซึ่งกฎหมายไทยก็บังคับไว้ชัดเจนว่าต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับรถ
Q
ความยาวของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
Swift 2022 รุ่นที่วางขายในประเทศไทยมีความยาวตัวถัง 3,840 มิลลิเมอร์ ถือเป็นรถฮัทช์แบคคอมแพคต์ที่โด่งดังในตลาดเมืองไทยเพราะขับเคลื่อนคล่องตัวและประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาหรือระบบไฮบริดเบา 1.4 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่นย่อยที่ไทยนำเข้า) คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนนุ่มๆ แต่ยังประหยัดน้ำมันเหมือนเดิม จุดเด่นที่คนไทยชอบคือการออกแบบช่วงล่างที่สั้น ทำให้เลี้ยวติดซอยแคบๆ หรือจอดในลานจอดรถชั้นแคบได้สบาย ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 4.8 เมตร แถมตัวถังยังใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบามีความแข็งแรงสูงทั้งประหยัดน้ำมันและปลอดภัยด้วย สำหรับคนที่อยากได้ความสปอร์ตมากขึ้น ทางไทยยังมีรุ่น Swift Sport ให้เลือก แถมด้วยช่วงล่างปรับสปอร์ตและชุดแต่งภายนอกดุดันยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังนิดนึงว่าขนาดตัวรถอาจต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาดโลกเพราะมีการปรับแต่งพิเศษสำหรับไทย เช่น กันชนหน้า-หลัง แนะนำให้ไปตรวจสอบข้อมูลที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อจะดีที่สุด
Q
"Suzuki Swift ปี 2022 มีความจุถังน้ำมันเท่าไร"
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ที่ขายในประเทศไทยมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 37 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กทั่วไป ถังน้ำมันขนาดนี้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการขับขี่ในเมือง สำหรับคนไทย การเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง (ราคาประมาณลิตรละ 32-35 บาท) จะสามารถวิ่งได้ประมาณ 500-600 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและสไตล์การขับของแต่ละคน พูดถึงสวิฟท์แล้วต้องบอกว่าเป็นรถประหยัดที่ขายดีในไทย ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาและการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ทำให้ในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ยังสามารถทำระยะทางได้ถึง 18-20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับคนไทยที่ต้องเผชิญรถติดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ยางส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงที่ได้มาตรฐาน TISI ของไทยเพื่อช่วยบำรุงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีตลอดการใช้งาน
Q
รุ่น Swift ปี 2022 มีระยะทางการใช้งานเท่าไหร่?
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ เวอร์ชั่นเครื่อง 1.2L แบบธรรมดาทดสอบขับจริงบนถนนได้ประมาณ 20-22 กม./ลิตร (หรือประมาณ 4.5-4.8 ลิตร/100 กม.) แต่ตัวเลขอาจแกว่งบ้างถ้าติดรถติดในกรุงเทพหรือขับบนทางด่วนแบบเหยียบๆ เบาๆ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่น้ำหนักเบา พร้อมระบบเริ่มต้นและหยุดเดินเบาที่ช่วยประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย สิ่งที่น่าสังเกตว่าการรับรองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Swift เวอร์ชั่นประเทศไทยใช้มาตรฐานภายในประเทศ (กฟผ.) มีความแตกต่างจากค่าทดสอบ NEDC หรือ WLTP ของยุโรป แนะนำให้เจ้าของรถยนต์ชาวไทยหมั่นตรวจเช็คไส้กรองอากาศเป็นประจำ ซึ่งส่งผลต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริง นอกจากนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91/95 ที่สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแตกต่างจากน้ำมันเบนซินทั่วไปประมาณ 3-5% การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้เป็นอย่างดี
Q
เครื่องยนต์ของ Swift 2022 คืออะไร?
Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบให้ลูกค้าได้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกคือเครื่อง 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดารหัส K12M ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์ 5 สปีดมือถือหรือ CVT ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะสุดๆ สำหรับขับในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ส่วนอีกตัวคือเครื่อง 1.4 ลิตร Boosterjet เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 129 แรงม้า คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตและความแรงเป็นพิเศษ Swift ที่ผลิตในไทยนี้ยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน พร้อมทั้งใช้งานกับน้ำมัน E20 ได้ไม่มีปัญหา ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดกระทัดรัด ทำให้จอดในซอยแคบของไทยได้ง่าย เป็นรถที่ขายดีมาอย่างยาวนานในตลาดรถขนาดเล็กของไทย เพราะความน่าเชื่อถือและราคาที่จับต้องได้ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นความแรงหรือประหยัดน้ำมันตามความต้องการของตัวเอง
Q
ความคิดเห็นของ Suzuki Swift 2022 ในตลาดไทย
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีในตลาดไทย รถขนาดเล็กคันนี้โดดเด่นเรื่องความประหยัดและการขับขี่ที่คล่องตัว จนเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดรวมถึงความประหยัดน้ำมันที่เฉลี่ยประมาณ 20-22 กม./ลิตร ทำให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมาก Swift 2022 ยังอัพเกรดในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีระบบพื้นฐานอย่างถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และ EBD เป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่นท็อปบางรุ่นยังเพิ่มกล้องถอยหลังและระบบ ESP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย ด้านภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่การประกอบงานเรียบร้อยสมกับระดับราคา สำหรับเครื่องยนต์ ตลาดไทยเน้นไปที่รุ่น 1.2 ลิตร แบบเครื่องยนต์สูบธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้กำลังส่งเรียบเนียน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก นอกจากนี้ Swift ยังมีอัตราการรองรับมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันในตลาดมือสอง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน Swift 2022 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่แนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Brio เพื่อดูว่าคันไหนตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณของคุณได้ดีที่สุด
Q
ความเร็วสูงสุดของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม. โดยอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ Swift เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดพลังงาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมดาหรือ 1.0 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น) ให้ความรู้สึกขับขี่ที่คล่องตัวทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ สภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี แต่ Swift ออกแบบระบบหล่อเย็นมาเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดน้ำมันซึ่งตอบโจทย์คนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่คล่องตัว ทำให้ Swift เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้นก็มีรุ่น Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้ความแรงกว่าเดิม ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 210 กม./ชม. ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ควรเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุดตลอดเวลา
Q
Suzuki Swift 2022 เป็นรถที่ดีหรือเปล่า?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็นรถขนาดเล็กที่คุ้มค่าเงินมาก เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานประจำวัน ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมชาติที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆ และที่จอดรถคับขัน ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี มีหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วและบลูทูธให้แบบมาตรฐาน แม้ว่าจะใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลัก แต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา สมกับราคา ในด้านความปลอดภัย รุ่นไทยมีถุงลมนิรภัย 2 ใบ พร้อมระบบ ABS และ EBD ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าอยากได้ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมก็สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมได้ Swift ยังมีจุดเด่นที่ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่ายในไทย ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนไทยหลายคนเลือกมัน ส่วนระบบแอร์ที่ไทยต้องใช้สู้ร้อนนั้น Swift ก็ทำได้ดีเยี่ยม เย็นเร็วทันใจ ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้จริง Swift ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการพื้นที่กว้างขวางหรืออุปกรณ์มากกว่านี้ อาจต้องมองรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
วิธีดูกล้องสดบนรถยนต์ Tesla Model 3
เมื่อคุณใช้ฟังก์ชันดูภาพสดจากกล้องของ Tesla Model 3 ในประเทศไทย คุณสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Tesla บนมือถือได้ง่ายๆ โดยก่อนอื่นต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในโหมดพร้อมใช้งานและเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่เสถียร หลังจากเปิดแอปให้เลือกเมนู "ความปลอดภัย" เพื่อเข้าถึงภาพสดจากกล้องในรถ ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของไทย ช่วยให้คุณตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบรถได้ตลอดเวลา เช่น ตรวจดูว่ามีสัตว์เล็กๆ หลบร้อนใต้รถหรือไม่ หรือยืนยันตำแหน่งจอดรถว่าปลอดภัย ระบบกล้องของ Model 3 ใช้เลนส์มุมกว้างและเซ็นเซอร์ความไวสูง แม้ในเวลากลางคืนหรือในที่จอดรถใต้ดินที่แสงน้อยก็ยังให้ภาพที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ของไทยอาจเกิดปัญหาสัญญาณเน็ตเวิร์กไม่คงที่ซึ่งส่งผลต่อความลื่นไหลของการส่งภาพ แนะนำให้ทดสอบการเชื่อมต่อล่วงหน้าในสถานการณ์สำคัญ นอกจากนี้โหมด Sentry ของ Tesla ที่ทำงานร่วมกับกล้องยังช่วยบันทึกเหตุการณ์ผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายไทยที่รับรองหลักฐานดิจิทัล ทำให้การรักษาความปลอดภัยของรถเป็นสองชั้น สำหรับการใช้งานประจำวัน การทำความสะอาดเลนส์กล้องอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงฝนหรือฝุ่นที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพเป็นมาตรการบำรุงรักษาที่จำเป็น
Q
วิธีปิดการขับขี่ด้วยเพียงเท้าเดียวบนรถ Tesla Model 3
หากคุณต้องการปิดโหมดขับขี่ด้วยคันเร่งเดียว (Single Pedal Driving) ในรถ Tesla Model 3 สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเข้าไปที่หน้าจอกลางรถ เลือกเมนู "ควบคุม" จากนั้นเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" แล้วไปที่การตั้งค่า "โหมดหยุด" แล้วเปลี่ยนเป็น "โหมดครีป" หรือ "โหมดปล่อยไหล" แค่นี้รถก็จะทำงานเหมือนรถน้ำมันทั่วไปที่เมื่อคุณปล่อยคันเร่ง รถจะค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าเอง โหมดขับขี่ด้วยคันเร่งเดียวของ Tesla นี้ทำงานผ่านระบบกักเก็บพลังงานที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังลดการสึกหรอของผ้าเบรกอีกด้วย เหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองไทยที่รถติดบ่อย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยมีฝนตกชุก ถนนอาจลื่นได้ เราแนะนำให้ผู้ขับขี่มือใหม่ควรเริ่มจากการใช้โหมดขับขี่ปกติก่อนก่อน หากคุณต้องขับรถในเมืองที่มีรถติดมากๆ อย่างกรุงเทพฯ ลองค่อยๆปรับตัวใช้โหมดคันเร่งเดียวดู จะช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ได้มากนะ ไม่ว่าคุณจะเลือกโหมดไหน ขอให้ระมัดระวังรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่นมากๆ
Q
ต้องใช้กี่กิโลวัตต์ชั่วโมงในการชาร์จ Tesla Model 3 ปี 2022
สำหรับ Tesla Model 3 รุ่นปี 2022 ในประเทศไทย ความต้องการไฟฟ้าสำหรับการชาร์จจะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 50-75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รุ่น Standard Range เมื่อชาร์จเต็มจะใช้ไฟประมาณ 50 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range ต้องการประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แต่การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยเช่นประสิทธิภาพการชาร์จและอุณหภูมิแวดล้อม ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ชาร์จในที่ร่มเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากความร้อนของแบตเตอรี่ และการใช้สถานี Supercharger ของ Tesla (เช่นในกรุงเทพหรือพัทยา) จะช่วยลดเวลาชาร์จลงได้มาก โดยทั่วไปใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จไฟได้ถึง 80% ควรทราบว่าค่าไฟสำหรับการชาร์จที่บ้านจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อยู่ที่ประมาณ 4-6 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง การชาร์จเต็มสำหรับรุ่น Standard Range จึงมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200-300 บาท ซึ่งช่วยประหยัดได้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หากวางแผนจะติดตั้งที่ชาร์จที่บ้าน ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟรองรับกำลังไฟมากกว่า 7 กิโลวัตต์ และควรสมัครมิเตอร์ไฟฟ้าเฉพาะจาก PEA เพื่อใช้ประโยชน์จากอัตราค่าไฟช่วงเวลากลางคืนที่ถูกลง ปัจจุบันในไทยมีสถานีชาร์จสาธารณะกว่า 500 แห่งครอบคลุมเมืองหลักๆ และสามารถตรวจสอบจุดชาร์จที่ว่างได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบนำทางของ Tesla สำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้เลือกใช้สถานีชาร์จที่ร่วมมือกับ Central Group หรือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ของระบบ
Q
Tesla Model 3 เปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 ปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2019 ตอนนั้น Tesla เพิ่งเริ่มเปิดตัวในตลาดไทยและเริ่มรับจองอย่างเป็นทางการ ส่วนการส่งมอบรถจริงๆเริ่มทยอยกันมาตั้งแต่ปี 2020 รุ่นนี้ดึงดูดผู้บริโภคไทยจำนวนมากด้วยระยะขับขี่ที่เยี่ยมยอด ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอันล้ำสมัย และการออกแบบภายในที่เรียบหรู โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ เพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าทั้งลดภาษีและให้เงินสนับสนุน ทำให้ Model 3 กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ขายดีในไทย สำหรับตลาดไทย Tesla เสนอ Model 3 แบบสองขับเคลื่อนพร้อมแบตเตอรี่ระยะมาตรฐานกับแบบสี่ขับเคลื่อนพร้อมแบตเตอรี่ระยะยาว ที่ให้ระยะขับขี่ได้ประมาณ 400 กม. และมากกว่า 500 กม. ตามลำดับ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนเมืองและการเดินทางใกล้ๆ ในไทย แถม Tesla ยังขยายเครือข่ายซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ทั่วประเทศ ช่วยให้เจ้าของรถชาร์จไฟได้สะดวกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรัฐบาลไทยยังเดินหน้านโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าต่อไป เทสลาคาดว่าจะนำรุ่นอื่นๆ เข้ามาในตลาดไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย พร้อมๆ กับช่วยพัฒนาระบบสาธารณูปโภคสำหรับรถไฟฟ้าในประเทศให้ดีขึ้น
Q
Tesla Model 3 มีความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่
สำหรับ Tesla Model 3 ที่วางขายในตลาดไทย ความจุแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Standard Range Plus) จะใช้แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate (LFP) ความจุประมาณ 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ NCA หรือ NCM ความจุประมาณ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งความจุจริงอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้างตามปีที่ผลิตและสเปคของรถ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ทำงานมีประสิทธิภาพดี แต่แนะนำให้เจ้าของรถหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อยๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ นอกจากนี้เครือข่ายสถานีชาร์จในไทยกำลังขยายตัวเร็วมาก โดยมีทั้ง Supercharger ของ Tesla และสถานีชาร์จของบริษัทอื่นครอบคลุมทั้งในเมืองใหญ่และเขตท่องเที่ยว สะดวกสำหรับการเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่รถวิ่งได้จะขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การใช้แอร์ และสภาพถนน เช่น การติดขัดในกรุงเทพอาจทำให้กินไฟมากขึ้น ส่วนแบตเตอรี่แบบ LFP นั้นเหมาะกับการใช้งานในไทยที่ต้องชาร์จบ่อย เพราะทนความร้อนได้ดีและอายุการใช้งานยาวนานกว่า รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV ทำให้ Model 3 ได้รับการลดหย่อนภาษีนำเข้า จึงมีราคาจับต้องง่ายขึ้นในตลาดไทย อีกทั้ง Tesla ยังอัปเดตระบบจัดการแบตเตอรี่ผ่าน OTA เป็นประจำ ผู้ใช้ไม่ต้องไปศูนย์บริการก็ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นได้เลย
ดูเพิ่มเติม